Chapter 162 Who is whose Savior
谁是谁的救世主
การต่อสู้ของมนุษย์กลายพันธ์ทำให้บ้านหลังหนึ่งพังทลายลงมา,ชายที่ร่างกายอาบด้วยโลหิต,ช่วยภรรยาและบุตรออกมา,ส่วนตัวเองนั้นได้รับความเสียหายจากเศษซากของบ้านที่พังทลายลงมา.
เขายังไม่ตาย,ทว่าเรี่ยวแรงสุดท้ายได้ใช้ไปกับการช่วยภรรยาและบุตรแล้ว,ตอนนี้แม้แต่ร่างกายก็แทบจะขยับไม่ได้.
ดูเหมือนว่าวันนี้เขาคงต้องตายแน่,ตกตายในคืนนี้อย่างไม่อาจจะช่วยอะไรได้.
ไม่รอให้เขาได้ดีใจที่ตัวเองยังไม่ตายในเวลานี้,มนุษย์กลายพันธ์สองคนที่ปะทะกันย้อนกลับมาอีก,มนุษย์กลายพันธ์คนหนึ่งที่โบกไม้เท้าโลหะ,กระแทกร่างกายของเขาลอยกระเด็นออกไปสามเมตร.
เขาที่นอนหมดสภาพ,ไม่มีแม้แต่แรงลุกขึ้นมาได้อีกครั้ง.
ภรรยาและบุตรของเขาที่วิ่งร้อนรนตัวสั่นเข้าไปอยู่ข้าง ๆ อีกฝ่าย“อาเฉียง,อาเฉียง เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง!”
ในเวลานั้นพวกเขามองซ้ายมองขวา,หวังจะพบปาฏิหาริย์“ช่วยด้วย! โปรดช่วยครอบครัวพวกเรา,โปรดช่วยอาเฉียง! .....”
เธอที่พูดไม่ออก,เวลานี้ได้แต่กอดผู้ชายของเธอด้วยความโศกเศร้า,หัวใจเจ็บปวด เอ่ยโอดครวญ“โปรดช่วยพวกเราด้วย......”
ไม่ว่าภรรยาและบุตรอาเฉียงจะคุกเข่าร้องไห้ใจจะขาดเท่าใด,ไม่ว่าพวกเขาจะเศร้าใจเพียงใด,อาเฉียงก็ไม่อาจเอ่ยปากปลอบใจอีกฝ่ายได้,โลหิตที่ไหลบ่าออกมา,จนเขาไม่อาจส่งเสียง,เขาได้แต่จ้องมองภรรยาและบุตรนิ่ง ๆ,ด้วยความเศร้าสร้อยอาดูร.
ไม่มีคำสัญญาใด ๆที่จะเอื้อนเอ่ย,ท้ายที่สุด เขาก็ไม่อาจอยู่ปกป้องคนที่เขารักได้อีกต่อไป....อาลี่,ลาก่อน!
“เจ้าต้องการความช่วยเหลือหรือไม่?”
ในเวลานั้นอาลี่ที่หันหน้าเงยขึ้นมองคนสวมหน้ากาก,แววตาฉายความหวังขึ้นมา,ราวกับว่าพบกับแสงที่ได้ส่องลงมาจากฟากฟ้า,พร้อมกับเอ่ยโอดครวญ“โปรดช่วยอาเฉียงด้วย,ขอร้อง,ช่วยครอบครัวเราด้วย! ได้โปรด.....”
ซูเห่าที่พยักหน้ารับ,ก้าวเข้าไปข้างหน้าอาเฉียงที่โลหิตกำลังไหล,เขายื่นมือออกไปพร้อมกับปล่อยพลังออกมาหยุดโลหิตที่ไหลของอีกฝ่ายเอาไว้ช้า ๆ.
“พรึด!”
อาเฉียงที่พ่นโลหิตออกมา,ท้ายที่สุดก็กลับมาหายใจได้.
