ตอนที่แล้วChapter 82 The master in the world
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 84 The splendor of rune/symbol writing

Chapter 83 800 explodes


800爆

หนึ่งเดือนหลังจากประกาศตำราต้องห้าม,มีคนน้อยมากที่เอ่ยถึงตำราทั้งสอง,มีเพียงแค่บางคนที่พูดคุยกันในพื้นที่ลับ.

ไม่มีใครออกมาโต้แย้งเกี่ยวกับตำราทั้งสอง,ทว่ายังมีบางคนบางกลุ่มที่เก็บหนังสือเอาไว้อย่างดี,รอคอยให้พายุใหญ่นี้เงียบสงบลง.

ในพระราชวังหยงเหอ,เมืองเหออัน,เหรินหวังนั่งบนบัลลังก์,สอบถามออกมาด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม“ยังไม่พบอีกรึ?”

ใครบางคนที่เอ่ยรายงานในทันที“เรียนอาวุโสใหญ่,ข่าวล่าสุด,ไม่พบ,”นักเดินทาง“ราวกับว่าหายไปอย่างไร้ร่องรอย,บางทีอาจจะอยู่ในพื้นที่รกร้าง.”

เหรินหวังที่ถอนหายใจยาว,โบกมือเล็กน้อยให้ผู้ใต้บังคับบัญชาออกไปออกไป.

ผ่านมาสองเดือนหลังจากผ่านการประชุมครั้งก่อน,ครึ่งเดือนที่แล้ว,ไม่มีข่าวข่าว,อาวุโสทั้งแปดได้กลับเมืองที่พวกเขาปกครอง.

เหรินหวังที่นั่งอยู่บนบัลลังก์,ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่,ปากที่เอ่ยพึมพำ“นักเดินทาง....เส้นทางนักรบ....สูตรสมบูรณ์ในการสลักวาดรูนอักขระ....เป็นโชคลาภหรือหายนะ....”

อย่างไรก็ตามเหรินหวังนั้นรู้ดี,สำหรับเผ่าพันธุ์มนุษย์ทั้งหมด,นี่คือโชคลาภ! อย่างไรก็ตามสำหรับตระกูลใหญ่ที่นั่งบนตำแหน่งผู้ปกครอง,นี่คือหายนะ.

สำหรับเขาแล้ว,ผู้ปกครองเผ่าพันธุ์มนุษย์ ในใจนั้นไม่รู้เช่นกันว่าควรจะรักษาผลประโยชน์ของเผ่าพันธ์มนุษย์,หรือรักษาผลประโยชน์ของตระกูลผู้ปกครองต่อไปดี?

ท้ายที่สุดแล้วเขาเองก็เป็นคนที่แข็งแกร่งทรงพลังขึ้นมาจากระบบเก่าแก่,จิตใจส่วนลึกของเขาหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องการสนับสนุนระบบเก่า ๆ,สภาพแวดล้อมที่เขาเติบโตมาทำให้เขายอมรับจนฝังลงไปในใจแล้ว,ยากจะเปลี่ยนแปลงได้.

คลื่นองค์ความรู้ใหม่ที่กำเนิดขึ้น,จะถูกสะกดด้วยอำนาจไปในที่สุด.

อย่างไรก็ตามการสั่งห้ามตำราดังกล่าว,เป็นเพียงแค่การชะลอความขัดแย้งรอคอยวันปะทุเท่านั้น,เขาทำได้แค่นี้.

เขาอายุมากแล้ว,มีชีวิตได้อีกไม่นาน,อนาคตจะเป็นเช่นไร,หลังจากนี้ ผู้คนจะตัดสินใจทำอย่างเป็นอย่างไรไม่อาจบอกได้,ทว่าตอนนี้ เวลานี้เขาได้ตัดสินใจไปแล้ว.

......

ซูเห่าได้ทดสอบระเบิดลูกหนึ่ง,แปดร้อยอักขระ“ปะทุ” ระเบิดดังกล่าวที่สร้างแอ่งรัศมีระเบิดร้อยเมตรขึ้น,ซูเห่าซ่อนตัวอยู่ไกล,กระนั้นคลื่นกระแทกยังซัดเขาลอยกระเด็นออกมา

ระเบิด 800 อักขระปะทุนั้นไม่ได้มีขนาดเท่ากับลูกบาสเก็ตบอลอีกต่อไป,มันมีขนาดเท่ากับเตาขนาดใหญ่,ที่ใช้ทำอาหารเลี้ยงคนทั้งหมู่บ้าน.

ซูเห่ายังคงพัฒนาเป็น 1000 อักขระปะทุ,จากนั้นก็เป็น 10,000 อักขระปะทุ,ซึ่งอักขระมากมายเท่าไกร่,ก็ยิ่งต้องใช้จิงซีมากขึ้นเท่านั้น.

บางทีจิงซีสามารถใช้แทนด้วยผลึกจิงซีได้.

อย่างไรก็ตาม,เขารู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องทำขนาดนั้น,เขาคิดว่าเพียงแค่ 800 อักขระปะทุ,ยังจะมีคนทนได้หรือไม่?

ขอบเขตบรรพชนยุทธ์อย่างงั้นรึ? ระดับบรรพชนยุทธ์ก็มีเลือดเนื้อเหมือนกัน.

ขอเพียงแค่มีเลือดเนื้อจะทนได้อย่างงั้นรึ?

ซูเห่าไม่คิดว่าจะมีใครสามารถทนได้,หากว่ามีจริง,เขาคงต้องน้อมคารวะแสดงความเคารพ,อย่างนอบน้อมแล้ว.

ทว่าเมื่อมนุษย์มีระเบิด,จะสามารถต่อต้านกับสัตว์ร้ายได้หรือไม่?

จากนี้ยังจะมีสัตว์ร้ายบุกเข้ามากินมนุษย์ในเมืองอีกหรือไม่?

ซูเห่าที่เผยยิ้มกว้าง,รู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมาก,นี่คือความสำเร็จ,ความสำเร็จที่ทำให้เขาภาคภูมิใจ.

นี่นับเป็นชาติภูมิที่เขามีชีวิตได้นานที่สุดหลังจากได้รับรูหนอนพินบอลมา,ท้ายที่สุดเขาก็สามารถกระทำเรื่องที่น่าอัศจรรย์ขึ้นมาได้,กระทำเรื่องที่เขารู้สึกยอมรับในตัวตนของตัวเอง,นี่คือชาติที่เขารับรู้ว่าเขาไม่ใช่วิญญาณอันโดดเดี่ยวที่มีชีวิตอย่างไร้ความหมายอีกต่อไป.

เขาเชื่อว่าไม่ว่าเขาจะไปยังโลกใหนในอนาคต,เขาจะกลายเป็นตัวตนที่มีค่า,สร้างคุณค่าและความหมายได้ตลอดไป.

หากเขาไม่อาจรับรู้คุณค่าของการมีชีวิตของตัวเองได้,การเดินทางของเขาในจักรวาลที่กว้างใหญ่ที่ไร้ซึ่งจิตวิญญาณ,ตัวเขาจะต่างอะไรกับองค์ความรู้เคลื่อนที่แต่ไร้ซึ่งจิตวิญญาณ.

หลังจากวางแผนอย่างแน่นอนแล้ว,ซูเห่าก็สร้างระเบิด 800 อักขระปะทุขึ้นมาอีกครั้ง,จากนั้นก็ฝังใบมีดจำนวนมากที่ผิวหน้าของมัน,เพื่อเพิ่มพลังสังหาร.

หลังจากเสร็จสิ้นการผลิต,ซูเห่าก็สะบัดปีก,นำระเบิด 800 อักขระใส่ถุง,ห้อยขึ้นหลัง,จากนั้นก็บินขึ้นสู่ท้องฟ้า.

เขาที่ตรวจสอบแรงปะทะที่เกิดขึ้นแล้ว,โหมดการบินแบบไร้เสียงไม่อาจทำได้อีกต่อไป.

หลังจากทดสอบการบินขึ้นไปได้อย่างไม่มีปัญหา,ซูเห่าก็กลับลงมาบนพื้นใหม่,ระเบิด 800 อักขระวางอยู่ข้าง ๆ,เขาไม่ใส่ใจมันอีกต่อไป,เวลานี้กำลังครุ่นคิดถึงปัญหาตำรา“เส้นทางนักรบ” และ“สูตรสมบูรณ์ในการสลักวาดรูนอักขระ” เขาไม่ยินยอมให้มันกลายเป็นอาวุธให้กับเหล่าตระกูลใหญ่ใช้กดขี่คนอื่นโดยเด็ดขาด.

อย่างไรก็ตาม,ด้วยพลังของเขาคนเดียวนั้น,ไม่อาจต้านทานคนของตระกูลใหญ่ทั้งหมดได้.

สิ่งที่เขาทำได้,คงมีเพียงแค่การปลูกเมล็ดพันธ์ในจิตใจทุกคน,รอให้มันเติบโตขึ้นมาช้า ๆ.

ตอนนี้นั้น,เมล็ดพันธ์ได้ปลูกลงไปแล้ว,ทว่าจำเป็นต้องรอเวลาให้มันเติบโต,ทว่าเขาไม่รู้ว่าต้องใช้เวลากี่ปี,ไม่รู้ว่าจะมีคนมากมายตกตาย ผ่านไปกี่รุ่น,จะมีคนเท่าไหร่ที่ถูกสัตว์ร้ายกิน,โดยที่ไร้ซึ่งพลังต่อต้าน.

ดังนั้นเขาจำเป็นต้องรดน้ำเพิ่มสักหน่อย.

อีกสามเดือนซูเห่าจะมีอายุครบ 16 ปีแล้ว.

เขาตัดสินใจว่าวันครบรอบอายุ 16 ปี,ต้องมอบของขวัญใหญ่ให้กับทุกคนสักหน่อย.

หลังจากส่งมอบของขวัญแล้ว,เขาก็จะกลับไปศึกษาการยกระดับเป็นขอบเขตบรรพจารย์.

ต้องการก้าวสาขอบเขตบรรพจารย์,มีสองเส้นทาง,เส้นทางแรกคือเข้าร่วมเป็นผู้พิทักษ์เมืองเหออัน,ทำงานเยี่ยงช้างม้าวัวควายแปดปี,เพื่อรับคุณสมบัติก้าวสู่ขอบเขตบรรพจารย์,ส่วนจะได้รับหรือไม่นั้น,ยังเป็นเครื่องหมายคำถามอยู่.

อีกเส้นทางนั้น,คือการล่าสังหารสัตว์ร้ายขอบเขตบรรพจารย์ในพื้นที่รกร้างจำนวนมาก,ทำการวิจัยทดลองซ้ำ ๆ ,บางทีอาจจะใช้เวลาหนึ่งปี,ห้าปี,แปดปี ซึ่งไม่อาจบอกได้ว่าจะสำเร็จ.

ดังนั้น,เขาจำเป็นต้องเตรียมใจกับเวลาที่ต้องใช้.

“การก้าวสู่ขอบเขตบรรพจารย์ไม่ง่าย,วิธีการปลูกถ่ายนับเป็นปัญหาใหญ่,ก่อนอื่นต้องกล่าวถึงของขวัญก่อน!”

อย่างไรก็ตาม,ก่อนนั้นเขาจะต้องเตรียมการบางอย่างก่อน.

“คัดลอก” “ผูกติด” “แกะสลัก” “กระจาย” “การเจาะ” “การปรับสภาพ” “สว่างจ้า” “ควบคุม” “ม่านพลัง” “ล๊อกเป้า”.....

ซูเห่าที่ทำการแยกแยะอักขระสร้างองค์ความรู้ทั้งหมด,และเริ่มใส่อักขระรูนที่เขาต้องการลงไป.

ไม่,ไม่ควรเรียกว่าการวาดสลักรูนแล้ว,ทว่าควรเรียกว่ามันคือเวทย์มันในการวาดสลักอักขระที่ทรงพลัง.

ความรู้สึกทั้งหมดทั้งมวลเขาได้ใส่มันลงไปด้านในแล้ว.

......

สามเดือนหลังจากนั้น,หนึ่งหมื่นลี้บนท้องฟ้าใส,สายลมที่พัดผ่านเข้ามาเบา ๆ.

ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงเหมือนดั่งสายฟ้าฟาดบนท้องฟ้าเมืองเหออัน,ดังกึกก้องสนั่นติดต่อกันเป็นเวลานาน.

เมืองหลวงที่มีประชากรหนึ่งล้านคนต่างก็เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า,พวกเขาไม่เคยได้ยินเสียงเช่นนี้มาก่อน,แต่ละคนล้วนแต่ประหลาดใจและบางคนที่เผยความหวาดกลัวเป็นอย่างมาก,ตัวสั่นงันงก,เร่งรีบกลับเข้าบ้านปิดประตูแน่น.

อย่างไรก็ตามยังมีหลายคนที่ยังคงจ้องมอง,แม้นว่าจะมองไม่เห็นอะไรก็ตาม.

“เกิดอะไรขึ้น?”

“นี่คือเสียงคำรามของสัตว์ร้าย,สัตว์ร้ายขอบเขตบรรพชนยุทธ์กำลังโจมตีเมืองหลวงอย่างงั้นรึ?”

“เป็นไปได้มาก,เตรียมตัวให้ดี,หากสถานการณ์ไม่ดี,พวกเราจะไปยังวังหลวงทันที.”

“วางใจได้! มีเหรินหวังอยู่,จะมีสัตว์ร้ายอะไรกล้าเข้ามาโจมตีกัน.”

ผู้คนที่ยังคงพูดคุยกันอย่างออกรส,คาดเดาเรื่องราวต่าง ๆ.

วังหลวง,นักรบที่มีสายตาแหลมคมจ้องมองไปยังทิศทางของเสียง ตะโกนดัง“ดูตรงนั้นเร็วเข้า! นั่นมันอะไร?”

บางคนที่หรี่ตาจ้องมอง,เฝ้ามองอยู่ชั่วขณะ,พบว่าบนท้องฟ้านั้นมีจุดเล็ก ๆ กำลังเคลื่อนไหวช้า ๆ.

อย่างไรก็ตามความเร็วของจุดดังกล่าวนั่นไม่ช้าเลย,เพียงแค่มันอยู่ไกล,จึงเห็นเหมือนช้าเท่านั้น.

“นี่มันคืออะไร? สัตว์ร้ายบินได้? กำลังคำรามอย่างงั้นรึ?”

“เป็นไปได้.”

“รีบไปรายงานเหรินหวังเร็วเข้า!”

“เหรินหวังออกมาแล้ว!”

ทุกคนที่หันหน้าออกไป,เห็นคนกลุ่มหนึ่งที่ยืนล้อมรอบราชามนุษย์กำลังก้าวออกมาช้า ๆ.

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด