ตอนที่ 1205 ฝันที่ยังไม่ตื่น?
จีอู๋ลี่ยืนขึ้นนึกสงสัยว่าจะเป็นภาพลวงตา
ถ้าไม่ใช่เพราะบนพื้นมีรอยมือของเขากดลึกอย่างนั้นจีอู๋ลี่คงคิดว่าทุกอย่างที่เขาเพิ่งเจอมานั้นเป็นภาพลวงตา ตอนนี้แรงกดดันหายไปแล้ว และโลกกลับสู่สภาวะปกติ จีอู๋ลี่เงยหน้ามองดูแหล่งพลังงานกดดันที่สง่างามนั้นเงียบๆไม่มีเครื่องหมายอะไรให้เห็น แรงกดดันครั้งใหญ่ที่เพิ่งถูกปล่อยออกมานั้นมาจากบุรุษลึกลับนั่นหรือ?
ไม่มีทาง
เป็นไปไม่ได้!
ถ้าเป็นบุรุษลึกลับสามารถสร้างแรงกดดันเช่นนั้นได้ก็ไม่จำเป็นต้องทำอะไรเลย และไม่ว่าเขาจะดิ้นรนอย่างยากลำบากเพียงไหนก็ไม่มีทางหนีพ้นความตายไปได้
บางทีอาจมีนักรบแข็งแกร่งยุคโบราณที่ซ่อนตัวอยู่ในขุนเขาเหนือขุนเขามาเป็นเวลาหมื่นปีถูกปลุกให้ตื่นเพราะความเย่อหยิ่งของบุรุษลึกลับนั้นและเพราะสงครามเทพดังนั้นจึงได้แสดงพลังเหนือธรรมชาติอย่างเกรี้ยวกราด หากเป็นเช่นนี้บุรุษลึกลับที่เขาหนีออกมามีโอกาสมากที่จะถูกเทพโบราณที่ถูกปลุกขึ้นนั้นฆ่าตายได้ อย่างไรก็ตามเทพโบราณนั้นมีพลังเหนือธรรมชาติครอบงำสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในขุนเขาเหนือขุนเขา
บางทีบุรุษลึกลับนั้นอาจตายไปแล้ว
ถึงแม้จะไม่ใช่
อย่างน้อยก็คงได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก
นี่จะกล่าวอีกอย่างหนึ่งก็คือเขาปลอดภัยแล้ว ไม่ต้องถูกบุรุษลึกลับใช้ความตายคุกคามเขาอีก
จีอู๋ลี่ตื่นเต้นหัวใจเต้นแรง เขาใช้แสงเทพนำทางนั่นเป็นแสงเทเลพอร์ตที่ไม่เหมือนใครซึ่งตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์สร้างขึ้นโดยพยายามไม่เปิดเผยสถานะตัวตนและสัญลักษณ์ของตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ ต่อให้เป็นตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่ต้องการยั่วโทสะเทพโบราณเพราะพลังของเขาจนบุกมาถึงถิ่น
ไม่ว่าจีอู๋ลี่จะโง่แค่ไหนก็ตามเขาไม่ต้องการสร้างความยุ่งยากให้กับตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์
เขาดำดินอย่างระมัดระวังและไม่กล้าใช้อาวุธเทพ เพราะกลัวเทพโบราณที่ตื่นขึ้นมาจะรับรู้ความคงอยู่ของเขา
เขาเทเลพอร์ตครั้งหรือสองครั้ง...การเทเลพอร์ตด้วยความระมัดระวังนี้ทำให้ไปได้ครั้งละไม่กี่สิบกิโลเมตรและประสิทธิภาพต่ำมาก แต่จีอู๋ลี่ยินยอมจะใช้เวลาหนีเป็นปีแต่ไม่ต้องการให้เทพโบราณตรวจพบเขา
จนกระทั่งหนีออกมาได้ระยะสองหมื่นกิโลเมตรจีอู๋ลี่รู้สึกว่าไกลเพียงพอแล้ว
เขาค่อยมีความกล้ามากขึ้น
เริ่มเพิ่มระยะเทเลพอร์ตเป็นครั้งละร้อยกิโลเมตร
