ตอนที่แล้วChapter 73 Changes the strength of the world
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 75 Travelers

Chapter 74 I came


我来了

ซูเห่าอยู่ในพื้นที่รกร้าง,เขายังคงทำการวิจัยเหมือนเช่นแล้วมา,มีเพียงแค่เปลี่ยนสถานที่ไปเรื่อยในการวิจัยเท่านั้น.

มีเข้าเมืองมาบ้างเป็นครั้งคราวเพื่อซื้อเติมวัตถุดิบอุปกรณ์เครื่องใช้ที่จำเป็น.

จนกระทั่งเขาแวะเวียนมาถึงเมืองหลวงเผ่าพันธุ์มนุษย์,เมืองเหออัน.

เพื่อที่จะค้นหาวัสดุอุปกรณ์ทุกชนิด,จำเป็นต้องเข้าใจองค์ความรู้ทั้งหมดที่เผ่ามนุษย์มีอยู่.

เขาที่ลองทดสอบค้นหาว่าจะมีวัตถุดิบอะไรหรือไม่ที่สามารถใช้สะกดจิงซีเอาไว้ได้,จากนั้นจะทำให้เขาสามารถเตรียมรูนอักขระล่วงหน้าเอาไว้ได้.

ซูเห่าที่กำลังทดสอบค้นหาวิธีหาวัตถุดิบที่ใช้เก็บจิงซี,ตลอดจนวัตถุดิบที่เป็นเหมือนกับสายไฟวงจรถาวรที่สามารถฝังมันลงไปบนอาวุธหรือชุดเกราะ,เมื่อต่อสู้เมื่อใส่จิงซีเข้าไป,สามารถทำให้รูนอักขระนั้นทำงานได้ในทันที.

ใช่แล้วซูเห่าต้องการวาดสลักรูนอักขระเอาไว้ก่อน,โดยไม่ต้องวาดสลักทุกครั้งเมื่อใช้งาน,ต้องไม่ลืมว่าเมื่อสลักรูนอักขระลงไปแล้วหากไม่มีจิงซีหล่อเลี้ยงมันจะหายไปในเวลาสามวัน.

อย่างไรก็ตาม,ซูเห่าไม่อาจทำสำเร็จ,ดูเหมือนว่าในโลกนี้จะไม่มีวัตถุดิบเช่นนั้น,หรืออาจจะมีแต่ยังไม่ค้นพบหรือบันทึกเอาไว้,กล่าวได้ว่าองค์ความรู้ชั้นสูงนั้นไม่มีปรากฏให้คนทั่วไปได้ศึกษาเลยแม้แต่น้อย.

กระทั่งนักสลักรูนอักขระที่มีในโลกนี้ยังทำได้แค่ศึกษาอย่างลับ ๆ,ไม่มีการพูดคุยหารือกันในวงกว้าง,เป็นสิ่งที่น่าผิดหวังเป็นอย่างมาก.

ไม่มีวัตถุดิบที่ใช้เก็บจิงซีจริง ๆ อย่างงั้นรึ?

เป็นไปไม่ได้!

ซูเห่าเชื่อว่าต้องมีวัตถุดิบที่สามารถใช้เก็บจิงซีเอาไว้ได้.

ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะควบคุมจิงซีมันได้อย่างไร,เหล่าจอมยุทธ์แทบทั้งหมดสามารถควบคุมจิงซีได้,เช่นนั้นก็ต้องมีวิธีในการสะกดจิงซีแน่นอน.

ซูเห่าที่ครุ่นคิดอย่างรวดเร็ว,คิดในมุมที่ต่างออกไป.

“บางที....ไม่อาจสะกดได้อย่างงั้นรึ?”

จิงซีนั้นเป็นพลังชีวภาพ,พลังงานดังกล่าวนั้นต้องฝังอยู่ในสิ่งมีชีวิตอยู่ในเซลล์,เมื่อแยกออกมาจากร่าง,พลังในการควบคุมก็จะค่อย ๆ สลายหายไป.

ยกตัวอย่างจิงซีที่ถ่ายออกมาเคลื่อนย้ายไปยังดาบยาว,แม้นว่าจะปะทุพลังที่แข็งแกร่งได้,ทว่าก็ไม่อาจทำให้ดาบยาวทรงพลังอยู่ได้ตลอดเพราะดาบยาวนั้นไม่มีชีวิต.

ซูเห่าที่ครุ่นคิดเกี่ยวกับจิงซี“กล่าวอีกนัยหนึ่ง,การปรับแต่งจิงซีจะต้องอยู่ในสิ่งมีชีวิต,ไม่อาจกักเก็บในสิ่งที่ตายไปแล้ว!”

หากต้องการปรับแต่งจิงซี,ก็ต้องปรับปรุงวัตถุดิบที่สลักลงไปด้วย.

ซูเห่าที่ดวงตาเป็นประกาย“เช่นนั้น,ควรจะเติมอะไรลงไป,ทำให้วัตถุเป็นของเหลวอ่อนนุ่มเหมือนเซลล์,ก็จะทำให้กักเก็บจิงซีได้หรือไม่?”

ควรค่าที่จะทดลอง.

แผ่นสลักของซูเห่าเริ่มแรกนั้นทำมาจากโลหะ,เวลานี้เขาได้เปลี่ยนให้มันเป็นฝุ่นผง,จากนั้นพยายามที่จะเคลื่อนจิงซีไปบนแผ่นสลักแบบใหม่.

ล้มเหลว!

ฝุ่นผงที่เลียนแบบชิ้นเนื้อยังถือเป็นสิ่งที่ตายไปแล้ว,ไม่อาจกักเก็บพลังชีวภาพได้อย่างราบรื่น.

แม้นว่าจะใช้งานได้,แต่ก็ไม่อาจรักษาเอาไว้ได้นาน.

ทำอย่างไรดี?

ซูเห่าที่ทดสอบวิธีการต่าง ๆ มากมาย.

ทันใดนั้น,สมองของเขาที่รู้สึกนึกอะไรขึ้นมาได้.

หนอนขน!!!

เขาที่คิดถึงเรื่องราวก่อนหน้านี้,การศึกษาผ่าชำแหละสัตว์ร้ายบางตัวนั้นมีปรสิตซ่อนตัวอยู่.

เขาจำได้ว่ามีหนอนสีทองเหมือนกับเส้นใหมที่ซ่อนตัวชอนไชอยู่ในรูปแบบสัตว์ร้าย,เขาได้ตั้งชื่อมันว่าหนอนขน.

ทว่ามันมีกลิ่นที่น่าสะอิดสะเอียนเป็นอย่างมาก.

ก่อนหน้า เขาเคยอดทนต่อกลิ่นที่ชวนอ๊วกศึกษาอยู่ช่วงระยะเวลาหนึ่ง.

เขาพบว่าหนอนขนเหล่านี้รูปร่างเพรียวบาง,แต่มีพลังชีวิตที่แข็งแกร่งมาก,ต้องใช้จิงซีในรักษาชีวิตมันเอาไว้,ทว่าเขากับมองไม่เห็นประโยชน์ของมันเลย.

ตอนนี้ดูเหมือนว่ามันจะมีประโยชน์อยู่อย่างงั้นรึ? นี่คือของขวัญสำหรับโลกนี้!

ซูเห่าพบว่าสัตว์ร้ายหลายตัวที่มีพลังสูง,ในร่างของพวกมันล้วนแต่มีหนอนขนกันทั้งนั้น.

ด้วยเหตุนี้เขาจึงได้ทำการใส่หนอนขนลงไปบนช่องว่างแผ่นจานสลัก,เป็นเหมือนกับสายไฟเชื่อมต่อจุดต่าง ๆ,ควบคุมความหนาและบางอย่างระเอียด,หลังจากนั้นเขาก็ทำการเติมจิงซีลงไป.

สำเร็จ,หลังจากเปิดใช้งาน,อักขระสว่างจ้าทำงานทันที.

สมบูรณ์แบบ.

ซูเห่าที่ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก.

นอกจากนี้หนอนขน,ยังปลอดภัยเปี่ยมล้นด้วยพลังชีวิต,นอนนิ่งราวกับว่ามันอิ่มจนแน่นท้อง.

เขาได้ทำลองซ้ำ ๆ!

เขาพบว่ามันทำงานได้อย่างราบรื่นเป็นอย่างมาก,จนทำให้เขาทดลองไม่หลับไม่นอนถึงสองวันสองคืน.

การค้นพบครั้งนี้,เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการพัฒนาโลกใบนี้.

......

ผ่านมาอีกหนึ่งปีครึ่ง.

เวลานี้ซูเห่ามีอายุ 15 ปี.

เขาเสร็จสิ้นในการสร้างรูนอักขระพื้นฐาน,รูนอักขระทั้งหมดที่เขาค้นพบได้วิเคราะห์สร้างมันขึ้นมาเป็นรหัส.

มีรูนอักขระทั้งหมด 800 อักขระรูนพื้นฐาน.

เกี่ยวกับลักษณะพิเศษของรูนอักขระพื้นฐานแบ่งออกเป็นเก้าลำดับ,แต่ละลำดับนั้นยังแบ่งออกเป็นขั้นต่าง ๆ ถึงสิบขั้น.

รูนอักขระพื้นฐานทั้ง 800 ตัวนั้น,มีการบันทึกเป็นไปตามระบบที่เขาคิดค้นขึ้นมา

ยกตัวอย่างลำดับหนึ่งรูนอักขระพื้นฐานขั้นหนึ่งก็จะแทนด้วย 11,รูนลำดับสองขั้นหนึ่งก็จะแทนด้วย 21,ลำดับสามขั้นหนึ่งก็จะแทนด้วย 31,อักขระตัวเลขตัวแรกจะเป็นสัญลักษณ์แทนปริมาณพลังงานที่ใช้ไป.

ส่วนลำดับหลังคือประสิทธิผลของมัน,ยิ่งมีจำนวนของตัวเลขมากเท่าไหร่ก็ยิ่งทรงพลังมากขึ้นเท่านั้น.

จากนั้น,เขาที่ทำการสร้างแผ่นสลักรูปแบบใหม่ขึ้นมา.

ซูเห่าที่ได้สร้างรูนอักขระบอลเพลิง,อักขระรูนโคนน้ำแข็ง,รูนเจาะทะลวง,รูนเสริมพลัง,รูนหลากหลาย,ที่ไม่อาจเห็นในสัตว์ร้ายทั่วไป.

นอกจากนี้ยังมีรูนที่ใช้ทำความสะอาจเสื้อผ้า,รูนสร้างลม,รูนฉีดน้ำความดันสูง,รูนกำจัดฝุ่น,รูนคัดลอก,รูนปิ้งย่าง,รูนไอน้ำ....

ฟังก์ชันของรูนเหล่านี้,ไม่ใช่ใช้เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตหรอกรึ?

แน่นอนว่าเขาไม่ได้แค่สร้างรูนสำหรับคนทั่วไป,เขายังสร้างรูนที่ใช้สลักลงไปบนอาวุธและชุดเกราะ.

ตลอดจนทำให้มันง่ายขึ้นที่แม้แต่จอมยุทธ์ทั่วไปก็สามารถสลักมันได้ลงบนดาบ,ซึ่งมีระบบจำลองผลของพลังที่แตกต่างกันไปด้วย.

ยกตัวอย่างรูนที่สลักลงบนดาบยาวนั้น,จะมีรูนสามตัวเช่น“แข็ง” “คม” “เจาะ” ทำให้อาวุธทรงพลังมากกว่าปรกติ.

หากทหารเมืองหลิงหยุนใช้ดาบที่มีรูนสลัก,เชื่อว่าพวกเขาจะสามารถฟันหนวดของสัตว์ร้ายเมิ่งสวีได้อย่างแน่นอน.

แม้นว่าจะยังไม่อาจต่อกรกับสัตว์ร้ายเมิ่งสวีได้,ทว่าจากก่อนหน้าไม่อาจสร้างรอยแผลได้เลย,ตอนนี้ก็ทำได้บ้างเล็กน้อย,หากช่วยกันคนละไม้คนละมือสร้างบาดแผลเล็กน้อยจำนวนมากผสมกันอาการบาดเจ็บของสัตว์ร้ายเมิ่งสวีก็จะมากขึ้นเป็นธรรมดา.

นอกจากนี้ยังสลักอักขระบนชุดเกราะ“แข็ง” “โก่งตัว” “ม่านพลัง” “สั่นสะเทือน” ทำให้มีพลังป้องกันที่แข็งแกร่งมาก,แม้แต่สัตว์ร้ายเมิ่งสวีก็ไม่อาจทะลวงผ่านมันได้.

นี่หมายความว่าอย่างไร?

นี่คือการปฏิวัติประวัติศาสตร์.

เผ่าพันธุ์มนุษย์กำลังจะเปลี่ยนไป.

นอกจากนี้,หลังจากเติมจิงซีลงไปในหนอนขน,มันจะมีชีวิตอยู่ได้ถึงหนึ่งปีครึ่ง.

หนอนขนชุดแรกที่ซูเห่าจับมา,ยังไม่ตาย,มันถูกใช้เป็นลวดลายรูนอักขระที่เปล่งประกาย,ทว่าการใส่มันลงไปในโลหะก็ทำให้มันดูไร้ชีวิตจิตใจไปเหมือนกัน.

อย่างไรก็ตามหาได้สำคัญ,ตราบเท่าที่หนอนคงยังใช้ประโยชน์ได้,ก็ถือว่ามีประโยชน์,นำความรุ่งโรจน์มาสู่เผ่าพันธุ์มนุษย์แล้ว.

หนอนขนคงไม่คิดว่าพวกมันจะน่าเกรงขามขนาดนี้,เวลานี้มันได้กลายเป็นส่วนหนึ่งอุปกรณ์ที่ช่วยเพิ่มพลังแข็งแกร่ง,โดยที่บรรพบุรุษของมันไม่อาจเทียบได้เลย.

นอกจากนี้,ซูเห่าได้เขียนตำราขึ้นมาสองเล่ม,เล่มแรก“เส้นทางนักรบ”

ข้อมูลด้านในประกอบด้วย“ผู้เริ่มต้นฝึกยุทธ์” “หลักการทะลวงคอขวดปราณโลหิต” “การสร้างแรงเหวี่ยงบนจุดชีพจร” “คลื่นยกระดับปราณโลหิตและแนวคิดเกี่ยวกับการค้นหาคลื่นยกระดับปราณโลหิต” “บันทึกการก้าวสู่ขอบเขตปรมาจารย์” “บันทึกการฝึกฝนขอบเขตปรมาจารย์” จากนั้นเขายังเพิ่มเรื่องราวเกี่ยวกับจรรยาบรรณเข้าไปด้วย“จรรยาบรรณหัวใจผู้ฝึกยุทธ์,พลังของเผ่าพันธุ์มนุษย์”

หนังสือเล่มหนาเต็มไปด้วยข้อมูลเชิงลึก,ทำให้ซูเห่าพึงพอใจเป็นอย่างมาก.

เขาที่วางแผนที่จะเผยแพร่“เส้นทางนักรบ” ไปทั่วแผ่นดิน.

หลังจากนั้น,เพี่อสะดวกในการเผยแพร่,เขาได้สร้างอีกหนึ่งเวอร์ชัน,แยกแต่ละบทออกจากกัน,ทำให้มันมีข้อมูลหลายเล่ม.

เมื่อมันเป็นที่นิยมผู้คนจะทำการรวบรวมมันกลับมาเป็นเวอร์ชันเต็มเอง,ซึ่งจะทำให้หนังสือเป็นที่สนใจและกระจายออกไปเป็นวงกว้าง.

นอกจากนี้,ตำราอีกหนึ่งเล่มมีชื่อว่า“สูตรสมบูรณ์ในการสลักวาดรูนอักขระ”

ภายในนั้นประกอบด้วย“รูนสลักจากรูปแบบสัตว์ร้าย” “การวาดสลักรูนแบบสามมิติ” “โครงสร้างทฤษฎีแผ่นสลัก” “พื้นฐานการทำให้รูนอักขระสมบูรณ์” “ตัวอย่างการสลักรูนอักขระ” “ความยอดเยี่ยมของธรรมชาติ-หนอนขน” “การใช้รูนในชีวิตประจำวันและการใช้รูนอักขระในการต่อสู้” “เป้าหมายของการสำรวจวิจัยรูนอักขระ” ท้ายที่สุดเขาก็เพิ่มจรรยาบรรณ “หลักการจรรยาบรรณนักสลักรูน,แนวคิดเกี่ยวกับการสำรวจจักรวาล”

ซูเห่าที่จ้องมองตำราทั้งสองด้วยความพอใจ,พร้อมกับลงชื่อ “นักเดินทาง.”

สมบูรณ์แบบ!

เขายกมือขึ้น,คว้าจับไปบนท้องฟ้า.

“ได้เวลาตอบแทนโลกนี้แล้ว!”

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด