Chapter 80 Life and death by life
生死由命
การแกะสลักปีกนั้นไม่ได้ซับซ้อนนัก,ไม่จำเป็นต้องขัดให้มันเงา,เพียงแค่ทำให้เป็นโครงสร้างดั่งที่เสี่ยวกวงแนะนำก็เพียงพอแล้ว,การตัดสลักที่หยาบกร้านไม่ได้งดงามอะไรแม้แต่น้อย,สิ่งสำคัญคือความสามารถในการควบคุมมันได้ต่างหาก.
หลักการของปีกนั้นเหมือนกฎกลศาสตร์ทั่วไป,มีปีกบนปีกล่าง,เกิดการไหลของลมใต้ปีกเพื่อให้เกิดการยกตัว,ด้วยการคำนวณและจำลองของเสี่ยวกวง,ทำให้ง่ายที่จะสร้างขึ้นมา,หลังจากสลักไม้ไปสองชั่วโมง,รูปร่างที่ซูเห่าต้องการก็ปรากฏขึ้น.
รูปร่างของปีกเหมือนกับปีกเครื่องบิน,มันยืดออกไปฝั่งละหนึ่งเมตร,โดยสามารถเชื่อมต่อเข้ากับเกราะของซูเห่าได้อย่างลงตัว,รูปร่างดูโดดเด่น,ทว่ารายระเอียดนั้นหยาบมาก ๆ.
ซูเห่าที่ทดสอบแกว่งไปมา,พบว่ามั่นคงดี,ไม่มีผลต่อการเหวี่ยงดาบต่อสู้ของเขา.
หลังจากตรวบสอบแล้วไม่มีปัญหาซูเก่าก็ทำการรัดเชือกแน่นล๊อกเข้ากับเกราะของเขาอย่างดี.
เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นไม่มีปัญหาอะไร,ซูเห่าก็รอคอยให้ถึงเวลากลางคืน.
เขาจำเป็นต้องทดสอบการบิน,สร้างความคุ้นเคยในการควบคุมและทำความคุ้นเคยกับความเร็วของการบินด้วย,ทว่าไม่อาจทดสอบต่อหน้าคนทั้งเจ็ดได้,ต้องรอให้มืดก่อน,จากนั้นค่อยทดสอบเงียบ ๆ.
เพียงไม่นาน,เวลากลางคืนก็มาถึง,คืนนี้มีเมฆค่อนข้างหนา,ทำให้ปกปิดแสงจันทร์จนมิด,ยากจะมองเห็นพื้นที่รอบ ๆ ได้อย่างชัดเจน.
เมื่อได้เวลาที่เหมาะสมแล้ว,ซูเห่าเริ่มกระตุ้น,“แข็ง” “คม” “ตัดอากาศ” บนปีกทันที,นอกจากนี้ยังมีอักขระ“ประสานงาน” ทุกอย่างถูกติดตั้งอย่างลงตัว,ก่อนที่เขาจะเริ่มวิ่ง,เร็วขึ้นและก็เร็วขึ้น,ก่อนที่จะกระโดดออกไปทันที,เมื่อเขาลอยอยู่กลางอากาศ,ก็เปิดใช้งานรูน“ปะทุ” ทันที.
“ครืนนนนน!”
ซูเห่าที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง,พุ่งออกไป.
“เกิดอะไรขึ้น!?” บรรพจารย์ทั้งเจ็ดที่เอ่ยอุทานเสียงดัง,กระโดดอออกไปตั้งการ์ดป้องกันตัว.
สายตาของเหล่าเฉาที่เบิกกว้าง,เอ่ยออกมาทันที“แย่แล้ว,เขากำลังหนี,รีบตามเร็วเข้า!”
ทั้งเจ็ดที่มุ่งตรงไปยังทิศทางที่เหล่าเฉาชี้.
หลังจากนั้นไม่นาน,เหลาเฉาก็ขมวดคิ้วไปมาทันที“ความเร็วของเขาเร็วกว่าเดิมมาก!”
“ไม่เป็นไร,ยังไงพวกเราก็แค่รักษาระยะห่างค่อย ๆ ไล่ตามไปก็พอ.”
เหล่าเฉาส่ายหน้าไปมา“หากยิ่งปล่อยนานไป,กลัวว่าสัญญาณจะหายไป.”
“เป็นไปได้อย่างไร?”
ทุกคนล้วนแต่เผยความประหลาดใจ.
ในเวลานี้ซูเห่าบนท้องฟ้า,สัมผัสถึงความเปรมปรีดิ์ของการมีปีกบินบนท้องฟ้าแล้ว.
ตอนแรกเขารู้สึกระวนกระวายเป็นอย่างมาก,เกรงว่าจะชนสิ่งกีดขวางหล่น,ทว่าหลังจากกระตุ้นรูน ”"ปะทะ” ความเร็วก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ,การบินมั่นคงขึ้นเรื่อย ๆเช่น.
เขาสามารถสัมผัสได้ถึงแรงยกตัวใต้ปีก,เวลานี้รู้สึกผ่อนคลายมาก.
แม้ว่าสายลมใต้ปีกจะดังหวีดหวิวหนวกหู,ทว่าความเบาสบายที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย,ทำให้ตื่นเต้นอารมณ์ดีเป็นอย่างมาก.
แม้นว่าการบินนี้จะเป็นการยกตัวของลมผ่านปีก,ทว่านี่ก็เป็นการบินจริง ๆ.
ในอดีต,เขาเคยปรารถนาที่จะบินแบบมีปีกมานานแล้ว,ทว่าด้วยทรัพยากรการเงินและความกล้าหาญได้ระงับความปรารถนานี้ไป,ใครจะคิดว่าเวลานี้เขากับสามารถที่จะสร้างปีกด้วยมือตัวเองแล้วบินบนท้องฟ้าได้.
ซูเห่าคิดว่านี่เป็นความสำเร็จครั้งแรก.
ในอนาคต,ความฝันมากมายที่ไม่อาจทำให้สำเร็จ,อาจจะมีโอกาสทำให้สำเร็จได้.
เขาได้ใช้อักขระ“แข็ง”บนปีก,และใต้เท้ามีอักขระรูน“ปะทุ”ระเบิดอกาศเพื่อส่งตัว ทำให้เขาพุ่งทะยานบนท้องฟ้า.
เขาต้องทดสอบการบินด้วยความสูงต่าง ๆ,หากล้มเหลวล่วงหล่น,บนอากาศเขาคงไม่อาจทำอะไรได้.
“เสี่ยวกวง,เริ่มบันทึกข้อมูลการบิน,วิเคราะห์ความเร็วการบินแนวตรงแนวนอน,ในระดับความเร็วต่าง ๆ,วิเคราะห์ความเร็วสูงสุด,มุมบังคับ วงเลี้ยงสูงสุด,วิเคราะห์การบินด้วยความเร็วต่ำสุดด้วย....
ซูเห่าที่ยังคงบินขึ้นไปบนท้องฟ้า,ทะลวงหมู่มวลเมฆา,หลังจากขึ้นมาสูงกว่า 3000 เมตร,เขาก็เริ่มให้เสี่ยวกวงบันทึกวิเคราะห์ข้อมูลการบิน.
จากนั้นเขาก็ทดสอบพยายามบินในรูปแบบต่าง ๆ.
จากนั้นก็ลองใช้รูนอักขระ“กระแทก” เพื่อเปลี่ยนทิศทาง,บินวนด้วยวงเลี้ยวซิกแซก.
แรกเริ่มเห็นชัดเจนว่าไม่คุ้นเคย,ทว่าเมื่อทดลองวิธีการบินต่าง ๆ,ก็ทำให้เขาเชี่ยวชาญมากขึ้นเรื่อย ๆ,หากไม่กลัวว่าปีกอาจจะทนไม่ไหว,เขาคงทดสอบวิธีการที่ผาดโผนมากกว่านี้.
ด้านล่างบนพื้น,บรรพจารย์ทั้งเจ็ดที่จ้องมองกันและกัน,จากนั้นทั้งหกคนก็จ้องมองไปยังเหล่าเฉา“เหล่าเฉา,เจ้ามั่นใจนะว่าเป็นที่นี่?”
เหล่าเฉาที่สงสัยอยู่เล็กน้อย,สัมผัสของเขาบอกว่าอยู่ที่นี่ชัด ๆ“ใช่,สัมผัสของ”นักเดินทาง“อยู่ด้านหน้า,มันเคลื่อนที่เร็วไปทางตะวันออกจากนั้นก็กลับมา,และไปทางใต้,สัมผัสของข้าไม่ผิด!”
สัมผัสรับรู้ของเหล่าเฉานั้น,สามารถติดตามทิศทางของเป้าหมายได้,รัศมีตรวจสอบนั้นเป็นแบบแนวกว้าง,ทว่าไม่อาจบอกพิกัดตำแหน่งที่แน่นอนของซูเห่าได้.
นี่อาจจะเป็นความแตกต่างระหว่างพิกัดแนวราบและพิกัดสามมิติบนอวกาศก็ได้.
ทุกคนที่เผยใบหน้าเหรอหรา,จ้องมองตำแหน่งที่เหล่าเฉาชี้,สายตากวาดออกไปรอบ ๆ,ทว่ากับไม่เห็นร่างคนแม้แต่น้อย.
เหล่าเฉาเอ่ยอธิบาย“บางทีมันอาจจะมืดเกินไป,การไม่อาจมองเห็นเขาได้,เป็นเรื่องธรรมดา.”
ทุกคนได้แต่สบถในใจ,แม้นว่านี่จะเป็นเวลากลางคืน,ทว่าพวกเขาคือขอบเขตบรรพจารย์,สัมผัสหูและตานั้น,เหนือกว่าคนทั่วไปมาก,หากปรากฏสิ่งมีชีวิตด้านหน้าจริง ๆ,พวกเขาจะไม่เห็นได้อย่างไร,มืดเลยมองไม่เห็นงั้นรึ? หลอกผีเถอะ!
หนึ่งในนั้นเอ่ย“เหล่าเฉา,สัมผัสของเจ้าอาจจะไม่ผิด,ทว่าตัวตนที่เจ้าล๊อกเป้านั้นเป็นตัวตนปลอม!”
เหล่าเฉาที่เงียบไม่เอ่ย,มีความเป็นไปได้ว่าสิ่งที่เขาสัมผัสอยู่ตอนนี้เป็นตัวตนที่ถูกปลอมแปลง.
สถานการณ์เวลานี้,ทุกคนรู้สึกแปลกประหลาดเล็กน้อย.
เมื่อคิดว่าฝ่ายตรงข้ามคือ“ปรมาจารย์นักสลักรูนเกราะเงิน” บางทีอีกฝ่ายอาจจะมีวิธีซ่อนตัวตนของตัวเองได้,พริบตานั้นทุกคนก็หัวใจเต้นไปมา,กลัวว่าอีกฝ่ายจะบุกจู่โจมมาในทันที.
......
ผ่านไปนานเหมือนกัน,หลังจากทดสอบการบินด้วยวิธีต่าง ๆ,เวลานี้ซูเห่าก็ตรวจสอบลงมาที่พื้น,เฝ้ามองอย่างระมัดระวัง.
บนพื้นห่างออกไปสองกิโลเมตร,ซูเห่าสัมผัสตำแหน่งของคนทั้งเจ็ด.
เขาซ่อนตัวอยู่ในชั้นเมฆ,ชักดาบยาวออกมาช้า ๆ,รูนอักขระบนดาบถูกกระตุ้น,รูนบนเกราะถูกกระตุ้น,อักขระ“ตัดอากาศ” และ“ผสานงาน” ถูกใช้งาน.
เขาลดแรงต้านของสายลมด้วยรูน“ตัดอากาศ” และอักขระ“ผสานงาน” ทำให้ทั่วร่างกายของเขาลื่นเรียวยืดหยุ่น.
ท้ายที่สุดเขาก็ใช้อักขระ“ดูดแสง” อีกครั้งหนึ่ง.
ร่างกายของเขาหากมองจากด้านนอกจะดำมืด,กลมกลืนอยู่ในเวลากลางคืน,เหมือนกับการลอบเร้น.
จากนั้นซูเห่าก็ทำการบินด้วยโหมดการบินที่เรียกว่า“รูปแบบปิดเสียง”
แม้นว่าโหมดเก็บเสียงจะบินได้ช้ามาก,ทว่าก็สามารถเคลื่อนที่อย่างเงียบ ๆ นุ่มนวล,สามารถลอบเข้าไปกุดหัวฝ่ายตรงข้ามโดยไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายตอบสนองได้ทัน.
ซูเห่าที่พร้อมแล้ว,เริ่มเคลื่อนที่,ผุดออกจากชั้นเมฆช้า ๆ.
ตามเครื่องหมายที่เขาทำเอาไว้เขาได้ล๊อกเป้าหมายเลขสี่เอาไว้,ดาบยาวของเขาที่กระชับแน่น,ไม่มีเสียง,พร้อมเหวี่ยงพุ่งทะยานเข้ากุดหัวศัตรู.
ในเวลานั้น,เหล่าเฉาหัวใจเต้นโครมคราม,ตื่นตะลึงเอ่ยตะโกนดัง“เขามาแล้ว,เร็วเข้า,อยู่ด้านหน้าแล้ว,หนี!”
กล่าวจบ,เขาก็วิ่งหนีก่อนใคร.
ทุกคนต่างก็สั่นสะท้าน,วิ่งหนีตามเหล่าเฉาทันที.
กระนั้นขณะวิ่งพวกเขาก็มองกลับมาไปยังทิศทางที่เหล่าเฉาชี้,กับไม่เห็นอะไรเลย.
ขณะที่พวกเขาสงสัยต้องการถามเหล่าเฉาอีกครั้ง,ทว่าก็ได้ยินเสียงโหยหวนดังก้อง,เมื่อทุกคนตั้งสติได้,ศีรษะของเหล่าเฉาก็ลอยกระเด็น,กลิ้งไปบนพื้นแล้ว,จากนั้นร่างกายของเขาก็ล้มล่วงหล่นลง,ไร้ซึ่งสัญญาณชีวิตไปแล้ว.
ทุกคนที่แตกฮือ,แยกย้ายกันออกไปคนละทิศ.
“เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?” ใครบางคนที่เอ่ยสอบถามออกมา.
“ไม่รู้,ข้าไม่เห็น! ข้าได้ยินเสียงเหมือนอะไรผ่านไป,แต่มองไม่เห็นอะไรเลย.”
“ดูเหมือนว่ามันจะมาจากบนท้องฟ้า.”
“แย่แล้ว,เหล่าเฉาตายแล้ว,พวกเราไม่มีความสามารถในการติดตาม.”
“ตอนนี้ทำอย่างไรดี?”
“ล้มเลิกภารกิจ,แล้วกลับไปรายงานแล้วรับคำสั่งใหม่?”
“เวลานี้เจ้าเมืองทั้งเก้ารอให้พวกเรานำตัวเขากลับไปอยู่,พวกเรากลับไปมือเปล่ายังจะมีชีวิตรอดอีกรึ?”
จากนั้นทุกคนก็กลายเป็นเงียบไปในทันที.
มีเหล่าเฉา,ทำให้พวกเขารับรู้ตำแหน่งของฝ่ายตรงข้ามได้,ตอนนี้เหล่าเฉาตายแล้ว,ก็เหมือนกับพวกเขาตาบอด,หากฝ่ายตรงข้ามต้องการหนี,ภารกิจครั้งนี้ก็จะล้มเหลวแทบจะแน่นอน.
ทว่าเมื่อไม่อาจทำภารกิจให้สำเร็จแล้ว,กลับไปก็ต้องตายอยู่ดี,เวลานี้พวกเขาจึงไม่อาจหนีได้.
หากฝ่ายตรงข้ามไม่หนี,อีกฝ่ายต้องกลับมาสังหารพวกเขาแน่,จากนั้นนี่คือโอกาสที่เหลืออยู่ของพวกเขา.
ในเวลานั้น,ทุกคนที่จำต้องเลือกทำภารกิจต่อไป.
“ความเป็นความตายอยู่ในมือเจ้าแล้ว!”
“เหล่าเหอ! พวกเราห้าคนจะเป็นเหยื่อให้,เจ้ารอโอกาสให้ดี.”
“ระมัดระวังการโจมตีจากบนท้องฟ้า.”
ทุกคนต่างก็พยักหน้ารับ.