ตอนที่ 1206 ข้าไม่เห็นอะไร!
เมื่อเย่ว์หยางตื่นขึ้นเขาพบว่าตนเองกลับมายังโลกคัมภีร์และนอนอยู่บนเตียง
ข้างตัวเขามีเพียงอู๋เหินคนเดียว
นางหมอบอยู่หน้าเตียงและหลับสนิท
ไม่รู้ว่านางกำลังฝันหรือไม่มุมปากนางยิ้มหวานเย่ว์หยางอดลูบหน้านางด้วยความสงสารมิได้และปัดเส้นผมสองสามเส้นที่ห้อยปิดหน้านางจากนั้นเขาค่อยๆ เอนกายนอนกอดสาวงามนุ่มนิ่มราวกับไร้กระดูกอู๋เหินดูเหมือนจะรู้สึกตัว แต่นางไม่ได้ตื่นจากฝันนางขยับร่างกายท่าทางให้เหมาะสมมือโอบกอดเย่ว์หยางอย่างเป็นธรรมชาติเหมือนนางกำลังพักผ่อนอยู่กับเย่ว์หยาง
ถ้านางตื่นขึ้นนางจะสุภาพอ่อนโยนเหมือนสายน้ำ คำพูดและการกระทำของนางเหมือนกับภรรยาที่ดี เหมือนมารดาที่เอาใจใส่ทุกภาพลักษณ์ไม่ทำสิ่งใดที่หยาบกระด้าง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อหน้าพวกองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนนางจะเป็นเช่นนี้เสมอ
อย่างไรก็ตามหลังจากนางหลับแล้ว
อย่างไรก็ตามเย่ว์หยางจะรู้สึกถึงว่าการนอนของหญิงงามอู๋เหินจะแตกต่างไปจากลักษณะยามตื่นอย่างสิ้นเชิงนางชอบจะพัวพันแขนขาของเขาแม้แต่ใช้ศีรษะหนุนแขนเขาต่างหมอนทั้งคืนความรู้สึกนั้นไม่เหมือนกับเป็นนาง แต่เหมือนกับเป่าเอ๋อที่โลดเล่นเต้นสนุกสนานได้ทั้งวัน แน่นอนว่านี่คือลักษณะที่แท้จริงของหญิงงามอู๋เหิน
ในเวลากลางวันนางต้องเป็นแบบอย่างให้ทุกคนพยายามทำหน้าที่เป็นศรีภรรยาที่ดี
มีแต่รูปลักษณ์ของนางตอนกลางคืนเท่านั้น
ตามปกติแล้วนี่เป็นสัญชาตญาณตอบสนองของนางเอง แต่ถ้ามีเย่ว์หวี่หรือองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนอยู่ด้วยรับประกันได้ว่าอู๋เหินจะนอนหลับสงบเสงี่ยมเรียบร้อยยิ่งกว่าคนอื่นไม่มีท่าทีเจ้ามารยากอดแขนป้องกันไม่ให้เขาลุกขึ้น
“คนดี!ข้าจะไปอาบน้ำก่อนแล้วจะรีบกลับมาทันที” เย่ว์หยางจูบหน้าผากหญิงงามอู๋เหินเบาๆ และคลายมือนางอย่างอ่อนโยนสิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจอยู่เสมอคือทั้งที่นางไม่ตื่น แต่ดูเหมือนว่านางจะได้ยินตราบใดที่เขาให้คำมั่นหรือยินดีร่วมมือกับนางในกิจกรรมบางอย่างในตอนที่นางหลับเขาไม่ต้องส่งเสียงมากเพียงแค่ขยับให้รู้ตัวก็ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าส่งกระแสจิตที่เหลือเชื่อก็คือถ้าเขาถามหญิงงามอู๋เหินอีก นางจะไม่มีทางจำได้นางจะไม่รู้สึกจดจำประทับใจอะไรทั้งนั้น
เมื่อเปิดประตูและเตรียมจะลงสระน้ำหน้าบ้าน
ทันใดนั้นเขาพบเจอเย่ว์หวี่ที่หน้าแดงเหมือนไม่พอใจ
เขากระพริบตาปริบ
ทั้งสองรู้สึกตัวและยิ้มให้พร้อมกัน
เย่ว์หวี่ยื่นนิ้วขาวดุจหยกออกมาเคาะศีรษะเย่ว์หยางเป็นการแสดงว่าทำโทษเขา “เจ้า เจ้า, คนอื่นกังวลเห็นเจ้าไม่พูดทั้งวันแม้แต่เดินบนถนนก็ตัวร้อนจนใครจับเจ้าไม่ได้? เจ้าอายุเท่าใดแล้วไม่ใช่เด็กน้อยอีกแล้ว”
“ข้าเพิ่งตื่นสมองข้ายังสับสนอยู่เล็กน้อย ไม่ทันได้สังเกตว่าท่านอยู่ข้างนอก!” เย่ว์หยางจับมือเย่ว์หวี่โดยไม่รู้ตัว
“ปล่อยมือเร็วเข้า” เย่ว์หยางตกใจรีบสลัดมือ และมองค้อนเขา
“แม่เสือสาวเล่า เป็นยังไงบ้าง?” เย่ว์หยางเปลี่ยนหัวข้ออย่างรวดเร็วเพื่อหลีกเลี่ยงความเก้อเขิน
“ปิงหยินบอกว่ามีผนึกบนแดนลับเทพสังหารเทพปีศาจเว่ยกวงเตรียมตัวจะเบียดตัวออกมาจากผนึกนั่น เชี่ยนเชี่ยนกำลังไปดู” คำพูดของเย่ว์หวี่ทำให้เย่ว์หยางตกใจสะดุ้งตัวลอย มีอะไรต้องดูอีก เทพปีศาจเว่ยกวงเป็นศัตรูที่แข็งแกร่งแน่นอน ขนาดบุรุษลึกลับอาจารย์ของจิ่วเซียวยังยากจะเอาชนะได้ และตามที่สาวกิเลนปิงหยิงคาดการณ์เทพปีศาจเว่ยกวงร้ายกาจกว่าคนลึกลับพวกองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนในตอนนี้ไปที่แดนลึกลับเทพสังหาร ถ้าเทพปีศาจเว่ยกวงออกจากผนึกได้ก่อนจะไม่มีทางหยุดยั้งเขาได้
“ทำไมท่านไม่ห้ามพวกนาง?” เย่ว์หยางไม่ต้องการให้พวกนางพบเจออุบัติเหตุแม้แต่ปลายเส้นผมก็ไม่อยากให้เกิด
“มีตั่วตั่วและเจี้ยงอิงไปพร้อมกับพวกนางนอกจากแค่ไปดู ก็ยังพอจะสู้และหนีกลับได้!” เย่ว์หวี่หันมาปลอบเย่ว์หยาง
“ไม่น่าได้!” เย่ว์หยางนิ่งอยู่นานจึงค่อยเอ่ยปากขึ้น
เขาก็คิดอย่างนั้นมาก่อน
แม้ว่าไม่สามารถเอาชนะได้
แต่ก็สามารถหยอดน้ำมันที่เท้าและเผ่นหนีได้ไม่ใช่หรือ?
อย่างไรก็ตามบทสรุปของการสู้กับคนลึกลับ แม้เขาต้องการจะหนี แต่ก็หนีไม่ได้! หากพบกับสุดยอดนักสู้ฝีมือดี ถ้าไม่หนี ย่อมตายอย่างมิต้องสงสัย
ในการสู้กับคนลึกลับถ้าไม่ใช่เพราะคนลึกลับหยิ่งยโสเกินไปในตอนแรกอสูรแต่ละชนิดที่เขาใช้มีพลังทำลายล้างที่ไม่เคยใช้มาก่อนเริ่มแรกท้าทายเขาใช้เพียงนิ้วเดียวเท่านั้น... ถ้าคนลึกลับกำจัดพลังตนเองไว้ถ้าคนลึกลับใช้ร่างเทพถือกระจกวิเศษสมบัติชิ้นที่สามและนาฬิกาวิเศษสมบัติวิเศษชิ้นที่ห้าและใช้แสงศักดิ์สิทธิ์สีดำคงไม่มีใครสามารถทนรับการโจมตีจากเขาได้
เหตุผลที่บุรุษลึกลับล้มเหลวก็คือเขาหยิ่งยโสเกินไปคิดว่าเขาสามารถเอาชนะทุกคนได้อย่างง่ายดายด้วยความแข็งแกร่งพื้นฐานของเขาคาดไม่ถึงว่าจะพบอัจฉริยะผิดปกติอย่างเย่ว์หยางเขาไม่สามารถใช้ความสามารถของกระจกวิเศษและนาฬิกาศักดิ์สิทธิ์และพลังแสงเทพสีดำได้ ประการที่สองเพราะการชิงของอย่างป่าเถื่อนของสาวกิเลนปิงหยินได้ชิงกระจกวิเศษชิ้นที่สามไปและซื่อเสิน จ้าวซีชิงหวินและซวงหานใช้พลังเทพและชีวิตผนึกนาฬิกาวิเศษสมบัติชิ้นที่ห้าประการที่สามของวิเศษแสงศักดิ์สิทธิ์สีดำหนึ่งในแสงเทพห้าสียังไม่ทันมีเวลาได้ใช้เขาก็ถูกยักษ์เทพชะตาเหยียบย่ำเสียก่อน
เมื่อเขาต้องการใช้แสงเทพสีดำเขาไม่สามารถอยู่ในร่างเทพได้ และแม้ร่างปีศาจก็ไม่อาจคงรักษาไว้ได้ เขาต้องการใช้แสงเทพดำช่วยชีวิตตนเองในร่างอสูร
อย่างไรก็ตามสองพี่น้องหงส์เพลิงชิงขโมยแสงเทพสีดำก่อนทำให้บุรุษลึกลับต้องประสบพบกับโศกนาฏกรรม
นับว่าไม่มากเลย
บุรุษผู้น่าสงสารจากทวีปมังกรทะยานผู้ถูกจ้าวปีศาจโบราณขับไล่และถูกแทนที่โดยเย่ว์หยางบุรุษลึกลับผู้น่าสมเพชนี้เหมือนกับส่งมอบสมบัติให้คนอื่นทั้งหมด
“งั้น แสงเทพดำของข้าก็ให้ปิงหยินฉวยเอาไปเล่นก่อน ข้าคงต้องใจเย็นก่อน!” ทันใดนั้นเย่ว์หยางจำรายละเอียดของความฝันได้ เขาตบอกผางและพบว่าแสงเทพห้าสีอยู่ที่ไหนคาดไม่ถึงเลยว่าสาวกิเลนปิงหยินจะเก็บเอาไว้เขาจะปล่อยให้นางทำตัวเป็นโจรน้อยได้อย่างไร?
“ปิงหยินก็แค่อยากรู้อยากเห็นก็เลยเอาไปดูไม่ใช่หรือ?” เย่ว์หวี่ดึงของออกมาจากกำไลมือเก็บของ เป็นหนึ่งในแสงเทพห้าสีแสงเทพสีดำที่เย่ว์หยางฝันถึง
“โอว”เย่ว์หยางลืมตัวกอดจูบเย่ว์หวี่อีก
“เสี่ยวซาน เจ้า...” เย่ว์หวี่ทั้งโมโหทั้งอายแต่ช้าเกินกว่าจะตำหนิวิจารณ์เย่ว์หยางรีบจับมือนางและถามอย่างตื่นเต้น “ข้าเพิ่งฝัน ข้าฝันว่าปิงหยินเอาแสงเทพดำของข้าไปและตอนนี้แสงเทพดำกลับคืนมาแล้ว พิสูจน์ได้ว่านั่นไม่ใช่ความฝัน แต่นั่นไม่ใช่ความฝันอย่างนั้นตอนนี้เล่า? พี่หวี่ ท่านบอกซิว่าตอนนี้ข้ากำลังฝันอยู่หรือไม่? ไม่มีเหตุผลเลย ถ้าไม่ใชความฝัน ปิงหยินนางโจรน้อยจะยอมคืนของที่นางชิงไปได้อย่างไร? ใช่แล้วตอนนี้ข้าต้องฝันอยู่แน่ๆ แต่ความฝันนี้ค่อนข้างสมจริง...”
เย่ว์หวี่เห็นน้องสามผู้นี้ทำตัวเหลวไหล
นางพยายามกลั้นหัวเราะ
นางเขย่งเท้าเขกศีรษะเขา
เย่ว์หยางเงยหน้ามองประหลาดใจเย่ว์หวี่แค่นเสียงกล่าวอย่างโมโห “เป็นยังไง? เจ็บหรือเปล่า? หากไม่เจ็บก็แสดงว่าเป็นความฝัน! ไม่เจ็บใช่ไหม? อย่างนั้นข้าจะลงมือให้หนักขึ้น!”เด็กหนุ่มข้ามโลกทำให้พี่สาวผู้อ่อนโยนแสดงท่าทางซุกซนมีเสน่ห์ที่หาดูได้ยากเขาลูบหัวอยู่นานพึมพำกับตนเอง “ไม่, ข้ารู้สึกเจ็บปวดนิดหน่อยได้ยังไง?”
“เจ้าไม่รู้สึกแน่นอน!” เย่ว์หวี่เงื้อมือขึ้นบอกว่าจะนางจะตีให้แรงกว่านี้ เขาจะได้รู้สึกชัดเจนมากขึ้น
“ท่านไม่จำเป็นต้องลงมือถ้าเป็นความฝันท่านรังแกข้าไม่ได้แน่ ท่านต้องหลอกข้าท่านจะต้องสนับสนุนข้าตลอดไปอยู่แล้ว!” เย่ว์หยางเถียงกลับ
“ใครจะดูแลเจ้าไปตลอดชีวิต ถ้าเจ้าโง่ ข้ามิอดอยากทุกวันหรือ ไม่อย่างนั้นข้าจะให้กะลาเจ้าไปเดินขอทานสวมเสื้อผ้าขาดวิ่นและหนาวในท่ามกลางอากาศหนาวจนสั่นไม่หยุด!” เย่ว์หวี่อารมณ์ดีพอพูดจบนางอดนึกถึงภาพน้องชายถือกะลาเล็กๆ เดินขอทานตามถนนคงดูตลก
“.....” เย่ว์หยางเมื่อได้ยินเช่นนั้นรู้สึกหัวใจสลายเดินไปอยู่ที่มุมประตูขีดเขียนภาพเล่นแก้เก้อ
บางทีเพราะเห็นเย่ว์หยางในระยะไกล
มีผู้ที่กำลังขับขี่หุ่นอสูรน้ำในทะเลสาบเพียงเพื่อฝึกฝนนางขับขี่หุ่นหงส์น้ำอย่างมีความสุข นางควบคุมหุ่นหงส์ได้ไม่ดีนักเหมือนกับว่ากำลังขี่ม้าพยศ ความเร็วไม่ลดลงเลย พอเห็นเย่ว์หยางและเย่ว์หวี่ทั้งสองกำลังเวียนหัวสาวน้อยตกใจทันที
“ตุ้บ!”
เป่าเอ๋อร่วงตกอย่างที่คาด
นางคล่องแคล่วและกระโดดลุกขึ้นและกระโจนหาเย่ว์หยางพลางกางแขนเต็มที่“ตัวร้าย! รับข้าด้วย!”
เย่ว์หยางทำอะไรไม่ถูกดังนั้นเขาส่งแสงเทพดำให้เย่ว์หวี่ถือและเขารับสาวน้อยจอมซนไว้ด้วยมือทั้งสอง
จากนั้นพาดตัวนางกับเข่าและตีก้นนางเป็นการลงโทษ
หุ่นรบหงส์ร่วงตกไม่เป็นท่ามันพยายามกระพือปีกทรงตัวกระเสือกกระสนไปข้างหน้าเย่ว์หยางรีบปล่อยเป่าเอ๋อและเอื้อมมือขวางหุ่นหงส์เอาไว้
หุ่นหงส์ค่อยๆ สงบลง
และภายใต้ความช่วยเหลือของเย่ว์หยางอย่างเชี่ยวชาญมันบินกลับขึ้นไปบนฟ้าได้โดยไม่มีอุบัติเหตุ
อย่างไรก็ตามสาวน้อยเป่าเอ๋อที่ร่วงลงกับพื้นกลับสร้างปัญหาให้เขา เมื่อเด็กสาวร่วงตกจากหงส์และล้มลงมือของนางตอบสนองอย่างรวดเร็วเพียงแต่ผิดที่นางไปคว้าขอบกางเกงว่ายน้ำของเย่ว์หยางพร้อมกับเสียหลักดึงกางเกงติดมือด้วย คราวนี้ทั้งสามคนมองตาโตทำอะไรไม่ถูก
สัญลักษณ์ความเป็นชายถูกเปิดเผย
เนื่องจากความแข็งแกร่งของความเป็นชายพอสูญเสียเครื่องปกปิดยับยั้งความเป็นชายจึงผงาดดูเด่นส่ายไปมา
เป่าเอ๋ออ้าปากค้างอยู่ชั่วขณะ ปฏิกิริยาแรกของนางคือไม่ได้รู้สึกว่าน่าอายแต่นางรู้ทันทีราวกับว่านางเป็นคนอยากรู้อยากเห็นและค้นหาความลับเสมอในที่สุดก็เจอความลับที่นางต้องการ ‘อ้อ..เป็นเช่นนี้เอง’
จากนั้นนางกลัวว่าเย่ว์หยางจะเข้ามาหานาง
นางค่อยๆ คลานช้าๆมองเย่ว์หยางอย่างระมัดระวัง ก่อนที่เย่ว์หยางจะเอื้อมมือมาจับแม่กวางน้อยก็เผ่นหนีไปอย่างตกใจพลางตะโกน “ข้าไม่เห็นอะไรทั้งนั้น อย่าตีข้า...”
เมื่อนางวิ่งออกไปได้กิโลเมตรหนึ่งนางค่อยรู้สึกอาย ใบหน้านางแดงก่ำร้อนผ่าว