ตอนที่แล้วChapter 54: Control
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 56 Closure

Chapter 55 Reporting


举报

เช้าวันถัดมา,ซูเห่าเข้ามาสอบถามข่าวในเมือง.

เมื่อคืนมีคดีคนหายหลายคนจริง ๆ,ตำแหน่งนั้นไม่แน่ชัด,ทว่าใกล้กับสถาบันยุทธ์,หนึ่งในนั้นคาดว่าเป็นเด็กนักเรียน,กระทั่งคาดการณ์ว่าเกิดการทรยศหักหลังกันขึ้นด้วย.

มีใครบางคนที่เอ่ยถึงศพที่ถูกทุบตีใบหน้าจนแหลกเละ,กล่าวว่าเป็นผีฆาตกรรมทำ.

กับข่าวที่ได้รับเกี่ยวกับคนหายไป,ซูเห่ายิ่งมั่นใจว่าเกี่ยวข้องกับคนที่ลอบโจมตีเขาเมื่อวานอย่างแน่นอน.

เมื่อมั่นใจในการคาดเดาของตัวเองแล้ว,ซูเห่าก็ไม่ได้ใส่ใจอีกต่อไป,เขาไปยังหอตำราอ่านหนังสือต่อไป.

ในตอนเย็นวันหนึ่ง,ขณะเขาเดินออกมาด้านนอกสถาบัน,ได้กระตุ้นเรดาร์เพื่อตรวจสอบพื้นที่รอบ ๆ เพื่อค้นหาค้นร้าย.

หลังจากเติมเต็มจิงซี,รัศมีเรดาร์ของเขาที่เพิ่มขึ้นปรกติจะมีรัศมี 400 เมตรจากนั้นดูเหมือนว่าจะเสถียรแล้วไม่ค่อยเพิ่มขึ้นอีกต่อไป.

ภายใต้การกระตุ้นจิงซีสูงสุด,รัศมีเรดาร์ของเขาที่ขยายออกไปได้ถึง 1500 เมตร,ภาพที่เลือนลางไม่ชัดเจนเองก็ลดลงไม่น้อยเช่นกัน.

การกระตุ้นขยายรัศมีเรดาร์ผลาญจิงซีอยู่ไม่น้อย,ดังนั้นจึงจำเป็นต้องใช้ในเวลาที่จำเป็นเท่านั้น.

ซูเห่าไม่รู้ว่าคนร้ายจะเข้ามาลอบโจมตีนักเรียนอีกใหม,บางทีอาจจะลงมือคืนนั้นคืนเดียว,จากนั้นก็ไม่กล้าอีกก็ได้.

อย่างไรก็ตามเขามั่นใจว่าอีกฝ่ายจะต้องลงมืออีกแน่.

ซูเห่าสามารถบอกได้ว่าพื้นที่สถาบันยุทธ์,เป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะจะเป็นพื้นที่ล่าเป็นอย่างมาก.

สถาบันที่ค่อนข้างเงียบเหงาในช่วงนี้,มีนักเรียนไม่มาก,นักเรียนส่วนมากมีอายุ 12-13 ปี,มีปราณโลหิตที่สมบูรณ์,นักเรียนเหล่านี้จึงถือเป็นวัตถุดิบชั้นยอดในการทดลอง,นอกจากนี้ยังอยู่ในช่วงปิดเทอมอีกด้วย,ไม่มีอาจารย์ประจำอยู่,มีเพียงแค่ชายชราที่ไม่เคลื่อนไหวหยุดนิ่งอยู่ตลอดเวลา,จึงไม่ควรมีอันตรายมากนักสำหรับพวกเขา.

สถานที่ล่ายอดเยี่ยมขนาดนี้,จะหาได้ที่ใหนกัน?

หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง,ในรัศมีเรดาร์ของเขา,ปรากฏลมปราณที่แปลกประหลาดปรากฏขึ้น.

“ปรากฏขึ้นแล้ว!”ซูเห่าเคลื่อนไหวทันที,เขามุ่งตรงไปยังทิศทางของจิงซีที่แปลกประหลาด,เฝ้ามองสภาพแวดล้อมอย่างระมัดระวัง.

เพราะเรื่องผีฆาตกรรม,ในตอนเย็นจึงมีคนน้อยมากที่ออกมา,แทบทุกคนจะซ่อนตัวกัน.

เมื่อเขาเข้าใกล้อย่างรวดเร็ว,ซูเห่าก็สัมผัสได้ถึงปราณโลหิตที่แปลกประหลาดถึงสองจุด,ปราณโลหิตของทั้งสองนั้นดูคล้ายกันเป็นอย่างมาก,ทำให้เขาขมวดคิ้วไปมา.

“สองคนรึ? บางทีอาจจะมีมากกว่าสอง! ในคืนนี้ศัตรูเพิ่มแรงงานมากกว่าปรกติงั้นรึ?”

ซูเห่าที่เคลื่อนที่เข้าใกล้อีกฝ่ายอย่างระมัดระวัง,เฝ้ามองอยู่ในที่ซ่อน.

เขาไม่ได้ลงมือเข้าไปขวางทางอีกฝ่ายแต่อย่างใด,เพราะมันไม่มีความหมาย,เขาต้องการเห็นว่าฝ่ายตรงข้ามนั้นต้องการทำอะไรกันแน่.

ซูเห่าสงสัยว่าฝ่ายตรงข้ามคือนักสลักอักขระรูน,เขาอาจจะสามารถเรียนรู้อะไรบางอย่างจากพวกเขาก็ได้,ไว้ได้รับอะไรมาแล้วค่อยลงมือก็ได้.

เกี่ยวกับการทดลองวิจัยร่างกายมนุษย์นั้น,เรื่องนี้ซูเห่าไม่อาจบอกได้ว่าถูกหรือผิด,เพราะท้ายที่สุดมันก็คือความรู้ที่จะมีประโยชน์ให้กับคนส่วนมาก,อย่างไรก็ตาม,เขาดูแล้วไม่ค่อยพอใจนัก,มันเกี่ยวข้องกับความยุติธรรมในใจของเขาด้วย,ขอเพียงเขามีพลังพอที่จะผดุงความยุติธรรม,เขาก็จะทำ,เรื่องเช่นนี้ไม่อาจปล่อยให้ผ่านสายตาของเขาได้.

ซูเห่ายังคงจดจำคำสอนของบิดาของเขาได้“สามเข้มงวด,สี่ขยัน,ห้าไม่.”

ซึ่งมีไม่เพ้อเจอและไม่พูดมากด้วย.

เขาเข้าใจหลักการที่ว่าไม่เพ้อเจอหรือไม่มีความคิดเหลวไหล,การทำลายหลักการของตัวเองไปทุกอย่างก็จบ,ความยุติธรรมที่มีอาจจะกลายเป็นความอยุติธรรมก็ได้.

ก่อนหน้านี้เขาตายมานับครั้งไม่ถ้วน,ทำให้เขาเข้าใจเกี่ยวกับมุมมองความยุติธรรม,และโหยหามันมาก,ยิ่งอุบัติเหตุไม่คาดฝัน,ทำให้เขาต้องตกตายอย่างไรเหตุผล,มันคือความอยุติธรรมที่เลวร้ายที่สุด,ซึ่งเขาไม่อาจทำอะไรกับมันได้เลย.

ซูเห่าที่เห็นต้นกำเนิดปราณโลหิตที่แปลกประหลาดทั้งสองแล้ว,เป็นผู้เยาว์สตรีและชายร่างใหญ่มีหนวด,ทั้งสองดูเหม่อลอย,ดวงตาไร้ประกสบ,ปากสั่นเล็กน้อย,ไม่รู้สึกตัว,เห็นชัดเจนว่ากำลังถูกควบคุม,อย่างไรก็ตามการเคลื่อนไหวกับคล่องแคล่วเป็นอย่างมาก,ร่วมมือกันอย่างดี,ใช้พลังระดับจอมยุทธ์ขั้นสูงได้เต็มประสิทธิภาพ,นอกจากนี้ทั้งสองยังเคลื่อนไหวอย่างระมัดระวังออกล่านักเรียนที่อยู่คนเดียวอย่างช่ำชอง.

เป็นความจริงแม้นว่าจะมีข่าวสั่นสะเทือนไปทั่วเมือง,ทว่าก็ยังมีใครบางคนที่ไม่กลัวตายปรากฏตัวอยู่คนเดียว.

ไม่นานหลังจากนั้น,คนที่ถูกควบคุมก็ทุบผู้เยาว์คนหนึ่งล้มลง,ก่อนจะเคลื่อนที่ออกนอกสถาบันทันที.

ในรัศมีเรดาร์ของซูเห่า,อยู่ห่างออกไปสองร้อยเมตร.

อีกฝ่ายกำลังเคลื่อนไหวไปยังทิศตะวันออกของเมือง.

เมืองหลิงหยุนสร้างอยู่บนเนินเขา,ดังนั้นมีบางจุดของกำแพงเมืองที่เชื่อมต่อกับภูเขา.

สถานที่แห่งนี้มีสภาพภูมิประเทศที่ซับซ้อนเป็นอย่างมาก,อยู่ห่างชุมชน,มีคนอาศัยอยู่น้อยมาก,ปรกติแล้วคนทั่วไปจะไม่มาที่นี่.

ดูเหมือนว่าสถานที่แห่งนี้จะกลายเป็นที่ซ่องสุมของเหล่าวายร้ายไปซะแล้ว.

หลังจากไล่ตามมาถึงที่นี่,ซูเห่าสัมผัสได้ถึงปราณโลหิตที่แปลกประหลาดสามจุด,กล่าวได้ว่าปราณโลหิตมีทั้งแข็งแกร่งและอ่อนแอแตกต่างกันไป,คนเหล่านี้ล้วนแต่ถูกควบคุมกันทั้งหมดเวลานี้ได้กลับมายังเป้าหมายของพวกเขาแล้ว.

นอกจากนี้ในเรดาร์ยังสัมผัสได้ถึงปราณโลหิตที่ทรงพลังเป็นอย่างมาก.

“ปรมาจารย์ขั้นสูง!”ปราณโลหิตของคนดังกล่าวราวกับอาจารย์ที่ปรึกษาของสถาบันยุทธ์,ถึงจะอ่อนแอกว่าเล็กน้อย,แต่ก็มีลักษณะพิเศษ,สามารถยืนยันได้ว่านี่คือต้นกำเนิดกลิ่นอายที่แปลกประหลาดที่ควบคุมคนอื่น,มันเข้มข้นแข็งแกร่งกว่าทุกร่างควบคุมทั้งหมด.

“เจอเป้าหมายแล้ว,ดูเหมือนว่าปรมาจารย์ยุทธ์ผู้นี้,จะเป็นนักสลักรูนอักขระ.”

ในเวลานี้ซูเห่าที่รู้สึกลังเลขึ้นมาเล็กน้อย.

เขาที่ไม่มั่นใจว่าจะจัดการอีกฝ่ายได้,นอกจากนี้เขายังไม่เคยต่อสู้กับระดับปรมาจารย์ยุทธ์มาก่อน,ไม่รู้ว่าพลังต่อสู้ที่แท้จริงของปรมาจารย์ยุทธ์นั้นเป็นเช่นไร.

สิ่งสำคัญที่สุด,ฝ่ายตรงข้ามยังเป็นนักสลักรูน,เขาไม่อาจบอกได้ว่าอีกฝ่ายมีวิชาที่แปลกประหลาดซ่อนอยู่หรือไม่?

“แจ้งทีมผู้พิทักษ์รักษาความปลอดภัยของเมืองดีใหม?”

ซูเห่าเริ่มวิเคราะห์ข้อดีข้อเสีย,หากเขาสังหารอีกฝ่ายได้,เขาก็จะได้รับผลประโยชน์ทั้งหมดมา,ทว่าก็มีความเสี่ยงสูง,มีความเป็นไปได้ว่าการเดินทางในโลกใบนี้ของเขาจะจบลง.

แต่หากรายงานผู้พิทักษ์รักษาความปลอดภัย,เขาอาจจะไม่ได้รับสิ่งที่เขาต้องการ.

“ตัดสินอย่างไรดี”ซูเห่าที่ดวงตาหรี่เล็ก,จ้องมองร่างที่ถูกควบคุมนำเหยื่อมา,ก่อนที่จะนำไปวางบนศิลา,เปิดถ้ำ,เข้าไปและปิดทางเข้าอีกครั้ง.

ซูเห่าครุ่นคิดอย่างรวดเร็ว,เขาลุกขึ้นตรวจสอบพื้นที่รอบ ๆ ก่อนที่จะถอนตัวอย่างรวดเร็ว.

“รายงาน! พร้อมลงมือ,นี่อาจจะได้สิ่งที่ข้าต้องการ,และยังช่วยคนที่ถูกจับมาได้ด้วย”

ซูเห่าที่ต้องการใช้ทั้งสองวิธีดังนั้นจึงวางแผนตั้งเป้าหมายขึ้นมาสามอย่าง,เรื่องแรกเป้าหมายหลัก,ต้องได้รับข้อมูลจากฝ่ายตรงข้าม,อย่างที่สอง,หาโอกาสต่อสู้ลองเชิงกับอีกฝ่าย,ตรวจสอบพลังต่อสู้ของเขา,อย่างที่สาม,หากเป็นไปได้ก็ลงมือจัดการอีกฝ่ายเลย.

ส่วนเรื่องช่วยชีวิตคนอื่น,ไม่ใช่ว่ามีผู้พิทักษ์เมืองอยู่หรอกรึ?!

......

ซูเห่าที่วางแผนอย่างรวดเร็ว.

ก่อนอื่นเขาไปยังสำนักงานใหญ่ของผู้พิทักษ์เมือง,แล้วเขียนกระดาษสิบแผ่น“น่าตื่นตะลึง,ผีฆาตกรคือปรมาจารย์ยุทธ์ที่ปรากฏขึ้นในเมืองหลิงหยุน,ช่างเป็นเรื่องที่น่าหวาดกลัวอย่างคาดไม่ถึง” จากนั้นเขาก็แนบแผนที่บรรยายตำแหน่งของเป้าหมายไว้ด้วย.

จากนั้นก็ใช้กระดาษห่อก้อนหิน,นำไปโยนไว้ที่สำนักงานผู้พิทักษ์,ก่อนที่จะหลบออกมาซ่อนตัวห่างออกมา 500 เมตร,รอให้ทีมผู้พิทักษ์พบมัน.

ที่สำนักงานผู้พิทักษ์เมืองนั้น,มีทีมนักรบระดับสูงที่เก็บกระดาษห่อก้อนหินขึ้นมา,ก่อนจะเข้าไปเคาะประตูห้องหัวหน้า.

“หัวหน้าโหลว,มีคนโยนกระดาษนี้มาจากด้านนอก,ในนั้นมีเนื้อความเหมือน ๆ กัน,ท่านลองดู!”

โหลวต้าตุย,ชายร่างใหญ่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ,สวมเกราะที่เงาวับวาว,ใบหน้าตั้งตรง,ดูน่าเกรงขาม,เปี่ยมล้นด้วยกลิ่นอายความยุติธรรม.

เขาคือหัวหน้าทีมระดับสูง,ที่มีความแข็งแกร่งที่สุด,รองลงมาจากผู้บัญชาการที่มีระดับบรรพจารย์ยุทธ์,หน้าที่ของเขาคือดูแลงานสำนักงานเมื่อผู้บัญชาการไม่อยู่.

หัวหน้าโหลวรับกระดาษมา,หลังจากอ่านเสร็จก็ขมวดคิ้วไปมา.

ในเวลานั้นนักรบระดับสูงก็เอ่ยถาม.“หัวหน้าโหลว,มีคนล้อพวกเราเล่นหรือไม่?”

หัวหน้าโหลวจ้องมองนักรบคนดังกล่าว,ลุกขึ้นก่อนถือหมวกเกราะ,ก้าวออกไปเอ่ยออกไปไปว่า“ให้รวบรวมทีมไปในห้องโถงด้านหน้าทันที.”

นักรบระดับสูงที่ตอบรับทันที“รับทราบ,หัวหน้า.”

จากนั้นเขาก็วิ่งออกไป.

ซูเห่าที่เฝ้ามองอยู่ชั่วครู่,เห็นกองผู้พิทักษ์รวมคน 20 คน,เป็น 20 จอมยุทธ์,5ปรมาจารย์,และยังมีหนึ่งบรรพจารย์อีกด้วย,เวลานี้กำลังเดินทางไปตรวจสอบ,ฐานของ“ผีฆาตกรรม”

ซูเห่าก็รู้แล้วว่าแผนการของเขาได้เริ่มขึ้นแล้ว.

เขาเดินทางไปยังทิศตะวันออกของเมืองทันที,เขาที่ไม่ได้เคลื่อนที่เร็ว,ยังคงรักษาตำแหน่งเอาไว้ในรัศมีห้าร้อยเมตรกับเหล่าผู้พิทักษ์.

เวลาจำเป็นต้องรักษาระยะห่างในด้านเวลาเอาไว้!

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด