Chapter 2 Year three years old, died
年三岁,卒
ซูเห่าได้ฟื้นชีพอีกครั้ง,พบว่าตัวเองเป็นเด็กหนึ่งขวบ,ครอบครับของเขานั้นทำงานร้านขายยา,ฐานะนับว่าค่อนข้างดี.
ทำให้เขาถอนหายใจด้วยความโล่งใจ.
“โชคดีจริง ๆ,โชคดีที่ข้าได้ร่างใหม่อีกครั้ง,ครั้งนี้ข้าจะต้อง....”
ไม่ใช่สิ!
ซูเห่าตระหนักได้ถึงสถานการณ์ที่ไม่ถูกต้องในทันที.
โชคดีที่ได้ร่างใหม่,หนึ่งหรือสองครั้งก็พอบอกได้ว่าเกี่ยวกับโชค,ทว่ามากกว่านั้น,ไม่ใช่โชคแล้ว,ทว่าเป็นสิ่งที่จะต้องเกิดขึ้น.
ซูเห่าที่จมอยู่ในความคิด,ยิ่งคิดก็ยิ่งหวาดหวั่น,ยิ่งคิดก็ยิ่งทำให้ร่างกายของเขาสั่นสะท้าน.
พื้นที่พินบอลได้นำจิตสำนึกของเขาเดินทางอย่างไร้จุดหมาย,จากสถานที่หนึ่งไปอีกสถานที่หนึ่ง,โดยไม่อาจคำนวณได้,เดินทางจนกว่าจะพบจุดหมาย.
กล่าวได้ว่า,พื้นที่พินบอลที่นำสติของซูเห่าไปจนพบกับเด็กชายสองขวบนั้น,มีความเป็นไปได้ว่า,ได้ผ่านจักรวาลที่กว้างใหญ่ไพศาลเกินจะจินตนาการ,ค้นหาเป้าหมายด้วยความเป็นไปได้ที่น้อยนิดเกินพรรณนา,เดินทางเรื่อย ๆ จนกว่าจะพบจุดหมาย.
เป้าหมายแม้นว่าจะไกลอย่างไม่อาจวัดได้,ทว่าขอเพียงยังคงก้าวไปด้านหน้า,ถึงจะไกลเท่าไหร่,มีโอกาสน้อยแค่ใหน,ก็จะมีโอกาสพบเป้าหมายในอนาคตได้,นี่คือความจริงที่จะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน.
ดังนั้น,ตามทฤษฎีแล้ว,ขอเพียงพื้นที่พินบอลยังคงเดินทางอยู่,ซูเห่าก็มีโอกาสพบร่างใหม่ยึดครองอย่างแน่นอน.
ซูเห่าไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นดีใจ,แต่กับรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาแทน.
“ข้าได้สติกลับมาแต่ละครั้ง,ยาวนานเท่าไหร่กัน? พันปี,หมื่นปี,ล้านปี,หรือพันล้านปีกัน...”
บางทีอาจจะมากกว่านั้น!
ช่วงเวลาที่เขาจะได้สติกลับมานั้น,เกินกว่าที่ซูเห่าจะจินตนาการถึงได้.
ด้วยเวลาเดินทางที่ยาวนาน,ทุกการเกิดสติแต่ละครั้งของซูเห่า,จึงเรียกได้ว่าล้ำค่าเกินพรรณนา,ยิ่งความเป็นไปได้น้อยเท่าไหร่ก็ยิ่งใช้เวลาเนิ่นนานเท่านั้น.
เขาที่รับรู้เข้าใจเรื่องราว,เริ่มปรับสภาพจิตใจ,เมื่อครุ่นคิดถึงชีวิตชาติแรกของเขาที่มีอายุเพียง 30 ปี,มันยังไม่เพียงพอต่อเขานัก.
ส่วนชีวิตชาติต่อ ๆ มา,เพียงสามปีก็ตกตาย,ซูเห่าได้กลายเป็นชีวิตที่น่าสงสาร,เขาจำเป็นต้องเตรียมตัวในการเกิดสติแต่ละครั้งให้ดี.
เป้าหมายแรกในการเกิดของเขาเวลานี้,อย่างแรกเลยคือการมีชีวิตรอดให้ได้.
เขาจำเป็นต้องรับรู้สภาพแวดล้อม,เข้าใจเรื่องราวของโลกที่เขาเกิดมาให้ดี.
ในโลกของชาตินี้เป็นโลกที่มีศิลปะการต่อสู้.
ซูเห่าที่จ้องมองลอดผ่านหน้าต่าง,เขาได้พบว่าบนหลังคาในคืนหนึ่งนั้น มีการต่อสู้ที่หนักหน่วงรุนแรง,ริ้วแสงกระบี่ที่ฟาดฟันเสาใหญ่ขาดเป็นสองท่อน,ราวกับว่านี่เป็นเรื่องราวในฝัน.
ซูเห่าที่สัมผัสได้ถึงอันตรายที่ซ่อนอยู่อย่างไม่มีสิ้นสุด,ในเวลาเดียวกัน,เขาก็คาดหวังว่าจะกลายเป็นปรมาจารย์การต่อสู้,ถือกระบี่ล่องลอยบนท้องฟ้า,ฟาดฟันกับศัตรู,นี่คือความฝันในวัยเด็กของเขาเลย.
น่าเสียดาย,ดูเหมือนว่าโอกาสนี้จะไม่ได้มีมากนัก,เขาไม่อาจหาอาจารย์สอนวิชาได้,ครอบครัวของเขาดูเหมือนว่าจะเป็นร้านขายยาธรรมดาทั่วไป.
ถึงแม้นว่าซูเห่าจะยังไม่ตัดใจ,ตอนนี้เขายังเด็ก,เขาเชื่อว่าสักวันหนึ่งเขาจะทำสำเร็จ.
หนึ่งปีหลังจากนั้น,ซูเห่าอายุหกขวบ,ขณะบิดาของเขากำลังรักษาสตรีผู้หนึ่ง,ใครจะรู้ล่ะว่าหลังจากนางหายดี,นางกลัวว่าครอบครัวซูเห่าจะแจ้งที่อยู่กับศัตรู,นางที่โหดเหี้ยมอมหิตได้สังหารทุกคนทั้งครอบครัวของซูเห่าไป.
ซูเห่าไม่มีโอกาสได้หนี,ท้ายที่สุดก็กลับสู่พื้นที่พินบอล,นำเขาล่องลอยสู่จักรวาลที่กว้างใหญ่ต่อไป.
......
ซูเห่าได้สติอีกครั้ง,เวลานี้ได้ครอบครองเป็นเด็กชายหนึ่งขวบครึ่ง,เป็นบุตรชายคนโตของครอบครัวหนึ่ง,ที่ทุกคนรักและเอ็นดู,ครอบครัวของเขานับว่ามีอำนาจในดินแดนแห่งนี้,บุคคลภายนอกไม่อาจทำร้ายเขาได้,หากแต่ชีวิตของซูเห่ากับดูน่าสงสารเป็นอย่างมาก,ไว้วางใจคนผิด,หกเดือนหลังจากนั้น,สนมของบิดาของเขาต้องการให้น้องชายของเขาขึ้นเป็นที่รักแทน,ได้วางแผนสังหารทำให้เขาจมน้ำตาย,ชีวิตของเขาก็ได้จบสิ้นที่อายุสองขวบ.
......
ซูเห่ากลับมามีสติอีกครั้ง,ครั้งนี้เขาเป็นเด็กหญิงอายุสองขวบ,เกิดในโลกสมัยใหม่,ทว่ายังเป็นโลกที่เทคโนโลยียังไม่เติบโตเท่าใดนัก,บนถนนหนทางนั้นยังหยาบโลน โลกนี้มีเพียงทีวีขาวดำ,วิทยุส่วนมาก,จักรยานเต็มท้องถนน,เป็นโลกที่อยู่ในยุคกำลังพัฒนา,เขาที่มาจากโลกศตวรรษที่ 21,วาดฝันว่าจะสามารถกลายเป็นคนที่โดดเด่นในโลกนี้ได้,ด้วยการนำหนังสือ,บทเพลงแม้แต่บทภาพยนต์จากชาติก่อนมาใช้ที่นี่.
หากแต่เป็นเพียงแค่ความคิด,ความฝันสำหรับเด็กหญิง,ซูเห่ายังไม่ได้ทำอะไร,ยังไม่ได้ใช้ชีวิตที่มีความสุขเลย,สองปีถัดมา,เกิดสงครามขึ้นทันที,ยังไม่มีโอกาสให้ได้เข้าโรงเรียนด้วยซ้ำ,ระเบิดลูกใหญ่จากบนท้องฟ้าก็ล่วงหล่นลงมาสังหารทุกคนรวมทั้งซูเห่าไป.
......
ซูเห่าได้มาปรากฏในโลกเซียนเซี่ย,ครั้งนี้โชคร้ายพบเข้ากับผู้ฝึกตนวิถีมาร,ได้เข้ามาสังหารคนทั้งเมืงอ,ทำให้เขาที่มีอายุสามขวบ,ตกตายในครั้งนี้อีกครั้ง.
......
โลกเวทย์มน,เมืองแห่งนี้ได้ถูกสัตว์อสูรบุกทะลวงเข้ามา,สังหารผู้คนทั้งเมือง,ซูเห่ามีอายุได้สองขวบครึ่งก็ตกตายอีกครั้งแล้ว.
......
โลกยุคโบราณ,เกิดน้ำท่วมใหญ่,ซูเห่าที่มีอายุสามขวบจะรอดพ้นได้อย่างไร
......
ประสบการณ์มากมายหลายโลก,มีชีวิตและตกตายด้วยสาเหตุต่าง ๆ,ซูเห่าพบว่าชีวิตช่างเปราะบางนัก,เด็กน้อยที่ต้องการเติบโต,พบกับอุปสรรคต่าง ๆ นานา,ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบังเอิญน้อยหรือใหญ่,เมื่อเกิดขึ้นแล้ว,สำหรับเด็กที่ยังโต,ก็ไร้ซึ่งพลังจะป้องกันดูแลตัวเอง.
เรื่องนี้ทำให้เขาตระหนักได้ว่าในชาติที่แล้วการที่เขาสามารถเติบโตขึ้นมาได้อย่างราบรื่น,บิดามารดาของเขาต้องลำบากมากมายขนาดใหน.
......
อีกครั้งแล้ว,ซูเห่าที่ลืมตาขึ้นมา,เขาที่วิเคราะห์ประสบการณ์การตายมากมายในใจ,คิดถึงเหตุผลถึงสาเหตุที่เขาไม่อาจเติบโตอย่างราบรื่น.
“อย่างแรก,สภาพแวดล้อมในโลกนั้นย่ำแย่เกินไป,เหตุผลที่สองสภาวะทางสังคมไม่มั่นคง.
อย่างที่สาม,ผู้ปกครองสนใจน้อยเกินไป,ไม่ได้เตรียมการปกป้องให้ดีพอ.
อย่างที่สี่,เด็กเกินไป,ไร้ซึ่งพลังจะป้องกันตัวเอง.”
ซูเห่าต้องการมีชีวิตรอดอย่างราบรื่น,กำลังคิดค้นหาวิธีเอาชีวิตรอดปกป้องตัวเอง,สภาพแวดล้อมและสังคมไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้,สิ่งที่เขาคิดว่าจะทำสำเร็จ,ก็คือการยกระดับสร้างความสนใจจากบิดามารดาและยกระดับความสามารถในการปกป้องตัวเอง.
เกี่ยวกับความสามารถปกป้องตัวเอง,เด็ก 3-5 ขวบ,ไร้พลังที่แรงกายอย่างแท้จริง,สิ่งที่ทำได้มีเพียงแค่ต้องระมัดระวังในทุกสิ่งทุกอย่างเท่านั้น.
ดังนั้นสิ่งที่เขาพอทำได้คือ,ทำให้บิดามารดาสนใจ,เพื่อให้ได้รับการปกป้องจากบิดามารดา,ชาตินี้,เขาไม่ต้องการตกตายด้วยเหตุผลที่ไม่สมเหตุสมผลอีก ดังนั้นข้าจะต้อง....
เมื่อจะเอ่ยคำพูดติดปากออกมา,ซูเห่าก็เร่งรีบหุบปากไปในทันที,เขาจะไม่พูดคำนั้นอีกแล้ว,การตายแต่ละครั้ง,ราวกับเป็นคำสาป,คำพูดบางอย่างไม่อาจเอ่ยออกมาได้ง่าย ๆ ไม่เช่นนั้นจะเป็นการเรียกมัจจุราชเข้ามาหา.
หลังจากที่ซูเห่าครุ่นคิดวางแผนอย่างดี,เขาก็เริ่มพิจารณาถึงสถานการณ์ปัจจุบันของเขา.
โลกใบนี้เป็นโลกอารยะธรรมยุคใหม่,ชาตินี้เป็นยุคของเทคโนโลยีสื่อสารสารสนเทศ,ทุกคนมีสมาร์ทโฟนกันทุกคน,ถนนหนทางมีรถยนต์มากมาย,แทบจะเหมือนกับเมืองใหญ่ในชาติที่แล้วของซูเห่า.
เขาเกิดในประเทศที่คล้ายกับประเทศชาติที่แล้ว,ในโลกนี้เขามีนามว่าโหลวเจ้าฮุย,เขาอาศัยอยู่ในเมืองไป๋โจว,เป็นเมืองชั้นสอง,บิดามารดาเป็นเพียงแรงงานทั่วไป.บิดาของเขามีนามว่าโหลวเซิ่งหรง,มีอาชีพเป็นนักออกแบบ,ก่อนหน้าที่จะแต่งงานเขาดูหล่อเหลาไม่ธรรมดา,ทว่าหลังจากแต่งงานน้ำหนักของเขาที่เพิ่มขึ้นไม่หยุด,จนกลายเป็นชายอ้วนลงพุง,ส่วนมารดาของเขา มีนามว่าหวงซูจวิน,เป็นอาจารย์สอนคณิตศาสตร์โรงเรียนประถม,ตั้งแต่ที่โหลวเจ้าฮุ่ยเกิดมา,เธอก็ดูเป็นหญิงชราที่แก่เกินวัยไปในทันที.
โหลวเจ้าฮุยนั้นเป็นบุตรชายคนแรกคนเดียว,ทั้งคู่ที่ยุ่งอยู่กับงาน,ไม่คิดที่จะมีบุตรคนที่สองอีก,และต้องคอยดูแลโหลวเจ้าฮุ่ยอย่างดี,เนื่องจากตั้งแต่เกิด,โหลวเจ้าฮุ่ยนั้นอ่อนแอขี้โรค,ทำให้ทั้งคู่ต้องทุกข์ทรมานเป็นอย่างมาก,ค่าใช้จ่ายมากมายที่หามาต้องจ่ายให้กับโรงพยาบาลเพื่อบุตรชายของพวกเขาทั้งหมด.
ทั้งสองที่กลับมาจากโรงพยาบาล,ขณะอุ้มโหลวเจ้าฮุ่ยออกมา.
ทั้งสอง,ไม่ได้สังเกตความผิดปรกติของบุตรชายเลย.
ซูเห่าที่แกล้งหลับนอนอยู่บนเตียง,ห่มผ้านวมที่อบอุ่น,ในห้องเงียบ ๆ.
ในเวลานั้น,โหลวเซิ่งหรงที่ก้าวเข้ามากุมมือภรรยาที่เหนื่อยล้า,ดูลังเลก่อนเอ่ยออกมาว่า“ซูจวิน,ไม่เช่นนั้น,พวกเราก็มีบุตรใหม่กันเถอะ!”
ซูเห่าได้ยินคำพูดดังกล่าวก็หัวใจสั่นไหว,นี่คิดที่จะยอมแพ้กับเขาแล้วรึ?