Chapter 58 huge harvest
大丰收
ซูเห่าที่มั่นใจว่าอีกฝ่ายไม่ตามมาแล้ว,ก็กลับไปเก็บตำรามที่ซ่อนไว้ก่อนหน้านี้,เวลานี้มีห่อผ้าสองห่อ,ก็เผยยิ้มกว้าง“งานคืนนี้เสร็จสมบูรณ์,เก็บเกี่ยวได้ก้อนใหญ่เลย.”
ซูเห่าที่เปิดเรดาร์หลบเลี่ยงฝูงชน,กลับหอพักเงียบ ๆ.
“ฟู่...”หลังจากกลับมาถึงห้อง นั่งลงบนเตียง,ก็พ่นลมหายใจยาว.
แม้นว่าคืนนี้จะผ่านไปไม่นานนัก,ทว่าก็ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นอยู่ไม่น้อย.
ได้ต่อสู้กับปรมาจารย์ยุทธ์,ได้ใช้พลังเต็มที่ครั้งแรก,แม้นว่าเขาจะเตรียมตัวดีแล้ว,ทว่าก็มีเรื่องที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นถึงสองครั้ง,มันเป็นอะไรที่ช่วยไม่ได้,ครั้งแรกเมื่อเขาใช้“ลวงทะลวง”แทงคออีกฝ่าย,ฝ่ายตรงข้ามกับป้องกันได้ด้วยม่านแสง,อีกครั้งก็เมื่ออีกฝ่ายใช้แสงจ้า,บดบังสภาพแวดล้อมเพื่อใช้หลบหนี.
ด้วยเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ทำให้ซูเห่าตระหนักได้ว่า,เขามีประสบการณ์ต่อสู้ที่น้อยจนเกินไป.
อย่างไรก็ตาม,ยังไงซะเป้าหมายพื้นฐานก็สำเร็จ,เขารู้สึกอารมณ์ดีเป็นอย่างมาก,นอกจากนี้ยังกำจัดภัยร้ายให้กับเมืองหลิงหยุนได้ด้วย.
แม้นว่าเขาไม่อาจยืนยันได้ว่าอีกฝ่ายนั้นได้ตกตายสมบูรณ์ใหม,ทว่าก็บอกได้ว่าอาการบาดเจ็บนั่น,ไม่ตายก็พิการ,ในเวลาสั้น ๆ,อีกฝ่ายคงไม่ปรากฏออกมาอย่างแน่นอน.
จะว่าไป,ทำไมจินต้าถงถึงปรากฏขึ้น,ทำไมต้องช่วยผีฆาตกร,ซูเห่าไม่เข้าใจเลย,ทว่าก็ไม่ต้องการคิดให้เสียเวลา.
เขาได้ทำการบันทึกจิงซีของอีกฝ่ายไว้แล้ว,เมื่อไหร่ที่อีกฝ่ายปรากฏตัวขึ้น,เขาก็จะพบตัวได้ในทันที.
อย่างไรก็ตามผลประโยชน์ที่เขาได้รับมาต่างหากคือที่สุด,เขาได้ความรู้ที่จะใช้ศึกษามาแล้ว.
ซูเห่าอดไม่ได้เลยที่จะแกะห่อผ้าของผีฆาตกรออกมา.
ด้านในมีขวดหยกสองใบ,ที่บรรจุของเหลวที่ไม่อาจบอกได้ว่าคืออะไร,สี่ม้วนหนังสัตว์,ตำราสามเล่มและศิลาสีดำสองก้อน.
เขาได้แยกขวดและศิลาออกมาก่อน,ซูเห่านำม้วนหนังสัตว์สี่ม้วนแยกออกมา,และอ่านป้ายที่ติดเอาไว้.
“ม่านพลัง” “แสงจ้า” “ควบคุม” และ “การสกัด.”
สี่รูปแบบสัตว์ร้าย,ทำให้ซูเห่าดีใจเป็นอย่างมาก,เขาทำการบันทึกเข้าไปในพื้นที่พินบอลทันที.
จากนั้นก็นำตำราสามเล่มออกมา.
“โครงสร้างพื้นฐานวาดสลักรูน”,“การใช้อักขระรูน”,“ของเหลวที่ใช้สลักรูน”
“เก็บเกี่ยวครั้งใหญ่แล้ว!”ซูเห่าเริ่มเปิดตำราทั้งสาม,บันทึกเอาไว้ในพื้นที่พินบอล.
ทั้งคืน,ซูเห่าถึงกับนอนไม่หลับ,เปิดไฟอ่านตำราดังกล่าว.
เริ่มจาก“โครงสร้างพื้นฐานสลักรูน”
......
ซูเห่าที่อ่านตำราทั้งสามจนถึงบ่ายอีกวัน,เขาไม่รู้สึกง่วงแม้แต่น้อย,ร่างกายเปี่ยมล้นด้วยพลัง.
เขาได้เห็นอะไร?
นี่คือวิทยาศาสตร์พิเศษของต่างโลก.
ซึ่งแตกต่างจากโลกเดิมก่อนหน้านี้ที่เทคโนโลยีส่วนใหญ่ใช้พลังงานไฟฟ้าที่เป็นพลังงานหลักในการขับเคลื่อน,ทว่าวิทยาศาสตร์ของโลกใบนี้,ระบบพลังงานหลักกับใช้ปราณโลหิต(เสวี๋ยซี)ที่อยู่ในร่างกายเป็นตัวขับเคลื่อน.
ตำราทั้งสามเล่มนี้,เป็นหนึ่งในภูมิปัญญาที่ลึกล้ำ,ที่ทำให้ซูเห่าต้องทึ่งไปเหมือนกัน.
ธรรมชาติช่างมหัศจรรย์,มีเพียงการวิวัฒนาการตามธรรมชาติเท่านั้น,ถึงจะสามารถได้รับโครงสร้างที่สมบูรณ์แบบ.
ตำราทั้งสามเล่มนี้,ได้บรรยายเกี่ยวกับปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจากการสลักรูนอย่างง่ายเท่านั้น.
มันได้เอ่ยเกี่ยวกับอักขระรูนว่ามาจากใหน,มีประโยชน์อย่างไรและควรใช้อย่างไร.
กล่าวตามตรง,อักขระรูนที่อยู่ในโครงสร้างสัตว์ร้ายนั้น,สามารถนำมาประยุกต์ใช้อย่างง่ายได้,ทว่าก็ยังซ่อนความซับซ้อนเอาไว้มาก.
การสลักรูนเพื่อใช้งานนั้น,จะต้องมีสี่เงื่อนไข,หนึ่งคือใช้น้ำยาพิเศษ,เพราะว่าน้ำยาพิเศษนั้นสามารถผสานเข้ากับปราณโลหิตได้ง่าย;
อย่างที่สอง,ต้องสลักลงบนสิ่งมีชีวิต,ถึงจะสามารถโคจรปราณโลหิตให้อักขระรูนทำงานได้,ไม่อาจสลักวาดลงบนสิ่งไร้ชีวิตได้;
สาม,เมื่อเปิดการใช้งานจะต้องคงสภาพปราณโลหิตเอาไว้ตลอดเวลา,ไม่อาจปล่อยให้ปราณโลหิตสลายหายไปได้,ไม่เช่นนั้นรูนที่วาดสลักลงไปนั้นจะสลายหายไปเอง.
อย่างที่สี่,อักขระรูนที่เหมือนกัน,สามารารถวาดลงบนหนึ่งเป้าหมายเท่านั้น,การสลักรูนเหมือนกันลงไปพร้อมกันจะเกิดการต่อต้านกันและกัน จนอักขระรูนทั้งสองพังทลายลง.
อย่างไรก็ตามซูเห่านั้นไม่เพียงแค่เข้าใจรูปแบบที่เห็นเท่านั้น,ว่ายังมองเห็นกฎที่ซ่อนเอาไว้ในรูปแบบเหล่านั้นได้ด้วย.
ภายในร่างกายของเขามีรูนอักขระ“สัมผัส”,เขารู้สึกสงสัยเหมือนกันว่าทำไมถึงสามารถสัมผัสได้ถึงปราณโลหิตของคนอื่น? ทำไมอักขระรูน“สว่างจ้า” สามารถปะทุแสงสว่างออกมาได้? ทำไมอักขระรูน“แข็ง” ถึงได้ทำให้ร่างกายแข็งแกร่งทำลายไม่ได้?
ปรากฏการณ์ผลลัพธ์ที่ได้ที่เกิดขึ้นจากรูนอักขระ,เมื่อสลักวาดรูนลงไป,ซูเห่าไม่ได้สนใจมากนัก,สิ่งที่เขาสนใจคือหลักการและกระบวนการทำงานของมันต่างหาก.
เหมือนกับที่หลายคนรู้ว่าหลอดไฟส่องสว่าง,พัดลมไฟฟ้าหมุนสร้างลม,เตาไมโครเวฟทำให้อาหารร้อนขึ้น,ลำโพงขยายเสียงได้,ทีวีกำเนิดภาพ,ระเบิดปรมนูญที่ระเบิดทำลายล้าง,อย่างไรก็ตามหลักการรายระเอียดการทำงานของมันมีคนมากมายที่ไม่รู้เลย.
คนในโลกนี้ก็เหมือนกัน,รู้ว่าอักขระรูนนั้นสลักวาดอย่างไร,และแต่ละรูนแต่ละรูปแบบให้ผลลัพธิ์ที่แตกต่างกันอย่างไร,ทว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น,มันทำงานได้อย่างไร,ไม่มีใครรู้.
ไม่ใช่ว่าคนในโลกนี้ไม่ต้องการศึกษา,ทว่าทิศทางการศึกษาตั้งแต่เริ่มต้นนั้นผิดพลาดมาโดยตลอด.
เทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์สมัยใหม่นั้น,ฐานในการศึกษาคือการวิจัยวัสดุและพลังงาน,ทิศทางของการศึกษาหลัก ๆ ก็คือวัสดุและพลังงานนั่นเอง.
แต่ในโลกใบนี้,เพราะความแตกต่างของโลก,ฐานการวิจัยของพวกเขาก็คือการศึกษาร่างกายของสิ่งมีชีวิต,เพื่อนำมายกระดับความสามารถของมนุษย์,การสำรวจความลึกล้ำจึงมีขีดจำกัด.
หรือจะบอกได้ว่าในมุมมองของนักสลักรูนโลกนี้นั้น,พวกเขาต้องการความลับของสัตว์ร้ายมาพัฒนาพวกเขาเอง.
ดังนั้นรูนอักขระที่ศึกษาและสำรวจจากสัตว์ร้ายจึงมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งเป็นหลัก,และค้นหาความลับที่จะเพิ่มความสามารถพวกเขาไปจนถึงขีดสุด.
มีเพียงส่วนน้อยที่เป็นเหมือนกับซูเห่า,ที่ครุ่นคิดเกี่ยวกับอักขระรูนนั้นว่าทำไมมันถึงทำงานเช่นนี้,ทำไมถึงทำให้เกิดปรากฏการณ์เช่นนี้,มีกระบวนการอย่างไร,หลักการณ์พื้นฐานของมันคืออะไร.
แม้นว่าจะมีบางคนที่คิดได้เช่นซูเห่า,ทว่าก็ไม่มีเจตจำนงและความพยายามไม่พอพอ,เมื่อไม่อาจค้นพบอะไร,ไม่อาจก้าวหน้าต่อไปได้,ก็จะเลิกล้มความตั้งใจไป.
“อักขระรูนเหล่านี้จะต้องมีกฎเกณฑ์การทำงานที่แน่นอน,เหมือนกับกระแสไฟฟ้าที่เป็นเหมือนกับพลังแม่เหล็กที่มีชีวิต,การไหลของกระแสไฟฟ้า,ผ่านตัวนำก็จะกำเนิดแสงขึ้นมาได้,ปราณโลหิตเปรียบได้เหมือนกับพลังงานอย่างหนึ่ง,มีการโคจรเคลื่อนไหวที่แน่นอน,การโคจรของปราณโลหิตบนจุด ๆ หนึ่ง จะเหมือนกับการทำงานของสนามไฟฟ้า,ที่สร้างปรากฏการณ์บางอย่างขึ้นมา,ไม่ว่าจะเป็นส่องสว่าง,ทำให้แข็งตัว,ควบคุม,หรือกระทั่งกำเนิดม่านพลัง.”
ดวงตาของซูเห่าที่เป็นประกาย,เปลวเพลิงในดวงตาลุกโชน,ราวกับว่าได้พบเข้ากับความรู้ใหม่,ร่างกายที่สั่นสะท้าน,ตื่นเต้นดีใจกับวิทยศาสตร์พลังงานชีวิต.
“ข้าจะต้องถอดรหัสรูนอักขระ,ค้นหาความลับที่มีอยู่ด้านใน! ปราณโลหิตกำเนิดสนามพลังงานอย่างไร? ธรรมชาติของสนามพลังงานคืออะไร? แล้วจะควบคุมความหนาแน่นของสนามพลังงานอย่างไร? ข้าแทบอดใจไม่ไหวแล้ว!”
ซูเห่าที่สูดหายใจลึก,สงบใจ,ก่อนจะเข้าไปในพื้นที่พินบอล.
“เสี่ยวกวง,สร้างห้องทดลองสลักวาดรูนอักขระ.”
ห้อง ๆ หนึ่งที่ปรากฏขึ้น,มีแท่นทดลองปรากฏขึ้นโดย,มีโคงสร้างรูนอักขระ“สัมผัส” “ม่านพลัง” “สว่างจ้า” “ควบคุม” “การสกัด”ปรากฏขึ้น.
“โปรดแยกส่วนรูนอักขระเหล่านี้ออกมา.”
ซูเห่าที่ครุ่นคิด,สั่งการเสี่ยวกวน“แยกส่วนแต่ล่ะอักขระ,ส่วนประกอบ,โครงสร้าง,เส้นทางการไหลของปราณโลหิตออกเป็นสิบส่วน”
“แยกส่วนสำเร็จ.”
หลังจากนั้น,ซูเห่าก็เริ่มแยกส่วนเล็ก ๆ ที่แยกออกมาก่อนหน้านี้ออกมาอีกครั้ง,ถอดชิ้นส่วนโคงสร้างต่าง ๆ,รูปแบบพิเศษ,เส้นทางการโคจรพลังงาน.
ผ่านไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง,ด้วยความช่วยเหลือของเสี่ยวกวง,โครงสร้างชิ้นส่วนของอักขระทั้งหมดก็ถูกแยกออกเป็นส่วน ๆ อย่างระเอียดแล้ว.
“จากนี้เหลือแค่การทดลอง,และเฝ้าสังเกตผลของแต่ละส่วนเมื่อดำเนินการในแต่ละกระบวนการ.”
ซูเห่าที่ตัดสินใจวางแผนที่จะตรวจสอบแต่ละชิ้นส่วนอย่างระเอียด.
“ยังมีบางปัญหาที่ต้องแก้ไข,สนามพลังบางอันไม่อาจมองเห็นได้ด้วยตาเปลา,จะต้องมีอุปกรณ์และเครื่องมือเพื่อตรวจสอบ,เกรงว่าในโลกนี้คงจะไม่มีเครื่องมือเหล่านั้นอยู่,แต่ก็นับว่าโชคดีที่ข้ามีอักขระ”ตรวจสอบ“ทำให้สามารถสัมผัสกระบวนการของปราณโลหิตได้,แต่จะว่าไป,ปรากฏการของสนามพลังงานที่เกิดจากการทดลอง,เกรงว่าจะต้องมีคนสัมผัสได้แน่.”
ซูเห่าที่กวาดตามองสภาพแวดล้อมรอบ ๆ,เขาที่ขมวดคิ้วไปมา,เอ่ยพึมพำ“ดูเหมือนว่าที่นี่จะไม่เหมาะที่จะทดลอง,คงต้องเปลี่ยนสถานที่ทดลองแล้ว.”
จากนั้นเขาก็นำม้วนหนังสัตว์รูปแบบสัตว์ร้ายออกมา,เผยยิ้มกว้าง“ก่อนอื่นต้องขายรูปแบบ”ม่านพลัง“,”การสกัด“สองอย่างนี้ขายให้กับสถาบันดีกว่า,เก็บไว้สองอันก็พอ,ให้อาจารย์หลิวช่วยข้าขายดีกว่า.”
“แต่ว่า,คงต้องรอสถาบันเปิดก่อน!”
ในเวลานี้,อีกสิบวันก็จะเปิดเรียนแล้ว.
ซูเห่าไม่มีอะไรต้องกังวล,เขายังต้องการย่อยความรู้จากหนังสือที่เขาเพิ่งแย่งชิงมาให้เข้าใจอย่างระเอียดเช่นกัน,จากนั้นก็ต้องเข้าไปในเมืองเพื่อหารายการวัสดุดิบอุปกรณ์เพื่อนำมาใช้ในการทดลอง.