ในเวลานั้นอาลี่ที่คุกเข่าข้าง ๆ,ไม่รู้จะยื่นมือออกไปพยุงอีกฝ่ายอย่างไรเต็มไปด้วยความกระวนกระวาย“อาเฉียง,อาเฉียง! อดทนเอาไว้,มีคนช่วยพวกเราแล้ว! เจ้าจะไม่เป็นไร....”
ดวงตาของอาเฉียงที่เป็นประกายขึ้นมา,ก่อนที่จะเอ่ยปากออกมาได้ในที่สุด“อาลี่!”
ในเวลานั้น,ชายหน้ากากเอ่ยออกมาเล็กน้อย“ข้าได้ห้ามเลือดและกำจัดเลือดเสียออกไปแล้ว,ทำให้เจ้ายังไม่ตาย,อย่างไรก็ตามอวัยวะภายในของเจ้าเสียหายหนัก,เกรงว่าคงไม่อาจรอดได้เร็ว ๆ นี้”
อาลี่ได้ยินราวกับสายฟ้าฟาด,ความหวังที่เลือนลาง,เธอคุกเข่าลงกับพื้นให้กับชายหน้ากาก,เอ่ยสะอื้น“ได้โปรด,ช่วยเขา...ข้ายินดีเป็นช้างม้าวัวควายตอบแทนท่าน...”
ซูเห่าที่จดจ้องมองภาพที่เกิดขึ้น,อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ,ในโลกนี้ไม่รู้ว่ามีครอบครัวมากเท่าไหร่,ที่สมาชิกของพวกเขาต้องตกตาย,แล้วใครจะเป็นผู้ช่วยชีวิตเขาล่ะ?
คำตอบคือไม่มี,ทุกชีวิตล้วนแล้วแต่ต้องกล้ำกลืนฝืนทนเอาไว้.
ซูเห่าเอ่ยออกมาเล็กน้อย,“ข้าสามารถช่วยเขาได้,ทว่าไม่ได้ทำการกุศล,ข้ามีเงื่อนไข.”
สายตาของอาลี่ที่เป็นประกายด้วยความคาดหวังปาดน้ำตาจ้องมองซูเห่า,“ขอเพียงท่านช่วยเขาได้,ข้ายอมรับทุกเงื่อนไข.”
ซูเห่าเอ่ย“อย่าเพิ่งรีบรับปาก,จงฟังเงื่อนไขของข้าก่อน,อย่างแรก,หลังจากช่วยเขา,ข้าต้องการให้เขาติดตามข้าหนึ่งปี,เจ้ามีปัญหาอะไรหรือไม่?”
อาลี่ที่ตั้งสติ,นางที่พยักหน้าทันที“ข้าสัญญากับท่าน.!”
ซูเห่าจ้องมองไปยังอาเฉียง,“เจ้าล่ะ? หากเห็นด้วย,จงพยักหน้า.”
อาเฉียงพยักหน้ารับ.
ซูเห่าเอ่ยเพิ่ม“ข้อสอง,ข้าต้องการให้เขาร่วมมือในการทดลองของข้า,มีความเสี่ยงที่จะตายได้,มีปัญหาหรือไม่?”
อาลีที่ลังเล,ทว่าอาเฉียงนั้นพยักหน้ารับ,นางจึงต้องพยักหน้ารับไปด้วย“ข้าสัญญากับท่าน!”
ซูเห่าเห็นทั้งสองเห็นด้วย,ก็พยักหน้ารับ“เป็นอันตกลง!”
“ฟื้นฟู”!
ซูเห่าที่ใช้รูนอักขระฟื้นฟู,บาดแผลของอาเฉียงที่ฟื้นฟูคืนกลับด้วยความเร็วที่เห็นได้ด้วยตาเปล่า,อวัยวะภายในที่เสียหายเวลานี้ถูกซ่อมแซม,ฟื้นคืนช้า ๆ.
ใบหน้าของอาเฉียงที่มีโลหิตฝาด,การหายใจที่มั่นคงขึ้น,ร่างกายที่กลับมาแข็งแรง,แม้แต่สามารถขยับร่างกายได้แล้ว.
ความเป็นจริง,ถึงแม้นว่าพวกเขาจะไม่เห็นด้วยกับคำขอของซูเห่า,ซูเห่าก็ยังยินดีช่วยพวกเขา,จากนั้นก็มองหาเหยื่อรายใหม่ที่ได้รับบาดเจ็บต่อไป.
สำหรับซูเห่า,ถึงพวกเขาจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย,หาได้สำคัญ เขาสามารถค้นหาคนอื่นเรื่อย ๆ เขาต้องการคนที่ยินดีร่วมมือกับเขาเท่านั้น.
กล่าวอีกอย่างหนึ่งซูเห่าไม่ค่อยชอบที่จะฝืนใจคนอื่น ๆ นั่นเอง.
ในไม่ช้า,อักขระฟื้นฟูก็รักษาอาเฉียงให้กลับมาเป็นปรกติ,สามารถนั่งได้,และพยุงร่างอาลี่ที่กำลังสะอื้นอยู่.
ไม่นานหลังจากนั้น,เห่าก็นำเงินจูให้กับอาลี่จำนวนหนึ่ง,แล้วพาอาเฉียงจากไป.
ในเวลาต่อมา,ซูเห่าก็ได้ช่วยคนทั่วไปสามคนที่ใกล้ตายเอาไว้,แล้วนำไปจากเมืองฉีหยาง,กลับไปยังห้องทดลองของเขา.
......
หลังจากคนทั้งสามถูกนำกลับห้องทดลอง,นอกจากซูเห่าที่แนะนำตัวเองให้พวกเขาเรียกเขาว่า“พี่ใหญ่เหว่ย”จากนั้นก็ให้พวกเขาท่องจรรยาบรรณมนุษย์กลายพันธ์และพักอยู่ในถ้ำต่อไป.
จากนั้นอีกสองสามวัน,ทุกคืน,ซูเห่าจะนำคนธรรมดา 1-2 คนกลับมา,จวบจนถึงตอนนี้ในห้องทดลองของเขามีคนทั่วไปแปดคนแล้ว,จากนั้นเขาจึงหยุดเดินทางไปยังเมืองฉีหยาง,จากนั้นทุก ๆ วันเขาจะสอนคนทั่วไปทั้งแปด,ให้ฝึกฝนร่างกายและยกระดับพลังปราณโลหิต.
เพียงไม่นาน,คนทั่วไปที่ถูกนำมาอยู่ด้วยกันทั้งแปดก็เริ่มคุ้นเคยและพูดคุยกัน.
“อาเฉียง,เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?”ชายคนหนึ่งที่มีใบหน้ายาวเอ่ยสอบถามอาเฉียงออกมา.
อาเฉียงที่เงยหน้าขึ้น,เผยยิ้ม“ในคืนนั้น,ข้าคิดว่าตัวเองกำลังจะตาย,พี่ใหญ่เหว่ยก็ดึงข้ากลับมาจากนรก,ดังนั้นข้าจึงมาอยู่ที่นี่.”
ชายหน้ายาวพยักหน้ารับเอ่ยออกมาว่า“ข้าเองก็เหมือนกัน,คิดว่าตัวเองตายไปแล้ว,ไม่คาดคิดว่าพี่ใหญ่เหว่ยจะช่วยเหลือกลับมาได้,อย่างไรก็ตาม,อาเฉียง,เจ้ารู้ใหมว่าพี่ใหญ่เหว่ยนำพวกเขามาที่นี่ทำอะไร?”
ในเวลานั้นคนอื่น ๆ เองก็เต็มไปด้วยความสงสัยเช่นเดียวกัน.
เอาเฉียงจ้องมองไปยังชายหน้ายาว,ก่อนเอ่ยออกมาเสียงเบา“เซี่ยถู,ชีวิตของข้าพี่ใหญ่เหว่ยมอบให้,ไม่ว่าจะให้ข้าทำอะไร,ก็ได้ทั้งนั้น,อย่างน้อยก็ยังมีชีวิต,ดังนั้น,ข้าจึงไม่รู้,และไม่ต้องการรู้ด้วย.”
เซี่ยถูหัวเราะเผยท่าทางอักอ่วน“ข้าไม่ได้หมายความอย่างนั้น,ข้าถามออกมาเท่านั้น,เพียงแค่สงสัย!”
ในเวลานั้น,คนอื่นเองก็พูดคุยคาดเดาเกี่ยวกับจุดประสงค์ของซูเห่า,และเอ่ยเสนอความเห็นออกมามากมาย.
อาเฉียงที่ปิดหู,ก้าวออกไปด้านล่างภูเขา.
แทนที่จะพูดคุยเรื่องไร้สาระ,เขาคาดหวังที่จะผ่านการทดลองที่พี่ใหญ่เหว่ยเอ่ย,หนึ่งปีหลังจากนี้เขาก็จะกลับเมืองฉีหยาง,กลับไปอยู่ข้าง ๆอาลี่.
ไม่นาน,อาเฉียงก็ลงมายังเชิงเขา,เริ่มฝึกฝนค้นหาปราณโลหิตดั่งที่พี่ใหญ่เหว่ยแนะนำ.
สองเดือนหลังจากนั้น.
ซูเห่าที่เฝ้ามองปราณโลหิตบนร่างของแต่ละคน,พยักหน้าพอใจเอ่ยออกมาว่า”ดูเหมือนว่าพวกเจ้าจะฟื้นตัวได้ดีแล้ว! จากนี้พวกเราจะเข้าสู่ขั้นตอนที่สองเร็ว ๆนี้.
แม้นว่าในใจของทุกคนจะบีบรัด,รู้ว่าวันนี้จะมาถึง,ทว่าความเป็นจริงแล้ว,พวกเขาก็อดที่จะกลัวไม่ได้.
ทุกคนที่เผยความสงสัยในใจ มีใครบางคนที่เอ่ยสอบถามออกมา“พี่ใหญ่เหว่ย,ที่จริงแล้วพวกเราจะต้องทำอะไร?”
ซูเห่าที่เห็นทุกคนดูเป็นกังวล,จึงเผยยิ้ม“พวกเจ้าวางใจ! หากทำตามที่ข้าเอ่ย,พวกเจ้าจะไม่เป็นอะไร!”
“การทดลองนี้,จะแบ่งออกเป็นสี่ขั้นตอน,ขั้นตอนล่ะ 2 เดือน,ตราบเท่าที่พวกเจ้าผ่านมันไปได้,อาจไม่ถึงหนึ่งปี,เจ้าก็สามารถกลับบ้านพวกเจ้าได้.”
จากนั้นซูเห่าก็นำมีดออกมาแปดเล่มและขวดเล็ก ๆ ออกมาแจกจ่ายให้กับทุกคน,แล้วเอ่ยออกมาว่า“ก่อนอื่นพวกเจ้าจะต้องเติมเลือดลงในขวด!”
ต้องทำร้ายตัวเองรึ?
หลาย ๆ คนที่เผยความกังวล,แม้แต่เป็นห่วงอนาคตของตัวเอง.
“พรึด!”
ขณะที่ทุกคนจมอยู่ในความคิด,อาเฉียงได้กรีดนิ้วตัวเอง,ปล่อยโลหิตใส่ขวดแล้ว.
คนอื่น ๆ ที่ตะลึงขณะจ้องมองอาเฉียงที่ไม่ลังเลใจเลยแม้แต่น้อย.