Chapter 4 Being out of danger
脱险
ซูเห่าที่มีประสบการณ์ความเป็นความตายมาหลายครั้ง,ทำให้เขาขาดซึ่งความหวาดกลัวโดยสิ้นเชิง,จิตใจของเขาดูสงบสุขุม.
ความเป็นความตายในเวลานี้,ตามความคิดของเขาคล้ายว่ายากจะหลบเลี่ยงได้,ทว่าเขานั้น ก็ไม่คิดที่จะไม่ยอมแพ้โดยไม่สู้เช่นกัน.
คนร้ายที่ดวงตาแดงซ่าน,จิตใจบิดเบี้ยวบ้าคลั่ง,มีดอีกฝ่ายได้ฟันลงมานั้น,ขาดซึ่งความแม่นยำ.
ซูเห่าที่มองเห็นวิถีมีด,หดคองอหลังพุ่งไปด้านหน้าหลบการฟันของอีกฝ่ายอย่างหวุดหวิด,วิ่งหลบหนีไปยังด้านข้างอย่างรวดเร็ว,ตรงไปยังสถานที่มีสิ่งกีดขวางให้เขาซ่อนได้.
คนร้ายที่ฟันมีดลงมา,เขาไม่ได้คิดอะไรมากมาย,ทว่าขณะที่ฟันลงมานั้น,เป้าหมายของเขากับหลบไปด้านข้างอย่างรวดเร็ว.
หนี? หนีได้รึ? แววตาของคนร้ายได้กลายเป็นดุร้ายยิ่งกว่าเดิม,วิ่งตามไปในทันที.
ซูเห่าที่เห็นคนร้ายวิ่งไล่หลังมา,ขณะอยู่ห่างออกไปสองสามก้าวคนร้ายได้ยกมีดฟันลงมาอีกครั้ง,เขาที่ยังคงสงบจ้องมองลอดหลังไปยังมีดของคนร้ายที่พุ่งเข้ามา.
ซูเห่าที่ล้มลงไปด้านหน้าทันที,มีดที่ตัดผ่านข้ามบนศีรษะของเขาไป,เฉือนผมไปนิดเดียว.
ขณะที่เขาจะคลานต่อไป,ก็พบว่าคนร้ายได้คว้าไปยังข้อขาของเขาแล้ว,พร้อมกับดึงรั้งเอาไว้,ไม่ว่าจะดิ้นอย่างไรก็ไม่อาจดึงหลุดและหลบออกไปได้.
“จบแล้ว!”หัวใจของซูเห่าที่ได้แต่ทอดถอนใจ,ดูเหมือนว่าเขาจะไม่มีทางมีชีวิตเกินห้าปีแล้ว.
คนร้ายที่เผยยิ้ม,เห็นเด็กน้อยไม่อาจหนีได้,ก็ยกมีดขึ้นฟันออกไปเป็นครั้งที่สาม ไปยังหลังของซูเห่า.
“แก๊ก!”
มีดที่ฟันลงบนแผ่นพลาสติกระดอนออกมา.
คนร้ายที่ตะลึงงัน,ไม่อยากเชื่อว่ามีดของเขาจะฟันอีกฝ่ายไม่เข้า,แม้แต่กระดอนออกมา,เขาที่ยกเสื้อของซูเห่าออก,พบพลาสติสองแผ่นซ่อนอยู่,แววตาของคนร้ายที่ดุเดือดโมโห,ต้องการจะฟันลงไปอีกครั้ง,ต้องการรับรู้ว่าอีกฝ่ายยังจะมีอะไรซ่อนอยู่อีก.
ซูเห่าที่เห็นพลาสติกหลุดออกจากร่างแล้ว,มือน้อย ๆ ของเขาที่ล้วงไปยังกระเป๋ากางเกง,พร้อมกับสาดใส่หน้าของคนร้ายทันที.
คนร้ายที่ปล่อยข้อขาซูเห่าตามสันชาติญาณ,ยกมือขึ้นมากันใบหน้าของเขาเอาไว้,แม้นว่าจะป้องกันทรายส่วนใหญ่ได้,ทว่ามันใกล้เกินไป,ทรายที่สาดออกไปนั้นเร็วมาก,มันจึงมีบางส่วนที่เข้าตาของคนร้าย.
“อ๊าก!”คนร้ายที่ร้องโอดโอย,แม้แต่ยกมือขึ้นสีตาไปมา.
ซูเห่าที่คลานออกมา,ก่อนที่จะยกกำปั้นขึ้นต่อยไปยังเป้ากางเกงของคนร้าย.
“อ๊ากก”คนร้ายที่ทิ้งมีดกุมเป้ากางเกงโค้งงอกุมไข่ไว้แน่น.
ซูเห่าที่วิ่งหนีออกนอกประตูทันที.
คนร้ายที่สีตาจนทรายหลุดออกหมด,ทว่ายังคงกุมเป้าเจ็บปวดไปหลายวินาที,ก่อนที่จะฟื้นคืน,จ้องมองไปยังฝ่ายตรงข้ามที่วิ่งหนี,เขาที่จับมีดขึ้นมา,ก่อนที่จะขยับวิ่งตามไป.
ซูเห่าที่หนีออกมานอกประตูแล้ว,เมื่อออกมาเห็นชายวัยกลางคน 30-40 ปี,ถือกระบองวิ่งเข้ามาในห้องเรียนแล้ว.
“ฟู่,กำลังเสริมมาถึงในที่สุด!”ซูเห่าที่พ่นลมหายใจยาว,เขาที่ยังคงวิ่ง ไปด้านหน้าไม่หยุด,จนกระทั่งถูกชายแปลกหน้ากอดเอาไว้.
ชายที่กอดเขาไว้นั้นได้นำเหล่าเด็กออกมาซ่อนที่ในที่ปลอดภัย,หลังจากนั้นก็นำเขามารวมกับเด็กคนอื่น ๆ แล้ววิ่งเข้าไปในห้องอีกครั้ง.
ในเวลานี้,เหล่าเด็กที่กำลังร้องไห้,เห็นซูเห่าออกมา,จ้องมองไปยังซูเห่าที่กำลังกวาดตามอง,เหล่าเด็กเล็กหยุดร้องลงอย่างคาดไม่ถึง,ทว่าก็ยังมีบางคนสะอื้นลับ ๆ อยู่.
ในเวลาไม่นาน,คนร้ายในห้องก็ถูกจัดการ จากผู้ชายหลายคน,จากนั้นไม่นานเสียงไซเรนรถตำรวจก็วิ่งมาอย่างรวดเร็ว.
ซูเห่าที่กำมือน้อย ๆ ด้วยความตื่นเต้น,ดูเหมือนว่าเขาจะปลอดภัยชั่วคราวแล้ว.
จนถึงตอนนี้,หัวใจของเขายังคงเต้นเร็วแรงอย่างบ้าคลั่ง,เขาที่หายใจหอบ ๆ ,ใบหน้าที่แดงกล่ำเพราะโลหิตสูบฉีดแรง.
เป็นการรอดอย่างฉิวเฉียด,ตอนนี้เขาควรที่จะนอนรอรถพยาบาท,ไม่คาดคิดว่าร่างกายน้อย ๆ ของเขาจะรอดพ้นจากวิถีมีดได้.
เป็นเรื่องเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายที่สุดคงเป็นช่วงที่คนร้ายได้คว้าข้อเท้าเขาเอาไว้,เขารู้สึกว่าตัวเองเป็นปลาบนเขียงที่กำลังจะถูกหั่นแล้ว,หากคนร้ายไม่ฟันลงมายังด้านหลังที่มีแผ่นพลาสติก,แต่ฟันลงไปบนศีรษะ,เขาคงตายอย่างแน่นอน.
หลังจากที่ซูเห่าสงบใจลงช้า ๆ,เขาก็พบกับความเปลี่ยนแปลง,เขารู้สึกว่าจิตใจของเขาสงบใจเกินไป,ปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ง่ายดาย.
หลังจากตายมาหลายครั้ง,เกิดใหม่,ตายและเกิด มันทำให้จิตใจของเขาแข็งแกร่งขึ้น,ในช่วงเวลาวิกฤติ,เขาสามารถคิดใคร่ครวญได้อย่างเยือกเย็น
อย่างไรก็ตามนี่อาจจะไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก,เขาได้สูญเสียความหวาดกลัวในความตาย,ซึ่งนั่นหมายความว่า เขาได้สูญเสียความปรารถนาที่จะรอดชีวิตในสถานะการณ์วิกฤติไปด้วยเช่นกัน.
เพียงไม่นาน,เรื่องดังกล่าวนี้ก็จบลง,ตำรวจได้จับคนร้ายออกไป,เหล่าเด็กที่บาดเจ็บได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลโดยด่วน,เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเองก็ถูกนำตัวไปรักษา,ครูอนุบาลได้แจ้งไปยังผู้ปกครองเด็ก,เหล่าผู้สื่อข่าวฝูงใหญ่ได้รุมล้อมเข้ามาหาข่าว.
เมื่อหวงซูจวินมาถึงโรงเรียนอนุบาลก็ตกใจ,หลังจากเห็นซูเห่าปลอดภัย,น้ำตาของเธอก็ไหลออกมาไม่หยุด,วิ่งเข้าไปกอดซูเห่าไม่ปล่อย.
ซูเห่าที่รู้สึกดีใจที่ตัวเองรอด,หากว่าตัวเขาตกตายวันนี้จริง ๆ,เกรงว่ามารดาของเขาคงเจ็บปวดมากแน่.
......
เพียงไม่นาน,ภาพวีดีโอได้ปรากฏกระจายไปทั่วสื่อ.
ในภาพเป็นภาพของเด็กชาย,หลบหนีการสังหารของคนร้ายอีกครั้งและก็อีกครั้ง,นอกจากนี้ยังโจมตีคนร้ายจนได้รับบาดเจ็บ,หลบหนีได้สำเร็จ.
เห็นภาพของซูเห่าในวีดีโอ.
ผู้คนต่างก็เข้ามาแสดงความเห็นกันไม่หยุด.
“เฮ้ย,เหลือเชื่อ,นี่คือชัยชนะในตำนานเลย.”
“เด็กคนนี้เป็นใคร,แจ่มเกินไปแล้ว!”
“ตอนนี้,พี่สาวอยากตะโกนว่า”เธอร้ายกาจมาก!””
“ฉันยอมแพ้เลย,เด็กคนนี้เอาชนะฉันได้หลายครั้งแน่เลย...”
“นี่มันคือภาพยนตร์ใช่ใหม!”
“คนร้ายต้องพ่ายแพ้ด้วยฝีมือของเด็กคนนี้.”
“บางทีฉันคงสู้เด็กคนนี้ไม่ได้,ฉันอ่อนแอเหลือเกิน.”
“ฉันมั่นใจเลยว่า,ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้.”
“ช่างเป็นอะไรที่น่ามหัศจรรย์!”
“ฉันคิดว่าเรื่องนี้มันเหลือเชื่อยิ่งกว่าในหนังซะอีก,หลังจากดูวีดีโอแล้ว,ฉันก็พบว่ามันน่าอัศจรรย์,จนเชื่อไม่ลงเลย!”
“ยังเป็นมนุษย์อยู่อีกใหม.”
“เด็กคนนี้เป็นใคร? ฉันจะแต่งกับเขา,ฉันยินดีรอสิบปีเลย.”
“คนแก่ที่ไม่ประมานตน,สิบปีหลังจากนี้เขาก็ยังมีอายุ 15-16 ปีเท่านั้น! คิดว่าจะเหลือมาถึงเธออีกรึ?”
“ไม่รู้ว่ามีคนสังเกตเห็นใหม,ทุกกระบวนการเด็กคนนี้สงบมาก,เมื่อเขาเห็นคนร้ายเขาก็วิ่งออกไปนำแผ่นพลาสติกใส่ไว้ในเสื้อ,จากนั้นก็กำทรายใส่กระเป๋ากางเกง,กล่าวได้ว่าเขาร้ายกาจเกินไป,นี่มันอัจฉริยะอย่างแน่นอน.”
ซูเห่าที่กลายเป็นคนมีชื่อเสียง,เป็นอัจฉริยะที่ทุกคนต้องกล่าวถึง.
หลังจากทุกคนได้เห็นวีดีโอกันแล้ว,ต่างก็รับรู้ว่า,ในโลกนี้ยังมียอดอัจฉริยะอยู่จริง ๆ,เรื่องนี้ไม่อาจปฏิเสธได้เลย.