Chapter 16 Heart study
心学
เมื่อเห็นท่าทีงสงสัยไร้เดียงสาของบุตรชาย,อู๋หยุนเทียนก็ไม่รู้จะตอบสนองอย่างไร,ภายในใจของเขาที่คิดอะไรบางอย่าง,จากนั้นก็ถอนหายใจ“เซี่ยงหวู่,เจ้าเป็นอัจฉริยะ,เป็นอัจฉริยะอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน,ทว่าน่าเสียดายที่เจ้าเกิดที่นี่,หาก...”
เขาพูดถึงเรื่องนี้,จากนั้นก็ส่ายหน้าไปมา,พร้อมกับหัวเราะเย้ยหยันตัวเอง“ข้าจะบอกสิ่งเหล่านี้กับเจ้าเพื่ออะไร?”
ใครจะรู้ว่าซูเห่าเอ่ยออกมาว่า“ท่านพ่อ,ข้าเกิดที่นี่ถือว่าโชคดีแล้ว,ปล่อยให้ทุกอย่างมันเป็นไปตามธรรมชาติเถอะ.”
อู๋หยุนเทียนที่เผยยิ้มขม“เจ้าไม่เข้าใจ,หลังจากนี้เจ้าจะเข้าใจเอง.”
“แล้วข้าจะทำอย่างไรต่อไป?”
“ข้าคิดว่าเจ้าควรจะหาปราณโลหิต,ต้องใช้เวลาหนึ่งปี,เวลานั้น,ร่างกายของเจ้าคงยกระดับมากแล้ว,และด้วยอายุ,ก็ควรจะเหมาะในการหลอมกลั่นปราณโลหิต,ไม่คาดคิดว่า จะเร็วเกินกว่าที่ข้าคาดเดามาก,ตอนนี้เจ้าอายุน้อยกว่าสี่ปี...”
ในเวลานั้น,อู๋หยินเทียนที่เอ่ยด้วยท่าทางช่วยไม่ได้อย่างชัดเจน,เอ่ยชัดแจ้งถึงเหตุผลต่าง ๆ.
“เซี่ยงหวู่เจ้าไม่ต้องกังวล,เจ้าออกกำลังกายทุกวัน,หนึ่งปีหลังจากนี้ ข้าจะเริ่มสอนเจ้าปรับแต่งปราณโลหิตอีกครั้ง.”
“ทำไม? ตอนนี้ไม่ได้รึ?”
ซูเห่าไม่ยินดีที่จะรอ,เพราะเขาไม่รู้ว่าชีวิตวัยเด็กของเขาในชาตินี้ เมื่อไหร่จะเกิดอุบัติเหตุ,อาจจะเกิดอุบัติเหตุเล็กน้อยขึ้นคร่าชีวิตเขาเวลาใหนก็ได้,นอกจากนี้บิดาของเขาก็ไม่ได้อยู่เคียงข้างเขาตลอดเวลา,ซูเห่ารู้สึกไม่ปลอดภัยเป็นอย่างมาก,ก่อนที่เขาจะมีความสามารถปกป้องตัวเอง,เขาก็รู้สึกหวาดกลัวอยู่ตลอดเวลา.
เมื่อไหร่ที่เขาตกตายโดยบังเอิญ,เขาจำต้องหลับใหลไปอีกครั้ง,รอเวลาอีกหลายล้านปี,แม้แต่ไม่อาจบอกได้ด้วยซ้ำว่าจะมีโอกาสได้เกิดใหม่หรือไม่? มีเพียงแค่เขาครอบครองพลังในการปกป้องตัวเองได้เท่านั้นถึงจะอุ่นใจ,ถึงจะต้องสังเวยศักยภาพของตัวเองเพื่อพลังเขาก็ไม่ลังเลเลย.
อู๋หยุนเทียนที่เอ่ยอธิบาย“ไม่ใช่ว่าข้าไม่ต้องการสอนเจ้า,แต่ร่างกายของเจ้าบอบบางเกินไป,ไม่อาจทนแบกรับพลังที่รุนแรงเกินไปได้,ตัวอย่างเช่น,หินก้อนใหญ่,แม้นว่าเจ้าจะได้พลังพอที่จะยกมันขึ้นมา,ทว่าแขนของเจ้าอ่อนแอเกินไปไม่อาจรับน้ำหนักหินได้และจะหักก่อนที่จะยกได้ด้วยซ้ำ,ดังนั้นสิ่งจำเป็นที่จะครอบครองพลังปราณโลหิต,ก็คือร่างกายที่แข็งแกร่งเพียงพอ,เข้าใจใหม?”
ซูเห่าพยักหน้ารับ“ท่านพ่อ,ข้าทราบ.”
อย่างไรก็ตามเขายังไม่ยอม เอ่ยออกมาว่า“ท่านพ่อ,ท่านสอนข้าก่อนได้ใหมว่าหลอมกลั่นปราณโลหิตอย่างไร,ข้าต้องการรู้,ข้อต้องการศึกษาหลักการเอาไว้ก่อน.”
อู๋หยินเทียนที่ส่ายหน้าไปมา“ไม่ได้! เซี่ยงหวู่ข้ารู้ว่าเจ้าฉลาดเกินไป,เพราะว่าเจ้าฉลาดเกินไปนั่นล่ะ,ข้าจึงไม่วางใจ,ก่อนที่เจ้าจะเรียนหลักการเบื้องต้น,มันอันตรายเกินไปในการปรับแต่งปราณโลหิต.”
“เช่นนั้นท่านพ่อสอนหลักการเบื้องต้นให้ข้าด้วย!”
“เจ้าเด็กเกินไป!”
“ท่านพ่อ,ข้าไม่ใช่เด็กสามขวบแล้ว!”
อู๋หยุนเทียนที่พูดไม่ออกจ้องมองบุตรชาย,สามขวบและสามขวบครึ่งมันต่างกันตรงใหนกัน?
ซูเห่าที่กล่าวรับประกันทันที“ท่านพ่อ,ท่านสอนหลักการเบื้องต้นให้ข้าด้วย,ข้ารับประกันว่าจะไม่บาดเจ็บ,ข้ารับประกันว่าทุกครั้งที่หลอมกลั่นปราณโลหิตจะให้ท่านอยู่ข้าง ๆ,ข้าจะไม่ทำอะไรพลการ”
“เซี่ยงหวู่,ทำไมเจ้าถึงต้องการเรียนตอนนี้?”อู๋หยุนเทียนที่กล่าวสอบถามออกมาทันที,เขาไม่คิดว่าบุตรชายจะเอาแต่ใจโดยไร้ซึ่งเหตุผล.
ซูเห่าที่ลังเลใจ,ก่อนเอ่ยออกมาว่า “ข้ากลัว! ท่านพ่อออกไปลาดตะเวนนอกด่านทุกวัน,ข้าอยู่ในป้อมคนเดียว,แม้แต่เจ้าน้ำมูลเทาและเจ้าอ้วนชุนข้ายังเอาชนะไม่ได้เลย,หากว่าเกิดอุบัติเหตุอะไรขึ้น,ข้าไม่มีแม้แต่พลังปกป้องตัวเอง.”
อู๋หยุนเทียนเงียบไปชั่วขณะหนึ่ง,จ้องมองซูเห่าที่จ้องมองอย่างคาดหวัง,ก่อนจะเอ่ยปากออกมาว่า“ตกลง.”
ซูเห่าที่ผ่อนคลาย.
จากนั้นอู๋หยุนเทียนก็เอ่ยเพิ่ม“เรื่องในวันนี้,อย่าให้คนอื่นรู้.”
ซูเห่าที่พยักหน้าซ้ำ ๆ เอ่ยออกมาว่า“อืม! ท่านพ่อจะสอนข้าวันนี้เลยใหม?”
“พรุ่งนี้!”อู๋หยุนเทียนที่ถอนหายใจยาว“เซี่ยงหวู่,หลังจากนี้ เจ้าต้องการอะไรบอกข้าตรง ๆ,ข้าจะไม่ขวางเจ้าอีก.”
ซูเห่าจ้องมองอู๋หยุนเทียนจากไป,พร้อมกับกำหมัดเล็ก ๆ,การมีบิดาดีเป็นเรื่องสำคัญจริง ๆ.
......
เช้าวันถัดมา,อู๋หยุนเทียนได้เอ่ยถึง จิตวิทยา ให้กับซูเห่าฟัง.
มนุษย์ใช้จิตสำนึกควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกาย,ทั้งการเดิน,วิ่ง,ตัดสินใจควบคุมโดยจิตสำนึก,ทว่าจิตสำนึกยังควบคุมอีกหลายอย่างมากกว่านั้น,ทั้งความเร็วของการเต้นของหัวใจ,การเคลื่อนไหวของอวัยวะภายใน,ความสามารถของระบบย่อยอาหาร,ความสามารถของจิตสำนึกเหล่านี้,ทุกอย่างรวมกันเรียกว่า“พลังใจ.”
ใช่แล้ว,พลังใจคงอยู่ก็จะมีชีวิต,พลังใจตายก็จะเสียชีวิตหรืออาจจะเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า พลังวิญญาณ.
อู๋หยุนเทียนกลัวว่าซูเห่าจะไม่เข้าแนวคิดของ“พลังใจ”จึงได้เอ่ยเล่าตามความเข้าใจของตัวเอง,เพื่อให้ซูเห่าพินิจพิจารณา,หลังจากที่ซูเห่าพิจารณาก็สามารถเข้าใจเรื่องนี้ได้ทันที.
ทว่าซูเห่าไม่ต้องการที่จะเป็นปรมาจารย์ด้านพลังใจแต่อย่างใด,เขาเพียงแค่ต้องการเข้าใจแบบฝึกหัด,หาหนทางที่จะเพิ่มปราณโลหิตกลั่นร่างกายให้แข็งแรงขึ้นเท่านั้น.
อู๋หยุนเทียนได้สอบถาม,ความเข้าใจอีกฝ่ายหลายครั้ง,เขาไม่ได้เอ่ยอธิบายอย่างชัดแจ้งนัก,แต่ซูเห่ากับทำให้เขาประหลาดใจเป็นอย่างมาก,จนทำให้เขารู้สึกผวา,เกี่ยวกับความเข้าใจของปราณโลหิตของซูเห่า,แม้แต่เขายังรู้สึกว่า ตัวเองยังไม่เข้าใจรายระเอียดส่วนลึกเท่ากับซูเห่าด้วยซ้ำ.
หลังจากที่มั่นใจว่าซูเห่าเข้าใจแล้ว,เขาก็เริ่มสอนซูเห่า.
ซูเห่าที่นั่งอยู่บนเสื่อสมาธิจ้องมองอู๋หยุนเทียน,หลังจากยืนยันความเข้าใจว่าไม่มีปัญหา,เขาก็เริ่มหลับตา.
เขาที่ได้เข้าสู่สมาธิอย่างรวดเร็ว,ละทิ้งความคิดฟุ้งซ่านทั้งหมด,มุ่งไปยังสิ่งเดียว.
เขาได้ใช้แนวคิดจินตนาการตาม“ตำรายุทธ์ปราณโลหิตจิ่วกง”.
หลังจากนั้นไม่นาน.
“สำเร็จตั้งแต่ครั้งแรกเลยรึ?”
อู๋หยุนเทียนที่นั่งไร้ความรู้สึก,ทว่าภายในใจของเขากำลังเต้นไปมา,มีเพียงแค่อสุรกายพรสวรรค์เท่านั้นที่จะทำได้ในทันที,ในกลุ่มของเขา,คนที่มีพรสวรรค์ที่สุด,จะต้องทดลองมากกว่าสิบครั้งถึงจะสำเร็จ,ส่วนเขา,ไม่ต้องพูดถึงมันมากมายเกินจะจำได้,เป็นไปได้ว่าบุตรชายของเขานั้นสามารถปลุกสายโลหิตที่ทรงพลังบางอย่างขึ้นมาได้อย่างงั้นรึ?
เหตุผลที่ซูเห่าประสบความสำเร็จอย่างราบรื่นตั้งแต่แรกนั้น,เหตุผลแรกเพราะว่า เขามีความคิดแบบผู้ใหญ่,และมีความสามารถในการควบคุมตัวเองสูงมาก,อย่างที่สอง,เขาสามารถทบทวนปฏิบัติตามตำรา“ปราณโลหิตจิ่วกวง”ซ้ำแล้วซ้ำเล่าได้,โดยไม่มีการผิดพลาด,ทำให้เขาสำเร็จตรงตามเงื่อนไขโดยธรรมชาติ.
หลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมง,ร่างกายของเขาที่ส่งสัญญาณเตือนกลับมา,ทำให้เขาตื่นขึ้น.
ในเวลานี้อู๋หยุนเทียนได้เตรียมซุปไข่ผักไว้ให้เขาแล้ว.
หลังจากซูเห่าดื่มมันลงไป,เขาก็ได้ยกแขนและแกว่งไปมา,เขาไม่อาจสังเกตุเห็นได้ว่าพละกำลังเพิ่มขึ้นตรงใหน,เขาจึงมองไปยังบิดาของเขา“ท่านพ่อ,ทำไมข้าสัมผัสได้ถึงการเติบโตของปราณโลหิต,ทว่ากับไม่อาจสัมผัสได้ถึงพลังที่เพิ่มขึ้น.”
อู๋หยุนเทียนที่เผยยิ้ม เอ่ยออกมาว่า”การฝึกยุทธ์จะง่ายขนาดนั้นได้อย่างไร? ยังต้องใช้เวลาอีกนาน! ทุก ๆ วันเจ้าต้องหมั่นฝึกฝนกลั่นปราณโลหิต ทีละนิด ๆ ทุก ