ตอนที่ 971 คุณเกิดเสียใจเล็กน้อยที่ไม่ได้ตอบรับคําขอของฉัน เมื่อกี้นี้ …ใช่ไหม?
อะไรนะ? ทุกคนอึ้งไปกันหมด หลินฟาน ต้องการให้ พี่หง ตบหน้าตัวเองสามครั้ง จริงๆ นะเหรอ?
ตั้งแต่ พี่หง เกิดมา เขาก็ไม่เคยเจอข้อเรียกร้องที่ไร้สาระแบบนี้มาก่อนเลย แล้วนับประสาอะไรกับสถานะของ พี่หง ในปัจจุบัน แบบนี้แล้วใครมันจะไปกล้าเรียกร้องอะไรจากเขาแบบนี้ได้กัน แล้วนี่มันไม่ใช่ว่า ‘เรียกหาความตาย’ หรอกหรือ? หลินฟาน คนนี้ นี่มันต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ! นี่เขาไม่เห็น พี่หง อยู่ในสายตาเลยหรือยังไง?
“ฮ่า ฮ่าๆ…”
พี่หง ได้หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่งด้วยความโกรธ…
เขาโกรธจริงๆ ทั้งตลอดเวลาที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีใครกล้ารุกรานเขาแบบนี้มาก่อน เขา หง จินสุ่ย เป็นใคร! ในเขตนี้เขาสามารถเดินไปที่ไหนก็ได้! ครอบครัวของเขามีเงิน ธุรกิจเองมันก็กำลังเจริญรุ่งเรืองไปได้สวย เขาเองยังได้เลี้ยงดูลูกน้องกลุ่มหนึ่งเอาไว้มากมาย แล้วใครมันจะกล้ามายั่วยุเขา!
แต่ไอ้เด็กตรงหน้าคนนี้ คาดไม่ถึงเลยว่าเขา ต้องการให้เขาตบหน้าตัวเองถึงสามครั้งจริงๆ?
แล้วนี่เขาฟังไม่ผิดใช่ไหม? แต่มันก็ดูตลกดี.. แถมมันก็ยังทำให้เขาโกรธมากๆ ไปในเวลาเดียวกันด้วย!
“ไอ้หนู ฉันคงไม่ได้ยินผิดไปใช่ไหม? แกอยากให้ฉันขอโทษแก แล้วให้ฉันตบหน้าตัวเองถึงสามครั้ง? แล้วนี่ใครกัน.. ที่มันได้ให้ความกล้าหาญนี้กับแก!” พี่หง ได้พูดออกมาด้วยความโกรธสุดๆ ในตอนนี้
หลินฟาน ได้พูดอย่างเฉยเมยไปว่า : “โอ้.. แล้ว ความคิดของ พี่หง คืออะไร? แต่.. เรื่องนี้ฉันว่า ต้องรีบแก้ไขมัน ถึงจะดี…”
พี่หง กล่าวว่า : “ทางออกที่ดีที่สุดของฉันตอนนี้ ก็คือ ฉันต้องลงมือเอง.. มา.. ฉันขอสั่งสอนแกสักหน่อยเถอะ!”
เมื่อพูดจบ พี่หง ก็ได้พับแขนเสื้อ กำหมัด แล้วทำการหักข้อนิ้วมือ ข้อต่อกระดูกก็ได้ส่งเสียงดังเป๊าะ ออกมา ,ท่าทางของ หง จินสุ่ย ในตอนนี้ เขาคงได้อาศัยกำปั้นคู่นี้บุกตะลุยมาในโลกใต้ดินไม่ใช่น้อย ตำนาน หง จินสุ่ย เล่าขานกันมาว่า ครั้งหนึ่งเขาได้อาศัยกำปั้นคู่นี้ ต่อยหน้าเจ้านายของกองกำลังฝ่ายศัตรูจนกลายเป็นโรคสมองเสื่อมมาแล้ว และนับแต่นั้นมา อํานาจของของ ‘กำปั้นหง’ จึงกลายมาเป็นที่น่าขนลุก..
“พี่หง ไม่จําเป็น ไม่จําเป็นจริงๆ” ชายวัยกลางคนที่สวมใส่แว่นตา ได้เดินออกมาในเวลานี้ และเขาได้กล่าวเตือน หลินฟาน ว่า : “คุณมันคงไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับความเก่งกาจของ พี่หง พี่หง ไม่ใช่สิ่งที่คุณสามารถเอาชนะได้โดยง่าย ฉันขอเตือนหน่อยเถอะว่า คุณ.. ควรที่จะมีความเกรงกลัวสักเล็กน้อยบ้างก็ดี ตอนนี้รีบคุกเข่าขอโทษ พี่หง อย่าคิดหาเรื่องตายด้วยตัวเอง คุณเองก็ยังหนุ่มยังแน่น ฉันเองก็ทนดูไม่ได้ ที่จะมาเห็นคุณต้องตายตั้งแต่อายุยังน้อยๆ เช่นนี้”
“พี่หง ก็สงบสติอารมณ์ลงเถอะ อย่าได้โกรธไป เด็กคนนี้ยังอยู่ในวัยรุ่นที่แสนจะโง่เขลา.. วัยเช่นนี้เอง ก็ไม่ใช่จะรู้ดี รู้ร้าย ทั้งยังไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ ทั้งมันก็ยังเป็นเรื่องที่สามารถเข้าใจได้ เช่นนี้แล้ว พี่เองก็ช่วยให้อภัยเขาเถอะ หรืออย่างไรพี่จะสั่งสอนบทเรียนให้กับเขา แล้วค่อยปล่อยเขาไป ก็แล้วแต่พี่เลย..” ชายวัยกลางคนที่สวมใส่แว่นตา ก็ได้พยายามพูดเกลี้ยกล่อม หง จินสุ่ย
เอาจริงๆ เขาไม่ได้คิดที่จะสนใจ หลินฟาน จริงๆ ไอ้เด็กโง่คนนี้ มันไม่ได้มาเกี่ยวข้องกับเขาแม้แต่สตางค์เดียว เขายังมีความสุขด้วยซ้ำที่กำลังจะได้ดูละคร.. ฉากหนึ่ง แต่ปัญหาก็คือ ตอนนี้มันอยู่ในบริษัทของเขา และถ้า หลินฟาน ถูก หง จินสุ่ย ทุบตีจนตายล่ะ? บริษัทของเขาจะต้องเดือดร้อนเป็นแน่! ถึงตอนนั้นตํารวจก็จะมาหาถึงที่ และปิดกั้นบริษัทเพื่อตรวจสอบคดี แล้วแบบนี้เขาจะยังใช้มันทําธุรกิจต่อไปได้อยู่อีก?
ดังนั้นเขาจึงได้พยายามเกลี้ยกล่อมทั้งสองฝ่าย
“ฉัน หง จินสุ่ย ทําตัวตามอําเภอใจมาตลอดทั้งชีวิต และไม่เคยคิดอยากจะทุบตีคนแบบนี้มาก่อน แต่ไอ้ตัวเหม็นนี้! มันได้จงใจมาทําให้ฉันโกรธ! และมันก็ได้ทำสําเร็จแล้ว…”
หง จินสุ่ย ไม่สนใจชายวัยกลางคนที่สวมใส่แว่นตาเลย ทั้งเขาก็ได้ทําท่าทางจะสั่งสอน หลินฟาน ด้วยตัวเอง
ชายวัยกลางคนที่สวมใส่แว่นตา ได้ยิ้มออกมาอย่างขมขื่น : “อารมณ์ของ พี่หง ในตอนนี้ฉันก็เข้าใจดี แต่การที่ พี่หง อยากจะสั่งสอนเด็กคนนี้มันก็สมควรแล้วจริงๆ นั่นเพราะใครบอกให้เขาไม่รู้จักอะไรดี หรืออะไรร้าย ทั้งการที่กล้ามารุกราน พี่หง นี่มันก็ไม่เท่ากับเรียกหาความตายหรอกหรือ? แต่ที่นี่มันคับแคบเกินไป เห็นได้ชัดว่าไม่เหมาะที่จะใช้ยืดมือยืดเท้า สู้อย่างนี้ดีกว่า พี่หง ที่ด้านหน้าบริษัทมีพื้นที่กว้างมาก แล้วพอเป็นเช่นนั้น พี่หง เองก็สามารถสั่งสอนไอ้เด็กคนนี้ได้อย่างเต็มที่มากกว่า!”
หง จินสุ่ย ได้รู้สึกว่า คำพูดของชายวัยกลางคนที่สวมใส่แว่นตา มีเหตุผลจริงๆ และเขาได้พูดตอบไปว่า : “อืม ข้อเสนอนี้…”
หลินฟาน กลับขัดจังหวะ หง จินสุ่ย เขาได้ยิ้ม และพูดไปว่า : “ฉันคิดว่าที่นี่.. มันก็ดีอยู่แล้ว ฆ่าไก่ด้วยมีดฆ่าวัว(1) และแค่การสอนบทเรียนให้กับ พี่หง สักเล็กน้อยนั้น พื้นที่แค่นี้ ..มันก็เพียงพอแล้ว”
อะไร?
นี่มันบ้า มันบ้ามาก!
ทุกคนได้มีเหงื่อเย็นๆ ไหลออกมา ทั้งนี้ก็ไม่รู้จริงๆ ว่า ไอ้เด็กน้อยอย่าง หลินฟาน คนนี้ มันสมองไม่ดีหรือเปล่า? มันกล้ามากขนาดนี้ได้ยังไง? และแทบทุกประโยคมันก็เหมือนกับต้องการพุ่งเข้าชน พี่หง…
หง จินสุ่ย โกรธมาก และไม่สามารถทนได้อีกต่อไป เขาได้ยกกำปั้นขึ้น และบุกเข้าใส่ หลินฟาน..
หลินฟาน ตอนนี้ ได้ทําให้เขาโกรธได้ ..อย่างสมบูรณ์แล้ว
ชายวัยกลางคนที่สวมใส่แว่นตา ได้ร้องไห้ออกมาแล้ว จบเห่ มันจบเห่แล้ว! คราวนี้เขามันต้องตายแน่ๆ ทั้งจะเลือกไปตายไกลๆ ก็ไม่ได้ เสือกเลือกเอาชีวิตมาทิ้งในบริษัทเขาอีก แบบนี้เขาเองก็ไม่ต้องทำธุรกิจอะไรกันแล้ว!
ชายวัยกลางคนที่สวมใส่แว่นตาถึงกับรู้สึกเสียใจเล็กน้อยแล้ว ..ในตอนนี้ ทั้งเขาก็ไม่ควรให้ข้อมูลของ หลินฟาน ออกไป เพื่อเอาใจ หง จินสุ่ย แต่เรื่องนี้มันก็กลับกลายเป็นเรื่องมาถึงบริษัทของเขาแล้ว… และนี่ถือได้ว่าเป็นการก่อให้เกิดปัญหาด้วยตนเอง ใช่หรือไม่?
อย่างรวดเร็ว หง จินสุ่ย ได้เข้าใกล้ หลินฟาน แล้วเขาก็ได้ยกกําปั้นขึ้น จากนั้นก็ปล่อยหมัดออกไปที่ หลินฟาน…
ชายวัยกลางคนที่สวมใส่แว่นตา ได้หลับตาลง เขาไม่กล้ามอง ฉากนี้มันดูเปื้อนเลือดเกินไป หลินฟาน เด็กคนนี้จะต้องโดน พี่หง ทุบตีจนตาย…
อย่างไรก็ตาม.. ก็ได้มีเสียงดังขึ้น
กร๊อบ!
มีเสียงกระดูกแตกหักที่ได้ดังออกมาจนน่าขนลุก!
หลินฟาน โดน พี่หง ทุบตีจนจมูกหัก?
“อ๊ากกก!”
ทันใดนั้น ก็ได้ยินเสียงกรีดร้องดังสนั่นหวั่นไหว
อ๊ะ?
ชายวัยกลางคนที่สวมใส่แว่นตา ดูประหลาดใจ เสียงนี้มันฟังดูเหมือนเป็นเสียงของ พี่หง? แต่แล้วเสียงกรีดร้องมันสมควรที่จะเป็นของไอ้เด็กน้อยอย่าง หลินฟาน ไม่ใช่หรือไง? ทั้งมันก็เป็นเรื่องปกติที่เขาจะโดน พี่หง ทุบตี….
แต่แล้ว พี่หง กรีดร้องออกมาได้อย่างไร? นี่มันดูไม่สมเหตุสมผลเลยสักนิด?
เขาฟังผิดไป ..หรือเปล่า?
เขาไม่ได้ฟังผิดไป.. นี่มันเป็นเสียงของ พี่หง จริงๆ เป็นเสียงของ พี่หง ที่กรีดร้อง!
ชายวัยกลางคนที่สวมใส่แว่นตา ได้ลืมตาขึ้น และภาพตรงหน้าก็ได้ทำให้เขาต้องตกตะลึง…
คนที่ตกตะลึงเช่นกันก็คือ หยางฮ่าว ที่อยู่ข้างๆ และกลุ่มผู้ชมที่เป็นพนักงานในบริษัท พวกเขาไม่กล้าดูเหมือนกับเจ้านายของพวกเขา พวกเขาได้พากันหลับตา และไม่กล้ามอง แต่เมื่อพวกเขาได้ลืมตาขึ้นมา ก็กลับได้เห็นฉากที่น่าทึ่งนี้ ..ด้วยตาของพวกเขาเอง
เมื่อพวกเขาได้เห็น หง จินสุ่ย ปล่อยหมัดออกไป และมันก็ใกล้จะถึงใบหน้าของ หลินฟาน อยู่แล้วนั้น พวกเขาก็ได้คิดไปว่า หลินฟาน ไม่มีทางหลบหนีพ้น แต่ หลินฟาน กลับดูใจเย็นมาก เมื่อหมัดของ หง จินสุ่ย อยู่ห่างจากใบหน้าของเขาไม่ถึงหนึ่งนิ้ว หลินฟาน ก็ได้เอียงหัวหลบเล็กน้อย..
เมื่อนั้นหมัดของ หง จินสุ่ย ก็ได้พลาด และเฉียดผ่านปลายจมูกของ หลินฟาน ไปอย่างหวุดหวิด หลินฟาน จึงได้เอื้อมมือไปคว้าหมัดของ หง จินสุ่ย
และก่อนที่ หง จินสุ่ย จะได้ทันตอบสนอง หลินฟาน ก็เตะไปที่ขาและท้องของ หง จินสุ่ย หง จินสุ่ย ที่ทนไม่ไหว จนได้ล้มลงคุกเข่าลงไปกับพื้น…
เขาได้หน้าซีดด้วยความตกใจ และพยายามดึงหมัดออกจากมือของ หลินฟาน เพราะยังไงเขาก็คือ พี่หง และหลินฟาน มันก็เป็นแค่เด็กผมเหลืองคนหนึ่งเท่านั้น ดังนั้นมันจึงไม่น่าจะใช่เรื่องยากสำหรับเขา…
อย่างไรก็ตาม มือของเขามันไม่สามารถดึงมันกลับมาได้ แต่เนื่องจากเห็นว่าเขาได้ดิ้นรน หลินฟาน จึงได้ออกแรงอีกเล็กน้อย..
เสียงกร๊อบ ของกระดูกแตกหัก มันก็ได้ดังขึ้นอีกครั้ง
กําปั้นของเขาได้ถูกบดขยี้จนแตกเป็นชิ้นๆ ไปโดย หลินฟาน...
ความเจ็บปวดครั้งนี้มันก็ได้เสียดแทงเข้ามาในหัวใจของเขา ทำให้ พี่หง ในตำนาน ถึงกับเห่าหอนออกมา ..อย่างควบคุมไม่ได้ เหงื่อเย็นๆ มันก็ได้ไหลออกมาอย่างมาก ทั้งนี้มันก็ทำให้เขามีสีหน้าอึดอัด…
จากนั้น หลินฟาน ก็ได้ปล่อยมือของเขาไป
พี่หง ได้มองไปที่ ‘กําปั้น’ ที่ผิดรูปของตัวเอง ดวงตาของเขาเผยให้เห็นความกลัวออกมา อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน ใช่.. ในตอนนี้เขามีเพียงแค่อารมณ์เดียวเท่านั้น และนั่นมันก็คือ …ความกลัว
ความกลัวที่เหมือนราวกับได้เห็นผี ทั้งมันยังเป็นความกลัวที่แสนจะน่าเหลือเชื่อ…
เขาคงไม่เคยฝันมาก่อนว่าวันหนึ่งกําปั้นของเขาจะถูกบีบให้แตกเช่นนี้ได้.. แล้วแบบนี้ นี่มันคือแนวคิดแบบไหนกัน? หรือาจประมาณว่า ไม่น้อยไปกว่าการเห็นมนุษย์ต่างดาวด้วยตาของตัวเอง…
ในจินตนาการของผู้คน มนุษย์ต่างดาวจะต้องมีพลังที่เก่งกาจกว่ามนุษย์โลก… เช่นเดียวกับ Trisolarans จากหนังสือ ‘Redemption of Time’ ดังนั้นจึงมักที่จะเรียกคนที่มีความสามารถพิเศษบางคนว่า ‘มนุษย์ต่างดาว’ ซึ่งแสดงถึงความหมายที่ทรงพลังมาก ,ซึ่งมันก็เช่นเดียวกับ ‘โรนัลโด (Ronaldo)’ ดาวเตะระดับตำนาน ที่ได้ฉายาว่าเป็นมนุษย์ต่างดาวไป ..ในปีนั้น
ในขณะนี้ ในสายตาของ หง จินสุ่ย หลินฟาน เองก็น่ากลัวเหมือนกับ ..มนุษย์ต่างดาว
หลินฟาน ได้ยิ้มเล็กน้อย แล้วพูดว่า : “มาตอนนี้.. คุณเกิดเสียใจเล็กน้อยที่ไม่ได้ตอบรับคําขอของฉัน เมื่อกี้นี้ …ใช่ไหม?”
(1)[ฆ่าไก่ด้วยมีดฆ่าวัว (杀鸡焉用牛刀)] - หรือ ‘วิธีการฆ่าไก่ด้วยมีฆ่าวัว’ วิธีฆ่าไก่ด้วยมีดวัว เป็นอุปมาอุปไมยว่าการทำสิ่งเล็กน้อยไม่จำเป็นต้องใช้กำลังให้มาก สำนวนโดยทั่วไปจะใช้เป็นอนุประโยคในประโยค เช่นเดียวกันกับในภาคแสดง และในรูปลักษณะ