ตอนที่แล้วChapter 16 Heart study
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 18 Attack

Chapter 17 Courage vigor strengthening wave


血气强化波

หนึ่งเดือนต่อมา,ความสูงของซูเห่าเพิ่มขึ้นไม่น้อย,ร่างกายที่ดูบึกบึนขึ้น,ไม่เหมือนกับเด็กสามขวบครึ่งอีกต่อไป,แต่เหมือน...สี่ขวบรึ? ที่จริงแค่ดูคล้าย,ทว่าจากพลัง,สัมผัสไม่เหมือนกับเด็กอ่อนแออีกต่อไป.

ซูเห่าที่ตื่นขึ้นมาตอนเช้าทุกวัน,เขาจะทำการสัมผัสตรวจสอบพลังปราณโลหิตของตัวเอง,แม้แต่อดไม่ได้ที่จะเผยความดีใจขึ้นมา.

“ความเร็วในการเปลี่ยนปราณโลหิตเพิ่มขึ้นได้จริง ๆ,ข้าคาดเดาได้ถูกต้อง.”

หนึ่งเดือนก่อน,หลังจากซูเห่าเฝ้ามองการเปรียบเทียบโดยให้เสี่ยวกวงจำลองการเปลี่ยนแปลง,เขาก็พบว่า,แบบฝึก“ปราณโลหิตจิ่วกง” นั้นสามารถเปลี่ยนปราณโลหิตได้อย่างมีแบบแผน.

หลังจากเฝ้าติดตามอย่างระเอียด,ครึ่งเดือนก่อน เขาก็พบเงื่อนงำ,กระบวนการเปลี่ยนแปลงปราณโลหิตนนั้นเกิดขึ้นมาจากสัญญาณพิเศษที่ถูกส่งตรงมาจากสมอง,สัญญาณพิเศษดังกล่าวนี้มีผลต่อการทำงานของร่างกาย,รวมทั้งการเปลี่ยนปราณโลหิต,การเปลี่ยนสารอาหารให้เป็นปราณโลหิต,หรือกระทั่งการเก็บสะสมปราณโลหิตในส่วนต่าง ๆ ของร่างกายอีกด้วย.

เรื่องดังกล่าวนี้ทำให้ซูเห่าเต็มไปด้วยความอัศจรรย์ใจ,ในโลกนี้มนุษย์ช่างมีความคิดที่น่าอัศจรรย์จริง ๆ,คาดไม่ถึงว่าจะสามารถบังคับความคิดของตัวเองเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับร่างกายตัวเองได้จริง ๆ.

กล่าวได้ว่าสิ่งที่มนุษย์ทำไม่สำเร็จเวลานี้ ไม่ได้แปลว่าไม่อาจทำสำเร็จได้,ทว่าความรู้ที่มีในเรื่องนั้น ๆ มันยังไม่พอก็เท่านั้น.

ซูเห่าเต็มไปด้วยความอยากรู้อย่างเห็นของโลกใบนี้,แม้แต่เกิดความปรารถนาในการศึกษาที่พลุ้งพล่านขึ้นมาทันที.

ครึ่งเดือนที่ผ่านมานี้,ซูเห่าได้พบกับสัญญาณพิเศษ,และได้ทำการศึกษาเชิงลึกเกี่ยวกับสัญญาณดังกล่าวนี้,นอกจากนี้ยังมีความคืบหน้าในการศึกษาเป็นอย่างมาก,เขาได้พัฒนาและเรียกสัญญาพิเศษดังกล่าวว่า“คลื่นยกระดับปราณโลหิต”

เขาที่พยายามควบคุมจิตสำนึก บังคับ“คลื่นยกระดับปราณโลหิต”ผลิตและเพิ่มมันขึ้นมา,ทำให้การควบคุมปราณโลหิตของเขามีประสิทธิภาพมาก,ด้วยการมีเสี่ยวกวงในการช่วยเหลือยิ่งเห็นผลความแตกต่างได้เร็วขึ้น,เขาพบวิธีภายในสองวันเท่านั้น,ภายใต้การทดลอง,จนประสบความสำเร็จ,เวลานี้ปราณโลหิตของเขาเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก,มากกว่าการใช้แบบฝึก“ตำราปราณโลหิตจิ่วกง”หลายเท่า.

เป็นความจริง,ด้วยประสิทธิภาพของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจากอีกโลก,แม้นว่าจะสร้างขึ้นมาจากเส้นทางของปุถุชนธรรมดาแต่ก็เป็นข้อมูลที่น่าอัศจรรย์,ส่วนอีกวิธีเป็นวิธีการโบราณ,ที่ประสิทธิภาพเช่นกันแต่ยังไม่สุกงอม,ด้วยการรวมองค์ความรู้ทั้งสองเข้าด้วยกัน,ทำให้เกิดการปฏิวัติขั้นสูงขึ้น.

เรื่องบางอย่างที่คนโลกนี้ไม่อาจทำสำเร็จได้,ทว่าเขากับทำมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ,ย่อมต้องมอบความดีความชอบนี้ให้กับองค์ความรู้ต่าง ๆ ในพื้นที่พินบอลที่สะสมไว้จริง ๆ,ตลอดจนการประมวลผลที่ทรงพลังของเสี่ยวกวง,ซูเห่ารู้ว่าเขาหาใช่คนที่เปี่ยมล้นไปด้วยพรสวรรค์แต่อย่างใด,ทว่าเป็นเพียงคนธรรมดาที่มีข้อมูลองค์ความรู้มหาศาลเท่านั้น.

ซูเห่าไม่รู้สึกหยิ่งผยองภาคภูมิใจแม้แต่น้อย,เขาได้เอ่ยลับ ๆ ในใจ“หากว่าสามารถใช้ชีวิตได้อย่างราบรื่น,ข้าจะเปลี่ยนโลกใบนี้,ให้เผ่าพันธุ์มนุษย์มีความรู้มากขึ้น,จนสามารถก้าวไปยืนอยู่บนจุดสุดยอดของโลกใบนี้,กลายเป็นผู้ควบคุมกฎของทวีปหยงเหอแห่งนี้ไปชั่วนิรันดร.”

......

ซูเห่ารู้สึกว่าร่างกายนั้นเต็มไปด้วยพลัง,ด้วยสัมผัสของเขา,ร่างกายเล็ก ๆ นั้นมีปราณโลหิตที่เอ่อล้นออกมา,นอกจากนี้เขายังสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งในการต่อสู้ได้ด้วย,เวลานี้เขาไม่ได้เปราะบางเหมือนกับชาติก่อน ๆ อีกแล้ว.

ซูเห่ายืนขึ้นกระโดดวิ่งกระโดดลอยสูง,ก่อนที่จะหมุนกลิ้งไปบนพื้น,และกลับขึ้นมายืนอย่างมั่นคง.

“สุดยอดเลย!”

เขาที่มีความสูงหนึ่งเมตรกว่า,คาดไม่ถึงว่าจะกระโดดได้สูงกว่าหนึ่งเมตร,เรื่องเช่นนี้ไม่ใช่สิ่งที่จะจินตนาการในอดีตได้เลย.

อู๋หยุนเทียนที่ขมวดคิ้วไปมา,เอ่ยสอบถามด้วยความสงสัย,“เซี่ยงหวู่,ทำไมปราณโลหิตของเจ้าถึงได้เพิ่มขึ้นเร็วมากในสองวันนี้กัน?”

ซูเห่าที่เผยยิ้มอย่างพึงพอใจ เอ่ยออกมาว่า“ท่านพ่อ,เมื่อข้าฝึกฝนตามแบบฝึก”ปราณโลหิตจิ่วกวง“ข้าได้พบเข้ากับสัญญาณพิเศษในสมอง,ข้าเรียกมันว่า”คลื่นยกระดับปราณโลหิต“ขอเพียงสามารถควบคุมคลื่นนี้ได้ตามใจ,ก็จะสามารถควบคุมการเปลี่ยนปราณโลหิตได้,ทั้งความเร็วและปริมาณ,วันนี้ปราณโลหิตของข้าเติบโตขึ้นไม่ได้เร็วที่สุด,ทว่าก็ยังนับว่าเร็วระดับหนึ่ง.”

อู๋หยุนเทียนเพ่งพิศตะลึงงันไปชั่วครู่,ส่ายหน้าไปมา”ข้าไม่เข้าใจในสิ่งที่เจ้าพูดเลย.

อย่างไรก็ตามเซี่ยงหวู่,ข้าต้องการเตือนเจ้า,การเปลี่ยนปราณโลหิตจะต้องไม่เกินขีดจำกัดร่างกายที่เจ้าทนได้ด้วย”

“รับทราบ.”ซูเห่าพยักหน้ารับเอ่ยสอบถามออกมาว่า “ท่านพ่อ,ไม่ใช่ว่าปราณโลหิตของท่านยังไม่ได้เกิดขีดจำกัดของร่างกายที่จะทนได้ไม่ใช่รึ?”

อู๋หยุนเทียนที่ส่ายหน้าไปมา“ไม่,ต้องการให้ไปถึงขีดจำกัดคงยาก,หลังจากปราณโลหิตสะสมไปถึงจำนวนหนึ่งแล้ว,ก็จะพบกับคอขวด,ยากจะก้าวผ่านไปอีกขั้นได้.”

“ยากอย่างงั้นรึ?”ซูเห่าที่ขยิบตา,วันนี้เมื่อเขาเปลี่ยนปราณโลหิตไประยะหนึ่ง,เห็นชัดเจนว่าเขาสัมผัสได้ว่าปราณโลหิตที่สะสมกันแน่น,ทำให้ความเร็วในการยกระดับช้าลง,เขาได้ปรับคลื่นปราณโลหิตยกความแข็งแกร่งอีกครั้ง,ทว่าเมื่อปราณโลหิตสะสมกันแน่นแล้ว,ความเร็วก็ช้าลงเช่นเดิม,นี่คือขีดจำกัดที่บิดาของเขาพูดถึงหรือไม่?

ซูเห่าที่เอ่ยกับอู๋หยุนเทียนอย่างระมัดระวัง“ท่านพ่อ,บางทีหากท่านลองวิธีการของข้า,อาจจะทำให้ตัดผ่านคอขวดในเวลานี้ก็ได้.”

อู๋หยุนเทียนที่ครุ่นคิด,การทดสอบดูก็ไม่ได้เสียหาย,เขาเองก็ไม่ใช่คนหัวโบราณแต่อย่างใด,อีกอย่างก็คงไม่น่าอายอะไรนัก หากจะลองเรียนจากบุตรชาย.

เห็นอู๋หยุนเทียนพยักหน้ารับ ซูเห่าก็เอ่ยอธิบาย“ท่านพ่อ,ข้าจะสอนท่าน,เกี่ยวกับคลื่นยกระดับปราณโลหิต!”

จากนั้นซูเห่าก็เริ่มสอน,อู๋หยุนเทียนอธิบายให้ฟังอย่างระมัดระวัง,จากนั้นอีกฝ่ายก็นั่งสมาธิบนพื้นเริ่มเปลี่ยนปราณโลหิต,ทว่าทดสอบอยู่นาน,แต่กับไม่อาจพบคลื่นยกระดับปราณโลหิตที่ซูเห่าเอ่ยถึงเลย ว่าอยู่ที่ใหน.

หลังจากใช้เวลาสองชั่วโมงไปอย่างเปล่าประโยชน์,ใบหน้าของอู๋หยินเทียนกลายเป็นมืดครึ้ม,ซูเห่าเอ่ยปลอบว่า“ท่านพ่อ,ไม่จำเป็นต้องรีบ,การหาปราณโลหิตครั้งแรกยังใช้เวลาเช่นกัน,บางทีการค้นหาคลื่นดังกล่าวนี้ก็ต้องใช้เวลาเหมือนกัน.”

อู๋หยุนเทียนที่พยักหน้ารับเงียบ ๆ,เขาได้ให้อภัยตัวเองอย่างรวดเร็ว,เป็นความจริง,อัจฉริยะของโลกนี้นั้นยากจะเข้าใจจริง ๆ.

......

ไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นในเวลานี้,ซูเห่ายังคงออกวิ่งในหุบเขา,ใช้เวลาทุกวันผลาญพลังฝึกฝนร่างกาย,ซึ่งจะมีเหอชิงชิงนำน้ำมูกเทาและเจ้าอ้วนชุนมาวิ่งด้วยตลอด.

เด็กทั้งสามถูกซูเห่หลอกมาวิ่งตลอดหนึ่งเดือน,เจ้าอ้วนชุนเห็นชัดเจนว่าผอมลงมาก,นอกจากนี้ทุกคนยังรู้สึกว่าตัวเองนั้นฉลาดที่สุดในป้อมปราการซาซานแล้ว,กระทั่งเร่งรีบสอบถามซูเห่า,เพื่อพิสูจน์ความสามารถของตัวเอง.

ซูเห่าที่ใช้วิธีการหลอกลวง,ด้วยการถามย้ำหลาย ๆ รอบ,ยกตัวอย่างเช่น 5+6 เท่ากับเท่าไหร่,7-1 เท่ากับเท่าไหร่ เพื่อกล่อมพวกเขาว่าฉลาด.

ก่อนหน้านี้เขาไม่อาจเอาชนะเด็กเหล่านี้ได้จึงต้องทำเช่นนั้น,ทว่าซูเห่าในวันนี้ไม่มีความจำเป็นใด ๆ ต้องทำการหลอกลวงเด็กเหล่านี้อีกแล้ว,เขาสัมผัสได้ว่าทั่วร่างเวลานี้เต็มไปด้วยพลัง,เต็มไปด้วยความมั่นใจ.

เจ้าเด็กพวกนี้,ต้องหยุดรบกวนข้าได้แล้ว,ไม่เช่นนั้นข้าจะทุบทุกคนให้นอนกองบนพื้นให้หมดเลย ฮ่าฮ่าฮ่า!

เวลานั้นเหอชิงชิงที่กำลังเล่นปั้นดินอยู่,เห็นซูเห่าปรากฏ,ดวงตาเป็นประกาย,เอ่ยออกมาด้วยความประหลาดใจดีใจ“เซี่ยงหวู่! เจ้าอยู่นี่เอง,มาเร็วเข้า,มาเล่นก่อกำแพงด้วยกัน.”

ซูเห่าที่ปฏิเสธทันที“ไม่!”

“ทำไม?”

“ข้าไม่ต้องการเล่นกับคนโง่.”

“ทว่าพวกเราเป็นคนฉลาดแล้ว!”

“จริงรึ?”

“ใช่,เจ้าเป็นคนบอกพวกเราเอง.”

ซูเห่าที่ยกมือขึ้นเกาศีรษะ“ใช่,เจ้าฉลาดขึ้นแล้วจริง ๆ,ทว่าข้ายังมีคำพูดที่ยังไม่เอ่ย.”

“อะไร?”

“ข้าไม่ต้องการเล่นกับคนอ่อนแอ!”

เหอชิงชิงที่โกรธเกรี้ยว,ลุกขึ้นกระทืบพื้น,ชี้หน้าไปยังซูเห่า“เจ้าพูดว่าพวกเราทั้งสามอ่อนแออย่างงั้นรึ?”

“ใช่.”ซูเห่าพยักหน้ารับ“พวกเจ้าทุกคนอ่อนแอ,ไม่อยู่ในสายตาของข้าอีกแล้ว.”

เหอชิงชิงที่กระทืบเท้า,ชี้ไปยังซูเห่า“น้ำมูกเทา,อ้วนชุน,ทุบตีเขา.”

5 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด