Chapter 76 Silver armor Grandmaster rune/symbol writing
银铠符文大师
เพียงวันเดียว,สินค้าสองกองพูนเหมือนขยะหายไปกว่าครึ่ง,ต้นทุนทั้งหมดที่จ่ายไปก็ได้คืนมา.
ในวันเดียวกันคาดไม่ถึงว่าจะมีคนที่แอบเข้ามาซื้อเป็นครั้งที่สอง,ทว่าด้วยเรดาร์ของซูเห่าไม่พลาดแม้แต่น้อย,เหล่าคนที่ซื้อแล้วจะถูกทำเครื่องหมายไว้แล้วทั้งนั้น.
สำหรับคนสร้างปัญหา,ก็ถูกซูเห่าหักแขนโยนออกจากร้านไป
หลังจากนั้นไม่นาน,เหล่ากลุ่มทหารรับจ้างทั้งใหญ่และเล็กกระทั่งหอการค้า,ก็ได้รับข่าว.
เช้าวันถัดมา,หน้าร้านของเขาคลาคล่ำไปด้วยผู้คน.
หลังจากเห็นซูเห่าเปิดประตู,แต่ละคนใบหน้าแดงกล่ำ,ยื่นถุงเงินออกมาทันที.
“ข้าจ่าย 30 เหรียญเงิน,ขายให้ข้าก่อน!”
“ไสหัวไปให้พ้น,บิดามาคนแรก,บิดาจ่ายเลย 50 เหรียญเงินเลย,บิดาต้องได้คนแรก.”
“ข้าจ่าย 1ทอง!”
“ข้าจ่ายเลย หนึ่งทองหนึ่งเหรียญเงิน.”
เสียงโหวกเหวกโวยวายดังกังวานไปทั่ว.
ซูเห่ากวาดตามอง,ให้เสี่ยวกวงตรวจนับจำนวนคนทันที,พร้อมกับคำนวณดาบที่มีอยู่,ดูเหมือนว่าจำนวนจะยังมีเพียงพอ.
สามารถเปิดทำธุรกิจต่อไปได้.
ไม่นาน,ดาบยาวและเกราะก็ถูกขายออกไป,คนที่ใช่เล่ห์เหลี่ยมถูกซูเห่าหักแขนโยนออกไป,โดยไม่มีข้อยกเว้นเช่นเดิม.
หลังจากดาบยาวและเกราะถูกขายไปหมด,ยังคงมีคนที่ออกันอยู่หน้าร้าน,จ้องมองซูเห่าด้วยความกระตือรือร้น.
ซูเห่าเอ่ยเสียงดัง”พรุ่งนี้จะมีสินค้าเข้ามาใหม่,ทุกท่านสามารถเข้ามาซื้อได้,จะเป็นใครสามารถซื้อได้หมด,เหมือนดาบยาวและเกราะ,มาก่อนได้ก่อน,ขายจนกว่าจะหมด.
ทุก ๆ คนเต็มไปด้วยความตื่นเต้น.
วันถัดมาดวงตะวันยังไม่ขึ้นด้วยซ้ำ,หน้าร้านซูเห่าก็มีผู้คนมากมายเต็มไปหมด,แทบจะไม่มีที่ยืน.
แน่นขนัด.
เมื่อตะวันทอแสง,ซูเห่าเปิดร้านรับลูกค้า.
“วันนี้วันดี,เพียงหนึ่งเหรียญเงิน! ทุกอย่างชิ้นละหนึ่งเหรียญเงิน!”
ทุกคนที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น! ธุรกิจร้านนี้ไม่หวังกำไรเลยแม้แต่น้อย!
“สินค้าวันนี้ค่อนข้างพิเศษ,แต่ก็คุ้มราคา,ซื้อเพียงหนึ่ง,ก็เท่ากับทำให้เจ้ามีดาบร้อยเล่ม,เกราะร้อยชิ้น,ไม่ได้พูดเกินจริงเลย! และยังมีวิธีทำให้พวกเขาก้าวสู่ขอบเขตปรมาจารย์ได้อย่างราบรื่นด้วย,ทำให้ชีวิตของทุกคนสามารถก้าวขึ้นไปสู่จุดสูงสุดได้!”
“สงสัยแล้วใช่ใหมว่าคืออะไร?”
สายตาของทุกคนที่จ้องมองซูเห่าเป็นประกาย.
ซูเห่าเอ่ยเสียงดัง“ใช่แล้ว! สิ่งที่ขายวันนี้,เป็นวิธีในการผลิตดาบยาวและเกราะนั่นเอง,สิ่งนี้ง่ายที่จะเรียนรู้,สามารถสร้างเกียรติยศให้แก่ตัวเองด้วยมือของตัวเองได้! ขอเพียงซื้อมันไป,จะสามารถสร้างอาวุธและชุดเกราะได้จำนวนนับไม่ถ้วน.”
“มา ๆ! เข้ามาซื้อ! ซื้อก่อนได้ก่อน!”
เมื่อซูเห่าเปิดประตู,เปิดม่าน,ก็เผยชั้นหนังสือขนาดใหญ่.
ภาพที่เห็นทำให้ทุกคนแทบคลั่ง.
ด้วยจะซื้อได้เพียงแค่คนละเล่ม,ทว่าผู้คนก็ยังตื่นเต้น,บางคนที่ไม่ได้มาวันนี้,อารมณ์เสียมาก.
ในวันนี้,คนที่คว้าโอกาสได้ก็จะรุ่งโรจน์พุ่งทะยาน,ส่วนคนที่ไม่อาจคว้าโอกาสได้,ต่อให้มีเงินเท่าไหร่,ก็ไม่อาจซื้อหามาได้.
ชีวิตก็เป็นแบบนี้,เผลอแค่พริบตาเดียวโอกาสก็หายไปแล้ว,เรื่องในวันนี้จะส่งผลต่อชีวิตพวกเขาเป็นอย่างมาก,เหล่าคนที่คว้าโอกาสได้จะสามารถส่งต่อให้กับลูกหลานให้เจริญรุ่งเรืองไปอีก 100 ปี หรือ 200 ปี.
วันที่สาม,ทุกคนที่มารอซูเห่าเปิดร้าน,ทว่าเวลานี้ซูเห่าได้เดินทางจากเมืองแห่งนี้ไปแล้ว.
......
หกวันหลังจากนั้น,เมืองเล็กที่คึกคักเป็นอย่างมาก,เมืองจู่จิว,ปรากฏร้านอาวุธพิเศษเกิดขึ้น.
เหตุการณ์เหมือนกับก่อนหน้านี้.
ซูเห่าที่เริ่มต้นด้วยการขายอาวุธจากนั้นก็ขายหนังสือ,แม้นว่าหลายคนจะไม่รู้หนังสือ,ทว่าพวกเขาก็ซื้อมัน,เพราะราคา 1 เหรียญเงินนั้นไม่แพงเลย.
จากนั้นก็เกิดเหตุการณ์ที่เมืองซ่วงซือ,เมืองไป๋ซา,เมืองต้าหลิง....
ในเวลาสั้น ๆ สองเดือน,ซูเห่าได้ออกเผยแพร่หนังสือกว่ายี่สิบแห่งแล้ว.
เริ่มแรก,ผู้คนที่รู้สึกราวกับว่าถูกหลอกหลวง,ทว่าหลังจากนั้นร้านค้าก็ได้รับความนิยม,ก่อนจะจากไปโดยไร้ร่องรอย.
ในวันหนึ่ง,ขณะที่ซูเห่ากำลังจะไปเปิดร้านที่เมืองถัดมา,ข่าวคราวเรื่อง“ปรมาจารย์อักขระเกราะเงิน” ก็กระจายออกมา,ทั่วทั้งเผ่าพันธุ์มนุษย์,หลายคนรู้จักมนุษย์ชุดเกราะที่ทรงพลังผู้นี้,ต่างก็เดินทางมาซื้อขายตำราโดยเฉพาะ,พวกเขารู้ว่าตำราเหล่านั้นคือสมบัติล้ำค่าในการผลิตอาวุธ,ความรู้ขั้นสูงของการเป็นนักรบโดยระเอียด,แม้กระทั่งความรู้ในการก้าวสู่ขอบเขตปรมาจารย์,เป็นความรู้ที่เลิศล้ำกว่าตำราทุกเล่มที่มีในตลาด.
ด้วยเหตุนี้,ซูเห่าจึงไม่จำเป็นต้องเริ่มต้นด้วยการขายอาวุธและชุดเกราะแล้ว,เขาสามารถเปิดร้านค้าขายตำราโดยตรงได้เลย,เขาเตรียมตำรามากมายไปขายยังเมืองต่าง ๆ,กลายเป็นรถเข็นขายของทีเร่งขายตำรากระจายออกไปเป็นวงกว้าง.
ใช้เวลาเพียงวันเดียว,ซูเห่าที่ขายตำราหมดเกลี้ยง,จากนั้นเขาก็หอบเงินหายออกไปจากเมือง.
ไม่มีใครรู้ว่าเขามีใบหน้าค่าตาอย่างไร,ไม่รู้เขาจะไปที่ใหน,ไม่มีใครรู้ชื่อแซ่,หากแต่ทุกคนเรียกเขาว่าา“ปรมาจารย์รูนอักขระเกราะเงิน.”
ตำราของซูเห่าที่ขายออกไปเป็นจำนวนมาก,ในเวลานั้นเจ้าเมืองเมิ่งตงหัวก็ได้รับตำราฉบับเต็ม“เส้นทางนักรบ” และ “สูตรสมบูรณ์ในการสลักวาดรูนอักขระ” หลังจากที่เขาศึกษาอย่างจริงจัง,ก็ทำให้เขาต้องตกอกตกใจ.
ตำราเส้นทางนักรบฉบับสมบูรณ์นั้น,เป็นการอธิบายเส้นทางของการฝึกฝนพื้นฐานเริ่มต้นอย่างระเอียด,กระทั่งตัวเขาที่มีขอบเขตบรรพจารย์ยุทธ์,ก็ได้รับความรู้มากมายอย่างที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน.
อะไรทีเรียกว่าคลื่นยกระดับปราณโลหิต? คาดไม่ถึงว่าจะช่วยเพิ่มความเร็วในการสะสมจิงซีอย่างคาดไม่ถึง,อะไรทีเรียกว่ากระบวนการแรงเหวี่ยง? สามารถช่วยเปลี่ยนปราณโลหิตเป็นจิงซีได้เร็วขึ้น! สิ่งนี้เขาไม่เคยได้ยินมาก่อน,ทว่าข้อมูลที่อธิบายนั้นชัดเจนมีหลักฐานแน่นอน,ไม่ได้เลื่อนลอยไร้จุดหมาย.
สิ่งที่ทำให้เขาตกใจมากที่สุดก็คือรูปแบบสัตว์อย่างง่าย,คาดไม่ถึงว่ารูปแบบที่สลับซับซ้อนที่มี ไม่กี่คนที่จะเข้าใจ,แต่กลับทำให้มันง่ายลง,แยกแยะแจกแจงออกมาอย่างระเอียด,อธิบายแต่ละส่วนแต่ละกระบวนการ,กระทั่งผลของรูนอักขระแต่ละตัวนั้นมีหน้าที่และประโยชน์อย่างไร.
หลักการรูนอักขระที่อิสระ,สามารถสร้างมาเป็นกฎเกณฑ์,ผสมรวมกันเพื่อสร้างประสิทธิผลที่ต้องการได้อย่างงั้นรึ?
ยอดเยี่ยม,นี่เป็นยอดมนุษย์ผู้ใดเป็นคนคิดค้น.
เขารู้ว่ารูปแบบสัตว์ร้ายนั้นมากมายเกินกว่าที่จะวิเคราะห์ออกมาได้,ทว่าไม่คาดคิดเลยว่าคนผู้นี้จะสามารถวิเคราะห์ออกมาได้.
เขาที่ลองทดสอบด้วยตัวเอง,เป็นไปตามที่ทดลองทั้งหมด.
สูตรสมบูรณ์ในการสลักวาดรูนอักขระ ตำราเล่มนี้ได้บรรยายรายระเอียดอย่างชัดเจนสมบูรณ์.
เขาได้ลองทดสอบวาดสลักรูนลงบนเกราะ,ด้วยการใช้หนอนขนตามที่ตำราบรรยายเอาไว้,เมื่อกระตุ้นเปิดการใช้งาน,ก็ราบรื่นไม่มีปัญหา.
เขารู้ว่าตำราทั้งสองเล่มนี้ได้กระจายออกสู่วงกว้างแล้ว,เขาตระหนักได้ทันที,กำลังเกิดเรื่องใหญ่แล้ว!
เมิ่งตงหัวห่อหนังสือทั้งสองเล่มอย่างระมัดระวัง,พร้อมกับออกเดินทางไปยังเมืองหลวงทันที.
สามวันหลังจากนั้น,เขาก็มาถึงพระราชวงศ์ของเมืองหลวง,ขอเข้าพบกับราชา,เหรินหวัง(ราชามนุษย์),องค์รักษ์ระดับปรมาจารย์ได้โค้งคำนับ“เจ้าเมืองเมิ่ง,เหรินหวังและอาวุโสใหญ่ทั้งแปดกำลังหารือราชกิจกันอยู่,โปรดกลับไป!”
เหรินหวังคือราชาเผ่ามนุษย์,ผู้ปกครองเมืองเหออัน,และดูแลเมืองหลักและเมืองรองทั้ง 52 เมือง.
เผ่าพันธุ์มนุษย์นั้นมีเมืองหลักทั้งหมด 9 เมือง,ยกเว้นเมืองเหออันที่เป็นเมืองหลวง,อีกแปดเมืองหลักนั้นมีขนาดไม่ได้ด้อยกว่าเมืองเหออัน,มีผู้ปกครองเป็นอาวุโสใหญ่ทั้งแปดปกครองเมืองหลักเหล่านี้.
เมิ่งตงหัวเร่งรีบเอ่ยรายงาน“ข้ามีเรื่องสำคัญต้องการรายงาน,เกี่ยวกับการพัฒนารากฐานของเผ่าพันธ์มนุษย์.”
องค์รักษ์เผยยิ้มเล็กน้อย“เกี่ยวกับตำรา”เส้นทางนักรบ“และ”สูตรสมบูรณ์ในการสลักวาดรูนอักขระ“อย่างงั้นรึ?”
เมิ่งตัวหัวที่ดวงตาเบิกกว้าง,เผยความประหลาดใจ“เจ้ารู้แล้วรึ?”
องค์รักษ์เผยยิ้มเอ่ยออกมาว่า“ข้าได้รับข่าวมาตั้งแต่เดือนก่อนแล้ว.”
เมิ่งตงหัวที่ชงัก“เอ่อ....”
องค์รักษ์ที่เอ่ยอธิบาย“ตำราทั้งสองเล่มนั้นมีความสำคัญมาก,เหรินหวังได้ส่งทูตออกไป พร้อมกับเชิญอาวุโสใหญ่ทั้งแปดมาประชุมเรื่องนี้ ที่เมืองเหออันเป็นการส่วนตัว,การประชุมนี้,ผ่านมาหนึ่งคืนเต็มแล้ว,ดังนั้น,หากเรื่องสำคัญของท่านเป็นเรื่องนี้ล่ะก็,ท่านไม่จำเป็นต้องกังวล.”
เมิ่งตงหัวที่ยกมือผสานพร้อมเอ่ยลา.
หลังจากที่ออกมาแล้ว,เขาก็พบกับสหายคุ้นหน้ามากมายอย่างคาดไม่ถึง,พวกเขาล้วนแต่พูดคุยเรื่องตำราทั้งสองเล่ม,บางคนที่ตกใจ,กระทั่งตื่นตระหนก,ร้อนรน,เศร้า,กระวนกระวาน,เต็มไปด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย...
แต่ละคนต่างก็มีความเห็นที่แตกต่างกัน.
กล่าวตามตรง,มีหลายคนที่เริ่มเป็นกังวลกับสถานะของเขาที่กำลังสั่นคลอน,มีหลายคนที่รู้สึกว่าหากความรู้เกี่ยวกับรูนอักขระได้กระจายออกไป,ก็จะปรากฏอาวุธที่ทรงพลังมากมาย,จะทำให้เกิดยอดฝีมือนับไม่ถ้วน,ซึ่งแน่นอนว่าคนเหล่านั้นจะต้องปรากฏขึ้นมาแย่งชามข้าวที่พวกเขาเกาะกันเอาไว้อย่างเหนียวแน่นอย่างแน่นอน.
ตำราทั้งสองเล่มนั้น,กล่าวได้ว่ามันได้สั่นสะเทือนเป็นที่รู้จักไปทั่วเผ่าพันธุ์มนุษย์แล้ว.
เมิ่งตงหัวที่เอ่ยพึมพำ“ที่จริงแล้วข้ารู้คนสุดท้ายอย่างงั้นรึ?”