Chapter 98 Strange people
异人
......
“พวกเรา,ล้วนแต่ถูกเรียกว่าพวกกลายพันธ์.”
ก่อนหน้านี้ซูเห่านึกขึ้นมาได้,เจ้าเด็กน้อยหกคนที่หวาดกลัวจนเหยี่ยวแตก, คำว่า“กลาย”ที่พูดไม่จบหมายถึง พวกกลายพันธ์นี่เอง.
ซูเห่าที่โบกมือให้อีกฝ่ายเล่าต่อ.
ชายมีเกล็ดพบว่าคนตัวเล็กไม่เข้าใจอะไรเลย,ทันใดนั้นก็รู้สึกราวกับมีความหวัง,ทว่าชงักลังเลอยู่เช่นกัน,ภายในใจครุ่นคิด,อีกฝ่ายคงไม่ไร้เหตุผลสังหารข้าหรอกใช่ใหม....
ซูเห่าจ้องมองฝ่ายตรงข้าม,เอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา“เจ้าพูดตามความจริง,ไว้ข้าปลุกเจ้านั่นขึ้นมา,หากคำตอบเจ้าไม่เหมือนกัน,อย่าหวังว่าจะมีชีวิตรอดต่อไป.”
ชายมีเกล็ดกัดฟัน,เอ่ยต่อ“พวกกลายพันธ์เช่นพวกเรานั้น,จะได้รับความสามารถจากการวิวัฒนาการ,ขอเพียงวิวัฒนาการสำเร็จ,ก็จะได้รับพลังที่คาดไม่ถึง.”
ซูเห่าเอ่ยถาม“เส้นทางวิวัฒนาการก็คือ กินเนื้อของพวกกลายพันธ์อย่างงั้นรึ?”
มนุษย์เกราะพยักหน้ารับ“ใช่,จูเห่าเหรินนั้นมีความสามารถตั้งแต่เกิด,ขอเพียงกินเนื้อของพวกกลายพันธ์,ก็จะได้รับพลังในการวิวัฒนาการ,และได้รับพลังที่น่าเกรงขามมา.”
กล่าวถึงตรงนี้,อีกฝ่ายก็ส่ายหน้าไปมา“ไม่,ไม่ใช่แค่จูเห่าเหริน,ทุกสิ่งมีชีวิตในแผ่นดินนี้,ล้วนแต่มีความสามารถนี้,ขอเพียงกินเนื้อพวกกลายพันธ์หรือสัตว์กลายพันธ์,ก็จะได้รับพลังวิวัฒนาการ.”
“ความสามารถ?”ซูเห่าที่นึกถึงโครงสร้างร่างกายที่แปลกประหลาด,มีอวัยวะที่ไม่รู้ที่มาเชื่อมต่อกับกระเพาะอยู่,บางทีการวิวัฒนาการเกี่ยวข้องกับอวัยวะนั่นหรือไม่?
ชายมีเกล็ดเอ่ยเพิ่ม“แน่นอน,การวิวัฒนาการเองก็มีล้มเหลวเช่นกัน,การวิวัฒนาการล้มเหลวมีความเป็นไปได้สองอย่าง,หนึ่งคือตายทันที,อีกอย่างคือมีพลังกายเพิ่มขึ้น,แต่ไม่ได้รับความสามารถพิเศษมา,ทว่าโอกาสตายนั้นมีสูงกว่า,อย่างไรก็ตาม....,ขอเพียงเข้าใจเงื่อนไขของการวิวัฒนาการ,เตรียมความพร้อมเพียงพอ,โอกาสล้มเหลวก็ไม่มาก.”
“เงื่อนไขอะไร?”ซูเห่าเอ่ยสอบถามด้วยความสงสัย.
ชายมีเกล็ดเอ่ยออกมาทันที “ขอเพียงร่างกายมีพลังงานเพียงพอ,การวิวัฒนาการก็จะเป็นไปอย่างราบรื่น,หากมีพลังไม่เพียงพอขณะวิวัฒนาการ ก็มีแค่ต้องตายเท่านั้น,หลายคนไม่เข้าใจกินเนื้ออย่างหูหนวกตาบอด,ผลสุดท้ายก็ตาย,ยกตัวอย่างเจ้า.....!”
ชายมีเกล็ดไม่เอ่ยต่อ,ใบหน้าที่เผยความอักอ่วน
ซูเห่าที่เอ่ยถามต่อ“ยกตัวอย่าง..ข้าอะไร?”
ชายมีเกล็ดเอ่ยอย่างลังเล“เรื่องนี้,ไม่......”
ซูเห่าที่หยิบก้อนศิลาขึ้นมาอีกครั้ง.
ชายมีเกราะเอ่ยออกมาทันที“ยกตัวอย่างเจ้า,มีร่างกายค่อนข้างเล็ก,หากกินเนื้อเพื่อวิวัฒนาการ,จะต้องตายอย่างแน่นอน.”
ชายมีเกล็ดเอ่ยออกมาด้วยความสงสัย“สหายน้อย,เจ้าเป็นพวกกลายพันธ์หรือไม่? ทำไมข้าไม่อาจมองเห็นลำดับของเจ้าเลย?”
ซูเห่าที่ราวกับพบเข้ากับข้อมูลบางอย่าง เอ่ยถามออกมาทันที“ลำดับอะไร?”
ชายมีเกล็ดหัวเราะหึหึ”กล่าวตามจริง,ข้าเองก็รู้ไม่มาก,ข้ารู้เพียงเล็กน้อย.
ซูเห่าที่ยกมือขึ้นสีคาง“พูด,บอกทุกอย่างมา,อย่าได้ถามอะไรข้า.”
ชายมีเกล็ดพยักหน้าเอ่ย“มนุษย์กลายพันธ์นั้นมีอยู่ด้วยกันเก้าลำดับ,ที่ทุกคนทั่วไปรู้นั้นประกอบด้วย 【มนุษย์เกราะ】【มนุษย์จอมพลัง】【มนุษย์ความเร็ว】【มนุษย์ปั่น】【มนุษย์เลียนแบบ】【มนุษย์อ่อนช้อย】【มนุษย์ท่องรัตติกาล】【ผู้ทำนาย】【มนุษย์พิษ】ดังที่เจ้าเห็น,ข้าเป็นมนุษย์เกราะ,ส่วนเจ้านั่นคือมนุษย์จอมพลัง”
ซูเห่าเอ่ย“แล้วที่เหมือนกับค้างคาวนั่น,เรียกว่าอะไร?”
มนุษย์เกราะเอ่ยออกมาทันที“นั่นเรียกว่า【มนุษย์ท่องรัตติกาล】,พวกเขาแทบจะเป็นมนุษย์กลายพันธ์ขั้นหนึ่ง,ที่ยากจะรับมือ,ไปมาไร้ร่องรอย,เงียบเชียบไร้เสียง.”
ซูเห่าพยักหน้ารับเอ่ยถามออกมาว่า“ขั้นหนึ่งที่เจ้าเอ่ยหมายถึงอะไร?”
ชายมีเกล็ดส่ายหน้าไปมา“ข้าไม่รู้อะไรมากนัก,ข้ารู้เพียงลำดับมนุษย์เกราะ,ขั้นหนึ่งก็คือมนุษย์เกราะ,มีความสามารถก็คือสร้างเกล็ดปกคลุม เป็นชุดเกราะปกป้องการโจมตี,ไม่กลัวของมีคม,แน่นอนว่าค้อนทุบก็ด้วย,ทว่าข้ากลัวก้อนหินของเจ้า.”
ซูเห่าที่ถลึงตาใส่“พูดเฉพาะส่วนสำคัญ!”
ชายมีเกล็ดหดคอเอ่ยออกมาว่า“ขั้นสองต่อจากมนุษย์เกราะก็คือ 【ผู้บ้าบิ่น】,ขั้นขั้นสามก็คือ 【อสูรหนามทะลวง】,ส่วนขั้นสูงขึ้นไปข้ายังไม่รู้,ที่จริงแล้ว...ข้าเป็นมนุษย์กลายพันธ์ไม่นาน,จึงรู้ไม่มากนัก.”
ซูเห่าจ้องมองชายมีเกล็ดคราหนึ่ง,ก่อนหันหน้าไปมองชายร่างใหญ่“ไม่รู้อะไรจริง ๆ รึ?”
ชายมีเกล็ดเอ่ยออกมาทันที“ข้าไม่ได้โกหกเลยนะ...ใช่ ๆ,ข้ารู้อะไรเพิ่มมาด้วย,แต่ละลำดับนั้นมีทั้งหมดเจ็ดขั้น,ทว่าเรียกว่าอะไรนั้นข้าไม่รู้ชั้น,ขั้นหนึ่งและสองยังเป็นมนุษย์,ส่วนขั้นสามขึ้นไปเป็นสัตว์,และเหนือขั้นที่เจ็ดขึ้นจะถูกเรียกว่าตำนานเป็น【พระเจ้า】ไร้ซึ่งอายุขัย,มีชีวิตนิรันดร,ซึ่งเป็นเป้าหมายสูงสุดของพวกกลายพันธ์.”
แววตาของชายมีเกล็ดที่โหยหาเหมือนกัน.
ซูเห่าที่แอบหัวเราะในใจ,พระเจ้ารึ? โลกนี้มีพระเจ้าจริง ๆ รึ?
ปัญหานี้ทำให้ซูเห่าต้องกลับมาครุ่นคิดจริง ๆ.
อาจจะมีความเป็นไปได้.
อาจจะมีอยู่ที่ใหนสักแห่งในจักรวาล.
ขอแค่มีความเป็นไปได้ว่ามีพระเจ้าจริง,จะต้องมีสักแห่งที่มีอยู่อย่างแน่นอน.
เพราะว่าจักรวาลนั้นกว้างใหญ่ไพศาลไม่รู้ขอบเขต,ไม่รู้จุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุด,ทุกอย่างย่อมมีโอกาสและมีความเป็นไปได้ไม่มีสิ้นสุด.
หากพูดตามหลักคณิตศาสตร์,ขอเพียงมีความเป็นไปได้,ถึงจะน้อย,หากไม่ไช่ศูนย์,ย่อมต้องมีพระเจ้าที่ใหนสักแห่งอย่างไม่ต้องสงสัย.
แล้วที่นี่ล่ะ?
ซูเห่าไม่รู้,บางทีตัวตนที่เรียกว่าพระเจ้า,อาจจะเป็นเพียงความหวังของผู้คนที่ต้องการเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีพลังมากที่สุดอยู่ก็ได้.
กลับมายังหัวข้อหลัก,ซูเห่าที่เอ่ยสอบถามทันที“ตอนนี้เจ้าคือมนุษย์เกราะ,วิวัฒนาการต่อไปก็เป็นผู้บ้าบิ่น,เพียงแค่กลืนกินเนื้อมนุษย์จอมพลังก็เป็นได้แล้วอย่างงั้นรึ?”
ใครจะรู้ชายมีเกล็ดกับส่ายหน้าไปมาเอ่ยออกมาว่า”ไม่,ข้าต้องการวิวัฒนาการเป็นผู้บ้าบิ่น,ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ,ก่อนอื่นข้าต้องสะสมพลังงานจำนวนมากให้เพียงพอในสถานะมนุษย์เกราะก่อน,ไม่เช่นนั้นแล้วหากวิวัฒนาการเป็นผู้บ้าบิ่น,ข้าจะต้องตายแน่ ๆ.
อีกอย่าง,หากต้องการวิวัฒนาการเป็น【ผู้บ้าบิ่น】,จะต้องกินเนื้อ【ผู้บ้าบิ่น】ถึงจะถูกต้อง.
ทว่าการที่ข้าต้องการกินเนื้อมนุษย์จอมพลังนั้น,เพราะว่ามนุษย์เกราะและมนุษย์จอมพลัง,เป็นสองลำดับที่ใกล้เคียงกัน,การกินเนื้อมนุษย์จอมพลังนั้น,จะทำให้ข้ามีพลังงานมากขึ้น.”
ซูเห่าขมวดคิ้ว“เจ้าจะบอกว่ามนุษย์เกราะขั้น 1 ,สามารถชนะ ผู้บ้าบิ่น ขั้นสองได้อย่างงั้นรึ?”
ชายมีเกล็ดเอ่ยออกมาทันที“เป็นไปได้อย่างไร 【ผู้บ้าบิ่น】นั้นเป็นตัวตนที่ทรงพลังเป็นอย่างมาก,ข้าไม่มีทางเทียบได้เลยแม้แต่น้อย.”
ซูเห่าเอ่ย“เช่นนั้นเจ้าก็ไม่อาจวิวัฒนาการเป็น【ผู้บ้าบิ่น】ได้ตลอดกาลเลยไม่ใช่รึ?”
ชายมีเกล็ดเผยยิ้มอักอ่วน,”จะพูดอย่างนั้นก็ได้,ทว่าข้าเพียงแค่กินเนื้อเขาสัก ชิ้นสองชิ้น,ไม่ต้องเอาชนะก็ได้!
บางที่ผู้บ้าบินอาจถูกคนอื่นสังหาร,ข้าไปพบพอดี,ขอเพียงกินคำสองคำ,ก็สามารถวิวัฒนาการอย่างราบรื่นแล้ว.
ดังนั้นพวกกลายพันธ์เช่นพวกเราต้องยกระดับพลังงานในร่างกายสะสมให้มากเร็วที่สุด,ไม่เช่นนั้นหากพบผู้บ้าบิ่นเข้าตรงหน้าเวลานี้ก็ไม่กล้ากินเด็ดขาด!”
ซูเห่าพูดไม่ออกเหมือนกัน,การวิวัฒนาการ,แท้จริงแล้วต้องอาศัยโชคด้วยรึ?
ไฉนเลยในโลกนี้จะมีโชคปรากฏขึ้นง่าย ๆ?
ต้องการเนื้อ,ก็ต้องหาวิธีด้วยตัวเอง,ไม่อาจชนะด้วยการต่อสู้,ก็ใช้แผนการยืมมีดฆ่าได้ไม่ใช่รึ?
ซูเห่าที่จ้องมองชายมีเกล็ด,ไม่ต้องบอกเลยว่าอีกฝ่ายไม่มีทางที่จะวิวัฒนาการไปยังขั้นต่อไปได้แน่,ส่วนขอบเขตพระเจ้าก็คงได้แค่ฝันหวานเท่านั้น.
ซูเห่าที่ถือก้อนศิลาเดินเข้าไปหาชายมีเกล็ดเอ่ยออกมาว่า“มีอะไรจะพูดอีกใหม?”
ชายมีเกล็ดที่ผวาเอ่ยเสียงดัง“พี่ชาย,อภัยด้วย,ข้าเพิ่งเข้ามาถนนสายนี้จริง ๆ!”
“ตูมมมม!”
หมดสติไปทันที!