Chapter 68 Grand preceptor level
太师级
ซูเห่าพบอะไร?
เขาพบว่า,รูปแบบสัตว์ร้ายนั้นไม่ได้เรียบแบน,แต่มีการออกแบบเป็นสามมิติ.
ที่บอกว่าสามมิติ,ไม่ได้หมายว่ารูปลักษณ์เป็นสามมิติ,ทว่าฟังก์ชันของมันเป็นสามมิติ.
รูปแบบสัตว์ร้ายแบ่งออกเป็นพื้นที่ย่อยสามส่วน,แต่ละส่วนเป็นฟังก์ชันที่อยู่กันคนละทิศทาง,เป็นระบบที่ต้องทำงานผสานกัน,ไม่อาจบอกได้จากรูปลักษณ์ของรูปแบบ.
การทำงานของพื้นที่ย่อยจากสามทิศทางนั้นถูกซ่อนเอาไว้ด้านใน,เพื่อให้รูปแบบสัตว์ร้ายทำงานได้อย่างราบรื่น.
ยกตัวอย่าง“ม่านพลัง” “สว่างจ้า” “ความร้อนสูง” “การสกัด” และอื่น ๆ,พวกมันจะทำงานภายใต้การทำงานผสานกันจากฟังก์ชันทั้งสามที่อยู่ในสามมิติต่างกัน.
ดังนั้นซูเห่าจึงแบ่งพื้นที่ทั้งสามเป็นพื้นที่ย่อยบนจานสลัก,เป็นพื้นที่ X ด้านข้าง พื้นที่ y ตรงกลาง และพื้นที่ z ด้านนอก
เขาได้วางโครงสร้างและส่วนเชื่อมจำนวนมาก,ออกแบบให้กับโครงสร้างมิติทั้งสามเชื่อมต่อกัน,เพื่อให้แผ่นจากสลักทำงานได้ทั้งหมด,มีลูบการทำงานที่เป็นเอกลักษณ์.
ท้ายที่สุดหลังจากทดสอบและแก้ไขซ้ำแล้วซ้ำเล่า,จานสลักรุ่นที่หนึ่งก็สำเร็จ.
หลังจากนั้น ซูเห่าได้เลือกรูปแบบสัตว์ร้ายอย่างง่ายที่สุด“สว่างจ้า” โครงสร้างของมันได้ถูกย่อยเป็นรูนอักขระอย่างง่าย,ใส่ลงในจานสลัก,หลังจากปรับแต่งเสร็จสิ้น,ก็สามารถทำงานได้จริง.
ซูเห่าสามารถใช้โครงสร้างรูนอักขระอย่างง่ายที่แยกย่อย ประกอบขึ้นมาใหม่สักวาดรูนอักขระบนจานสลัก,ทำให้รูปแบบสัตว์ร้ายทำงานได้อย่างสมบูรณ์เป็นครั้งแรก.
สำหรับซูเห่า เวลานี้,นับว่าเป็นความก้าวหน้าที่สำคัญ.
การใช้รูนอักขระย่อยผสานกับจานสลักสามารถเลียนแบบพลังสัตว์ร้ายได้เป็นครั้งแรก,นี่คือความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่.
เขาเชื่อว่าวันข้างหน้า,เขาจะสามารถสร้างรูนพื้นฐาน,แยกย่อยและมีความสามารถใช้งานได้อย่างอิสระตามใจชอบ.
อย่างไรก็ตามเขาไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับนวัตกรรมใหม่ครั้งนี้,ทว่าก่อนอื่นจะต้องนำรูนอักขระทั้งหมดปรับแต่งให้สามารถใส่ลงในจานสลักได้ทั้งหมดซะก่อน.
......
เขาได้ทุ่มเทใช้เวลาทั้งหมดกับเรื่องดังกล่าว,วันเวลาที่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว.
ซูเห่ายังคงอยู่ในพื้นที่รกร้าง,ศึกษารูปแบบสัตว์ร้าย,แทบจะลืมวันเวลาไปแล้ว,คิดเพียงแค่ทำเรื่องเล็ก ๆ นี้ให้เสร็จสมบูรณ์,เวลาก็ผ่านมาหนึ่งปีแล้ว.
ในปีนี้,ซูเห่ามีอายุ 14 ปี.
ทว่าระหว่างปีนั้น,เขาได้ทำเป้าหมายแรกของเขาสมบูรณ์แล้ว,สามารถใส่รูนอักขระสร้างรูปแบบปรับปรุงใหม่อย่างง่ายลงบนแผ่นสลักได้ทั้งหมดแล้ว.
แผ่นสลักนี้เป็นรุ่นปรับปรุงครั้งที่ห้าแล้ว.
กล่าวได้ว่ารูปแบบสัตว์ร้ายรูปแบบใหม่นี้ไม่ได้ซับซ้อนโหดหินอีกต่อไปแล้ว.
รูปแบบสัตว์ร้ายที่ปรับปรุงใหม่นี้,ไม่ได้ซับซ้อนโหดหินเหมือนกับรูปแบบเดิมที่ต้องให้คนที่มากพรสวรรค์ มีความทรงจำที่พรั่นพรึงถึงจะทำสำเร็จ,เวลานี้ใครก็สามารถจำรูปแบบอย่างง่ายนี้ได้.
หากใช้รูปแบบสัตว์ร้ายอย่างง่ายใหม่ของเขาไม่ว่าจะเป็นใครก็เป็นปรมาจารย์ได้.
สำหรับซูเห่าโครงสร้างอย่างง่ายที่สลักลงบนจานสลักสำเร็จ,ยังสามารถใช้รูนพื้นฐานเหล่านี้มาใช้งานได้ด้วย.
การวาดสลักรูนอักขระรูปแบบใหม่นี้ทำให้การสลักรูนง่ายลงมากกว่าเดิมร้อยเท่า.
กล่าวได้ว่าในวันข้างหน้าจะมีขอบเขตปรมาจารย์เดินอยู่ทั่วทุกหนแห่ง.
“ข้าใช้ความพยายามสร้างพื้นฐานรูนอักขระ,เขียนสลักลงบนจานสลักทำให้ง่ายได้ในที่สุด,อย่างไรก็ตามเวลาก็ผ่านไปเร็วจริง ๆ,พริบตาเดียวก็ผ่านมาสองปีแล้ว,คงต้องกลับป้อมซาซานสักหน่อย.”ซูเห่าที่ดึงจิตสำนึกออกจากพื้นที่พินบอล,ลุกขึ้น,พลางเอ่ยพึมพำ.
ซูเห่าเวลานี้เหมือนกับคนจรจัดเป็นอย่างมาก,ใบหน้าของเขาที่มีผมหยิกหยอยมีเพียงดวงตาที่ดูสะอาด,ส่วนอื่น ๆ นั้นดูไม่ได้เลย,สกปรกไปหมด.
ซูเห่าเก็บข้าวของทั้งหมด,อุปกรณ์เครื่องมือ,ใส่ลงในกระเป๋าเป้.
“ต้องเข้าเมืองใกล้ ๆ ปรับสภาพตัวเองก่อน.”
ซูเห่าที่เข้าไปยังเมืองเล็กที่มีชื่อว่าเมืองซ่วงซือ.
อย่างแรกเขาได้นำรูปแบบสัตว์ร้ายไปแลกเป็นเงิน,จากนั้นก็เลือกโรงแรมที่พักที่ดีที่สุด,ทำความสะอาดร่างกาย,ตัดเผ้าผมหนวดเคราออกไปทั้งหมด,เปลี่ยนรูปลักษณ์ของเขาใหม่.
สมบูรณ์แบบ!
ผู้เยาว์อายุ 14 ปี,ดูเปี่ยมล้นด้วยความหล่อเหลาสง่างาม,ใบหน้าที่ยังมีร่องรอยของเด็กอยู่,ที่มุมปากมีรอยยิ้มเผยออกมาเล็กน้อย.