ไม่ทราบว่าเขาใช้เวลาเทเลพอร์ตนานเท่าใดจนกระทั่งจีอู๋ลี่เริ่มรู้สึกเหนื่อยล้าทางจิตใจเขารีบไปเนินแท่นของขุนเขาเหนือขุนเขาก่อนนี้เขาส่งตัวอสูรลอยแสงและอสูรสยองขวัญไปตามหาอสูรอู่หวังเขาได้มอบหมายภารกิจให้อสูรอู่หวังปลอมตัวเป็นทูตพิเศษและให้ไปประจำการรออยู่ที่หุบเขาเบื้องหน้า
“ดี กลับมากันแล้ว”
จีอู๋ลี่เห็นอสูรทั้งสาม อสูรลอยแสงอสูรสยองขวัญและอสูรอู๋หวังก็รู้สึกดีใจ “แม้ว่าสงครามเทพครั้งนี้ เราไม่ได้ชนะ แต่เป้าหมายของเราทำได้สำเร็จสงครามที่เราไม่อาจสู้ได้อย่างนี้ พวกเจ้ากลับมากันได้หมดข้าก็ดีใจมากแล้ว”
อสูรลอยแสงและอสูรสยองขวัญติดตามจีอู๋ลี่ร่วมศึกนี้รู้ว่าศึกนี้สามารถหลบหนีเอาชีวิตรอดได้ยากลำบากขนาดไหน
พวกเขาแสดงความเคารพจากนั้นเปลี่ยนเป็นแสงสีทองกลับเข้าไปในโลกคัมภีร์ของจีอู๋ลี่
อู่หวังยังอยู่ข้างนอก
ปฏิบัติภารกิจลับที่จีอู๋ลี่วางไว้ก่อนนั้น
ก่อนจะกลับเข้าโลกคัมภีร์เขาส่งของสิ่งหนึ่งให้จีอู๋ลี่โดยเคารพ ขณะที่จีอู๋ลี่มองดูเขาดีใจพยักหน้าชมเชยทันที “ทำได้ดีมาก ด้วยพลังต้องห้าม เจ้าไม่เพียงแต่ทำได้สำเร็จ แต่ยังทำได้เกินคาดหมายของข้าด้วยของเหล่านี้ ไม่เพียงแต่หยวนจี๋จะฟื้นฟูพลังได้สูงสุด แต่เราจะสามารถเลื่อนระดับไปอยู่ในขอบเขตที่สูงพร้อมกันเจ้าทำเรื่องที่ยากลำบากนี้ได้ดีจริงๆ”
อสูรอู่หวังแสร้งทำเป็นอ่อนน้อมถ่อมตน แต่ความจริงเขาเก็บซ่อนความภูมิใจอย่างยากลำบากเขายิ้มเล็กน้อย “ไม่เลยอู่หวังทำได้สำเร็จเพราะพวกขุนเขาเหนือขุนเขานั้นโง่ คนโง่เหล่านั้นแม้คิดว่าบางสิ่งบางอย่างในโลกนี้จะได้มาด้วยความพยายามไม่โลภพวกเขาไม่รู้ถึงความสำเร็จที่ไร้ขอบเขตของเรา!”
“ดีแล้ว ตอนนี้ขุนเขาเหนือขุนเขาอันตรายมากเรายังคงรีบจากไปโดยเร็ว” จีอู๋ลี่พยักหน้าและเห็นด้วย
ถ้าไม่ใช่เพราะการมาถึงของบุรุษลึกลับเขายังคงเตรียมฉวยโอกาสในสงครามเทพครั้งนี้
แต่ตอนนี้ได้เวลาจากไป
บุรุษลึกลับผู้แข็งแกร่งจะเป็นหรือตายเขาไม่รู้
เทพปีศาจเว่ยกวงที่พยายามจะทำลายผนึกที่ทางผ่านโบราณออกมาก็น่ากลัวพอแล้วแต่ที่น่ากลัวยิ่งกว่าก็คืออาจเป็นเพราะสงครามเทพไปปลุกเทพสงครามโบราณที่ไม่รู้จัก... ตอนนี้จีอู๋ลี่หวังว่ามหาเทพโบราณคงจะฆ่าบุรุษผู้ลึกลับและหันความสนใจไปที่เทพปีศาจเว่ยกวง
ไม่ว่าเขาจะสนใจในศึกนี้เพียงไรแต่เขาจะต้องไม่อยู่ในปลักโคลนนี้
อู่หวังดูเหมือนต้องการจะรายงานต่อแต่เมื่อเขาเห็นจีอู๋ลี่มีความมุ่งมั่น
เขากลายเป็นแสงสีทองทันที
กลับเข้าไปยังคัมภีร์อัญเชิญ
จีอู๋ลี่เก็บคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ที่เปล่งรัศมีและเหาะขึ้นไปในท้องฟ้าและบินตรงไปที่ประตูเทเลพอร์ตราวกับดาวตก
ขณะที่เจ้าตำหนักศักดิ์สิทธิ์เตรียมพร้อมจะเปลี่ยนร่างเป็นแสงเข้าประตูเทเลพอร์ตและไปจากขุนเขาเหนือขุนเขา ทันใดนั้นโบราณวัตถุชิ้นส่วนเล็กๆสองชิ้นที่วางอยู่ใต้ประตูส่องประกายสดใสและก่อตัวเป็นม่านแสง
ขยายตัวออก
ครอบคลุมพื้นที่หนึ่งกิโลเมตร
แสงสีทองที่กำลังจะเทเลพอร์ตส่งจีอู๋ลี่ออกไปค่อยๆจางลงและแสดงร่างที่แท้จริงของจีอู๋ลี่ด้วยความตกใจเล็กน้อยเขาตระหนักได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นเขาลอยตัวลงมาที่พื้นกลับเข้าไปอยู่ในดินแดนเทพสังหารอย่างรวดเร็ว
“โอว..เป็นเจ้านั่นเอง!” ในที่สุดจีอู๋ลี่ก็พบคนที่อยู่เบื้องหลังแผนการ
“ใช่ ข้าเอง”
เสียงอู้อี้ไม่ชัดเจนดังมาจากด้านบนจีอู๋ลี่ฟังน้ำเสียงเหมือนกับได้พบสหายเก่า อย่างไรก็ตามสีหน้าของเขาดุดันเอาจริงยิ่งกว่าตอนที่เขาสู้กับเย่ว์หยาง “ทำไมเจ้าถึงทำอย่างนี้? ข้าไม่เคยคิดมาก่อนว่านี่จะเป็นอุบายแผนการยึดตำแหน่งใหญ่ในแดนสวรรค์ของเจ้า เจ้าไม่ยินดีจะร่วมมือกันหรือ? แก้ปัญหาด้วยการลงมือกับข้า?เจ้าคิดว่าเจ้าคำนวณระดับนี้มีประโยชน์นักหรือ?”
เจ้าของเสียงเลือนลางไม่ชัดเจนนั้นไม่ตอบ
ในท้องฟ้า
มีแสงสายฟ้ากระพริบ
พื้นที่กลายสภาพเป็นถูกทำลายล้างเกิดหลุมดำดึงดูดทุกสรรพสิ่ง
กระแสไฟฟ้าโค้งบิดเบี้ยวและกฎสวรรค์ที่ผิดเพี้ยนทำลายสนามพลังชนปะทะกันอยู่ภายในหลุมดำและที่ขอบของหลุมดำส่งคลื่นที่น่าสะพรึงกลัวและเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
ร่างกายทั้งหมดถูกล้อมรอบด้วยสายฟ้าดำ ด้านหลังหลุมดำมีกระแสวังวนพลังเทพก่อตัวขึ้นในลักษณะแปลกวังวนหลุมดำดูดทั้งแสงและกฎสวรรค์เข้าไปอย่างต่อเนื่องจนไม่เหลืออะไร ร่างของเขาเหมือนกับหลุมดำที่น่ากลัวดูดรัศมีภายนอกโลกเข้าไปในร่างมองดูเหมือนกับหลุมดำที่กลืนกินทุกสรรพสิ่งให้ฉีกขาดจากกัน
เขาส่งเสียงพูดเป็นครั้งแรกเป็นเสียงอมตะเทเลพอร์ตผ่านเจตจำนงราชันย์อมตะ แต่พอมาถึงหูจีอู๋ลี่เพราะสูญเสียความสามารถปกป้องของปณิธานราชันย์เสียงของเขาจึงหายไปก่อนมิติหลุมดำจะดูดซับพลังเสียงกลับมา
ดังนั้นจึงกลายเป็นเสียงที่น่ากลัวเลือนลางคล้ายดังมาจากที่ไกล
แต่ไม่สามารถเห็นหน้า
ไม่สามารถมองเห็นรูปลักษณ์ของคนผู้นี้ได้ชัดเจนไม่สามารถเข้าใจคนผู้นี้ได้ชัดเจนว่ามีความแข็งแกร่งที่แท้จริงเพียงไหน
จีอู๋ลี่รู้จักคนมากมายในชีวิตของเขามีเพียงบุคคลข้างหน้าเขาเท่านั้นที่ดูลึกลับ! คนผู้นี้ยังทำได้ดีกว่าอาจารย์ของเขา วันนี้บุรุษลึกลับเกือบทำได้จนแทบจะเป็นอมตะจนกระทั่งเขาไปปลุกมหาเทพโบราณลึกลับ!
แน่นอนว่าเจ้าผู้นี้มีนามว่า ‘จิ่วเซียว’
นอกจากนั้นจีอู๋ลี่ไม่รู้จักเกี่ยวกับสติปัญญาเขาเท่าใดนักแม้ว่าเขาจะได้ร่องรอยบางอย่าง แต่เขาไม่แน่ใจ จีอู๋ลี่สงสัยอย่างยิ่งต่อข้อมูลเท็จที่กระจายโดยบุคคลอื่นจงใจทำให้เกิดการเข้าใจผิด ในแดนสวรรค์คู่แข่งรุ่นเดียวกันกับจีอู๋ลี่มีหลายคนที่น่ากลัวแต่ดูเหมือนคู่แข่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือหนึ่งในสามจอมภพแดนสวรรค์ตะวันตกที่มักให้ความร่วมมือแต่ต้องระวังตัวอย่างมาก ‘จิ่วเซียว’
“มันไม่ใช่การคำนวณที่มีประโยชน์แต่ก็คุ้มค่า ในเวลานั้นเจ้าก็รู้ว่ามันไร้ประโยชน์ จึงผลักดันจักรพรรดิอวี้ให้กลายเป็นฝ่ายตรงข้ามกับข้าและให้ข้าต่อสู้กับเทพสงครามผู้มีของวิเศษระดับเทพสามชิ้นไม่ใช่หรือ? ตราบใดที่ข้านึกถึงเวลาที่ถูกผนึกมาหลายพันปีข้าอดจะคิดตอบแทนเจ้าไม่ได้!” จิ่วเซียวยืนอยู่กลางหลุมดำและพูดช้าๆ “จีอู๋ลี่! เจ้าไม่ต้องการยึดตำแหน่งจอมภพแดนสวรรค์ของข้านั่นเป็นเพราะเจ้ามีเป้าหมายที่ดีกว่านอกจากนี้ยังมีหญิงสาวอัจฉริยะที่เจ้ากลัวพรสวรรค์ของนางนางมีพรสวรรค์ไม่ด้อยไปกว่าเจ้าแม้แต่หมิงเยี่ยกวงเจ้าก็ขัดขวางนางไม่ให้ขึ้นสู่ความสำเร็จก่อนที่เจ้าจะผ่านมาถึงระดับนี้ เจ้าต้องการให้ข้ากับซิวคงสองคน ขจัดอุปสรรคขวางทางที่งดงามให้กับเจ้าแน่นอนว่าการร่วมมือกันนั้นช่างน่ายินดี แต่น่าเสียดายที่ข้ากับซิวคงเป็นเหมือนคนโง่สองคนที่ถูกเจ้าหลอกใช้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จีอู๋ลี่สหายรัก ไม่สิ, พี่จีเจ้าคิดว่าข้าเป็นใคร? เป็นคนโง่แน่นอนนักหรือ?ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะต้องร่วมมือกับเจ้าตำหนักใหญ่ตงฟางข้าควรไปตามทวงบัญชีกับเจ้าเมื่อคราวกลับมาจากหอทงเทียนข้าจะรอมาจนบัดนี้ได้อย่างไร?
“ยากนักที่เจ้าต้องอดทนรอมาจนถึงวันนี้เพื่อคิดบัญชี”จีอู๋ลี่สีหน้าเปลี่ยนตอนแรก แต่แล้วเขาหัวเราะด้วยความพอใจ
“เจ้าควรจะเข้าใจว่าความอดทนของข้านั้นดีมาก” จิ่วเซียวพูดประชดประชัน “โดยเฉพาะอย่างยิ่งปรับปรุงแผนการให้ดีขึ้นดึงคู่ต่อสู้ที่เสแสร้งแกล้งหยิ่งยโสลงมาจากแท่นบูชาได้ การเตรียมการและกระบวนการรอคอยอาจใช้เวลานานกว่านี้เล็กน้อยแต่ข้าก็สนุกกับมัน”
“อา, ตั้งแต่เจ้าหนีออกมาจากหอทงเทียนเหมือนสุนัขตกน้ำเจ้าฟื้นฟูพลังได้สมบูรณ์แล้วหรือ?” จีอู๋ลี่ตีฝีปาก
“เชื่อได้ว่าไม่ทำให้เจ้าผิดหวัง” จิ่วเซียวไม่โกรธ ใจของเขาสงบเหมือนน้ำ
ขณะที่จีอู๋ลี่และจิ่วเซียวเผชิญหน้ากันและกัน
เย่ว์หยางกำลังฝัน
เขาฝันว่ามังกรทองกินบุรุษลึกลับเหมือนกับกินพริกที่เผ็ดร้อนท้องของมันพองตัวและพ่นไฟออกจากปาก ร่างของมันเต็มไปด้วยเกล็ด
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในความฝันแปลกประหลาดเห็นได้ชัดว่าเกล็ดมังกรระเบิดในวินาทีสุดท้ายและวินาทีต่อมาก็กลับมารวมตัวกันในครู่เดียวเดียว
มังกรทองยักษ์ฟื้นฟูสภาพเหมือนเดิม
และยังคงแหวกว่ายอากาศกลับมา
มันส่ายหัวและคายมุกมังกรขนาดใหญ่เม็ดหนึ่ง
มุกมังกรนั้นแทบจะไม่สะดุดใจเขาแต่อย่างใด...ที่น่าประหลาดใจก็คือมังกรทองในฝันนั้นก่อนที่จะสลายไปมันพ่นกลุ่มไฟสีดำซึ่งมีวิญญาณของบุรุษลึกลับซ่อนอยู่คนผู้นี้ตายไปแล้วอย่างเห็นได้ชัด แต่ในฝันเขายังมีชีวิตอยู่ ยิ่งกว่านั้นเจ้าผู้นี้ยังขู่ว่าจะล้างแค้นและหลังจากฟื้นฟูพลังเทพ เขาจะใช้เพลิงสีดำทำลายหอทงเทียนทั้งหมด
เย่ว์หยางโกรธจัดแม้ว่านี่เป็นแค่ความฝัน ไม่ใช่ความจริง แต่เขารู้สึกหงุดหงิดรำคาญมาก
ในความฝัน
ไม่มีอะไรควบคุมได้
เขาต้องการใช้เท้าย่ำผู้นี้ให้ตายเหมือนแมลงสาบเขาไม่สามารถเอาชนะชายชราที่ไม่ตายนี้ได้ แต่มีความคิดแปลกประหลาดอย่างหนึ่งเกิดขึ้น ชายชรานี้ซ่อนตัวอยู่ในแสงสีดำและหนีได้เร็ว เร็วจนตั่วตั่วและเสี่ยวเหวินหลีไล่ตามไม่ทัน เย่ว์หยางรู้สึกกังวลเพราะนั่นเป็นหนึ่งในห้าแสงศักดิ์สิทธิ์ที่เขาค้นหามานานหลายปีแล้ว สีดำและสีเขียวจากแสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสี แล้วชายชรานี่เล่า? นี่ไม่มีเหตุผลเลย!
เย่ว์หยางโลดเต้นไปมาอย่างกระวนกระวายแต่นี่เป็นเพียงความฝัน เขาไม่สามารถไล่ตามได้ ร่างกายของเขาหนักเหมือนตะกั่ว และเขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้
เขาบ่นว่าทำไมถึงไม่มีใครปลุกเขา
ทันใดนั้น
ทันใดนั้นเขาได้ยินเสียงสวรรค์ที่ไพเราะสงบ
ในใจของเขารู้สึกคุ้นเคยกับเสียงที่ได้ยินนี้เสียงไพเราะจนไม่อาจบรรยายเป็นคำพูดได้ ...... จากนั้นเป็นเด็กหญิงน้อยน่ารักสองคนที่ดูคุ้นเคยแต่เขามิอาจเรียกชื่อได้พวกเธอนำแสงสีดำกลับมาวางไว้ต่อหน้าเขาอย่างชาญฉลาด ในเวลานั้นเขาตื่นเต้นมากอยากจะจูบแม่หนูน้อยทั้งสอง แต่สายเกินไป มีเด็กสาวที่เขารู้สึกว่าคุ้นเคยดึงแสงสีดำกลับไปอีกนางชิงแสงสีดำไปต่อหน้าต่อหน้าของเขา
ถ้าเขาไล่ตามนางได้ทันเขาคงจับนางฟาดก้นเป็นแน่
เย่ว์หยางตัดสินใจรอให้ตื่นจากฝันก่อนแล้วค่อยคิดหาโอกาสตอบโต้นาง
จับนางหวดก้นให้ได้
ดูซิว่านางจะกล้าซุกซนอีกไหม!
อย่างไรก็ตาม ฝันนี้ใช้เวลายาวนานทำไมถึงไม่ตื่นสักที?