Chapter 71 Silver light
银光
ในฐานเผ่าพันธุ์มนุษย์,นี่คือความรับผิดชอบที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้.
หากมีพลังเพียงพอ,ซูเห่าย่อมไม่ลังเลที่จะลงมือ.
แม้นว่าสัตว์ร้ายเมิ่งสวี(หนวดเยอะ)จะร้ายกาจ ทว่าเขามีมั่นใจพอจะปกป้องตัวเอง.
ทว่าการเอ่ยสโลแกนของพวกเขา,มันช่างน่าอาย,จนทำให้เขาไม่กล้าเอ่ยปาก.
เขาที่ครุ่นคิดครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ยออกมาเสียงดัง“ผู้น้อยอู๋เซี่ยงหวู่,หวังว่าจะได้ช่วยเหลือ.”
ทันใดนั้นทุกคนต่างก็จ้องมองไปยังซูเห่า.
หัวหงอีเหลือบไปมองเด็กน้อยใบหน้าละอ่อน,ดวงตาที่มีเส้นเลือดฝอย,เอ่ยตะโกนเสียงดัง“เด็กเม็ดแตงโมมาจากใหน,อย่าได้สร้างความวุ่นวาย,รีบหลีกไปให้ไกล.”
ซูเห่าต้องการจะเอ่ย,หัวหงอีก็เอ่ยคำรามทันที“ไปให้พ้น!”
ซูเห่าที่พูดไม่ออก,ทำได้แค่ต้องถอยออกไป,อยู่ห่าง ๆ แนวหลัง.
ภายใต้การต่อสู้ที่ต้องร่วมมือกันร่วมใจกัน,ความไว้วางใจของกันและกันย่อมเป็นสิ่งสำคัญ,คนที่ไม่ได้รับความไว้วางใจมีแต่จะเป็นภาระ,กลายเป็นตัวถ่วงสร้างความวุ่นวายเท่านั้น.
ในเมื่อไม่ได้รับความไว้วางใจ,ให้เข้าร่วมการต่อสู้,เขาจึงทำได้แต่ล่าถอยออกมาเฝ้ามองอยู่วงนอก.
ซูเห่ารู้ดีว่าผู้บัญชาการที่สวมชุดฉูดฉาดนั้น,ถึงจะแสดงท่าทางไม่พอใจ,ทว่าความจริงแล้วอีกฝ่ายกำลังปกป้องเขาอยู่,กำลังปกป้องผู้เยาว์เผ่ามนุษย์.
ในเวลานี้ สัตว์ร้ายเมิ่งสวีส่งหนวดของมันพุ่งออกมาอย่างรวดเร็ว,เข้าหากลุ่มผู้พิทักษ์,แต่ละคนที่กำลังหลบเลี่ยง.
สำหรับมันแล้ว,สิ่งมีชีวิตรอบ ๆ พื้นที่แห่งนี้นี้เป็นเพียงแค่อาหารให้มันกินเท่านั้น.
“ค้อนเขย่าขุนเขา!”
หัวหงอีที่กระโดดขึ้นไปด้านหน้าสัตว์ร้ายเมิ่งสวี,จากนั้นก็ฟาดค้อนออกไป,ยังทิศทางดวงตาของมัน.
ค้อนที่ฟาดออกไป,หุ้มด้วยน้ำแข็งหนา,เดิมทีมีขนาดเท่ากับศีรษะคน,ทว่ามันได้ขยายเท่ากับรถบรรทุก.
“ตูมมมมมมมมม!”
ค้อนยักษ์ที่ฟาดลงไปที่เปลือกตาสัตว์ร้ายเมิ่งสวี,น้ำแข็งที่แตกกระจาย,ค้อนคืนกลับรูปลักษณ์เดิม.
สัตว์ร้ายเมิ่งสวีที่หยุดชงัก,ทว่ากับไม่มีท่าทางได้รับบาดเจ็บเลย,นอกจากนี้บริเวณที่น้ำแข็งเกาะก็สลายหายไปอย่างรวดเร็ว.
กล่าวได้ว่าพลังน้ำแข็ง,ดูเหมือนว่าจะไร้ประโยชน์โดยสิ้นชิง.
ในเวลานั้นสัตว์ร้ายเมิ่งสวี,ปล่อยหนวดที่แหลมคมโจมตีออกมาทันที.
หนวดที่โจมตีใส่หัวหงอี,เขาทำได้แค่หลบเลี่ยงซ้ำแล้วซ้ำเล่า.
ถึงเขาจะเป็นขอบเขตบรรพจารย์,ก็ไม่ง่ายที่จะป้องกันการโจมตีจากหนวดของสัตว์ร้ายเมิ่งสวีได้,หากถูกมันทะลวง,ถึงจะมีระดับเท่ากัน,ก็ตายได้อยู่ดี.
ในขอบเขตบรรพจารย์,เผ่าพันธุ์มนุษย์,ย่อมเสียเปรียบสัตว์ร้ายเป็นเรื่องธรรมชาติ,เพียงแค่อาวุธและเกราะชั้นเลิศ,ที่พอจะขยับความแตกต่างให้อยู่ไม่ห่างกันมากนัก.
เป้าหมายของหัวหงอีก็คือป้องกันสัตว์ร้ายเมิ่งสวีทำลายเมือง,เขาที่ได้แต่ใช้ค้อนโจมตีเพื่อหยุดอีกฝ่ายเอาไว้,ซึ่งตอนนี้มันได้มุ่งโจมตีมายังเขาแล้ว,ถือว่าเป้าหมายแรกเริ่มสำเร็จ.
ในเวลานั้นหัวหงอีสั่งการเสียงดัง“นักรบทุกคนเข้าประจำตำแหน่ง,โจมตีจากสามจุด,ขับไล่มันออกไปจากเมืองหลิงหยุนจากเส้นทางเดิม.”
“กองกำลังที่หนึ่ง,รับผิดชอบขับไล่ปีกซ้าย,กองกำลังที่สองรับผิดชอบขับไล่ปีกขวา,กองกำลังที่สามผลักดันด้านหน้า,เข้าโจมตีพร้อมกับข้า.”
“กองกำลังที่หนึ่งรับคำสั่ง!”
“กองกำลังที่สองรับคำสั่ง!”
......
หลังจากสั่งการเสร็จ,หัวหงอีรับผิดชอบขับไล่สัตว์ร้ายโจมตีออกไปตรง ๆ ด้านหน้าให้มันถอยออกไป.
สัตว์ร้ายเมิ่งสวีที่ถูกกระหน่ำโจมตีจากสามทิศ,ทำให้มันรู้สึกเจ็บเริ่มถอยออกไปสองสามก้าว.
อย่างไรก็ตามเวลานี้ดวงตาเขียวเล็กของมัน,ที่กวาดตามอง กำลังโกรธเกรี้ยว“ฟิ้ว-”ฟิ้ว-“ฟิ้ว-”
พริบตานั้น,สัตว์ร้ายเมิ่งสวีปล่อยหนวดมากมายมหาศาลโจมตีไปยังกลุ่มนักรบทันที.
“ถอย!”หัวหงอีที่ตะโกนดัง,สั่งการ,ค้อนในมือของเขาที่ฟาดออกไป,ปะทะกับหนวดที่โจมตีมา.
บางคนก็ยกดาบฟาดฟันไปด้านหน้า.
“!”
ประกายดาบที่ส่องสว่าง,หนวดสองเส้นที่ถูกตัดล่วงหล่นลงพื้น.
อย่างไรก็ตาม,ไม่ใช่ทุกคนที่แข็งแกร่ง,นักรบขอบเขตจอมยุทธ์จำนวนมาก,ที่ตอบสนองไม่ทัน,ถูกหนวดทะลวงร่าง.
กระทั่งปรมาจารย์ขั้นต้นที่หลบหนวดได้,แต่ก็ถูกมันเกี่ยวรัดร่างเอาไว้ทันที.
ปรมาจารย์หลายคนที่ร้องตะโกนลั่นใช้ดาบกระตุ้นจิงซีพยายามตัดหนวดอย่างรุนแรง.
“เคร้ง!”
เสียงโลหะปะทะกันดังกังวาน.
ความแข็งแกร่งของปรมาจารย์,ทำได้แค่สร้างรอยแผลเล็ก ๆ บนหนวดเท่านั้น.
หัวหงอีที่เหวี่ยงค้นออกไปเพื่อช่วยคนอื่น,แต่ทันใดนั้นหนวดมากมายก็เข้ามาปิดกั้น,ทำให้เขาได้แต่มองเหล่าปรมาจารย์รุ่นน้องถูกลากดึงเข้าไปในปากของสัตว์ร้ายเมิ่งสวี.
ปรมาจารย์คนดังกล่าว,หัวหงอีที่จำได้ว่าเขาเพิ่งยกระดับขึ้นมา.
หัวหงอีส่ายตาสั่นส่ายได้แต่มองนักรบมากมายถูกโจมตีดึงลากเข้าไปกินอย่างช่วยไม่ได้,เขาเองก็ทำได้แค่โจมตีออกไป,สร้างความเสียหายเล็กน้อย,คนอื่น ๆ นั้นไม่อาจสร้างบาดแผลให้กับมันได้เลย,ปัญหาคือไม่อาจทะลวงเกราะหนา ๆ ของมันได้นั่นเอง.
ขอบเขตปรมาจารย์สูงก็ไม่อาจสร้างความเสียหายได้,ทำได้แค่ทำให้มันหยุดชั่วครั้งชั่วคราว,สัตว์ร้ายเมิ่งสวียังคงโจมตีเมืองต่อ,เข้าสังหารเหล่าพลเมือง.
หัวหงอีที่กัดฟัน,แต่กัดฟันเอ่ยกับตัวเอง”จะต้องต้านทานเอาไว้,รอให้เจ้าเมืองหลูและเซียวจีกลับมาจากข้างนอก,ค่อยร่วมมือกันไล่มันออกไป.
สัตว์ร้ายหนวดที่ยังคงโจมตีไม่หยุด,ค้อนน้ำแข็งที่ฟาดออกไปซ้ำแล้วซ้ำเล่าเช่นกัน
เหล่านักรบเองก็ไม่ลังเลพร้อมกับโจมตีออกไปด้วยเช่นกัน.
“เจาะเกราะ!”
“ทะลวง!”
“สั่นไหว!”
“กระแทก!”
“อุณหภูมิสูง!”
“กัดกร่อน!”
เหล่าปรมาจารย์ที่โจมตีออกไปบางทีอาจจะไม่ได้กลับมา,ทว่าพวกเขาคือนักรบ,ที่ต้องแบกรับความรับผิดชอบผู้คนเอาไว้ ไม่อาจถอยได้.
สัตว์ร้ายเมิ่งสวีถูกค้อนน้ำแข็งฟาด,ถอยออกไปก้าวหนึ่ง,เหล่านักรบทั่วไปที่โจมตีราวกับห่าฝน,ลงไปบนร่างของอสูรเมิ่งสวี.
“ฟิ้ว-”
สัตว์ร้ายเมิ่งสวีที่ไม่ยอม,มันยังคงปล่อยหนวดมากมายของมันต่อ.
หนวดนับไม่ถ้วน,ไม่อาจนับได้ทั้งหมดที่โจมตีดึงลากกินเหยื่ออย่างเอร็ดอร่อย.
การต่อสู้,นักรบมากมายที่ถูกสัตว์ร้ายเมิ่งสวีกลืนกิน,ทั้งจอมยุทธ์,ปรมาจารย์,ที่ได้แต่ร้องโหยหวน,ไม่มีใครช่วยใครได้.
อย่างไรก็ตามไม่มีใครหนี,ภายใต้การนำของหัวหงอี,ยังคงพยายามขับไล่มันกลับไปยังเส้นทางเดิม.
อย่างไรก็ตามทุกหนึ่งก้าวที่มันถอยไป,มันได้สังหารนักรบไปมากกว่าสิบคน.
ซูเห่าที่เห็นนักรบถูกสังหารคนแล้วคนเล่า,แต่ไม่มีใครหวาดกลัวต่อความตาย,ไม่มีใครหลบเลี่ยงแม้แต่คนเดียว.
“ข้าเป็นนักรบหรือไม่?”ซูเห่าที่ครุ่นคิดในใจ,เขาที่ซ่อนตัวอยู่ในสิ่งก่อสร้างแห่งหนึ่ง.
“ใช่! ข้าเป็นนักรบของเผ่าพันธุ์มนุษย์!”
......
เมื่อนักรบแนวหน้าลดน้อยลง,พวกเขาก็เกณฑ์นักรบเข้าไปเพิ่ม,ช่วยกันโจมตี.
หากแต่ไม่ว่าจะโจมตีอย่างไรก็ไม่อาจสร้างบาดแผลให้กับสัตว์ร้ายตัวนี้ได้เลย,ทว่าพวกเขาก็ยังคงโจมตีต่อไปไม่หยุดเพื่อสนับสนุนหัวหงอี.
ไม่มีใครโต้แย้งใด ๆ.
เพียงไม่นาน,นักรบชั้นยอดแทบจะหายไปจนหมด,บนร่างของสัตว์ร้ายเมิ่งสวีที่เป็นรอยขีดข่วน,มีน้ำแข็งเกาะอยู่,ดูเหมือนมันจะบาดเจ็บเล็กน้อย,ทว่าเวลานี้กับทำให้มันบ้าคลั่งปล่อยหนวดโจมตีออกไปอย่างหนักหน่วงรุนแรงมากกว่าเดิม.
เหล่านักรบที่เหลือน้อยเต็มทนเวลานี้เต็มไปด้วยความกดดัน,กำแพงเมืองที่พังทลายลงก็ยังอยู่อีกไกล.
อย่างไรก็ตามนักรบทั้งหมดก็ยังไม่ถอดใจ.
ซูเห่าที่ตรงไปยังร้านขายอาวุธเวลานี้ไม่มีใครอยู่แล้ว,เขาทำการเปลี่ยนชุดเกราะ,สวมหมวกโลหะ,เลือกชุดที่ปิดมิดชิดทั่วร่าง,เห็นเพียงแค่ดวงตา.
เขาชักดาบยาวออกมา,ก่อนจะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วมุ่งหน้าสู่ทิศทางของสัตว์ร้ายเมิ่งสวี.
เขาต้องการโจมตีสัตว์ร้ายเมิ่งสวีด้วยพลังทั้งหมดที่มี.
อย่างไรก็ตามเขาไม่ต้องการให้ใครรู้ตัวตนของเขาด้วย.
เขารู้ดีหากมีใครรู้ว่าเขามีความรู้ขั้นสูงเกี่ยวกับรูนอักขระหลายอย่าง,เขาอาจเรียกหายนะเข้ามาหาได้.
......
เหล่าปรมาจารย์ยังคงปิดกั้นการโจมตีของสัตว์ร้ายเมิ่งสวี.
เฟิงม่านเอ๋อที่มุมหนึ่งกำลังพัวพันปะทะกับหนวดของสัตว์ร้ายทันใดนั้นหนวดยาวก็พันม้วนร่างของนาง.
เหล่าหลิวเห็นเขาอีกฝ่ายกำลังถูกหนวดรัดพัน,ร้องดัง“ม่านเอ๋อ!”
เขาไม่สนการโจมตีอื่น พุ่งเข้าไปหา เฟิงม่านเอ๋อ.
“ฟิ้ว!”เหล่าหลิวที่พุ่งเข้าไปพร้อมกับฟาดฟันหนวดที่รัดพันเฟิงม่านเฟิง.
“พรึด-”
“!”
หนวดเส้นหนึ่งที่ทะลวงร่างเหล่าหลิวพร้อมกับดึงม้วนลากร่างของเหล่าหลิวไป,ทว่าดาบของเหล่าหลิวเวลานี้ได้ตัดหนวดอีกเส้นที่พันร่างของเฟิงม่านเอ๋อขาดไปแล้วไม่อาจช่วยตัวเองได้.
เฟิงม่านเอ๋อที่ตื่นตะลึง,จ้องมองเหล่าหลิวด้วยความเหลือเชื่อ.
หนวดเส้นนั้นได้ลากเหล่าหลิวดึงกลับไปยังร่างของมัน,เหล่าหลิวที่ราวกับว่าสิ้นหวังรอคอยความตาย.
ในเวลาเดียวกัน,ริ้วแสงสีเงินจากที่ไกลออกไป,ระเบิดความเร็วพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว.
“ม่านพลัง!” “โก่งโค้ง!” “แข็ง!” “สว่างจ้า!” “ปะทุ!” “สั่นสะเทือน!” “แหลมคม” “เจาะทะลวง!” “กัดกร่อน!” “โคจร!” “จุดระเบิด!” “มึนงง!”.........