ดวงตาของเขาที่ดูสดใสลึกล้ำ,ราวกับว่าสามารถมองเห็นทุกอย่างบนโลก,สิ่งสำคัญที่สุดคือเขาสูงขึ้นไม่น้อย,เวลานี้สูงขึ้นกว่าสิบเซนติเมตรแล้ว,ตอนนี้มีความสูง 163 ซม.
เกราะสีเงินที่เปล่งประกาย,เป็นที่ต้องตาของคนอื่น ๆ.
หลังจากซื้อทุกอย่างที่เขาต้องการแล้ว,เขาก็เปิดแผนที่ ที่เสี่ยวกวงบันทึกเอาไว้,พร้อมกับมองหาเส้นทาง,ที่จะมุ่งหน้าสู่เมืองหลิงหยุน.
ที่นี่ไกลจากเมืองหลิงหยุนมาก,เท่าที่ซูเห่าประเมิน,หากวิ่งไม่หยุดกลับเมืองหลิงหยุนต้องใช้เวลานับเดือน.
ใครจะรู้ล่ะว่าตลอดดสองปีมานี้เขาสำรวจอย่างไร้ทิศทาง,ออกมาไกลขนาดนี้.
ซูเห่าทำการวิ่งอย่างรวดเร็วมุ่งหน้าสู่เมืองหลิงหยุน,เดินทางกลางวัน,กลางคืนหาถ้ำพักผ่อน.
สิบวันหลังจากนั้น,ขณะซูเห่ารีบเร่งเดินทาง.
ทันใดนั้นก็ปรากฏจิงซีมหึมาปรากฏขึ้น,ในเรดาร์ของเขา.
“สัตว์ร้ายขอบเขตบรรพจารย์!”ซูเห่าที่เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า.
“มารดาเถอะ! วิหคยักษ์ระดับบรรพจารย์!”ซูเห่าที่เร่งความเร็ววิ่งหลีกหนีให้ไกลทันที.
หากแต่บนพื้นที่ราบกว้าง,ไม่มีต้นไม้สักต้น,ไม่ต้องเอ่ยเลยว่าจะหลบเลี่ยงอย่างไร,การวิ่งแทนที่จะหนี กับกลายเป็นการล่อดึงความสนใจของวิหคยักษ์แทน.
สัตว์ร้ายขอบเขตบรรพจารย์ตนนี้,ดูจากปริมาณจิงซีแล้ว,สูงกว่าเขามาก,ไม่ใช่ระดับบรรพจารย์ทั่วไปแล้ว.
ต่อสู้ข้ามขั้นรึ? ซูเห่าไม่คิดจะประมาทเช่นนั้น,เท้าของเขาที่ระเบิดพลัง,วิ่งหนีอย่างรวดเร็ว.
อย่างไรก็ตามซูเห่าพบว่าจิงซีมหึมานั้นไล่เขามาเรื่อย ๆ,เขาไม่อาจวิ่งสลัดอีกฝ่ายได้เลย.
เขาหันหน้ากลับไปมอง,เป็นวิหกยักษ์หางขาวดำ,จ้าวแห่งท้องฟ้า,ตัวตนระดับบนของห่วงโซ่อาหาร,มีความเร็วน่าหวาดกลัวมาก.
ในเมื่อไม่อาจหนีพ้น......
ซูเห่าที่กัดฟัน,ตัดสินใจในทันที,เขาทิ้งเป้ด้านหลัง,ดึงดาบออกมา,วิ่งซิกแซกไปมา,พร้อมกับสั่งการเสี่ยวกวง“วาดสลักรูนอักขระ”ม่านพลัง“”โก่งตัว“”สว่างจ้า“”สั่นสะเทือน“”กระแทก“ ”แหลมคม“และ”ทะลวง“......”
รูนอักขระที่ถูกวาดขึ้นตัวแล้วตัวเล่า.
ซูเห่าวิ่งไปด้านหน้า,แล้ววาดดาบเตรียมเข้าปะทะกับวิหคยักษ์หางขาวดำ.
มันเคลื่อนที่เข้าใกล้อย่างรวดเร็วเช่นกัน.
วิหคยักษ์หางขาวดำที่หุบปีกลง,ทว่าก็ปีกของมันก็มีความยาวกว่าสิบเมตร,กงเล็บขนาดใหญ่สีเทาดูเงาวับ,ยกขึ้นเล็กน้อย,ตะวัดพุ่งไปด้านหน้า.
ซูเห่าบอกได้ว่าพลังของกงเล็บของมันนั้นมีพลัง“เจาะ”
เขาไม่ปล่อยให้กงเล็บอีกฝ่ายคว้าเขาอย่างแน่นอน,ไม่เช่นนั้นเขาจะต้องตาย,กลายเป็นอาหารขบเคี้ยวของมันแหงแซะ,แม้แต่อักขระรูน“ม่านพลัง”และเกราะที่เขามี ก็ไม่อาจป้องกันได้
“ม่านพลัง!” ซูเห่าที่ใช้ม่านพลังก่อน.
“โก่งตัว” เริ่ม.
ซูเห่าที่เล็งเป้าไปยังดวงตาของวิหคยักษ์หางขาวดำ.
ในมือของเขาที่ปล่อยแสงสว่างจ้าราวกับดวงตะวัน.
พริบตานั้นวิหคยักษ์หางขาวดำที่สูญเสียการมองเห็นทันที,มันที่สะบัดปีกฝุ่นหินดินทรายที่ลอยคละคลุ้ง,กงเล็บของมันที่เสียตำแหน่งเป้าหมาย.
“กระแทก”เปิดใช้งาน.
ซูเห่าที่พุ่งทะยานขึ้นสู่ทองฟ้าหลบออกมาด้านข้าง,อ้อมไปด้านหลังของวิหคยักษ์หางขาวดำ.
“สั่นสะเทือน” “แหลมคม” และ“เจาะทะลวง” เปิดใช้งาน.
รัศมีแสงดาบปรากฏขึ้น.
“พรึด!”
โลหิตสาดกระจาย,ปีกด้านซ้ายของมันถูกหั่น,หล่นลงพื้น,ขนและโลหิตฟุ้งกระจาย.
กระดูกของวิหคยักษ์หางขาวดำนั้นแข็งมาก,ทว่าก็ไม่อาจป้องกันดาบในมือของซูเห่าได้.
วิหคยักษ์หางขาวดำที่เสียการทรงตัวไปในทันที,หล่นล่วงลงพื้น,กระแทกก้อนหินและพื้น ฝุ่นควันลอยคลุ้ง.
“กวี๊กกกก-”
วิหคยักษ์หางขาวดำที่ร้องโหยหวน.
นี่คือโอกาสในการสังหารมันแล้ว.
อักขระม่านพลังที่คงอยู่สามวินาทีก็สลายหายไป,ซูเห่าที่ทำการวาดสลักรูนอักขระ“ม่านพลัง” โก่งตัว“และ”แหลมคม“ขึ้นมาใหม่,ก่อนจะใช้”ท่าเท้าเคลื่อนเงา”พุ่งอ้อมไปด้านข้าง,พร้อมกับเล็งไปที่ลำคอของมัน.
วิหคยักษ์หางขาวดำต้องการหลบเลี่ยง,ทว่า...
“พรึด!”
โลหิตสาดกระจาย,หัวขนาดใหญ่ล่วงหล่นลงพื้น.
ร่างกายใหญ่ยักษ์ที่กระตุกอยู่สองสามครั้ง,ก่อนจะหยุดนิ่งไป.
หัวใจของซู่เห่าที่เต้นไปมาอย่างบ้าคลั่ง,ราวกับคนไม่เคยออกกำลังกายออกมาวิ่ง,นี่คือความกลัว,ระดับบรรพจารย์,น่าหวาดกลัวเกินไป.
อย่างไรก็ตามหลังจากสงบใจได้แล้ว,ซูเห่าก็จ้องมองร่างขนาดใหญ่ยักษ์,เอ่ยออกมาอย่างไม่แยแส“ข้าซ่อนตัวจากสัตว์ร้ายระดับบรรพจารย์สองปี,เพื่ออะไร?”