NH-ตอนที่ 11 หนังสือเนโครแมนซี่ (2)
ลุกซ์ พยักหน้าด้วยความชื่นชม
เขารู้สึกว่าเขาเลือกถูกแล้วหลังจากพิจารณาตัวเลือกทั้ง 3 และ เลือกที่จะตั้งชื่อโครงกระดูกตัวแรกของเขา
หลังจากเสร็จสิ้นการตั้งชื่อ ชายหนุ่มก็ตรวจสอบสกิลอัญเชิญพื้นฐาน อื่น ๆ ทันที
_____
<อัญเชิญนักธนูโครงกระดูก>
ระดับ : D
พลังงาน : 10
ความคืบหน้า : (0/100)
- คุณสามารถเพิ่มระดับความคืบหน้าของสกิลได้ด้วยการใช้คอร์มอนสเตอร์เพื่ออัปเกรดสกิลนี้
- ข้อกำหนด : อัญเชิญโครงกระดูกระดับ C
- เรียกนักธนูโครงกระดูกออกมา 1 ตัวเพื่อช่วยเหลือคุณในการต่อสู้
- ระยะเวลาการอัญเชิญ 1 ชั่วโมง
(นักธนูโครงกระดูก)
พลังชีวิต : 20
พลังโจมตี : 3-10
ประเภทการโจมตี : การโจมตีทางกายภาพ
_____
<อัญเชิญนักเวทย์โครงกระดูก>
ระดับ : C
พลังงาน : 20
ความคืบหน้า : (0/100)
- คุณสามารถเพิ่มระดับความคืบหน้าของสกิลได้ด้วยการใช้คอร์มอนสเตอร์เพื่ออัปเกรดสกิลนี้
- ข้อกำหนด : นักธนูโครงกระดูก ระดับ A
- เรียกนักเวทย์โครงกระดูกออกมา 1 ตัว เพื่อช่วยเหลือคุณในการต่อสู้
- ระยะเวลาการอัญเชิญ 1 ชั่วโมง
- คูลดาวน์สกิล : 5 นาที
(นักเวทย์โครงกระดูก)
ค่าพลังชีวิต : 50
พลังโจมตี : 5-15
ประเภทการโจมตี : ความเสียหายธาตุ
_____
“อัญเชิญนักธนูโครงกระดูกและอัญเชิญนักเวทย์โครงกระดูก” ลุกซ์ พึมพัม “ไม่เลว แต่ฉันยังต้องอัปเกรดสกิลก่อนหน้านี้ก่อน”
ลุกซ์ เกาหัวของเขาในขณะที่เขาดูข้อกำหนดของการอัญเชิญอีก 2 สกิลของเขา เขาสามารถจินตนาการได้ถึงทรัพยากรจำนวนมากที่ต้องนำไปใช้ในการอัปเกรด เดียโบล เช่นเดียวกับ สกิลอัญเชิญโครงกระดูก
เนื่องจากทั้งสองเป็นสกิลที่แยกกัน ดังนั้นการอัปเกรดพร้อมกันจึงไม่ค่อยเหมาะในตอนแรก และ ลุกซ์ นั้นตระหนักได้เป็นอย่างดีว่าการได้รับ คอร์มอนสเตอร์ นั้นเป็นเรื่องยากเพียงใด
บรรดาผู้ที่ผ่านการทดสอบของฐานที่มั่นเท่านั้นถึงจะมีสิทธิ์เข้าสู่พื้นที่เริ่มต้นของเอลิเซียม
ภายในพื้นที่เริ่มต้นนี้ จะมีสิ่งมีชีวิตระดับต่ำ และ มอนสเตอร์ทั่วไป สิ่งนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป เพราะมันสามารถช่วยเหลือพวกเขาในการขัดเกลาความสามารถในการต่อสู้ของพวกเขาได้
ทันทีที่สิ่งมีชีวิตเหล่านี้ถูกฆ่า มันก็มีโอกาส 10% ที่พวกมันจะดรอปคอร์มอนสเตอร์ออกมา
เกี่ยวกับคอร์มอนสเตอร์ ผู้คนจะมีวิธีใช้งาน 2 ตัวเลือกในโซลบุ๊คของพวกเขา
อย่างแรกเลยก็คือการอัปเกรดค่าสถานะส่วนตัว
สิ่งนี้ขึ้นอยู่กับความหายากของ คอร์มอนสเตอร์ โดยพวกเขาสามารถได้รับมากถึง 100 แต้มเมื่อกินเข้าไป
คอร์มอนสเตอร์ ของมอนสเตอร์ระดับต่ำนั้นจะมีโอกาส 10% ที่จะได้รับสกิลพิเศษของมอนสเตอร์นั้น ๆ หลังจากที่มันถูกสังหาร นอกเหนือจากนั้น ก็ยังอาจจะได้รับ ค่าสถานะ 1-2 แต้ม ที่สามารถจัดสรรได้อย่างอิสระ
ตัวเลือกที่สองก็คือการอัปเกรดสกิล
หากต้องการอัปเกรดสกิล จะต้องสะสมแถบความคืบหน้าให้ถึง 100% จากนั้นสกิลก็จะได้รับการยกระดับขึ้น และ อาจนำไปสู่การกลายพันธุ์ที่สามารถปลดล็อคเวอร์ชั่นดั้งเดิมที่ทรงพลังขึ้นได้
สิ่งนี้คล้ายกับ วิวัฒนาการของสกิล [EX] ของ ลุกซ์ แต่กรณีนี้เกิดขึ้นด้วยความน่าจะเป็นที่ต่ำมากเท่านั้น
โดยปกติแล้ว เมื่อผู้คนต้องการอัปเกรดสกิลของพวกเขา พวกเขาจะต้องปรับปรุงประสิทธิภาพของสกิลนั้น ๆ ด้วยตัวเอง และ นี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไม สกิลที่ ลุกซ์ ได้มาจาก เทพเจ้าแห่งเกม นั้น จึงเป็นสกิลที่จะทำให้ทุกคนในโลก โซไรอัส นั้นต้องรู้สึกอิจฉาตาร้อน
เพราะสกิลที่สามารถพัฒนาสกิลอื่นได้ เป็นประเภทของสกิลที่ไม่เคยปรากฏขึ้นมาก่อน หากสิ่งนี้ถูกเผยแพร่ออกไปต่อสาธารณะ กลุ่มคนที่มีอำนาจจำนวนมากจะต่อสู้เพื่อ แย่ง ลุกซ์ มาอยู่ภายใต้ปีกของพวกเขา หรือไม่ก็อาจจะกำจัดเขาทิ้ง เพื่อป้องกันไม่ให้กองกำลังอื่น ๆ ในอนาคตได้ตัวเขาไปครอง
แน่นอนว่า ลุกซ์ ยังไม่ได้คิดถึงสิ่งเหล่านี้มากนัก เพราะเขามีปัญหาที่ยุ่งยากกว่าในมือ เขารู้สึกสับสนว่าควรจะอัปเกรดค่าสถานะก่อนหรือสกิลก่อนดี แน่นอนว่าคำถามนี้ได้รบกวนผู้คนจำนวนมากนับไม่ถ้วนหลังจากที่พวกเขาเข้าสู่เอลิเซียมครั้งแรก
เพราะเส้นแบ่งระหว่างความแข็งแกร่งภายในและภายนอกก็เป็นหัวข้อถกเถียงกันมาอย่างยาวนาน
เฉพาะผู้ที่เกิดมาโดยไม่มีความสัมพันธ์ใด ๆ เท่านั้น ถึงจะมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มพูนค่าสถานะของพวกเขาอย่างเดียว แทนที่จะพึ่งพาสกิลเพื่อให้แข็งแกร่งขึ้น
“เอลิออน ผมควรทำยังไงดี?” ลุกซ์กล่าวถาม “ผมควรจะอัปเกรดค่าสถานะของผมก่อนหรือของเดียโบลก่อน?”
“นี่คือสิ่งที่นายต้องตัดสินใจเองลุกซ์” เอลิออน ได้ตอบกลับ “สำหรับตอนนี้ นายควรจะคิดว่าจะทำอะไรในตอนเช้า เนื่องจากนายเพิ่งสอบไม่ผ่านเกี่ยวกับการทดสอบที่จะเข้าสู่เอลิเซียม ดังนั้นนายจะต้องรอไปอีก 1 ปี เพื่อสอบเข้าใหม่อีกครั้ง”
“ผมไม่สามารถรอนานขนาดนั้นได้!” ลุกซ์กล่าวพูดอย่างติดอ่าง ตอนนี้เขาได้ปลดล็อคศักยภาพของร่างกายและได้เรียนรู้สกิลแล้ว การที่เขายังไม่เริ่มต้นผจญภัยในโลกเอลิเซียมนั้นทำให้เขาแทบจะกลายเป็นบ้าในเวลานี้
เอลิออน พยักหน้าอย่างเข้าใจ “แล้วถ้าเป็นอย่างนี้ล่ะ? ฉันจะให้นายยืมสิ่งประดิษฐ์ที่จะช่วยให้นายเดินทางไปยังพื้นที่เริ่มต้นซึ่งอยู่ไกลจากดินแดนที่เป็นของฐานที่มั่นวิลด์การ์ดในเอลิเซียม”
“ด้วยวิธีนี้ ไม่เพียงแต่นายจะสามารถเขาไปในเอลิเซียมได้เท่านั้น แต่จะไม่มีใครจำนายได้เช่นเดียวกัน นายคิดอย่างไรเกี่ยวกับข้อเสนอนี้ของฉัน?”
“ผมตกลง!” ลุกซ์ ตอบอย่างมั่นใจ เขากลัวว่า เอลิออน จะดึงข้อเสนอกลับหากเขาไม่ตอบในทันที
เอลิออน หัวเราะเบา ๆ และมองไปที่ ชายหนุ่มที่ดูตื่นเต้นจนเกือบจะควบคุมตัวเองไม่ได้
“งั้นรับนี่ไป!” เอลิออน ยื่นแหวนสีดำให้กับ ลุกซ์ “แหวนวงนี้มีชื่อว่าอรอนไดท์ มันสามารถพานายไปยังดินแดนอรอนไดท์ที่ตั้งอยู่ทางใต้สุดของเอลิเซียมได้ อ่า ลืมไปเลย ว่าแต่นายรู้หรือไม่ว่า เอลิเซียม นั้นใหญ่แค่ไหน?”
“ตามที่คุณย่าบอก ดูเหมือนว่า เอลิเซียม จะมีขนาดใหญ่เท่ากับโลกนี้ไม่รู้ว่านี่เป็นเรื่องจริงไหม?”
“ถูกต้อง แต่นายรู้หรือไม่ว่าโลกนี้กว้างใหญ่แค่ไหน”
ลุกซ์ กระพริบตาขณะที่เขาสุ่มตอบ “ใหญ่เท่าดาวเคราะห์โลก?”
เอลิออน หัวเราะเบา ๆ หลังจากได้ยินคำตอบของลุกซ์ จากนั้นเขาก็ยิ้มให้กับชายหนุ่มขณะที่เขาถามคำถามอื่น
“แล้วดาวเคราะห์โลกใหญ่หรือไม่?” เอลิออน กล่าวถาม
“ใหญ่!” ลุกซ์ ตอบกลับ
“แล้วดาวพฤหัสใหญ่กว่าโลกไหม?”
“แน่นอนว่ามันใหญ่กว่า!”
ลุกซ์ รู้ว่า ดาวพฤหัสนั้นเป็นดาวเคราะห์ที่ใหญ่ที่สุดในระบบสุริยะ อย่างไรก็ตาม เขาไม่รู้ว่ามันใหญ่แค่ไหน
“โซไรอัส มีขนาดเท่ากับดาวพฤหัส” เอลิออน ได้ตอบกลับ “และนายรู้หรือไม่ว่านายสามารถบรรจุโลกได้กี่ดวงในดาวพฤหัส?”
“ผมไม่รู้”
“คำตอบก็คือ ดาวเคราะห์โลกเกือบ 1,300 ดวง และ เอลิเซียม ก็มีขนาดใหญ่ขนาดนั้น ดังนั้นตอนที่ฉันบอกว่าแหวนวงนี้สามารถช่วยให้นายเข้าสู่พื้นที่ทางตอนใต้ของเอลิเซียมได้ นั่นก็หมายความว่านายได้อยู่ห่างไกลออกไปจากฐานที่มั่นวิลด์การ์ดหลายโลก”
ลุกซ์อ้าปากค้างเพราะเขาไม่คิดว่าโลกที่เขาอาศัยอยู่จะใหญ่ขนาดนี้ ดาวเคราะห์ที่สามารถบรรจุดาวเคราะห์โลกได้เกือบ 1,300 ดวง นั้นมีขนาดใหญ่เกินกว่าความเข้าใจของเขา
เมื่อ เอลิออน ถามว่าโลกนี้ใหญ่หรือไม่ เขาก็ตอบว่าใช่
แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่า โซไรอัส นั้นมีขนาดใหญ่พอ ๆ กับดาวพฤหัส และ เขาตระหนักได้ว่าเขาจะต้องอยู่ห่างไกลออกไปจากบ้านหลายแสนไมล์
“แล้ว เป็นไปได้ไหมที่จะเดินทางจาก อรอนไดท์ ไปยังดินแดนวิลการ์ดในเอลิเซียม?” ลุกซ์กล่าวถาม
“แน่นอน” เอลิออน ตอบกลับด้วยความมั่นใจ “อย่างไรก็ตาม เส้นทางนี้ก็ค่อนข้างอันตราย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เอลิเซียม เพิ่งจะปรากฏตัวได้ไม่นาน ทำให้ เผ่าพันธุ์ของโลกนี้สำรวจได้เพียงยอดของภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น แม้ว่าจะให้เวลาพวกเขานับพันปี มันก็ยังมีภูมิภาคที่ยังไม่ได้สำรวจอีกมากมายที่รออยู่ นอกจากนี้ สถานที่ที่นายสามารถเข้าไปได้ก็คือพื้นที่เริ่มต้นเท่านั้น”
“ถ้านายต้องการจะเข้าไปในดินแดนฐานที่มั่นวิลด์การ์ดในเอลิเซียมจริง ๆ นายจะต้องรออีก 1 ปี และ ทำการทดสอบอีกครั้ง เพราะทางเลือกนี้ดูปลอดภัยกว่ามาก และมันจะดีกว่าไหมถ้านายจะทำให้ทุกคนประหลาดใจหลังจากพบว่านายมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากแม้ว่านายจะรั้งอยู่ที่บ้านเป็นปี”
คำพูดขี้เล่นของ เอลิออน ทำให้ ลุกซ์ รู้สึกเจ็บปวดใจ
เขาสามารถเห็นสีหน้าตกใจของทุกคนหลังจากที่เขาเข้ารับการทดสอบครั้งถัดไปพร้อมกับเด็กวัย 12 ปี คนอื่นๆ
ในขณะที่ ลุกซ์ กำลังคิดถึงการแสดงอันยอดเยี่ยมในอนาคต เขาก็จำสีหน้าที่กังวลของคุณย่าของเขาได้
ความเงียบอย่างกระทันหันเช่นนี้ทำให้ เอลิออน สับสน และ เทพเจ้าแห่งเกม กำลังคิดว่า ลุกซ์ ตื่นตระหนก ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะให้กำลังใจชายหนุ่มผมแดงคนนี้
“แค่รออีกปีเดียวเท่านั้น” เอลิออน ได้กล่าวออกมา “หลังจากที่นายผ่านการทดสอบของฐานที่มั่น เพื่อน ๆ ของนายและผู้ใหญ่ที่นี่จะมองนายในแง่ดีขึ้นอย่างแน่นอน”
ลุกซ์ สั่นศีรษะ เพราะนี่ไม่ใช่สิ่งที่เขากำลังกังวล
“เอลิออน ผมสามารถบอกเรื่องนี้กับคุณย่าได้ไหม?” ลุกซ์ กล่าวถาม “เนื่องจากผมจะต้องเข้าไปในเอลิเซียมและคงไม่อยู่บ้าง ผมเป็นกังวลว่าเธอจะตามหาผม อีกอย่างจะต้องรู้ว่า คุณย่าสามารถพลิกแผ่นดินนี้เพียงเพราะต้องการตามหาผมได้”
เอลิออน ขมวดคิ้วแน่น ดูเหมือนว่า ลุกซ์ จะมีปัญหาหลายอย่าง ซึ่งมันอาจจะนำไปสู่ความยุ่งยากในภายหลัง อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่สามารถคาดเดาผลลัพธ์จากการที่ ลุกซ์ หายตัวไปเป็นเวลานานได้
แม้ว่าเขาจะไม่ผ่านการทดสอบเพื่อเข้าสู่เอลิเซียม แต่ทุกคนในฐานที่มั่น ต่างก็เป็นห่วงเขา และ ถ้าเกิด จู่ ๆ ลุกซ์ ชายหนุ่มผมแดง ได้หายตัวไป คงจะเกิดความโกลาหลขึ้นอย่างแน่นอน
หาก ลุกซ์ และ เอลิออน ต้องการหลีกเลี่ยงปัญหานี้ พวกเขาจำเป็นจะต้องนำ เวร่า ย่าของลุกซ์มาอยู่ในแวดวงสนทนาของพวกเขา
“เอาล่ะ ไปพบย่าของนายกันเถอะ” เอลิออน ได้ตอบกลับ หลังจากชั่งน้ำหนักข้อดีและข้อเสียแล้ว เขาก็พูดต่อ “ฉันจะเป็นคนอธิบายเรื่องนี้เอง และ จากนั้นนายก็ค่อยช่วยพูดเสริมในเรื่องนี้”
ลุกซ์พยักหน้า “ตกลง!”
ถ้าเป็นไปได้ ลุกซ์ ก็ไม่อยากปิดบังอะไรจากคุณย่าของเขา เพราะเธอเป็นครอบครัวเพียงคนเดียวที่เขารู้จัก และ เวร่า ก็ดูแลเขามาตั้งแต่เขายังเป็นทารก ดังนั้นพวกเขาจึงมีความเชื่อใจบางอย่างที่ไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้
ดังนั้นนี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไม เวร่า ถึงยอมให้ ลุกซ์ อยู่อย่างเงียบ ๆ กับเธอและฝึกฝนอย่างลับ ๆ เพื่อทำตามความฝันของเขาที่จะเข้าสู่เอลิเซียม