ตอนที่แล้วChapter 76 Silver armor Grandmaster rune/symbol writing
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 78 1 grandmaster VS9 famous grand preceptor

Chapter 77 Encircles kills


围杀

เมืองเหออัน,พระราชวังหลวง,ภายในตำหนักหยงเหอ,มีบัลลังก์ทั้งเก้าที่ล้อมรอบโต๊ะกลม,ตั้งอยู่ตรงกลางห้องโถงอันงดงามวิจิตร,แสดงถึงความสูงส่ง,น่าเกรงขาม.

บนเก้าอี้ล้อมรอบโต๊ะกลมที่หรูหราราคาแพง,มีบุรุษแปดคนและสตรีหนึ่งคน,แต่ละคนที่จ้องมองตำราที่มีชื่อว่า“เส้นทางนักรบ” และ “สูตรสมบูรณ์ในการสลักวาดรูนอักขระ” บนโต๊ะ.

ผู้นำที่เป็นชายชรา,สวมชุดคลุมสีทองเข้ม,ใบหน้าส่วนใหญ่มีรอยย่น,ผมแทบจะขาวทั้งศีรษะ,มีเพียงดวงตาที่ยังเป็นประกายแสงสีแดงออกมา.

ผู้นำของทุกคน,เจ้าเมืองเหออัน,เหรินหวัง,ขอบเขตบรรพชนยุทธ์,คนที่แข็งแกร่งที่สุดของเผ่ามนุษย์.

เหรินหวังเอ่ย“เชิญออกความเห็น.”

ในเวลานั้นชายร่างใหญ่ที่สวมเกราะทองแดง,มีผ้าคลุมหลังสีน้ำเงินยืนขึ้น,ใบหน้าของเขาที่มีหนวดและผมเปิดแหวกกลาง,เอ่ยเสียงดังเคร่งขรึมเหมือนระฆัง“เหรินหวัง,สิ่งนี้ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์,ไม่ว่า”นักเดินทาง“จะเป็นใคร,ทว่าการเผยแพร่สิ่งดังกล่าวออกมานั้น,จำเป็นต้องให้พวกเรายอมรับด้วยรึ?”

ชายในชุดเกราะทองแดงก็คือเจ้าเมืองหลักถูฟาง,อาวุโสห้า,ขอบเขตบรรพชนยุทธ์.

อาวุโสสามที่ถูมือสั้นป้อม,พยักหน้ารับ“ใช่แล้ว,นับตั้งแต่ยุคโบราณ,ความรู้ที่เหนือกว่าขอบเขตปรมาจารย์,เป็นความลับไม่อาจเผยแพร่ตามใจ,ทว่าตำราสองเล่มนี้ได้กระจายออกไป,ได้สั่งคลอนพื้นฐานของเมืองหลักทั้งเก้าแล้ว.”

อาวุโสเจ็ดทียังคงเผยยิ้ม,หัวเราะออกมาเบา ๆ,“ข้าคิดว่า”นักเดินทาง“เป็นอัจฉริยะที่มีพรสวรรค์น่าเกรงขามมาก,ตำราสองเล่มนี้,น่าเหลือเชื่อมาก.”

อาวุโสห้าที่ดวงตาเบิกกว้างเต็มไปด้วยความโกรธ,เอ่ยคำรามน้ำลายแตกฟอง“ผายลม! อัจฉริยะอะไรกัน,พวกเราทั้งเก้าต่างหากที่ทำลายโซ่ตรวนสายโลหิตของมนุษย์,ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลก,พวกเราคืออัจฉริยะที่แท้จริง.”

อาวุโสเจ็ดที่เอ่ยชม,ไม่ได้โต้เถียงอะไร,หัวเราะออกมาเล็กน้อย,เขารู้สึกพึงพอใจอ่านตำราทั้งสองเล่มอย่างสนุก.

อาวุโสสามเอ่ยออกมาว่า“นักเดินทางนับว่ามีข้อดีเช่นกัน,ทว่าเขาได้ละเมิดกฏต้องห้าม,น่าเสียดาย!”

