Chapter 26 Body condition
身体状态
หลังจากซูเห่าจัดการพยัคฆ์ลายน้ำเงินเพียงคนเดียว,ก็ชำแหละนำส่วนที่ล้ำค่าออกมา,พร้อมกับห่อใส่ผ้าขนาดใหญ่,ขนาดของมันใหญ่กว่าร่างของเขาซะอีก,ก่อนที่จะก้าวเดินออกมา,อู๋หยุนเทียนที่นั่งบนศิลารออยู่“ท่านพ่อ,ไปกันเถอะ!”
อู๋หยุนเทียนที่เห็นร่างอีกฝ่ายปรากฏขึ้น,พยักหน้าไม่ได้เอ่ยอะไร,กระโดดลงมา,พร้อมกับก้าวเดินนำ,ซูเห่าที่แบกห่อผ้าขนาดใหญ่ก้าวตามไปอย่างรีบเร่ง.
กลับถึงหมู่บ้าน,ระหว่างทางเหล่าชาวบ้านที่ก้าวเข้าทักทาย,ทว่าเห็นห่อผ้าขนาดใหญ่ด้านหลังซูเห่า,ก็ไม่ได้เผยท่าทางประหลาดใจอะไรนัก,ทว่าเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม“โอ้ว,วันนี้เซี่ยงหวู่เก็บเกี่ยวได้ยอดเยี่ยมเลย!”
“ร้ายกาจจริง ๆ~”
ซูเห่าเผยยิ้ม“มีท่านพ่อช่วย,ไม่เช่นนั้นข้าจะล่าพยัคฆ์ร้ายได้อย่างไรเล่า.”
ร่างของซูเห่าที่หายลับตาไป.
ที่มุมแห่งหนึ่ง เหอชิงชิงที่จ้องมองไปยังซูเห่าที่หายตัวไป,พร้อมกับขบริมฝีปากแน่น.
เสี่ยวปังหรือเจ้าอ้วนชุนที่อ้วนกลมได้หายไปแล้ว,เขาดูสมส่วนสูงขึ้น,ทว่าก็ยังไม่อาจเทียบได้กับเซียงหวูที่ดูล่ำสันสูงใหญ่ไม่ได้ต่างจากเจ้าน้ำมูกเทา.
อย่างไรก็ตาม,ตอนนี้คงไม่อาจเรียกเจ้าน้ำมูกเทาได้อีกแล้ว,เพราะอีกฝ่ายนั้นไม่มีน้ำมูกไหลย้อยเช่นเดิม ทุกคนจึงเรียกเขาว่าซาเทา(เต่าโง่)
เสี่ยวปังที่จ้องมองอีกฝ่ายเช่นกัน,เผยใบหน้าอิจฉา,“ข้าเองก็อยากออกไปล่าสัตว์เหมือนกัน,จะน่าอิจฉาเกินไปแล้ว.”
ซาเทาที่พยักหน้าเอ่ยออกมาว่า“ใช่! เมื่อไหร่พวกเราจะได้ออกไปล่าบ้าง.”
เสี่ยวปังที่ถอนหายใจ“ได้ยินมาว่าเซี่ยงหวู่เป็นผู้ฝึกยุทธ์นานแล้ว,ตอนนี้น่าจะเป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับกลาง.”
ซาเทาที่เอ่ยอย่างเศร้าสร้อย“ทำไมข้าไม่อาจหาปราณโลหิตพบล่ะ...ข้าไม่มีพรสวรรค์เท่ากับเซี่ยงหวู่อย่างงั้นรึ?”
เสี่ยวปังที่กล่าวปลอบ“ซาเทาเจ้าไม่ต้องเศร้า,ข้าเองก็เพิ่งเป็นผู้ฝึกยุทธ์เพียงปีเดียว,เจ้ายังมีโอกาสไล่ทัน,พยายามให้มาก!”
ซาเทาที่เอ่ยออกมาทันที“อืม....เจ้าอ้วน งั้นเจ้าก็บอกมาว่าเจ้าพบกับปราณโลหิตได้อย่างไร.”
“ข้าบอกแล้วอย่าเรียกข้าว่าอ้วน,เห็นใหมว่าเจ้ายังเปลี่ยนไปเป็นซาเทา.”เสี่ยวปังที่เอ่ยอย่างไม่พอใจ,ก่อนที่เขาจะเผยประสบการณ์ตัวเองให้อีกฝ่ายได้รับฟัง“มันง่ายจริง ๆ,แท้จริงแล้วมันมีอยู่,เจ้าดูนี่,เข้าใจยัง....”
ซาเทาที่มองตาเย็น“เป็นแบบนี้....”
เสี่ยวปังที่ดวงตาเป็นประกาย“เจ้าเข้าใจแล้วรึ?”
ซาเทาที่ส่ายหน้าไปมา“ไม่เข้าใจ!”
เสี่ยวปังที่หันหน้าไปมองเหอชิงชิง,เอ่ยชม“ชิงชิงร้ายกาจมาก,ใช้เวลาปีเดียวก็หาปราณโลหิตได้แล้ว,เร็วกว่าข้าซะอีก,มีพรสวรรค์จริง ๆ,ชิงชิงเจ้าจะไล่ตามเซี่ยงหวู่ทันใหม?”
เหอชิงชิงที่ถลึงตามองเสี่ยวปังทันที,จากนั้นนางก็หันหน้าเดินจากไป.
เสี่ยวปังที่กลายเป็นเซ่อไปเหมือนกัน,เห็นเหอชิงชิงไปแล้ว,ก็เร่งรีบเอ่ยออกมาทันที“ชิงชิง,เจ้าไปใหน?”
“ฝึกยุทธ์!”
......
ซูเห่ากลับถึงบ้าน,อาบน้ำทำความสะอาดร่างกายเสร็จ,จิตสำนึกของเขาก็เข้าไปในพื้นที่พินบอล,พร้อมกับเปิดหน้าจอตรวจสอบสถานะขึ้น.
[อายุ: 8 ปี สามเดือน;
ความสูง :146 ซม;
น้ำหนัก : 45 กิโลกรัม;
สภาวะร่างกาย : สมบูรณ์ ;
ระดับ :ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสูง ;
ปราณโลหิต : 5 ;
ทักษะต่อสู้ : ดาบพื้นฐาน(ชำนาญ),ท่าเท้าพื้นฐาน(ชำนาญ),ท่าเท้าเคลื่อนเงา(เชี่ยวชาญ),ตัดตามขวาง(เป็นเอกลักษณ์),หนามมายา(เชี่ยวชาญ),หมัดคมดาบ(เชี่ยวชาญ),พุ่งปะทะ(ผู้เริ่มต้น),โล่โจมตี(ผู้เริ่มต้น),กระโดดฟัน(ผู้เริ่มต้น) ;
ระบบควบคุม : ฟังก์ชันยกระดับคลื่นโลหิต(เชี่ยวชาญ),ฟังก์ชันยกระดับกล้ามเนื้อ(เชี่ยวชาญ),ฟังก์ชันยกระดับกระดูก(ผู้เริ่มต้น),ฟังก์ชันยกระดับอวัยวะภายใน(ยังไม่ถึงระดับเริ่มต้น),ฟังก์ชันยกระดับสัมผัสทั้งห้า(ยังไม่ถึงระดับเริ่มต้น) ;
]
ฟังก์ชันระบบ เป็นโปรแกรมที่ถูกเขียนขึ้นเป็นพิเศษโดยซูเห่าเพื่อช่วยสนับสนุนร่างกายของเขา,นอกจากนี้ยังมีการตรวจสอบสถานะร่างกายของเขาตลอดเวลา,เป็นหนึ่งโครงการใหญ่ที่เขาใช้เวลาเป็นอย่างมากกับมัน.
เขาจะไม่ยอมปล่อยให้ตัวเองป่วยโดยอธิบายไม่ได้เหมือนกับชาติก่อนอย่างแน่นอน.
“สภาพร่างกาย” นี่คือฟังก์ชันระบบตรวจสอบที่ทำให้ง่ายขึ้น,มีทั้งการตรวจสอบโลหิต,การเต้นของหัวใจ,ตรวจสอบปัสสาวะ,และตรวจสอบอวัยวะต่าง ๆ,ทุกส่วนในร่างกายของเขา.
เป้าหมายของเขายังไม่เคยเปลี่ยน,เขาจะต้องมีชีวิตให้ได้นานที่สุด,กำจัดความเสี่ยงทุกอย่างที่จะเกิดขึ้น,แม้นว่าเขาจะไม่หวาดกลัวความตาย,ทว่าก็ไม่ต้องการตายง่าย ๆ เช่นกัน,หากเขาหลับตาลงแล้วไม่อาจตื่นขึ้นตลอดกาลล่ะ?
ข้อมูลปราณโลหิต,ยังหมายถึงปริมาณปราณโลหิตในร่างกาย,ตลอดสามปีมานี้เขาได้ยกระดับความเข้มข้นของปราณโลหิตจนถึงขีดสุด,ความเข้มข้นของปราณโลหิตสูงกว่าเมื่อสามปีที่แล้วถึงห้าเท่า,ไม่ต้องเอ่ยเลยว่าเขาแข็งแกร่งขนาดใหนเมื่อเทียบกับสามปีที่แล้ว.
ร่างกายที่สามารถแข็งแกร่งขึ้นได้นั้น,ต้องยกความดีความชอบให้“คลื่นยกระดับปราณโลหิต”ที่เขาครอบครอง,เขาได้ศึกษาวิเคราะห์เชิงลึกลงไปอีก.
เขาพบว่าหากสามารถควบคุม“คลื่นยกระดับปราณโลหิต” จะสามารถควบคุมความเข้มข้นของปราณโลหิต,นอกจากนี้เขายังค้นพบกับสสารพิเศษที่สามารถช่วยยกระดับความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้ออีกด้วย.
เขาพบว่าปริมาณปราณโลหิตที่อยู่ในขอบเขตถึงขีดจำกัดที่ร่างกายจะทนได้,ได้กำเนิดสสารบางอย่างที่ช่วยยกระดับความแข็งแกร่งร่างกายขึ้นอย่างรวดเร็ว,ด้วยการศึกษาระยะยาว,เขาได้เรียกสสารเพิ่มความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อนี้ว่า“คลื่นยกระดับกล้ามเนื้อ”
จากการศึกษาต่อไปอีก,เขาก็พบ“วิธีเพิ่มความแข็งแกร่งกระดูก”และ“วิธียกระดับความแข็งแกร่งอวัยวะภายใน”และยังพบ“วิธียกระดับสัมผัสทั้งห้า”ด้วยสสารพิเศษนี้.
ซูเห่าที่ได้ตั้งชื่อสสารพิเศษนี้ว่า“ฟังก์ชันยกระดับปราณโลหิต”,“ฟังก์ชันยกระดับกล้ามเนื้อ”และ“ฟังก์ชันยกระดับกระดูก”.
ขอเพียงควบคุมสสารพิเศษนี้ได้,ก็จะสามารถควบคุมการยกระดับความแข็งแกร่งดั่งที่เขาต้องการ,แล้วทำไมเรียกมันว่าฟังก์ชัน?
ที่ต้องเรียกว่าฟังก์ชัน,เพราะว่ามันถูกควบคุมด้วยสันชาติญาณของร่างกายโดยตลอดนั่นเอง.
ตอนนี้ซูเห่าสามารถควบคุมจิตสำนึกของตัวเองได้,ความคุมเจตจำนงของตัวเองได้อย่างอิสระ
จวบจนถึงตอนนี้เขาสามารถควบคุม“ฟังก์ชันยกระดับปราณโลหิต”, “ฟังก์ชันยกระดับกล้ามเนื้อ”และ“ฟังก์ชันยกระดับกระดูก” ตามความต้องการตัวเองได้,น่าเสียดาย,สำหรับ“ฟังก์ชันยกระดับความแข็งแกร่งอวัยวะภายใน”และ“ฟังก์ชันยกระดับสัมผัสทั้งห้า” แม้นว่าจะพบการคงอยู่,ทว่ายังไม่อาจหาวิธีควบคุมมันได้เลย.
ในเวลานี้ ด้วยปัจจัยดังกล่าวทำให้ซูเห่าได้พัฒนาร่างกายขึ้นเป็นอย่างมาก,ส่วนเรื่องการยกระดับอวัยวะและสัมผัสทั้งห้า,เมื่อไหร่ที่พบวิธีควบคุมได้,ความแข็งแกร่งของเขาจะต้องยกระดับขึ้นอีกหลายเท่าอย่างแน่นอนได้แน่.
ส่วนรายการข้อมูล ทักษะการต่อสู้ที่เขาใส่เข้ามานั้น,ก็เพื่อเป็นการจำแนกทักษะการต่อสู้,จัดเรียงความสามารถที่เขาครอบครอง เพื่อวางแผนในการยกระดับในอนาคต.
นอกจากนี้ยังมีการแบ่งระดับทักษะที่เขาครอบครอง กำหนดระดับออกเป็น : ยังไม่ถึงระดับเริ่มต้น,ระดับเริ่มต้น,พื้นฐาน,เชี่ยวชาญ,ชำนาญ,เป็นเอกลักษณ์,เป็นเลิศ.
ในทุกครั้งที่ตรวจสอบสถานะ,ซูเห่าจะกล่าวย้ำเตือนตัวเองตลอด“เจ้าคือนักฆ่า,มากกว่าเป็นนักรบ,อย่างได้ดื้อรั้น.”
เวลาต่อมาซูเห่าที่ถอนหายใจ,เชาว์ปัญญาเรื่องวิทยายุทธ์ของเสี่ยวกวงนั้นต่ำเกินไป,ยังขาดข้อมูลจำนวนมาก,มีเพียงข้อมูล“ปราณโลหิต”ที่มีมากที่สุดส่วน ข้อมูลอย่างอื่นนั้นยังจำเป็นต้องศึกษาเพิ่มเติม.
ยกตัวอย่างการแบ่งแยกระหว่างผู้เริ่มต้นและเชี่ยวชาญ,เสี่ยวกวงยังไม่อาจแยกแยะได้ด้วยตัวเอง.
ซูเห่าออกจากพื้นที่พินบอล,จากนั้นก็เริ่มทำตามภารกิจประจำวันของตัวเอง
“ในเวลานี้,ความหนาแน่นของปราณโลหิตและกล้ามเนื้อได้มาถึงขีดจำกัดสูงสุดแล้ว,ไม่จำเป็นต้องยกระดับเพิ่ม,ตอนนี้ต้องยกระดับกระดูกหนึ่งชั่วโมง,พยายามหาวิธียกระดับอวัยวะภายในและสัมผัสทั้งห้าอีกหนึ่งชั่วโมง.”
กล่าวจบ,ซูเห่านั่งสมาธิลง,จากนั้นก็เข้าสู่สภาวะผ่อนคลาย,เข้าสู่สมาธิอย่างรวดเร็ว,จิตใจจดจ่อกับสิ่งที่เขาต้องการทันที.
หลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมง,ซูเห่าก็ดึงสติกลับมา.
“ตัวแปรควบคุมยกระดับความแข็งแกร่งของกระดูกยากเกินที่จะควบคุม,ทำให้การยกระดับกระดูกค่อนข้างที่จะพัฒนาเชื่องช้า.”ซูเห่าที่ขมวดคิ้วไปมา,ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้,การยกระดับความแข็งแกร่งของกระดูกยังจำเป็นต้องใช้เวลาอีกนาน,ทว่าเวลานี้วิธีในการยกระดับอวัยวะภายในและสัมผัสทั้งห้านั้น,ยากเกินไป,จวบจนถึงตอนนี้เขายังไม่มีแนวทางในการพัฒนาฟังก์ชันดังกล่าวเลย.
หลังจากซูเห่าเสร็จจากการยกระดับกระดูก,เขาก็เริ่มหาวิธีในการอวัยวะภายในและสัมผัสทั้งห้าต่อ.
หนึ่งชั่วโมงผ่านมา,ซูเห่าที่ลืมตา,แล้วส่ายหน้าไปมา“ไม่ได้การ,จะต้องทำอย่างไรดี?”
เขาไม่อาจคิดอะไรได้อีกแล้ว,จึงได้ลุกขึ้นออกไปสูดอากาศด้านนอก.
ขณะก้าวออกมาเห็นอู๋หยุนเทียนกำลังดื่มชาอยู่สวนด้านหลัง.
อู๋หยุนเทียนที่จิบน้ำชา,วางลงบนโต๊ะเอ่ยออกมาว่า“เซี่ยงหวู่,ข้าจะสอนเจ้าเข้าสู่ระดับจอมยุทธ์พรุ่งนี้!”
ซูเห่าที่ดวงตาเป็นประกาย“ทำไมไม่เริ่มตอนนี้เลยล่ะ?”
อู๋หยุนเทียนที่แทบสำลักน้ำชา“....เพ่ย!”