ตอนที่ 1208 ข้าช่างโง่เสียจริง
เย่ว์หยางตื่นขึ้นมาอีกครั้งและพบว่าสภาพร่างกายเขาดีขึ้นมาก แม้ว่าพลังวิญญาณที่ใช้สู้กับบุรุษลึกลับจะยังไม่ฟื้นฟูเต็มที่แต่ก็ฟื้นฟูเกือบทั้งหมดแล้ว
อู๋เหินกับเย่ว์หวี่ไม่ได้อยู่ใกล้ๆ
ขณะที่เขากำลังออกไป
เขาตกใจเมื่อเห็นสาวกิเลนปิงหยินวิ่งมาหาเขาด้วยตัวนางเองเย่ว์หยางตกใจหลบทันที
ปิงหยินเห็นเขากลัว นางอดขำไม่ได้
“คืนกระจกวิเศษสมบัติชิ้นที่สามมาให้ข้าเลย!” เย่ว์หยางเห็นว่าสาวเจ้าอารมณ์ดีจึงพยายามทวงคืนสมบัติเทพชิ้นที่สามที่นางชิงไป แม้จะรู้ว่าเป็นไปไม่ได้แต่เขาจะลองดูอยู่เสมอ ที่สำคัญนี่คือหนึ่งในหกสมบัติวิเศษ ที่เขาต้องการเก็บรวบรวมไว้
“นั่นไม่ยากหรอก กระจกมีสองด้านแยกเป็นด้านดีและด้านร้าย หลังจากที่สร้างและทำสัญญาที่แยกกันมานานข้าแค่อยากจะร่วมด้วย แต่เกรงว่าเป็นไปไม่ได้ สำหรับคนคงไม่มีปัญหาอะไร นี่ยังเป็นของเจ้า!” สาวกิเลนปิงหยินส่งกระจกคืนกลับด้าน ‘ชั่วร้าย’ ที่นางชิงเอาไปให้เย่ว์หยาง เย่ว์หยางตัวสั่นตกตะลึง สงสัยว่านางคงไม่สบาย?หรือว่าวันนี้พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตก? หรือว่าเขายังไม่ตื่น?
เย่ว์หยางใช้มือลูบคลำใบหน้าน้อยๆของสาวกิเลนปิงหยิน ก็รู้สึกว่ายังดีอยู่ เรียบลื่นเหมือนหยก
แต่พอเห็นใบหน้ายิ้มแย้มของนางก็ไม่เห็นว่าถูกทำร้ายอะไร
เขาอดถอนหายใจไม่ได้ “ฝันไปจริงๆ ... ข้ารู้ว่าไม่มีเรื่องดีๆแบบนี้เกิดขึ้น แม่สาวปิงหยินเจ้าหยอกล้อข้าในความเป็นจริงก็พอ ถ้าเป็นในความฝันเจ้าควรปล่อยให้ข้าฝันตามเรื่องตามราวเถอะ”
สาวกิเลนปิงหยินหมอบย่อศีรษะทันที
จากนั้นขวิดเย่ว์หยางกระเด็นออกไปสิบเมตร
เย่ว์หยางลุกพรวดพราดปากอ้าค้างด้วยความประหลาดใจ เขาคลำที่หน้าอกตัวเองอยู่นาน “ขวิดจริงเจ็บจริง ไม่ใช่ฝันนี่นา!”
สาวงามอู๋เหินและเย่ว์หวี่ไม่ทราบว่าปรากฏตัวตั้งแต่เมื่อไหร่พวกนางเอามือปิดปากขำ มีสมบัติวิเศษชิ้นที่สาม เย่ว์หยางก็มีความเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมากก็แต่ไม่ต่างจากสาวน้อยปิงหยินเช่นกันแม้ว่าจะได้รับกระจกวิเศษสมบัติเทพชิ้นที่สามด้าน ‘ชั่วร้าย’ กลับมา แต่เย่ว์หยางสงสัยว่ากระจกวิเศษของอี้หนานที่ได้มาจากวิหารเทพสตรีอาจจะเป็นด้านดีของสมบัติวิเศษชิ้นที่สามก็ได้นั่นเป็นสาเหตุอาจทำให้ภูตกระจกมีพลังลดลงถ้าเป็นเช่นนั้นพอหลอมรวมพลังเทพทั้งสองให้สมดุลเข้าด้วยกันพลังของสาวน้อยอี้หนานก็คงจะพุ่งพรวดเป็นแน่
ราวกับอ่านใจเย่ว์หยางออกสาวกิเลนปิงหยินพึมพำริมฝีปาก “อย่าโง่ไปหน่อยเลย ทั้งสองไม่สามารถใช้ด้วยกันได้ ข้าลองดูแล้วทันทีที่กลับมา มันยังขาดอะไรหลายๆ อย่าง!”
เกี่ยวกับคำพูดของนางเย่ว์หยางไม่สงสัย แต่ก็ยังไม่ยอมแพ้ “ถ้าเจ้าทำไม่ได้ เจ้าไม่สามารถหาวิธีหรือ มักจะมีกฎ...”
ทันใดนั้นเกิดประกายความคิดขึ้นในใจของเขา
เย่ว์หยางรีบคว้าประกายความคิดนี้ไว้อย่างมั่นคง “เทพอุดรจ้าวซีแห่งขุนเขาเหนือขุนเขามีกระจกเทพ แต่พลังเทพอาจใช้เพื่อเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไปของกระจกวิเศษชิ้นที่สามได้ ถ้าจ้าวซีไม่ตาย กระจกวิเศษก็ยังยอมรับเขาเป็นเจ้าของ เย่ว์หยางคงยากจะเอามาได้อย่างแน่นอน แต่บัดนี้วิญญาณจ้าวซีถูกผนึกไว้ในนาฬิกาวิเศษสมบัติชิ้นที่ห้ากระจกวิเศษจึงตอบสนองต่อการกระทำของเย่ว์หยางเด็กหนุ่มข้ามโลก และคงไม่สุภาพกับเขาแน่
ใช่เลย
สาวกิเลนปิงหยินได้ยินแล้วคล้อยตาม
ความเคลื่อนไหวของนางคล่องแคล่วรวดเร็วกว่าใครอื่น นางคว้ากระจกเทพและกระจกวิเศษสมบัติชิ้นที่สามจากข้างหลังเย่ว์หยางและรีบผละออกมาจากเย่ว์หยางเย่ว์หวี่และอู๋เหิน ทิ้งไว้แต่เพียงคำพูด “ตัวร้าย, ข้าขอยืมน้องอี้หนานของเจ้าอีกสองสามวันค่อยคืนให้!”
เย่ว์หยางโมโหจนอยากจะหวดก้นสาวกิเลนน้อยยิ่งนักยืมเงิน ยืมที่ดินยังพอยืมได้ นี่นางยืมภรรยาคนอื่นได้ยังไงกัน...โชคดีที่นางเป็นสาวน้อยจอมเอ๋อ มิฉะนั้นเย่ว์หยางคงโมโหจนกระอักเลือดเป็นแน่
ข้าจะยืมเจ้าสองสามวันและจากนั้นค่อยนำมาคืน
น่าสนใจ
สาวน้อยงี่เง่านี่น่าสนใจดี
เย่ว์หยางยังคงหมกมุ่นจินตนาการฝันหวานจนกระทั่งสาวกิเลนปิงหยินกลับมาอีกครั้งและกางมือตีมือเขาอีก “ข้าคิดได้อีกวิธีหนึ่งขอยืม ‘หัวใจฟ้า’ ถ้าเพิ่มปิงเอ๋อน้องสาวเจ้าอีกคนก็จะเพิ่มแหล่งพลังแห่งชีวิต... อธิบายให้คนงี่เง่าอย่างเจ้าฟังก็เสียเวลาเปล่า ต้องรีบแล้วข้าขอยืมน้องปิงเอ๋อของเจ้าอีกสักหลายวันอีกครั้ง...คิดว่าเป็นวิธีที่ดีฉลาดล้ำแน่นอน!”
สาวกิเลนหลงตัวเองไม่สนใจสายตาที่ดุดันของเด็กหนุ่มจากโลกอื่นนางหยิบ ‘หัวใจฟ้า’ สมบัติชั้นกึ่งเทพที่เป็นของเทพชิงหวินทิ้งไว้โดยพลการจากไปทันที
ขณะที่นางร่าเริงดีใจจากไป
ปล่อยให้เย่ว์หยางซึมเซา
เขาวาดขีดเขียนพื้นแก้เก้อด้วยอาการซึมเซา...อี้หนานภรรยาหวานใจน้อยถูกยืมไปไม่พอ นี่ยังยืมน้องสาวผู้น่ารักไปอีกคนหนึ่ง นางไม่สนใจเลยว่าใครจะคิดยังไงเลยหรือ?
อู๋เหินและเย่ว์หยางรีบปลอบโยนไม่ให้เด็กหนุ่มจากโลกอื่นหงุดหงิด
จากนั้นเขาระบายพลังความโกรธความขัดเคืองทั้งไปลงที่อาหารในระหว่างที่กินอย่างมูมมาม สาวกิเลนพรวดพราดเข้ามาในห้องอีกครั้งน้ำตาครั้งก่อนยังไม่ทันแห้ง สาวเจ้ายังจะเข้ามาเอาอะไรอีก? สาวกิเลนที่แทบจะหมดสติอยู่ข้างๆเย่ว์หยางชี้นิ้วที่หน้าอกของเย่ว์หยางพลางกล่าว “ลืมบอกเจ้าไป ผู้อื่นต้องคอยลาดตระเวนตรวจตราให้เจ้าจอมอำมหิตนั่นดึงตัวออกมาจากผนึกได้เป็นส่วนใหญ่แล้วยังคงมีกฎอัคคีและกฎน้ำแข็งที่พัวพันอยู่ในตัวเขาคาดว่าต้องใช้เวลาสิบวันครึ่งเดือนจึงจะขับไล่หมอกที่เต็มพื้นที่ออกไปได้ ขณะที่เจ้าพักผ่อนอย่างสบายหลายวันคนอื่นต่างทุ่มเรี่ยวแรงช่วยเจ้า เจ้าควรจะขอบคุณผู้อื่นหรือไม่?”
“สาวน้อย ข้าซาบซึ้งใจเจ้ามาก!” เย่ว์หยางกระโดดคว้ามือสาวน้อยไว้แน่น “นอกจากร่างกาย ข้านึกวิธีแสดงความขอบคุณเจ้าไม่ออก”
“.....” ปิงหยินกรอกตา นางพูดไม่ออกเลยจริงๆเมื่อพบกับบุรุษแบบนี้
โจรหญิงป่าเถื่อนเจ้าเล่ห์
เกือบจะเป็นเช่นนี้
หญิงงามอู๋เหินและเย่ว์หวี่ไม่เคยเห็นอย่างนี้พวกนางหันกลับไปหัวเราะจนตัวงอ
หลังจากสาวกิเลนจากไปเย่ว์หยางไม่กังวลกระจกวิเศษสมบัติชิ้นที่สามอีกต่อไป แต่กังวลเรื่ององค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและนางเซียนหงส์ฟ้ากังวลว่าพวกนางจะพบเจอจีอู๋ลี่ที่กำลังหลบหนีเป็นลูกเต่า อย่ามองว่าจีอู๋ลี่พ่ายแพ้บุรุษลึกลับ แต่พลังของเขายอดเยี่ยมเพียงแต่ไม่อาจเทียบกับบุรุษลึกลับปีศาจเฒ่าที่มีชีวิตมาหลายหมื่นปี
เย่ว์หวี่แนะนำ “ไม่ต้องกังวลเพราะว่ามีตั่วตั่วกับเจี้ยงอิงอยู่กับพวกนาง ไม่ว่ายังไงพวกนางจะไม่พบกับปัญหาต่อให้พบจีอู๋ลี่จริงก็คงหนีกลับมาได้อย่างปลอดภัย!”
ตั่วตั่วกับเจี้ยงอิงแข็งแกร่งพอจริงๆ แต่พวกนางได้รับบาดเจ็บจากฝีมือของบุรุษลึกลับในระดับที่แตกต่างกันไป
พวกนางควรจะพักฟื้นให้ดีเสียก่อน
อย่างไรก็ตามองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนรวมทั้งอาหงอาหมัน อิคคาและเว่ยหลายอยู่ร่วมกลุ่มกันหากไม่มีศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างบุรุษลึกลับเพียงจีอู๋ลี่คนเดียวเขาไม่เกรงกลัว เย่ว์หยางคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่เขาก็ยังไม่สบายใจและตัดสินใจปรับสภาพร่างกายก่อนแล้วค่อยไปรับองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยน การฝึกฝนมีความจำเป็นแต่ตอนนี้ขุนเขาเหนือขุนเขานั้นอันตรายเกินไป เพิ่งจะหมดเรื่องของบุรุษลึกลับก็กลับมีเรื่องของเทพปีศาจอีกตนหนึ่ง นอกจากนี้จีอู๋ลี่หายไปอย่างไม่มีร่องรอยคนผู้นี้ถ้าไม่กำจัดจะกลายเป็นภัยพิบัติได้!
“ยิ่งฟื้นฟูร่างกายได้เร็วเท่าใดเจ้าก็ยิ่งปลอดภัยมากเท่านั้น” สาวงามอู๋เหินให้คำแนะนำเขาดีจนน่าแปลกใจ “ในหว่างการต่อสู้ที่ดุเดือด ตั่วตั่วกับเจี้ยงอิงโน้มน้าวให้สงบจิตใจเมื่อพวกนางออกไปช่วยต่อสู้ ดูเหมือนข้ารู้สึกถึงจิตสำนึกของอู๋เสียได้
“นางตื่นขึ้นแล้วหรือ?” เย่ว์หยางดีใจ
“เรื่องนี้ข้าไม่แน่ใจเท่าใดนักเวลานั้นข้ากังวลเกินไปจึงไม่ได้สนใจเป็นพิเศษ” อู๋เหินไม่แน่ใจเต็มร้อย เพียงแต่มีความรู้สึกบางอย่าง
“ข้าหวังว่านางจะตื่นขึ้นเร็วๆนี้...” เย่ว์หยางไปดูแต่ก็พบว่าเสวี่ยอู๋เสียยังคงหลับอยู่ไม่มีทีท่าว่าจะตื่น
เขาอดถอนหายใจเบาๆ มิได้
เย่ว์หวี่และอู๋เหินทั้งเข้ามาปลอบใจ
เมื่อทั้งสามคนออกไปเสวี่ยอู๋เสียที่หลับเป็นเวลานาน ขนตางอนยาวของนางกลับสั่นอย่างมิน่าเชื่อ
ในการต่อสู้กับบุรุษลึกลับผู้ทรงพลังนั้นเย่ว์หยางพบว่าเขามีข้อบกพร่องมากมาย ในระหว่างการต่อสู้เขาไม่มีเวลาคิดเลย ความกดดันที่เกิดขึ้นจากบุรุษลึกลับนั้นเหมือนกับภูเขาทับโถม ไม่ว่าจะเป็นการบีบบังคับจากภายนอกหรือแรงกดดันทางจิตใจนั่นเป็นเรื่องหนักหนาเกินกว่าจะทำให้คิดอะไรออก
ตอนนี้การต่อสู้จบลงเย่ว์หยางสงบนิ่งค่อยๆ รู้สึกอย่างช้าๆ
ความจริงมีหลายอย่างที่เขาทำได้ไม่ดีพอ
ข้อบกพร่องมากมาย
ในโลกไร้ที่สิ้นสุดของคัมภีร์เงิน สาวเทวทูตทั้งสามที่เป็นตัวแทน‘ทำลาย’ ‘สร้าง’และ ‘นิรันดร’ได้ชี้ให้เขาเห็นถึงขอบเขตและความหมายของความดำรงคงอยู่ของเทพจอมราชันย์เทพนักสู้ที่แท้และแข็งแกร่งจริงๆ ไม่เพียงแค่สามารถทำลายทุกอย่างในโลกได้ แต่ยังสร้างทุกอย่างแม้กระทั่งเขาก็คือสิ่งที่ดำรงคงอยู่นิรันดรไม่มีอำนาจใดจะทำลายหรือปฏิเสธความนิรันดร์นี้ได้
หากไม่สามารถทำได้ ก็หมายความว่าไม่ได้เป็นเทพราชันย์ที่แท้จริง
ยังไม่นับเป็นเทพที่แท้จริง
ในการต่อสู้กับคนลึกลับถ้าเย่ว์หยางยังคง ‘ความนิรันดร’ ได้ตลอดไป อย่างนั้นบุรุษลึกลับแม้จะแข็งแกร่งกว่า ก็ยังจะทำอันตรายเขาได้หรือ?
เย่ว์หยางรู้สึกว่าเขาไม่เพียงคงความนิรันดรไว้ไม่ได้ แต่ยังไม่สามารถทำตามข้อกำหนดการสร้างที่เขาไม่มีทางทำให้สำเร็จได้
ถ้าเขาสามารถรักษาสถานะของการสร้างได้ พลังทำลายของร่างสามรูปแบบของคนลึกลับคลื่นสังหารของลำแสงศักดิ์สิทธิ์และของวิเศษที่มีอยู่ในมือของเขาเย่ว์หยางจะคลี่คลายปัญหาเหล่านี้ได้อย่างไร? พลังสร้างโลกสูงสุด? เช่นเดียวกับตั่วตั่วและเจี้ยงอิงพวกนางสามารถสู้กับคนลึกลับได้ด้วยพลังขอบเขตของพวกนางแม้ว่าจะไม่ถึงกับทำได้ดี แต่นั่นเพราะพวกนางยังทำได้ไม่สมบูรณ์
หลังจากนั้น เขาแทบจะทำอะไรไม่ได้
ยิ่งกว่านั้นไม่ใช่การทำลายทุกอย่างแท้จริง
ยกเว้นเพลิงอมฤตที่ร้อนจริงๆ ปราณกระบี่และวงจักรล้างโลกพลังโจมตีอย่างอื่นยากจะทำร้ายบุรุษลึกลับ หลังจากนั้นเขาคิดว่าได้ตระหนักถึงการตีความที่แท้จริงของพลังเทพราชันย์ได้แล้วนั่นคือพลังทำลาย พลังสร้าง พลังนิรันดร์ สูงกว่าระดับของจีอู๋ลี่ผู้ไม่รู้เรื่องต่อสู้และยังคงเหมือนเดิมไม่ก้าวหน้ามากนัก
“ข้าช่างโง่เหลือเกิน!” เย่ว์หยางตะโกนในหัว คำแนะนำของสามสาวเทวทูตในคัมภีร์เงินคำอธิบายของนางพญาเฟ่ยเหวินหลี และการแสดงครั้งล่าสุดของเทพธิดากระบี่ฟ้าในความฝันเขารู้สึกชัดเจนเข้าใจอย่างปรุโปร่ง
พลังแห่งการรู้แจ้ง
ระเบิดออกมาจากร่างของเขา
แหล่งพลังปั่นป่วนไร้ขีดจำกัดแผ่ออกมาจากร่างของเขาเข้าไปในสนามพลังสร้างโลกและมีการผสานกันและวิวัฒนาการต่อเนื่องเพลิงอมฤตพุ่งเป็นลำขนาดใหญ่ ดาบอสูรเทาเถี้ย ดาบจันทร์เสี้ยว แมงป่องดาวฟ้าอาวุธเทพทั้งหมด รวมทั้งอาวุธเทพร่างมนุษย์สองพี่น้องกางปีกนกบินรอบเจ้านาย กระบี่ดำกุยจ้าง กระบี่ขาวซวงหัวกระบี่แดงชี่เสี่ยวเหลียน กระบี่ส้มเฉิงหงกวงกระบี่เหลืองมังกรทองทั้งห้ากระบี่ฉายขึ้นไปในท้องฟ้า
สนามพลังดาราราย ทางช้างเผือกกลุ่มดาวสิบสองนักษัตรควบแน่นส่องประกายแพรวพราว
แสงพลังดับสุริยาและวิชากระบี่ของจื้อจุน กระบี่แห่งชีวิต
ปรากฏขึ้นมาทีละอย่าง
เย่ว์หยางกระจายพลงเทพเงยหน้าขึ้นฟ้าและกางแขนของเขา
ในท้องฟ้ามีเสียงสั่นสะท้านดังขึ้นในหัวใจบนปลายเสาเพลิงอมฤตมีสองพี่น้องหงส์เพลิงบินโฉบเข้ามาในสายตาของเย่ว์หยางนี่คือสัญลักษณ์ของการต่อสู้ต่อไป