บทที่51
ด้วยความช่วยเหลือของรอน หีบสมบัติก็ได้ถูกเคลื่อนย้ายออกไป สมบัติในหีบนั้นรวม ๆกันแล้วมีทั้งหมดมากกว่าเก้าสิบล้านเบรี
ต้องบอกว่าหลายปีที่ผ่านมา นามิขยันมากจริง ๆ!
ความมั่งคั่งของโจรสลัดในทะเลอีสต์บลู นามิก็ยังสามารถขโมยมาได้ขนาดนี้ ยอดเยี่ยมมาก
รอนถือกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ในมือและเดินเข้ามาในหมู่บ้านพร้อมสาว ๆ นามาและโนจิโกะได้ตะโกนเรียกชาวบ้านทุกคนให้มารวมตัวกันในพื้นที่ว่างกลางหมู่บ้าน
“ตึง!”
รอนวางหีบสมบัติลงพื้น ทันใดนั้น สมบัติที่อยู่ด้านในก็ได้เผยออกมา แสงสีทองส่องกระทบสายตาทุกคน
เมื่อชาวบ้านทุกคนเห็นสิ่งนี้ พวกเขาก็สูดหายใจลึก ทุกคนมองสมบัตินี้ด้วยสายตาประหลาดใจ แต่พวกเขาส่วนใหญ่ก็ไม่ได้แสดงท่าทีโลภมาก มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่มีดวงตาเป็นประกาย ซึ่งมันก็เป็นเรื่องธรรมดา พวกเขาเป็นแค่คนธรรมดา มีความรู้สึกนึกคิด คนธรรมดาเห็นสมบัติมูลค่าเกือบร้อยล้านเบรีต่อหน้าต่อมา มีไม่กี่คนที่ทนมันได้
“นี่อะไรกันนามิ โนจิโกะ?” ชายวัยกลางคนที่สวมหมวดสีน้ำตาล มีกังหันลมบนหมวกถามขึ้น
รอนคุ้นหน้าคนคนนี้ เพราะถ้าเขาจำไม่ผิด คนนี้คือเก็นโซ หัวหน้าหมู่บ้านโคโคยาชิ เขาเป็นผู้นำและทำให้ชาวบ้านอยู่รอดได้อย่างเข็มแข็ง ตอนนามิยังเด็ก เขาช่วยเหลือครอบครัวนามิอย่างดี ไม่เห็นแก่ตัว ถือเป็นบุคคลที่น่านับถือที่สุดในหมู่บ้าน
“ลุงเก็น นี่คือสมบัติที่ฉันสะสมมาหลายปี” นามิดึงโนจิโกะไปทางเก็นโซ เธอก้มหัวให้เขาแล้วกล่าวว่า “ขอบคุณที่ดูแลฉันมาตลอดหลายปีนี้นะ ฉันกับโนจิโกะตัดสินใจว่าพวเราจะออกทะเลไปกับกัปตันของเรา พวกเราจะกลับมาอีกแน่นอน”
นามิชี้ไปที่หีบสมบัติแล้วมองไล่ไปที่ชาวบ้านทีละคน “นี่คือสมบัติที่ฉันเก็บเอาไว้หลังจากหมู่บ้านถูกอารอนยึดครอง ฉันเก็บมันเอาไว้เพราะว่าฉันจะมอบให้ทุกคนเอาไปพัฒนาหมู่บ้านขึ้นใหม่!”
“นามิ” เก็นโซพูดเสียงเข้มอย่างไม่สบอารมณ์ “เราทุกคนรู้ว่าเธอทำอะไรลงไปเพื่อช่วยพวกเราบ้าง!”
โนจิโกะยิ้มเล็กน้อย เธอเบนสายตาไปที่นามิแล้วพูดว่า “เรารู้ว่าเธอทำอะไรให้หมู่บ้านของเราบ้าง แต่ที่เราทุกคนไม่แสดงออกและอยากคุยกับเธอ เพราะว่าเรากลัวว่าอารอนจะพบว่าเธอติดต่อกับพวกเรา เรากลัวว่าเขาจะทำร้ายเธอ พวกเราทุกคนรู้สึกขอบคุณเธอจริง ๆ ขอบคุณจากใจของพวกเราเลย”
“ทุกคน...” นามิเช็ดน้ำตาจากหางตาของเธอ เธอมองไปที่ชาวบ้านแล้วยิ้มทั้งน้ำตา “ทุกคน เราจะไปกันแล้ว สมบัติพวกนี้เราจะทิ้งมันเอาไว้ที่หมู่บ้านเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการสร้างหมู่บ้านใหม่ ได้โปรดรับมันเอาไว้ด้วยนะ!”
“นี่มัน...” แม้ว่าชาวบ้านจะเห็นว่ารอนวางหีบสมบัติเอาไว้ต่อหน้าทุกคน แต่ในใจของพวกเขาก็รู้สึกแปลก ๆ แต่เมื่อพวกเขาได้ยินนามิพูดอย่างนี้ พวกเขาก็ตกใจทันที สมบัติมากมายขนาดนี้ จะปฏิเสธได้ยังไงว่าไม่ต้องการมัน
“นามิ” หลังจากที่เก็นโซตกตะลึง อยู่ ๆเขาก็พูดด้วยเสียงกังวลว่า “มันไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเธอเลยที่เธอพยายามปลดปล่อยหมู่บ้านเรา เรายังจะเอาเงินจากเธอได้ยังไง นี่เป็นสิ่งที่เธอทำงานหนักเพื่อหามันมานะ”
“ใช่นามิ” ชาวบ้านคนอื่น ๆก็พูดขึ้นเช่นกัน “ถ้าเธอตามคุณรอนออกทะเล เธอก็ต้องใช้เงินด้วย ดังนั้นเธอต้องนำสมบัติพวกนี้ไปด้วย ตอนนี้หมู่บ้านของเราเป็นอิสระแล้ว เราไม่ต้องเสียเงินให้กับใครอีก พวกเราใช้เวลาไม่นานหรอกในการกลับมามีชีวิตอย่างท่เคยเป็นมา”
“ใช่ ใช่แล้วนามิ”
“นามิ เธอเอาสมบัติคืนไปเถอะ”
“เราไม่ต้องการมันหรอก!”
ชาวบ้านต่างก็รู้สึกขอบคุณสำหรับทุกสิ่งที่หญิงสาวทำเพื่อหมู่บ้าน และตอนนี้ นามิยังมอบสมบัติทั้งหมดให้กับพวกเขาอีก มันเป็นการเสียสละมากเกินไป
“ไม่!” นามิส่ายหัว “ฉันจะไม่เสียใจกับสิ่งที่ฉันตัดสินใจไปแล้ว สมบัติพวกนี้จะถูกทิ้งไว้ที่นี่ ฉันหวังว่าตอนที่ฉันกลับมาอีกที หมู่บ้านแห่งนี้จะดีกว่าตอนนี้”
หลังจากกล่าวจบ นามิก็ไม่สนใจว่าชาวบ้านจะมีปฏิกิริยาเป็นอย่างไร เธอหันมาจับมือโนจิโกะแล้ววิ่งไปหารอนอ่างรวดเร็ว “กัปตัน พร้อมออกเรือแล้วหรือยัง?”
“ดี”
รอนยิ้มแล้วพยักหน้า จากนั้นเขา นามิและกลุ่มสาว ๆของเขาก็โบกมือให้ชาวบ้านและเดินไปที่ท่าเรือทันที
“นี่มัน...”
ชาวบ้านมองไปยังแผ่นหลังของเรย์แล้วก็พูดไม่ออก มันเหมือนมีบางอย่างมันอุดปากเอาไว้
เก็นโซก้าวเท้าเดินไป เหมือนกับว่ามีเรื่องอยากจะพูด ทว่าเขาก็หยุดแล้วถอนหายใจ เขาได้หันกลับไปมองรอบ ๆชาวบ้านที่ยืนอยู่ที่นี่ “ในเมื่อนามิมอบมันให้พวกเราจากใจ อย่างนั้นเราก็รับมันไปเถอะ หลังจากนี้ฉันจะนับแล้วแบ่งมันทีหลัง เงินส่วนใหญ่นี้ใช้เพื่อบูรณะหมู่บ้านนี้ใหม่อีกครั้ง หากมีเงินเหลือหลังจากทำเสร็จแล้ว เราจะแบ่งมันให้แต่ละครอบครัวอย่างเท่าเทียม”
“แน่นอนครับคุณเก็นโซ!”
“แน่นอน พวกเราเชื่อใจคุณ!”
“นี่เป็นความต้องการของนามิ เราทุกคนต้องช่วยกันสร้างหมู่บ้านให้สวยงาม เพื่อที่นามิจะได้เห็นหมู่บ้านโคโคยาชิของเราเมื่อเธอกลับมา!!”