Chapter 50 Ambush
伏击
การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศวันถัดมา,ซูเห่าไม่สนใจจะดู,เขาได้เพิ่มความสามารถของเรดาร์เพิ่มขึ้น,ยกตัวอย่างคนที่เขารู้จักเขาจะขีดเส้นใต้สีเขียวด้านล่าง,คนแปลกหน้ามีเส้นสีเทา,หากเป็นศัตรูก็จะเป็นเส้นสีแดงขีดด่านล่าง.
หลังจากพัฒนาฟังก์ชันของเรดาร์,อักขระสัมผัสเครือข่ายของเขา,ก็ยกระดับขึ้นช้า ๆ,ไม่เพียงแค่พื้นที่การรับรู้พัฒนาเป็น 200 เมตร,ทว่าเขายังสามารถโคจรพลัง เพื่อเพิ่มระยะการรับรู้ได้อีกด้วย.
ด้วยการเพิ่มจิงซีเข้าไปในอักขระสัมผัส,จะทำให้การรับรู้แข็งแกร่งขึ้น,หลังจากทดสอบอยู่หลายครั้ง,ด้วยพลังที่เขามีเวลานี้,เมื่อกระตุ้นสัมผัสสูงสุดสามารถเพิ่มรัศมีการรับรู้ได้ถึง 1 กิโลเมตร,แน่นอนว่ายิ่งไกลเท่าไหร่,ภาพสัมผัสที่เห็นยิ่งเลือนลาง.
หากซูเห่าไม่กระตุ้นจิงซี,ระยะตรวจจับปรกติของเขาอยู่ในพื้นที่ 200 เมตร.
“ข้าไม่ได้เลือกรูปแบบสัตว์ร้ายผิดเลย,นี่คือทักษะเทวะเพื่อใช้รักษาชีวิตโดยแท้จริง! ด้วยความสามารถนี้จะยิ่งทำให้ข้ามีความสามารถเอาชีวิตรอดได้มากขึ้น!”
อย่างไรก็ตาม,ซูเห่าที่สนใจในรูปแบบสัตว์ร้ายในชั้นที่สามของหอตำราหลิงหยุนเป็นอย่างมาก,เขาต้องการบันทึกมันลงในระบบเพื่อศึกษา,อย่างไรก็ตามเขาสัมผัสได้ว่าชายชราผู้ดูแลหอนั้นเฝ้าดูอยู่,ทำให้เขาไม่อาจตรวจสอบข้อมูลในม้วนหนังสัตว์ม้วนอื่น ๆ ได้,เพราะเกรงว่าจะเกิดปัญหาอื่น ๆ ขึ้น ดังนั้นจึงล้มเลิกความตั้งใจเกี่ยวกับม้วนรูปแบบสัตว์ร้ายอื่น ๆ ไป.
เหตุผลที่เขาสนใจรูปแบบสัตว์ร้ายม้วนอื่น ๆ,เพราะว่าเขาสงสัย,ทำไมอักขระสัญลักษณ์ที่สลักลงไปนั้นให้ผลลัพธ์ที่แปลกประหลาด,ในโครงสร้างที่ซับซ้อนของรูปแบบสัตว์ร้ายได้ซ่อนความลับใดไว้อีกหรือไม่?
เมื่อเขาไม่เข้าใจเกี่ยวกับปัญหานี้,ภายในใจของเขารู้สึกไม่สงบเลย,ราวกับว่ามีอะไรขีดข่วนกระตุ้นให้เขาสงสัยอยากรู้อยากเกาอยู่เป็นระยะ ๆ.
แม้นว่าเวลานี้เขาจะมีอักขระตรวจสอบ,ทว่าก็ไม่อาจใช้ประโยชน์บรรยายความลึกล้ำออกมาได้แต่อย่างใด.
“ข้าต้องศึกษาอักขระรูปแบบให้มากกว่านี้,ขอเพียงมีข้อมูลเพียงพอ,ข้าจะต้องถอดรหัสความลับนี้ได้อย่างแน่นอน.”
ซูเห่าเชื่อมั่นอย่างแรงกล้า,แม้ว่าอักขระเหล่านี้จะลึกล้ำ,ทว่าก็มีหลักการบางอย่างที่แน่นอน,ผลลัพธ์พิเศษเหล่านี้ไม่ควรที่จะไร้เหตุผล,หากสามารถเรียนรู้เข้าใจมันได้,ย่อมสามารถถอดรหัสมันได้ในสักวัน.
ซูเห่านับเงินในกระเป่าของเขา,2เหรียญทอง 35 เหรียญเงิน.
จากนั้นเขาก็ออกจากสถาบัน,เดินเตร็ดเตร่ในถนนหลักและซอยต่าง ๆ
เขาที่คิดถึงอู๋หยุนเทียนที่สวมชุดคลุมที่เก่า,มีรอยปะชุนอยู่ตลอด,เกรงว่าคงไม่อาจให้ความอบอุ่นได้ในฤดูหนาวได้เป็นแน่,ดังนั้นเขาจึงซื้อเสื้อคลุมให้กับอู๋หยุนเทียนสองชุด,ชุดฤดูร้อนหนึ่งชุด,ชุดฤดูหนาวอีกชุดหนึ่ง.
และเลือกซื้อสินค้าทั่วไป,ใช้เงินไปทั้งหมด 20 เหรียญเงิน.
นอกจากนี้เขายังต้องการชุดเครื่องนอน,อีก 10 เหรียญเงิน.
จากนั้นเขาก็ไปซื้อน้ำมันบำรุงอาวุธที่ร้านขายอุปกรณ์,จ่ายไป 35 เหรียญเงิน.
ท้ายที่สุดเขาก็ซื้อเครื่องเทศและเครื่องปรุง,รวมทั้งสุราหนึ่งถัง,จ่ายไปอีก 10 เหรียญเงิน.
รวมทั้งสิ้น เขาได้จ่ายไปถึง 75 เหรียญเงิน.
ขณะกลับสถาบัน,ด้านหลังของซูเห่าก็มีหอผ้าขนาดใหญ่พะรุงพะรัง,ใหญ่กว่าร่างของเขาถึงสามเท่า.
......
เช้าวันถัดมา,หลังจากซูเห่าเตรียมสัมภาระเสร็จสิ้น,ก็แบกห่อผ้าขนาดใหญ่,ก้าวออกมาจากหอมารวมตัวกับเหอชิงชิงและเสี่ยวปัง.
เสี่ยวปังและเหอชิงชิงที่เห็นห่อผ้าขนาดใหญ่ของซูเห่า,ก็อ้าปากกว้าง,เสี่ยวปังที่ตื่นตะลึงเอ่ยออกมาว่า“เซี่ยงหวู่,หอผ้าของเจ้าใหญ่มาก! ให้ข้าช่วยถือใหม?”
เสี่ยวปังและเหอชิงชิงก็มีห่อผ้าขนาดใหญ่เช่นกัน,ทว่าเทียบกับซูเห่าแล้วเห็นชัดเจนว่าเล็กจ้อยไปเลย.
เหอชิงชิงเอ่ย“เซี่ยงหวู่,ห่อผ้าของเจ้าใหญ่มาก,ใส่อะไรเข้าไป,ให้ข้าช่วยถือใหม”
ซูเห่าที่ปรับตำแหน่งห่อผ้าให้แน่น,เอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม“ไม่เป็นไร,เป็นเพียงข้าวของทั่วไป,ข้าซื้อของไปฝากพ่อ,ไม่ได้หนักอะไร.”
น้ำหนักหอผ้าไม่มีอะไรต้องเอ่ยถึง สำหรับซูเห่า,ต่อให้วิ่งรอบเมืองหลิงหยุนอีกหลายรอบ,ก็ไม่ทำให้เขาเหนื่อย.
เสี่ยวปังที่นึกอะไรขึ้นมาได้ทันที“ข้าลืมซื้อของฝากพ่อข้า,ทำอย่างไรดี?”
เหอชิงชิงเองก็เอ่ยออกมาว่า“ข้าเองก็ลืม...”
ซูเห่าเอ่ย“ไม่จำเป็น,นี่คือสิ่งของใช้ในบ้านทั่วไป,ไม่ใช่ของขวัญ,ไปกันเถอะ!”จากนั้นทั้งสามก็ก้าวออกนอกประตูสถาบัน,ทันใดนั้นก็พบว่าเหอเจี้ยนหยงและเหล่าหลี่มารออยู่ด้านนอกแล้ว,ขณะที่ทั้งพวกเขากำลังโบกมือให้กับทั้งสาม.
อย่างไรก็ตาม,สิ่งที่ทำให้ซูเห่าประหลาดใจ,เขาพบกับร่างที่คุ้นเคย.
“พ่อ?”
เป็นอู๋หยุนเทียนนั่นเอง,เป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงที่อู๋หยุนเทียนมารับเขา.
“พ่อ!”
เหอชิงชิงที่ร้องตะโกน,กระโดดโลดเต้นวิ่งไปหาเหอเจี้ยนหยง,พร้อมกับกอดอีกฝ่ายไว้.
เหอเจี้ยนหยงที่เห็นบุตรสาวที่ยังคงทำตัวเหมือนเด็ก,ก็ถอนหายใจ,หากเป็นแต่ก่อนการที่อีกฝ่ายวิ่งเข้ามากอดคอเขาแน่น,เขาย่อมไม่ถือสา.
เหอเจี้ยนหยงที่ปลดมือของเหอชิงชิงออก เอ่ยออกไปว่า“ชิงชิง,เจ้าโตมากแล้ว!”
เสี่ยวปังที่ยิ้มกว้าง,ยืดอกเชิดหน้าเอ่ยต่อเหล่าหลี่“พ่อ,เห็นอะไรในตัวของข้าใหม?”
เหล่าหลี่ที่โบกไม้โบกมือ,ตบหัวเสี่ยวปัง,พร้อมกับรับห่อผ้าของเขามา,เอ่ยด้วยรอยยิ้ม“มีอะไรล่ะ? เจ้ายิ่งโตยิ่งเหมือนพ่อ!”
เสี่ยวปังที่ดูกระวนกระวายเอ่ยออกมาว่า“ไม่เห็นรึ? ข้าเป็นผู้ฝึกยุทธ์ขั้นกลางแล้ว!”
จากนั้นเขาก็ถูกบิดาตบศีรษะอีกรอบ.
อีกฝั่งซูเห่า,ที่ดูเงียบเล็กน้อย.
ซูเห่าที่เผยยิ้มเอ่ยออกมาว่า“พ่อ,ปีที่แล้วราบรื่นหรือไม่?”
อู๋หยุนเทียนที่จ้องมองรูปลักษณ์ของบุตรชาย,ตรวจสอบอย่างระมัดระวัง,ดูเหมือนว่าจะสูงขึ้นเล็กน้อย,เพียงไหล่ของเขา,ทว่าสุขภาพและกลิ่นอายกับเหนือล้ำ,ทำให้เขาพยักหน้าอย่างพอใจ“ราบรื่นดี.”
จากนั้นเขาก็ยื่นมือมาเพื่อช่วยแบ่งหอผ้าด้านหลังซูเห่า.
ซูเห่าที่โบกมือไปมา“ไม่เป็นไร,ข้าแบกเองได้,เป็นที่นอนนะ,ไม่ได้หนักอะไร.”
อู๋หยุนเทียนพยักหน้ารับ.
เหอชิงชิงที่จ้องมองซูเห่าที่ถือของเอง,ส่วนห่อผ้าเล็ก ๆ ของเธอกับให้บิดาช่วยถืออย่างงั้นรึ?
ดังนั้นเธอจึงดึงห่อผ้ามาจากเหอเจี้ยนหยงเอ่ยออกมาว่า“พ่อ,ห่อผ้าข้า,ข้าถือเองได้!”
เสี่ยวปังที่ยกมือขึ้นเกาศีรษะด้วยท่าทางอักอ่วน,กล่าวออกมาว่า“พ่อ,ข้าถือเอง!”
ซูเห่าที่ไม่ได้เอ่ยอะไร,ในโลกนี้ความรู้สึกของผู้คนเป็นอะไรที่ปลกประหลาด,ต้องการทำอะไรเหมือน ๆ กัน,เหอเจี้ยนหยงที่พูดไม่ออก,ต่างก็จ้องมองหน้าเหล่าหลี่และอู๋หยุนเทียน,พลางส่ายหน้าไปมา“ไปกันเถอะ!”
คนทั้งหกออกจากประตูเมือง,มุ่งหน้าสู่ป้อมซาซาน.
หลังจากที่ออกจากเมืองหลิงหยุนแล้ว,พวกเขาก็เริ่มเร่งความเร็ว,พร้อมทั้งระมัดระวังสัตว์ร้ายซุ่มโจมตีด้วย.
แม้นว่าที่นี่จะอยู่ในเขตเมืองหลิงหยุน,ทว่าบางครั้งก็มีสัตว์ร้ายหลุดเข้ามาหาอาหาร,แม้แต่ลอบทำร้ายกินมนุษย์ธรรมดาด้วย.
ทันใดนั้น,ซูเห่าที่ขมวดคิ้วแน่“เรดาร์”ของเขาเผยว่าห่างออกไป 200 เมตร,ปรากฏปราณโลหิตที่แปลกหน้าสิบคน,ซึ่งกำลังดักรอด้านหน้าเส้นทางที่พวกเขากำลังจะไป.
ไม่ใช่,ไม่ใช่คนแปลกหน้า,มีหนึ่งคนที่มีอยู่ในบันทึก.
ซูเห่าที่อ่านข้อมูลอย่างรวดเร็ว,หนึ่งในนั้นเป็นตานซุยผู้ฝึกยุทธ์ขั้นกลางนั่นเอง,ส่วนที่เหลือเป็นคนนอกซึ่งมีระดับจอมยุทธ์ทั้งหมด.
คนเหล่านี้มาซุ่มเล่นงานเขาอย่างแน่นอน.
หลายเดือนก่อน,เขาได้ระเบิดไข่ตานซุยนักเรียนปีสาม,อีกฝ่ายที่ออกมาประกาศออกว่าจะหาคนมาลอบสังหารเขา,เวลานี้ดูเหมือนว่าจะหาคนได้แล้ว.
ซูเห่าที่ตรวจสอบคนแปดคน,พวกเขาล้วนแต่เป็นจอมยุทธ์ขั้นสูง.
“ทำอย่างไรดี?”ซูเห่าที่ลดความเร็วลงครุ่นคิด.
หากมีเพียงเขา,เขาย่อมไม่สนใจ,เขาเพียงคนเดียวก็พร้อมปะทะกับคนเหล่านี้ได้แล้วอย่างไม่ยากเย็นนัก,ทว่าตอนนี้ยังมีเสี่ยวปังและเหอชิงชิงที่ยังช่วยตัวเองไม่ได้,นับว่าเป็นปัญหาเหมือนกัน.
ทั้งสองภายใต้การซุ่มโจมตีของจอมยุทธ์ขั้นสูงจำนวนมาก,โอกาสรอดชีวิตมีน้อยมาก.
ให้เขาสังหารคนเหล่านั้นย่อมไม่มีปัญหา,ทว่าหากต้องคอยปกป้องเสี่ยวปังและเหอชิงชิงไปด้วย,ด้วยประสบการณ์การต่อสู้ที่เขามีปัจจุบัน,ทำให้เขามั่นใจเพียงเก้าสิบเปอเซ็นเท่านั้น.
อู่หยุนเทียนที่เห็นซูเห่าผิดปรกติ,ก็หันหน้าถาม,“เกิดอะไรขึ้นเซี่ยงหวู่?”