Chapter 79 Silent slaughters will get up
无声杀戮将起
“ทำอย่างไรดี?”
เจ็ดบรรพจารย์ที่เวลานี้หลั่งเหงื่อเย็นเยือบเต็มหน้าผาก.
บรรพจารย์คนหนึ่งเอ่ยออกมาว่า“นี่เป็นคำสั่งของเหรินหวัง,หากไม่สำเร็จผลที่ตามมา,พวกเราควรจะรู้,ไม่มีทางที่จะหลบหนีได้.”
ทุกคนล้วนแต่พยักหน้ารับ.
หนึ่งในนั้นที่เอ่ยออกมาว่า“ในเมื่อไม่อาจชนะได้,ก็ทำให้เขาหมดแรง!”
“แล้วจะทำให้เขาหมดแรงอย่างไร?”
“ก็ไล่ตามอยู่ด้านหลัง,ไม่เข้าประชิด,หากเขาวนกลับมา,พวกเราก็หนี,หากเขาหนี,พวกเราก็ไล่ตาม....”
“แล้วหากพวกเราถูกไล่ตามทันล่ะ?”
“ฝ่ายตรงข้ามใช้วิธีการพุ่งเข้ามาโจมตีอย่างไม่คาดคิดแล้วหลบหนีอย่างรวดเร็ว,ทว่าหากเขาไล่พวกเราทัน,หากพวกเราอยู่ไม่ไกลกันนัก,ความเร็วของเขาก็ไม่ได้เหนือกว่าเรา,พวกเราสามารถเข้ารุมโจมตีทันที,ไม่มีอะไรต้องกลัว!”
“ใช่แล้ว,หากเขาเข้ามาโจมตีพวกเรา,พวกอยู่ที่เดียวกัน,สามารถจัดการเขาได้แน่.”
“แล้วเมื่อไหร่เขาจะหมดแรง?”
“เหรินหวังกำหนดเวลาให้พวกเรา,หากเลยเวลาที่กำหนดคงแย่แน่.”
“ถูกตำหนิเล็ก ๆ น้อย ๆ ดีกว่าตกตายก็แล้วกัน!”
“ความคิดดี!”
“ลงมือ!”
ข้อเสนอดังกล่าว ทุกคนล้วนแต่เห็นด้วย.
ดังนั้น,เมื่อซูเห่าหันกลับมา,ก็พบว่าคนทั้งเจ็ดหนีไปแล้ว.
“หนีอย่างงั้นรึ?”
ซูเห่าทีไล่ไปชั่วขณะ,ทว่าแม้จะไล่ทัน,ทว่าไม่ง่ายเลยที่จะลงมือ.
ฝ่ายตรงข้ามที่วิ่งไปในทิศทางเดียวกัน,การใช้ความเร็วสังหารและหลบหนีของเขา ไม่อาจใช้ประโยชน์ได้อีกต่อไป.
หากไม่อาจใช้ความเร็วให้เกิดประโยชน์,การต่อสู้ให้จบแล้วหนีไป คงไม่อาจทำได้.
“อยากหนี,ก็หนีไปซะ,”คิดได้ดังนั้น,ซูเห่าก็ไม่ไล่ตามต่อไป,หันหลังกลับและจากไป.
อย่างไรก็ตาม ขณะเขาจากไปไม่นาน,คาดไม่ถึงว่าฝ่ายตรงข้ามกลับไล่ตามมา.
“กล้าตามมาอย่างงั้นรึ? ถึงกับเรียกร้องเองเลยรึ?!”ซูเห่าขมวดคิ้ว,กระตุ้นเปิดใช้งานรูนอักขระ,เปลี่ยนทิศทางมุ่งหน้าเข้าหาฝ่ายตรงข้าม.
เป็นอะไรที่คาดไม่ถึง,ทันทีที่เขาวนกลับมา,ฝ่ายตรงข้ามก็หนีอย่างไม่คาดคิด.
“!!!”ซูเห่าที่ดวงตาสั่นส่ายไปมา,ไม่ลงมือจัดการอีกฝ่าย,หันหลังจากไป.
อย่างไรก็ตาม,ไม่นานหลังจากนั้น,ฝ่ายตรงข้ามก็กลับมาไล่ตามเขาใหม่.
ซูเห่าหันหลังกลับพุ่งเข้าหา,ทั้งเจ็ดก็หนีอีกครั้ง.
“???”ซูเห่าเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม,แทบระเบิดความโกรธออกมา.
ฝ่ายตรงข้ามต้องการปั่นหัวเขาอย่างงั้นรึ? อยากสู้ก็เข้ามา,ไม่อยากสู้ก็ไสหัวกลับบ้านไปสิ!
จากนั้นซูเห่าก็หนีอีกครั้ง,ฝ่ายตรงข้ามยังคงไล่ตามมา,แม้นว่าจะรักษาระยะห่าง,ทว่าก็ยังคงไล่กัดไม่ปล่อย.
ซูเห่าที่หายใจหอบ,หลังจากหนีห่างออกมา 2500 เมตร,เขาที่ไม่อาจสัมผัสได้ถึงบรรพจารย์ทั้งเจ็ดได้แล้ว,หลังจากวิ่งหนีมา,เขาก็เปลี่ยนทิศทาง,แล้วเพิ่มความเร็วอย่างบ้าคลั่งอีก.
ไม่รู้ว่าวิ่งมาไกลแค่ใหน,ซูเห่าที่หยุดลง,สูดหายใจลึก,เอ่ยพึมพำ“หนีมาไกลแล้ว,ด้วยความเร็วน่าจะอยู่ห่างอีกฝ่ายห้ากิโลเมตร,ควรจะไปทางใหนต่อ!”
ไม่ว่าจะหนีไปทางใหน,ซูเห่าก็ไม่มั่นใจเลยแม้แต่น้อย.
ซูเห่าไม่ได้วิ่งเต็มกำลัง,ทว่าเลือกเส้นทางตามใจ,เคลื่อนที่เดี๋ยวเร็วเดี๋ยวช้า.
ทว่าหลังจากวิ่งไประยะหนึ่ง,สัมผัสของจิงซีขอบเขตบรรพจารย์ก็ปรากฏขึ้นบนเรดาร์ของเขาอีกครั้ง.
“ไอ้พวกบ้า!”ซูเห่าอดไม่ได้ต้องสบถด้วยความหงุดหงุด.
ดังนั้นเขาจึงหยุดอยู่กับที่,รอคอยบรรพจารย์ทั้งเจ็ด.
อย่างไรก็ตามเมื่อฝ่ายตรงข้ามเห็นซูเห่าหยุดรอ,พวกเขาก็หยุดลง,หลังจากกระซิบกระซาบกัน,ก็ก้าวเข้ามาช้า ๆ,อยู่ห่างกับซูเห่าออกไปเจ็ดร้อยเมตร,แล้วก็หยุดลง.
ซูเห่าที่ตะโกนออกไปเสียงดัง“พวกเจ้าต้องการทำอะไร?”
ฝ่ายตรงข้ามตอบกลับมา“เหรินหวังมีบัญชา,นำตัวเจ้าเข้าพบ!”
“ข้าไม่ต้องการพบ,ข้าไม่ต้องการเห็นเขา,พวกเจ้ากลับไปซะ!”
ทั้งเจ็ดที่จ้องมองหน้ากันและกันด้วยความงงงัน,ไม่เอ่ยอะไรออกมา.
ซูเห่าเอ่ย“ข้าไปละ,อย่าตามมา!”
ซูเห่าก็จากไป,อย่างไรก็ตามทั้งเจ็ดคาดไม่ถึงว่า ยังคงไล่หลังเขามาเช่นเดิม.
ซูเห่าทนไม่ไหวอีกต่อไป,เขาสูดหายใจลึก,โลหิตพลุ้งพล่าน,รูนอักขระทั้งหมดถูกเปิดใช้งาน,ร่างกายของเขาที่เคลื่อนที่เขาหาฝ่ายตรงข้ามด้วยความเร็วสูง.
คนทั้งเจ็ดที่รวมตัวกัน,เริ่มหนีอีกครั้ง.
ซูเห่าที่ไล่ตามไป,เข้าใกล้คนรั้งท้ายพุ่งเข้าโจมตี,อย่างก็ตามทั้งเจ็ดก็ยังคงหนีพร้อมกับหุบเข้ามาสนับสนุนกันและกันอย่างใจเย็น,เมื่อซูเห่าโจมตีคนหนึ่งอีกคนก็เข้ามาช่วยต้านกันคนละไม้คนละมือ,คล้ายกับจะผลาญกำลังของเขาแล้วรอให้ซูเห่าพลาด.
ซูเห่าที่ดวงตาหรี่เล็ก,เขาพบเข้ากับปัญหาแล้ว,ขอเพียงเขาโจมตีออกไปยังใครสักคน,การสนับสนุนอีกหกคนที่หุบเข้ามาทันทีทำให้เขายากจะจัดการ.
เจ็ดบรรพจารย์ยุทธ์,ไม่ใช่มือใหม่,พวกเขามีประสบการณ์ต่อสู้มากมาย,ไม่ใช่สิ่งที่ซูเห่าจะสู้ได้,การตั้งรับของพวกเขานั้นไม่ธรรมดา,ความเป็นความตายยากบอกได้ว่าผลสุดท้ายจะเป็นฝ่ายใหน.
ไม่อาจเข้าต่อสู้แลกเป็นตายกับอีกฝ่ายได้!
ซูเห่าที่ตัดสินใจทันที“เจาะทะลวง” “วงแหวนเพลิง” ถูกเปิดใช้งาน,เพื่อทำลายรูปแบบฝ่ายตรงข้าม,ฉวยโอกาสลงมือเมื่อพวกเขาแยกย้ายออกจากกัน,เขาที่ค่อย ๆหยุดลงช้า ๆ,ทว่าคนทั้งเจ็ดด้านหน้าเองก็หยุด อยู่ห่างออกไปสองสามร้อยเมตร,หันกลับมาจดจ้องเขา.
ในเวลานี้ซูเห่าที่พบจุดอ่อนของตัวเองเข้าแล้ว,หนึ่งคือขาดความคล่องตัวในการเคลื่อนไหว,สองขาดวิธีการโจมตีระยะไกล,สามขาดพลังทำลายล้างที่ทรงพลัง.
เขาจ้องมองคนทั้งเจ็ด,รู้สึกอักอ่วนเหมือนกัน,ไม่รู้ว่าควรจะจัดการคนเหล่านี้อย่างไร? ที่จริงคนเหล่านี้ไล่รู้ตำแหน่งของเขาได้อย่างไรกัน?
ตระกูลที่ได้รับสืบทอด,มีความสามารถสูงจริง ๆ.
ซูเห่ายืนนิ่งครุ่นคิดถึงวิธีรับมือ,ทว่าคนทั้งเจ็ดนั้นไม่ได้กังวลเลย,พวกเขาเข้าใจดี,ว่าไม่มีใครรับมือ“นักเดินทาง” ได้,จำต้องอดทนให้มาก,คุณสมบัติของนักล่า,จะไม่ขาดความอดทนรอคอยโอกาส,เพราะว่าหากไม่ระมัดระวัง,ชีวิตน้อย ๆ คงต้องจบที่นี่,สำหรับพวกเขา,มันไม่คุ้มค่าเลย.
“การเคลื่อนที่,ความสามารถโจมตีระยะไกล,และความสามารถในการทำลายล้าง!”
ซูเห่าที่ทำการวิเคราะห์ความสามารถทั้งสามในระยะเวลาอันสั้น.
ไม่! ไม่จำเป็นต้องยกระดับความสามารถทั้งสามพร้อมกัน,ขอเพียงเป็นเลิศในแขนงใดแขนงหนึ่ง,ก็สามารถจัดการปัญหาในตอนนี้ได้.
“อักขระรูนที่เขามีเวลานี้สามารถทำให้สำเร็จในข้อใดข้อหนึ่งได้หรือไม่?”
ความคิดแรกที่ซูเห่าคิด,หากเป็นปืนใหญ่โจมตี,ดูเหมือนว่าจะใกล้เคียงกับความต้องการที่สุด,เขาจะต้องสร้างปืนใหญ่ขึ้นมา.
อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่สิ่งที่ทำให้เกิดขึ้นได้ทันที,เงื่อนไขเวลานี้ไม่อาจทำได้,แม้นว่า มีรูนอักขระที่พอจะทำได้ก็ตาม,กระนั้นก็จำเป็นต้องใช้เวลาในการผลิต.
ระเบิดมือล่ะ,หากโยนเข้าไปในกลุ่มคนดังกล่าว,ควรจะแก้ปัญหานี้ได้,กุญแจสำคัญ,แม้นว่าเขาจะมีวิธีการ,ทว่าตอนนี้ไม่มีวัสดุอุปกรณ์,เขาจะสร้างระเบิดขึ้นมาได้อย่างไร.
แล้วหากสามารถสร้างระเบิดขึ้นมาด้วยการวาดสลักรูนล่ะ? มีความเป็นไปได้สูง,ทว่าจำเป็นต้องใช้เวลาทดสอบเช่นเดียวกับแผ่นสลัก,ทดลองหลาย ๆ ครั้ง,ไม่ใช่ว่าจะสำเร็จแล้วนำมาใช้ได้ในทันที.
เขาไม่ได้คิดถึงเรื่องดังกล่าวไว้ล่วงหน้าเลย,หากเขาศึกษาวิจัยสร้างระเบิดเอาไว้เพื่อป้องกันตัวเองไว้ก่อนแล้วล่ะก็,ในวันนี้คงไม่อยู่ในสถานการณ์อักอ่วนเช่นนี้.
นวัตกรรมอะไรสามารถเป็นได้,ทว่าเงื่อนไขปัจจุบันไม่ค่อยเอื้ออำนวยเท่าไหร่.
ไอรอนแมนล่ะ?
ซูเห่าที่ส่ายหน้าไปมา,ไม่มีข้อมูลสนับสนุน,เขาจะบินได้อย่างไร.
หรือว่าสร้างปีกจากต้นไม้,จะบินได้ใหม?
ด้วยรูน“ปะทุ” รูน “กระแทก” และรูน“แข็ง”เสริมความแข็งแกร่ง,ตลอดจนรูน“ตัดอากาศ” ช่วยลดแรงต้านของลม...
“ขอเพียงสามารถบินได้,ความเร็วของข้าจะเพิ่มขึ้น,ในเวลานั้นจะไปใหนก็ได้,ไม่ต้องกังวลอะไรอีก.”
ซูเห่าที่ตั้งใจส่งจิตเข้าสู่พื้นที่พินบอลทันที,ด้วยการช่วยเหลือของเสี่ยวกวง,เขาได้เรียกข้อมูลการบินทั้งหมด,ทำการออกแบบชุดเกราะ,สร้างโมเดลสามมิติของปีกขึ้นมา,เพื่อเปลี่ยนมันให้สามารถบินได้.
หลังจากคิดใครครวญอย่างดี,เขาก็ตัดสินใจใช้แผนการเปลี่ยนเกราะของเขาให้บินได้.
ส่วนฝ่ายตรงข้ามทั้งเจ็ด,ยังคงยืนรอและมองห่าง ๆ,กระซิบกระซาบกัน,คล้ายกับว่ากำลังปรึกษา,วางแผนที่จะจัดการกับฝ่ายตรงข้ามเช่นกัน.
ซูเห่าที่ยังคงมองอยู่ไกล ๆ,แน่นอนว่าฝ่ายตรงข้ามย่อมไม่กล้าพุ่งเข้ามา,ไม่จำเป็นต้องใส่ใจอะไรอีก,เขามองหาทิศทางของท่อนไม้.
เวลาต่อมา,ซูเห่าเห็นต้นใหม่ใหญ่อยู่ไกล ๆ เขาวิ่งไปยังทิศทางดังกล่าวทันที.
ทั้งเจ็ดที่คิดว่าซูเห่าจะหนี,ก็ตามไปทันทีเช่นกัน..
ซูเห่าที่มาอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่,ต้นไม้ที่มีความหนาหนึ่งเมตร.
เขาที่กระโดดขึ้นพร้อมกับเหวี่ยงดาบสับกิ่งไม้ให้ราบเรียบ.
อักขระบนดาบที่ปรากฏ“แข็ง” “เจาะเกราะ” “คม” ที่ส่องสว่าง,จิงซีพวยพุ่ง.
“ฉั๊วะ!”
เสียงสับตัดต้นไม้,จากนั้นต้นไม้ใหญ่ก็ล้มลงช้า ๆ.
“ปัง! แก๊ก แก๊ก-”
เมื่อต้นไม้ใหญ่ล้มลง,บ้านของเหล่าสัตว์ร้ายน้อยใหญ่ก็พังทลายลง,พวกมันที่ร้องดังหนีตายกันจ้าระหวั่น.
ซูเห่าที่ทำการเหวี่ยงดาบสลักตัดตามคำแนะนำของเสี่ยวกวง,ปรับแต่งให้เป็นไปตามแบบที่คิดค้นเอาไว้.
ดาบยาวของซูเห่าที่สับซอยไม่หยุด,เศษไม้ที่ลอยวิ่น,ฝุ่นไม้เองก็ลอยฟุ้งเช่นกัน.
คนทั้งเจ็ดจ้องมองซูเห่ากำลังสลักไม้,ก็เกิดความสับสน,จู่ ๆ ก็อยากเป็นช่างไม้อย่างงั้นรึ?”
“นักเดินทาง,ต้องการทำอะไรกัน?”
“ไม่รู้,บางที่คงโกรธเกรี้ยวในใจ,แผนการของเราสำเร็จ,เลยหาที่ระบายหรือไม่?”
“เป็นไปได้มาก,ควรจะเป็นเช่นนั้น”
บางคนที่เอ่ยโต้แย้ง,รู้สึกหนักใจ“บางทีอาจจะกำลังสร้างกับดักที่พวกเราไม่รู้หรือไม่? อย่าลืมว่าอีกฝ่ายคือปรมาจารย์นักสลักรูนเกราะเงิน,พวกเราต้องหาวิธีขวาง.”
“เป็นไปได้เช่นกัน,แล้วจะขวางอย่างไร?”
อีกหกคนที่จ้องมองเขาทันที,พร้อมกับเอ่ยออกมาว่า“เจ้าจะเข้าไปขวางอย่างงั้นรึ?”
ทุกคนกลายเป็นเงียบ.
เวลานี้พวกเขาที่จ้องมองหน้ากันและกัน,หวังให้ใครสักคนอาสาออกไปขวางการกระทำของ“นักเดินทาง”
เพราะการกระทำที่ผิดปรกติของศัตรู,ไม่ว่าอย่างไรก็ควรเข้าไปขวาง.
ใครจะรู้ว่าหากปล่อยไปเช่นนี้,จะเกิดอะไรขึ้นในเวลาต่อมา?
ต้องไม่ลืมว่าฝ่ายตรงข้ามคืออัจฉริยะนักสลักรูน,ไม่มีใครกล้าดูแคลน“นักเดินทาง” ,เมื่อครั้งทุกคนรับภารกิจมา,คิดว่ามีสิบบรรพจารย์ยุทธ์ลงมือพร้อมกัน,ความสำเร็จแทบจะมากกว่าเก้าสิบเปอเซ็นแล้ว.
สิบบรรพจารย์ยุทธ์คืออะไร? คนที่แข็งแกร่งของเผ่าพันธุ์มนุษย์คือขอบเขตบรรพชนยุทธ์,ซึ่งมีเพียงแค่เก้าคนเท่านั้นซึ่งก็คือเจ้าเมืองหลังทั้งเก้า,ระดับต่อมาก็คือขอบเขตบรรพจารย์ยุทธ์,นี่คือพลังที่อยู่ระดับบนของเผ่าพันธุ์มนุษย์แล้ว.
อย่างไรก็ตาม,หลังจากทำภารกิจแล้ว,ความคิดทั้งหมดของพวกเขาก็ถูกลบความมั่นใจทั้งหมดได้หายไป,สิบบรรพจารย์ที่ควรจะทำภารกิจสำเร็จง่าย ๆ,เวลานี้ไม่เพียงแค่ไม่อาจสำเร็จภารกิจได้อย่างราบรื่น,ยังอยู่ในอันตรายอีกด้วย.
ในใจของพวกเขาทุกคนเต็มไปด้วยความกระวนกระวาย.
“พวกเราเข้าไปขวางด้วยกัน?”
ในเวลานั้นมีใครบางคนแนะนำ.
ทุกคนเงียบไปชั่วขณะ,จากนั้นก็มีคนเอ่ยออกมาว่า“ตกลง,เช่นนั้นใครจะเป็นผู้นำ?”
คำพูดดังกล่าวได้ทำให้ข้อเสนอพังทลายลงทันที.
สองบรรพจารย์ก่อนหน้านี้ที่เป็นผู้นำการต่อสู้ ล้วนแต่ถูกกุดหัวไปก่อนแล้ว.
สองบรรพจารย์ที่ตายไปมีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก,หนึ่งในนั้นเป็นยอดฝีมือขอบเขตบรรพจารย์อันดับหนึ่ง,ที่พวกเขาคุ้นเคยดี.
อย่างไรก็ตามคนที่ร้ายกาจทรงพลังเช่นนั้น,กลับตกตายแทบจะในทันที,ทำให้พวกเขาไม่มีใครกล้าจะเป็นผู้นำกลุ่มอีกต่อไป.
อย่างไรก็ตาม,สิ่งที่พวกเขาไม่รู้,เมื่อความมืดของรัตติกาลมาถึง,จะเกิดเรื่องที่พวกเขาคาดไม่ถึงเกิดขึ้นอย่างแน่นอน.