อาวุโสสี่เป็นชายวัยกลางคนที่ใบหน้าไร้ความรู้สึก,ดวงตาดุร้าย,มุมผากเผยอ,เอ่ยออกมาว่า“ไม่อาจให้คงอยู่ได้!”

อาวุโสเก้าเป็นสตรีงาม,รูปร่างเหมือนกับสตรีวัยสามสิบ,ทว่าอายุจริงมากกว่า 50 แล้ว,นางที่ยกมือปิดปากหัวเราะชอบใจ“ทำไมอยู่ไม่ได้ล่ะ? เหล่าเหนียงสนใจนักเดินทางไม่น้อย,คิคิ!”

นางที่หันหน้าไปมองชายชราเอ่ยออกมาว่า“เป็นไปได้ว่าเจ้ากลัว?”

อาวุโสห้าตบโต๊ะเสียงดังชี้ไปยังอาวุโสเก้า,เอ่ยออกมาเสียงดังทันที“หยาบคายมาก! ไม่รู้ตัวรึไงว่าตัวเองเป็นหญิงแก่หง่ำเหงือกแล้ว?”

อาวุโสเก้าที่มองตาขวาง,ก่อนที่จะสะบัดหน้าไม่สนชายคนดังกล่าวอีกต่อไป.

อาวุโสห้าที่โกรธเกรี้ยวยิ่งขึ้นไปอีก.

อาวุโสสามที่เอ่ยออกมาทันที“หยุดได้แล้ว,อย่าได้โต้เถียงกันโต้หน้าเหรินหวัง,เหล่าอู,นั่งลง.”

อาวุโสห้าชี้ไปยังอาวุโสเก้าเอ่ยออกมาว่า“นาง...”

อาวุโสสามที่เอ่ยเสียงดัง“นั่งลง!”

อาวุโสห้าที่นั่งลงเสียงดัง,ใบหน้าที่ไม่ต้องการยอมรับ.

คนอื่น ๆ ที่กลายเป็นเงียบ,พวกเขารู้ดี,ไม่ว่าจะเอ่ยอะไรออกมา,ท้ายที่สุดผู้ตัดสินใจก็คือเหรินหลัง,ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นที่ต้องเอ่ยอะไรเลย.

เหรินหวังจีซีที่นั่งเงียบ ๆ ต้องการฟังความเห็นของทุกคน,หลังจากที่ได้ยินคำตอบแล้ว,ก็จะตัดสินใจว่า จะจัดการกับสถานะการณ์นี้อย่างไร.

ในเวลานั้นอาวุโสสามที่ลุกขึ้น,เอ่ยออกมาช้าๆ “นักเดินทางสั่นคลอนรากฐานของเมืองทั้งเก้า,ละเมิดข้อห้าม,ผิดธรรมเนียมปฏิบัติ,ทว่าเขานั้นนับว่ามีพรสวรรค์ที่เลิศล้ำ,เผ่าพันธ์มนุษย์ควรจะใช้งานเขาได้,พวกเราควรไว้ชีวิตเขา”

เขาที่จ้องมองเหรินหวังที่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ต้านเขาจึงเอ่ยออกมาว่า“ข้าขอเสนอ,เรื่องแรก ให้เก็บกู้ตำรา”เส้นทางนักรบ“และ”สูตรสมบูรณ์ในการสลักวาดรูนอักขระ“กลับคืนมา,ประกาศให้มันเป็นหนังสือต้องห้าม,อย่างที่สอง,ให้ส่งคนไปหา”นักเดินทาง“แล้วจับเขากลับมา,หลังจากสอบสวนแล้วค่อยตัดสินใจอีกที,อย่างที่สาม,ให้ก่อตั้งสถาบันสลักรูนอักขระ,ฝึกฝนเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่มีศักยภาพที่ดี.”

“ไม่รู้ว่า....เหรินหวังคิดอย่างไร?”

เหรินหวัง,ที่เอ่ยออกมาช้า ๆ“ทุกคน,คิดอย่างไรล่ะ?”

พวกเขาจะไม่รู้ความตั้งใจของเหรินหวังได้อย่างไร,ไม่ว่าตำราทั้งสองจะกระจัดกระจายอย่างไร,ไม่ว่าจะเก็บกลับมาหรือไม่,ก็ไม่มีใครสงสัยและโต้แย้งอีกฝ่าย.

เพราะว่าเหรินหวังนั้นควบคุมทุกอย่าง,ทุกการตัดสินใจหาได้ยึดเอียงกับพวกเขาแม้แต่น้อย

เหรินหวังเห็นทุกคนไม่แย้งอะไรก็พยักหน้า“ให้จัดการตามนั้น!”

การประชุมที่เสร็จสิ้นลง.

หลังจากนั้นสิ่งที่อาวุโสสามเสนอก็ถูกสั่งการออกไป.

นอกจากนี้เหรินหวังยังได้สั่งสิบบรรพจารย์,ออกไปจับตัวซูเห่า,เพื่อนำตัวกลับมาให้เร็วที่สุด.

......

ซูเห่ายังคงเพลิดเพลินอยู่กับการขายหนังสือ,เขาเดินทางขายออกไปไกล,ไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ในตำแหน่งใหนของทวีปหยงเหอ.

เขารู้ว่าสิ่งที่เขาทำนั้นอาจจะนำอันตรายเข้ามาหา,ดังนั้นทุกครั้งที่เปิดขายเขาจะระมัดระวังเป็นอย่างมาก,ทุกการเดินทางสองกิโลเมตร,เขาจะทำการตรวจสอบ หากพบสิ่งสงสัย,ก็จะหนีทันที.

ในวันหนึ่ง,หลังจากขายหนังสือหมด,เขาก็จากไป,ทว่าทันใดนั้น ในเรดาร์ของเขาพบกับจิงซีที่ทรงพลังสิบร่างจากสิบทิศ,เคลื่อนที่เข้าหาเขาด้วยความเร็ว.

“สิบบรรพจารย์ยุทธ์!”ซูเห่าที่ขนลุกซู่,คิดว่าอีกฝ่ายให้เกียรติเขามากจริง ๆ,ถึงกับส่งสุดยอดฝีมือชั้นยอดมาสิบคนมาต้อนรับกันเลย.

“หนี!”ซูเห่าที่ตอบสนองทันที,ให้เขาที่เป็นปรมาจารย์,จัดการกับสิบบรรพจารย์,มีแต่คนโง่เท่านั้นที่จะสู้.

เขาเลือกทิศทางที่จิงซีอ่อนแอที่สุด,เพื่อทะลวงวงล้อมนี้ออกไป.

แม้นว่ายอดฝีมือขอบเขตบรรพจารย์ที่มีจิงซีอ่อนแอที่สุด,ทว่าก็ยังเหนือกว่าของซูเห่า.

อย่างไรก็ตาม,ยังไม่ถือว่ามีปัญหา,เขาสามารถใช้รูนอักขระสนับสนุนได้.

เขาได้ใช้อักขระ“ตัดอากาศ”จากนั้นก็เป็น“ปะทุ”เพิ่มความเร็ว,จากนั้นก็“ลดการดำรงอยู่” พร้อมกับใช้“ประสานงาน” เพื่อรักษาสมดุล....

ความเร็วของซูเห่าที่เคลื่อนที่เร็วมาก,ราวกับจะทะลวงผ่านความเร็วเสียง.

ทว่าสิบบรรพจารย์ที่คล้ายกับว่าจะค้นพบตำแหน่งของซูเห่าอย่างแม่นยำ,พวกเขายังคงล้อมตีกรอบเข้าซูเห่า.

“เกิดอะไรขึ้น?” ซูเห่าที่เผยความสงสัย,เป็นไปได้ว่าฝ่ายตรงข้ามก็มี“สัมผัส” ด้วยอย่างงั้นรึ? ไม่เช่นนั้นอีกฝ่ายจะรู้ตำแหน่งของเขาได้อย่างไร.

อีกไม่กี่วินาที,เขาน่าจะพบกับนักรบขอบเขตบรรพจารย์คนหนึ่งแล้ว.

ซูเห่าที่เปิดใช้งานรูนอักขระบนเกราะรบ“แข็ง” “โก่งโค้ง” “ม่านพลัง” “สั่นสะเทือน” และยังกระตุ้นรูนในดาบทั้งสอง,ดาบยาวที่สลัก“แข็ง” “คม” “เจาะทะลวง” “โคจร” ดาบสั้นสลัก“แข็ง” “คม” “เจาะทะลวง” “กัดกร่อน.”

พริบตานั้น,ซูเห่าก็พบกับฝ่ายตรงข้าม

บรรพจารย์ยุทธ์คนดังกล่าวสวมเกราะสีน้ำเงินอ่อน,สวมหมวกโลหะปิดบังใบหน้าที่เฉยชา,ในมือถือดาบยาว,ที่ส่องประกายแสงวับวาว.

ซูเห่าที่รู้สึกปวดขมับขึ้นมา“นั่นไม่ใช่รูนจากดาบของเขาหรอกรึ? ศัตรูคิดจะใช้อาวุธที่เขาผลิตมาสังหารเขาอย่างงั้นรึ?”

ซูเห่าที่เผยรอยยิ้มแปลกประหลาด,หัวเราะเล็กน้อย,จะใช้รูนอักขระต่อหน้าเขา?

เป็นความคิดที่แปลกประหลาด.

ซูเห่าถือดาบสองเล่มในมือ,พุ่งเข้าหาด้วยความเร็ว.

เมื่อเข้าใกล้.

ผู้ชนะและแพ้จะต้องถูกตัดสินทันที.

“เขตแดนปะทุ-ท่าเท้าเคลื่อนเงา!”

“ตูมมมม-”

เสียงระเบิดดังสนั่น,ฝุ่นหินดินทรายที่ลอยคลุ้ง,ซูเห่าที่หายลับสายตาของบรรพจารย์คนดังกล่าวไป.

นักรบขอบเขตบรรพจารย์คนแรกที่สงสัย,ดาบยาวในมือของเขาที่พังทลาย,ในครรลองสายตาของเขาดาบหักลอยกระเด็น,ล่วงหล่นลงบนพื้น.

“เคร้ง~” “วีด ปัง~”

ดาบและศีรษะของบรรพจารย์คนดังกล่าวที่ขาดล่วงหล่นลงบนพื้นหญ้าหนา.

“ตุบ!”

เสียงทึบด้าน,ร่างที่ล้มลงบนพื้น.

ซูเห่าที่วิ่งออกไปไม่แม้แต่หันหลังกลับมามอง.

ในเวลาอันรวดเร็วนั่น,ดาบทั้งสองเล่ม,มือขวาถือดาบยาวตัดดาบฝ่ายตรงข้าม,มือซ้ายถือดาบสั้นสะบั้นคออีกฝ่ายลง.

และกุญแจสำคัญที่เขาสามารถทำสำเร็จครั้งนี้ก็ความคือความเร็วที่เหนือกว่า.

“เขตแดนปะทะ!”นี่คือส่วนสำคัญในการเพิ่มความเร็วขึ้นหนึ่งเท่า.

ความเร็วที่แม้แต่บรรพจารย์ก็ไม่อาจตอบสนอง,ทั้งศีรษะของดาบยาวของเขาได้ถูกตัดขาดเป็นสองส่วนก่อนที่เขาจะรู้ตัวซะอีก.

เพียงไม่กี่ลมหายใจ,เก้าบรรพจารย์ก็มาถึงสถานที่เพื่อนร่วมทีมของเขาถูกกุดหัว.

ในเวลานั้นทั้งหมดที่จ้องมองหน้ากันและกันด้วยความงงงวย.

หัวหน้านักรบที่สวมชุดลายเมฆสีขาว,จ้องมองไปยังทิศทางของซูเห่าที่หายไป,เอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา“ไล่ตามไป! ไม่ว่าอย่างไร,ก็ต้องจับตัวเขากลับมา.”

เขาที่หันหน้ากลับมามองนักรบคนหนึ่ง“เหล่าเฉา,ล๊อกเป้าหมายได้รึยัง?”

เหล่าเฉาพยักหน้ารับ.

พวกเขาไม่พูดอะไรอีกต่อไป,เร่งรีบมุ่งหน้าไล่ตามซูเห่าไปในทันที.

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด