Chapter 99 If knows oneself must die
如果知道自己要死
ซูเห่าที่ใช้ศิลาฟาดชายร่างเกราะหมดสติไปอีกครั้ง,ก่อนจะปลุกชายกล้ามใหญ่ขึ้นมา.
ชายกล้ามใหญ่ตื่นขึ้นมา,ก็ดิ้นไปมาทันที,ร่างกายกล้ามเนื้อของเขาที่ปูดโปน,พยายามสลัดเชือกให้หลุด.
ดูเหมือนว่าเชือกจะค่อนข้างไร้คุณภาพ,กล้ามเนื้อที่ใหญ่ยักษ์ของเขาท้ายที่สุดก็ได้ทำลายเชือกที่ข้อมือของเขาขาดออกมาหลุดจากพันธนาการส่วนบนได้.
ซูเห่าที่เอ่ยออกมาว่า“เฮ้,เจ้ายักษ์,ข้าจะไม่พูดมาก,ข้าถามเจ้าตอบ,แล้วข้าจะไว้ชีวิต.”
ชายร่างยักษ์เห็นซูเห่ายืนอยู่ข้าง ๆ ชายมีเกล็ด,ร่างกายที่เล็กจ้อยสวมหน้ากากน่าเกรงขาม,จึงเอ่ยออกมาเสียงดัง“เจ้าหนูเจ้าตายแน่,ไม่ต้องรีบร้อน,ข้าแก้เชือกที่เท้าได้ก่อน,ข้าจะส่งเจ้าลงนรกแน่.”
ซูเห่าไม่เอ่ยอะไรออกมา,จากที่เห็นดูเหมือนว่าคงไม่อาจสื่อสารกับอีกฝ่ายได้แน่.
ขณะชายร่างใหญ่กำลังแก้เชือกที่เท้า,ซูเห่าก็ลงมือทันที,เคลื่อนไหวไปยังด้านหน้าชายร่างยักษ์.
“แข็ง’!
“ตูมมมมม!”
จิงซีปะทุ,เท้าของเขาเตะไปยังใบหน้าของชายร่างยักษ์,กระเด็นไปด้านหลังสองสามเมตร.
ชายร่างยักษ์ล้มลากครูดไปบนพื้น.,ซูเห่าที่รู้สึกเจ็บเท้าขึ้นมาเหมือนกัน.
เห็นชัดเจนว่าการโจมตีครั้งนี้,ได้รับบาดเจ็บทั้งสองฝ่าย,ร่างกายของซูเห่าเวลานี้ต้องบอกว่าอ่อนแอมาก.
“ก้อนศิลาใช้ง่ายกว่า!”ซูเห่าที่หยิบก้อนศิลาขึ้นมา,ก้าวเข้าไปด้านหน้าช้า ๆ.
ชายร่างยักษ์ที่จ้องมองตาขวาง,“เจ้าอย่าเข้ามา,เมื่อไหร่ที่ข้าแก้เชือกเสร็จ,ข้าจะสู้กับเจ้าสัก 300 รอบเลย!”
ซูเห่าใช้ท่าเคลื่อนเงา,ศิลาในมือฟาดไปที่ใบหน้าอีกฝ่าย.
“อ๊ากก!”ชายร่างยักษ์ที่ร้องด้วยความเจ็บปวด,พยายามทรงตัวพลิกตัวขึ้น,มือที่ยกขึ้นกุมใบหน้า,โลหิตอาบ,เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว“เจ้าขี้ขาด,ไม่กล้าสู้ซึ่ง ๆ หน้า,ข้าซาบอนไม่ยอมรับหรอก!”
“ตูมมมม!”
ศิลาเหินที่โจมตีไปอีกครั้ง,ซาบอนที่ถูกกระแทกไปด้านหลัง,ทว่าสามารถยั้งเท้าได้อย่างคาดไม่ถึง,ซาบอนหัวเราะลั่น“ฮ่าฮ่า,ไอ้ขยะ,เจ้าจะทำอะไรข้าได้!”
ซูเห่าที่เคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว,ฟาดศิลาไปที่หน้าผากของซาบอนอีกครั้ง.
“ตูมมมม!”ซาบอนไม่ทันตั้งตัวล้มทรุดลง,หมดสติอีกครั้งทันที.
คิดอยู่ชั่วครู่,ซูเห่าที่มาปลุกชายมีเกล็ดใหม่.
ชายมีเกล็ดที่ฟื้นขึ้นมา,พบว่าตัวเองยังไม่ตาย,ก็เผยความตื่นเต้นดีใจ,จ้องมองซูเห่าด้วยความคาดหวัง“พี่ชาย,เจ้าจะปล่อยข้าไปจริง ๆ ใช่ใหม?”
ซูเห่าเอ่ย“ขึ้นอยู่กับผลงานของเจ้า,เจ้าชื่ออะไร?”
ชายมีเกล็ดที่ดูลังเลขึ้นมาทันที“เรื่องนี้....”
ผู้ที่ออกล่าเวลากลางคืนจะไม่เผยสถานะตัวเอง,การเผยสถานะก็ไม่ต่างจากกำลังโบกมือเรียกความตายมาหา,อย่างไรก็ตาม...หากเขาไม่ให้ความร่วมมือ,คงตายในเวลานี้แน่.
การไล่ล่าเวลากลางคืน,ไม่มีคนที่มีความเมตตา.
จากนั้นเขาก็เอ่ยตอบเสียงอ่อน“ข้ามีชื่อว่าหยาซาน,เป็นพนักงานทำความสะอาดที่โรงแรมแห่งหนึ่ง.”
ซูเห่าพยักหน้ารับเอ่ยออกมาว่า“ดีมาก,หยาซาน,หากเจ้ายอมตกลงเป็นมนุษย์ทดลองให้กับข้า,ไม่เพียงแค่ข้าจะปล่อยเจ้าไป,ยังช่วยเจ้ายกระดับเป็น【ผู้บ้าบิ่น】แม้แต่ระดับสูงขึ้นกว่านั้นด้วย,เป็นอย่างไร?”
หยาซานที่กลืนน้ำลายคำโต,เอ่ยสอบถามอย่างระมัดระวัง“มนุษย์ทดลองคืออะไร?”
ซูเห่าเอ่ย“ข้าบอกให้เจ้าทำอะไรเจ้าก็ทำสิ่งนั้น,แล้วข้าจะเก็บข้อมูลสิ่งที่เจ้าทำ,ไม่เพียงไม่มีอันตรายถึงชีวิต,ข้ายังช่วยเจ้าให้ได้รับความแข็งแกร่งด้วย!”
หยาซานแทบไม่อยากเชื่อว่าจะโชคดีอะไรขนาดนี้,ถึงเขาจะเชื่อว่ามีวิธีในการยกระดับได้,ทว่าคำพูดของซูเห่านั้น,ไม่ค่อยน่าเชื่อถือนัก.
อย่างไรก็ตามถึงเขาไม่เชื่อ,แต่ก็ไม่อาจเอาชนะอีกฝ่ายได้.
หยาซานได้แค่พยักหน้ารับ,“ตกลง,ข้ายอมรับเป็นมนุษย์ทดลองของเจ้า,ขอเพียงเจ้าปล่อยข้า.”
ซูเห่าที่ชี้ไปยังชายกล้ามยักษ์ซาบอน“ของขวัญแรก,เจ้ากล้ามใหญ่นั่นเป็นของเจ้าแล้ว.”
หยาซานที่ดวงตาเบิกกว้าง,จ้องมองชายกล้ามใหญ่,ก่อนจะบอกว่า“ให้ข้ารึ?”
ซูเห่าพยักหน้ารับ,กำลังรอดูว่าหยาซานจะจัดการอย่างไร.
หยาซานที่เผยท่าทางยินดี“ขอบคุณพี่ชาย!”
ซูเห่าเอ่ย“เจ้าเรียกข้าว่าเหว่ย!”
หยาซานเร่งรีบเอ่ยออกมาทันที“ขอบคุณพี่ชาย,ไม่ ๆ,พี่ใหญ่,ขอบคุณพี่ใหญ่เหว่ย.”
หยาซานที่เผยท่าทางอักอ่วนจ้องมองมือเท้าที่ถูกมัด,คล้ายขอความช่วยเหลือจากซูเห่า.
ซูเห่าเผยความประหลาดใจ“เจ้าไม่อาจแก้เชือกได้เองรึ?”
หยาซานที่ส่ายหน้าไปมา“ข้าคือมนุษย์เกราะ,มีพลังป้องกันเป็นเลิศ,ทว่าความแข็งแกร่งนั้นอ่อนด้อยมาก.”
ซูเห่าที่นำมีดออกมาพร้อมกับตัดเชือกให้กับอีกฝ่าย.
หยาซานกระโดดออกไป,ถูศีรษะด้วยความเจ็บ,ก้าวไปอยู่ด้านข้างชายร่างยักษ์ซาบอน,ก่อนที่จะฉีกแขนเสื้ออีกฝ่ายออก,พร้อมกับกัดลงไปบนแขนกินเนื้ออีกฝ่ายทันที,จากนั้นก็กลืนลงท้องไป.
“อ๊ากกก!”ซาบอนที่ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด,ฟื้นขึ้นมาอีกรอบ.
“ตูมมมมมมม!”
ศิลาถูกฟาดไปที่หน้าผาก,อีกฝ่ายหมดสติไปอีกครั้ง,ในคืนนี้ซาบอนถูกฟาดหลายครั้งแล้ว,ไม่รู้ว่าสมองจะมีปัญหากลายเป็นคนโง่หรือไม่?
อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่านี่จะไม่ใช่เรื่องต้องเป็นห่วง,เพราะว่าซาบอนนั้นโง่อยู่แล้ว.
หยาซานที่กินเนื้อจนพอใจแล้ว.
ซูเห่าสงสัยเป็นอย่างมาก,กินเนื้อลงท้องแล้ว,จากนั้นก็จะเปลี่ยนร่างกายอย่างไร?
อย่างไรก็ตามเขาไม่มีเครื่องมือในการตรวจสอบ พื้นที่พินบอลไม่อาจบันทึกข้อมูลของคนอื่นได้นั่นเอง.
“แล้วจะบันทึกข้อมูลคนอื่นอย่างไรดี,ไม่เช่นนั้น จะสามารถเข้าใจความลับของการวิวัฒนาการ,ก็มีแต่ต้องกินเองเท่านั้น.”ซูเห่าที่ยังไม่คิดจะกินเนื้อเอง,อย่างน้อยหากไม่เข้าใจกลไกก่อนแล้วพยายามกิน,อาจกลายเป็นของแสลงตกตายไปเกิดใหม่ได้,เวลานั้นคงพูดไม่ออก.
เพียงไม่นาน,หยาซานก็กลายเป็นเซื่องซึมเล็กน้อย,ซูเห่าที่จ้องมอง,ก่อนชี้ไปยังซาบอนเอ่ยออกมาว่า“เจ้าจะทำอะไรกับเจ้านี่ต่อ?”
หยาซานเอ่ยถามด้วยความสงสัย“พี่ใหญ่ไม่สังหารเขารึ?”
ซูเห่าเอ่ยถาม“จำเป็นต้องสังหารด้วยรึ?”
หยาซานที่ยกมือขึ้นเกาศีรษะเอ่ยออกมาว่า“หากระหว่างการต่อสู้อีกฝ่ายต้องการสังหารเรา,ก็มีแต่ต้องสังหารอีกฝ่ายไป,ทว่าข้าต้องการกินเนื้ออีกฝ่ายเพียงคำสองคำเท่านั้น,ไม่ได้คิดเอาชีวิตใคร,ดังนั้นจึงไม่สนใจที่จะสังหาร,ทิ้งเขาไว้ตรงนี้,หากเขาตื่น,คงจะจากไปเอง.”
ซูเห่าเองก็ไม่ได้ชอบสังหารเช่นกัน,จึงพยักหน้า“เช่นนั้น,เจ้าไปได้แล้ว.”
หยาซานที่เผยความประหลาดใจ“แล้วมนุษย์ทดลองต้องทำอะไรบ้าง?”
ซูเห่าเผยยิ้ม“เจ้าจะรู้ทีหลัง,วางใจได้,ข้าสามารถหาเจ้าเจอได้! ถึงเจ้าอยากหนีก็หนีไม่พ้น.”
จากนั้น,ซูเห่าก็จากไป.
หยาซานที่จ้องมองพื้นที่รอบ ๆ ที่เงียบสงัด,รู้สึกราวกับว่าเป็นผู้รอดชีวิตจากสงคราม,เร่งรีบจากไป,ไว้เก็บตัวสักสองสามวันค่อยคิดอีกครั้ง.
ขณะจากไป,ในสมองที่ผุดความคิดบางอย่างขึ้นมา“หากวันข้างหน้าข้าตายไปล่ะ,จะทำอย่างไร?”
แล้วต้องใส่ใจด้วยรึ?
แรงกดดันจากที่ทำงาน,แรงกดดันของเจ้านาย,ทำให้เขาต้องการวิวัฒนาการเป็นพวกกลายพันธ์,เพื่อภรรยาและบุตร...
ก็ช่างสิ,ทุกอย่างล้วนไม่สำคัญ!
ไม่ ๆ,บุตรสองคนของข้าที่น่ารัก,จะไม่สำคัญได้อย่างไร? ยกเว้นบุตรของข้าแล้ว,ทุกอย่างล้วนไม่สำคัญ!
คิดได้ดังนี้,การที่รอดชีวิตครานี้ หยาซานก็ผ่อนคลายลง,ราวกับว่าได้ปลดเปลื้องภาระอันหนักอึ้ง.
คิดถึงบุตรสองคน,ใบหน้าของเขาก็เผยยิ้มอย่างมีความสุข.
เป็นเรื่องดีจริง ๆ ที่มีชีวิตอยู่,เขาต้องพยายามมีชีวิตให้ได้ ไม่ว่าจะลำบากเท่าไหร่ก็ตาม,อย่างน้อยก็จนกว่าบุตรของเขาจะเติบใหญ่.
ความคิดของเขาที่ล่องลอยไปไกล ไม่รู้ว่ามาถึงบ้านเมื่อไหร่,มนุษย์เกราะได้สลายเกล็ดของตัวเองไป,จ้องมองบุตรชายและบุตรสาวที่กำลังนอนหลับอยู่,ก็เผยสีหน้าพึงพอใจ.
เขาเข้าไปนอนข้าง ๆ ภรรยาที่กำลังนอนกรนอยู่...,เธอ,ดูเหมือนว่าจะไม่กังวลกับสิ่งใดเลย.
เขากลับเข้าบ้านนอนพักอย่างสงบและหลับลงอย่างรวดเร็ว.
ส่วนซูเห่าที่มั่นใจและยืนยันว่าหยาซานได้นอนไปแล้ว,ก็จากไป,กลับไปยังบ้านของตัวเอง.
คืนนี้เก็บเกี่ยวได้มากมาย,เขาจำเป็นต้องวางแผนในการแก้ปัญหาต่อไป.
“เขาจะทำการบันทึกข้อมูลชิ้นเนื้อ,ลงไปยังพื้นที่พินบอลได้อย่างไร?”