ตอนที่แล้วChapter 74 I came
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 76 Silver armor Grandmaster rune/symbol writing

Chapter 75 Travelers


过客

ซูเห่าที่กลับป้อมซาซานอีกครั้ง.

เขากลับมาครั้งนี้เพื่อมาบอกลาอู๋หยุนเทียน

เขาไม่รู้ว่าการเดินทางครั้งต่อไป,จะใช้เวลานานเท่าไหร่,ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น,ไม่รู้อนาคตเลย,ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้กลับมาพบกันอีกใหม?

อู๋หยุนเทียนที่รู้ว่าซูเห่ากำลังคิดถึงอะไรบางอย่าง,จึงไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา.

สองพ่อลูกนั่งนิ่งในสวน,ต่างคนต่างคิดว่าอีกฝ่ายกำลังคิดอะไรบางอย่าง,ทว่าแท้จริงแล้วพวกเขากลับไม่ได้คิดอะไรเลย.

สำหรับซูเห่า,อู๋หยุนเทียนคือบิดาที่มีคุณสมบัติเหมาะสมอย่างไม่ต้องสงสัย,ทว่าเขานั้นกับไม่สมกับเป็นบุตรชายเลย.

อู๋หยุนเทียนได้ก้าวสู่ขอบเขตปรมาจารย์สำเร็จแล้ว,ตามสัมผัสของซูเห่า,จิงซีของอู๋หยุนเทียนนั้นทรงพลังกว่าปรมาจารย์ทุกคนที่เขาเคยพบ,เหตุผลนั้นเพราะอู๋หยุนเทียนได้สลักรูปแบบตามแผ่นสลักของซูเห่า,ด้วยการปรับแต่งโหนดทั้งแปดเชื่อมต่อกันอย่างสมบูรณ์,บวกกับคลื่นยกระดับจิงซี,สามารถเปลี่ยนปราณโลหิตเป็นจิงซีได้จำนวนมหาศาล.

ซูเห่ารู้ว่ารูปแบบสัตว์อย่างง่ายนั้นประสบผลสำเร็จที่ดีมาก.

เขาได้ใช้รูนอักขระ“คัดลอก”คัดลอกตำรา“เส้นทางนักรบ” และ“สูตรสมบูรณ์ในการสลักวาดรูนอักขระ” ออกมา,ส่งมันให้กับอู๋หยุนเทียน“ท่านพ่อ,ตำราสองเล่มนี้คือผลของการศึกษาวิจัยของข้า,ท่านสามารถอ่านได้,หากคิดว่ามันมีประโยชน์,มันจะสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งได้,หากรู้สึกว่าไร้ประโยชน์,ก็โปรดฝังมันเอาไว้!”

อู๋หยุนเทียนที่รับตำรามา,เปิดอ่าน,หัวใจของเขาที่สั่นไปมา,ก่อนที่มือของเขาจะสั่นเล็กน้อย,ขณะเห็นชื่อที่ลงเอาไว้ด้านล่าง“นักเดินทาง”

อู๋หยุนเทียนที่ราวกับจะเข้าใจอะไรบางอย่างได้,จึงเงียบไป.

ผ่านไปนานเหมือนกัน,อู๋หยุนเทียนก็เอ่ยด้วยเสียงแหบเครือ“เซี่ยงหวู่,เจ้าต้องการทำอะไร,เจ้าต้องการเดินทาง!”

ซูเห่าพยักหน้า.

อู๋หยุนเทียนที่เอ่ยเพิ่ม“ตำราสองเล่มนี้,ข้าจะรับไว้,หากมีโอกาสในอนาคต,ข้าจะเป็นอาจารย์สอน.”

ซูเห่ารู้ว่าอู๋หยุนเทียนเข้าใจความหมายของเขา.

หากเขาพ่ายแพ้,อู๋หยุนเทียน,จะเป็นคนสืบทอด,ส่งต่อความรู้ในตำราทั้งสองเล่มนี้ออกไปอย่างลับ ๆ.

......

ซูเห่าที่เก็บข้าวขอ,ก่อนที่จะออกจากป้อมซาซานเงียบ ๆ,เขาที่ไปถึงยอดเขาแห่งหนึ่งหันกลับมามองสถานที่เขาเคยเติบโต ครุ่นคิดอะไรเล็กน้อย.

เขาพ่นลมหายใจยาว,เดินต่อไป,หายเข้าไปในป่าเขาลำเนาไพร.

หลังจากที่เขามาถึงพื้นที่ไร้ผู้คน,เขาก็นำเกราะพิเศษออกมาสวม, เขาไม่มีทั้งสุขและทุกข์,จากนี้ไปเขาจะเรียกตัวเองว่า นักเดินทาง.

น่าเสียดายใบหน้าที่หล่อเหลาผู้นี้จะไม่มีคนรู้จักอีกต่อไป.

หนึ่งเดือนหลังจากนั้น,ในเมืองเล็กที่มีชื่อว่าเมืองกู่หยาง,ในสถานที่เต็มไปด้วยผู้คน,ปรากฏร้านอาวุธแห่งหนึ่งขึ้น.

ร้ายแห่งนี้มีขนาดใหญ่มาก,เถ้าแก่ร้านนี้เองก็มีหัวใจที่กว้างขวาง,ด้านในขายทั้งเกราะและดาบยาว,ทว่าอาวุธและเกราะของเขานั้นแตกต่างจากร้านอื่น,ดาบไม่มีมากนัก,ทว่าเกราะนั้นมีมากมาย.

หากแต่นั่นไม่ใช่สิ่งสำคัญ,สิ่งสำคัญคือดาบและเกราะนั้นไม่ได้อยู่บนชั้นที่ดูเลอค่า,แต่กองรวมกันอยู่,ไม่ต่างกันกองขยะ!

ใครขายของแบบนี้กัน? นี่ไม่ต่างจากนำขยะมาขายไม่ใช่รึ?

อย่างไรก็ตามดาบและเกราะที่นำมาวางกองซ้อนกันนั้นกับแวววับ,ไม่มีฝุ่นจับ,ราวกับเป็นของล้ำค่าที่มีราคาสูงมาก.

หลาย ๆ คนที่เคยทำธุรกิจมาก่อน,แต่ไม่เคยเห็นคนทำธุรกิจเช่นนี้เลย

นอกจากนี้ผู้คนยังเห็นเถ้าแก่ร้ายอาวุธ,ที่ปกปิดตัวเองเห็นเพียงตา,ไม่รู้ว่ามีรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร.

ร้านอาวุธแห่งนี้,เป็นร้านที่ซูเห่าเปิดขึ้น,ซึ่งเขาใช้เงินจากการขายรูปแบบสัตว์ร้ายเป็นเงินจำนวนมากแล้วเปลี่ยนมันเป็นดาบและเกราะกองพื้นเหล่านี้.

เขาที่พัฒนาสลักรูนอักขระ,ใช้เวลาวาดสลักทั้งวันทั้งคืนเพื่อสร้างดาบและเกราะ.

ดาบยาวสลักด้วยอักขระ“แข็ง” และ “ทะลวง” ส่วนเกราะนั้นสลักด้วยอักขระ“แข็ง” และ “ม่านพลัง”

เริ่มด้วยการเปิดการขายด้วยสินค้าที่มีระดับต่ำก่อน,เมื่อเป็นที่นิยมค่อยนำสินค้าระดับสูงออกมาขาย.

เปิดทำการวันแรก,มีนักรบหัวล้านและสหายสองคนเข้ามาในร้านของซูเห่า,นักรบหัวล้านชี้ไปยังดาบยาว,เอ่ยถามออกมาว่า“เถ้าแก่,ดาบนี้ขายอย่างไร?”

ซูเห่าที่สวมเกราะแวววับ,ที่เอวห้อยแขนดาบยาวสองเล่ม,ดูไม่ธรรมดา,หมวกเกราะที่ปกคลุมจนทั่ว,มองเห็นแค่ตาสองข้าง,ดวงตาเป็นประกายน่าเกรงขาม.

ซูเห่าที่สลักอักขระ“เท่” ไว้บนชุดเกราะของเขาด้วย,ทำให้มันดูสง่างาม,สร้างความประทับใจแก่ผู้จ้องมอง.

นอกจากนี้ยังมีอักขระ“แข็ง” “โก่งโค้ง” “ม่านพลัง” “สว่างจ้า” “สั่นสะเทือน” “ดูดแสง” “เปลี่ยนหน้าตา,ทุกรูนอักขระถูกสลักตั้งแต่หัวจรดเท้า.

ดาบของเขาเองก็มีรูนอักขระสี่ตัว“แข็ง” “คม” “ทะลวง” “หมุนวน”

ส่วนดาบสั้นอีกเล่มนั้นสลัก“แข็ง” “คม” “ทะลวง” “กัดกร่อน”

ดาบทั้งสองล้วนแต่เป็นอาวุธชั้นยอดของยุคนี้เลยก็ว่าได้.

คุณภาพระดับตำนาน.

ซูเห่าที่ต้อนรับแขก,พร้อมกับเอ่ยต้อนรับด้วยความอบอุ่น“เชิญ ๆ,นี่เป็นการเปิดร้านวันแรก,อาวุธและชุดเกราะ,ลดทั้งหมด 20% ทว่าจำกัดการขายคนละชิ้น.”

เขาชี้ไปที่กองของดาบยาว“ดาบยาวเหล่านี้,ทุกท่านคงเห็นว่ามันไม่เหมือนใครในโลกใบนี้,มันมีความแข็งและพลังเจาะทะลวงสัตว์ร้ายได้อย่างง่ายดาย,ความแข็งของมันนั้นเหนือจินตนาการ,สามารถทดสอบดูได้,สิ่งเหล่านี้มีคุณภาพสูง,ใครมาก่อนได้ก่อน,ซื้อก่อนหมดก่อน!”

นักรบหัวล้านและสหายจ้องมองหน้ากันและกัน,มีตัวอักษร“โกหก” คำโตส่องสว่างในดวงตาของพวกเขา.

ชายหัวล้านที่ก้าวเข้าไป,เอ่ยถามอย่างไม่ใส่ใจ“ดาบยาวมีราคาเท่าไหร่?”

“เพียงแค่ 20 เงิน! หลังจากลดแล้ว 20% มีราคาเพียง 16 เงินเท่านั้น!”ซูเห่าที่ตอบกลับออกมาในทันที.

ดาบยาวทั่วไป,คุณภาพดี,มีราคาเพียง 8 เหรียญเงิน,ซูเห่ากับขาย 20 เหรียญเงิน,นี่คือราคาที่สูงมาก,อย่างไรก็ตามในความเห็นของซูเห่านั้นราคานี้ไม่แพงเลย,เพราะคุณภาพมันสูงมาก,ต้องไม่ลืมว่ามันได้สลักรูนอักขระลงไปถึงสองตัว.

“แพงมาก!”นักรบหัวล้านเต้นโหยง,ถอยกรูด ๆดึงลากสหายออกไปทันที.

ซูเห่าที่ก้าวออกไป,เอ่ยเสียงดัง“ช้าก่อน! บิดาให้เจ้าไปแล้วรึ?”

“ปรมาจารย์!”นักรบหัวล้านและสหายทั้งสองเต็มไปด้วยความประหลาดใจ.

พวกเขาที่ได้แต่ร้องโหยหวนในใจ“จบกัน,พบเข้ากับปรมาจารย์บังคับขายซะแล้ว,หากรู้แบบนี้ไม่เข้ามาดีกว่า,ไอ้ความสงสัยบัดซบ!”

ซูเห่าที่จ้องมองไปยังกองดาบ,เอ่ยเสียงดัง“ไปลอง!”

ทั้งสามที่ถูกซูเห่าบังคับ,ไม่กล้าเอ่ยอะไร,ได้แต่ต้องยอมทำตาม.

ซวยเหลือหลายที่มาพบกับปรมาจารย์ที่นี่,ทำได้แค่ต้องเชื่อฟัง,ไม่เช่นนั้นคงประสบความทุกข์ทรมานอย่างช่วยไม่ได้เป็นแน่.

หลังจากที่ซูเห่าส่งดาบยาวให้เขา,จากนั้นก็สอนพวกเขาใช้งาน“เจ้าเห็นร่องเล็ก ๆ นั่นใหม? ตรงนั้นคือจุดเติมจิงซีลงไป.”

“ช้า ๆ,อย่างเร่งรีบ,ต้องรักษาพลังงานให้สม่ำเสมอ!”

“ลองดู!”

ในเวลานั้น,ชายหัวล้านที่กระตุ้นรูนอักขระบนดาบ.

ดาบยาวที่มืดตอนแรก,ราวกับสูญเสียความมันเงาไป,ทว่าหลังจากกระตุ้น“แข็ง” ดาบก็เริ่มส่องประกายแสงเรื่อย ๆ,จากนั้นอักขระ“ทะลวง”ก็ทำงานเพิ่มอีก.

ซูเห่าที่ชี้ไปแผ่นโลหะที่วางบนถนน“ตรงนั้น,ทดสอบเสียบดาบลงไป.”

ชายหัวล้านที่ค่อนข้างกระวนกระวายที่ถูกซูเห่าบังคับ,ทว่าใบหน้าก็เผยความสงสัยเป็นอย่างมาก,เป็นประสบการณ์ที่ไม่เคยพบมาก่อน.

เขาทำตามคำแนะนำของซูเห่า,ก้าวไปยืนอยู่ด้านหน้าแผ่นเหล็กหนา.

“ซี่!”

ดาบยาวที่ทะลวงแผ่นเหล็กได้อย่างง่ายดาย.

ชายหัวล้านที่สูดหายใจที่เย็นยะเยือบ,จ้องมองดาบยาวในมือ,ดวงตาเป็นประกายราวกับพบหญิงงามที่ยากจะหาพบได้.

สหายชายหัวล้านเองก็ไม่อยากเชื่อ,เอ่ยกล่าวต่อชายหัวล้านเสียงเบา“ถูจื่อ,แผ่นเหล็กนั่นมีปัญหาหรือไม่?”

ซูเห่าไม่กล่าวให้มากความ,ยื่นมือออกไปดึงดาบของสหายชายหัวล้านออกมา,พร้อมกับยื่นให้กับฝ่ายตรงข้าม,ทำราวกับเป็นดาบของตัวเอง.

ชายหัวล้านที่รับดาบมางง ๆ,ก่อนที่จะฟันลงไปยังแผ่นเหล็ก.

“เคร้ง!”

เสียงดังกึกก้อง,มีเพียงแค่รอยเล็ก ๆ บนแผ่นเหล็ก,แต่ไม่อาจทะลวงเข้าไปได้.

“แฮก-”

ทั้งสามที่สูดหายใจเย็นยะเยือบเข้าไป,จ้องมองหน้ากันและกัน,แววตาที่เต็มไปด้วยความเหลือเชื่ออย่างชัดเจน.

สหายทั้งสองของชายหัวล้าน,ได้ทดลองดาบด้วยเช่นกัน,หลังจากใส่จิงซีเข้าไปในร่องตามที่ซูเห่าบอก,รูนอักขระก็ถูกเปิดทำงาน,เล็งไปยังแผ่นเหล็ก.

“ซี่!”

“ซี่!”

ดาบยาวทะลวงแผ่นเหล็กได้ราวกับทะลวงแผ่นเต้าหู้.

เรื่องนี้มันเหนือกว่าความรู้ความเข้าใจของพวกเขาไปอย่างสิ้นเชิง.

ชายหัวล้านที่กระตุ้นรูนอักขระอีกครั้ง,แทงดาบลงไป.

ยังคงทะลวงแผ่นเหล็กได้อย่างง่าย ๆ.

ชายหัวล้านที่ดึงถุงเงินออกมาทันที“เถ้าแก่,ดาบนี้ข้าต้องการ!”

“ข้าเองก็ด้วย!”สหายทั้งสองที่นำเงินออกมา.

ชายหัวล้านเอ่ย“ข้าต้องการซื้อห้าเล่มเลย!”

ซูเห่าเอ่ย“แต่ละคนซื้อได้อย่างละเล่ม.”

ชายหัวล้านเอ่ย“มีกฎด้วยรึ?”

ซูเห่าเหลือบมอง“หืม?”

“มี...มีจริง ๆด้วย!”

ซูเห่าที่รับเงินมา,ก่อนที่จะส่งสมุดคู่มือออกไป“นี่คือข้อควรระวังและบำรุงรักษาดาบ,เจ้าต้องอ่านอย่างระเอียด,และทำตามอย่างเคร่งครัด,ไม่เช่นนั้นมันอาจจะเสียหาย,ซึ่งข้าจะไม่รับคืน.”

ในเวลานั้น,ผู้คนด้านนอกที่อดรนทนไม่ได้อีกต่อไป,เอ่ยออกมาว่า“เถ้าแก่,ดาบนั่นข้าเองก็ต้องการ! อย่างไรก็ตามข้าต้องการทดลองด้วย,หากร้ายกาจจริง,ข้ายินดีจ่ายเงิน.”

“ข้าด้วย,ข้าด้วย!”

“เกราะล่ะ? เกราะมีราคาเท่าไหร่?”

“ถูจื่อ,เจ้ามีเงินพออย่างงั้นรึ? ถึงจะซื้อเกราะ!”

“ไม่!”

“เช่นนั้นก็รีบไปหา,ข้าเกรงว่าหากช้ามันจะไม่เหลือ.”

“ใช่ ๆ! รีบกลับเร็วเข้า,ไปหาผู้บัญชาการนำคนมาซื้อ!”

ร้านอาวุธของซูเห่าที่เริ่มคุกคักขึ้นมาทันที.

ปล.คนแปลไม่สบายนะครับ เลยแปลได้วันละตอน ขออภัยในความไม่สะดวกด้วย.

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด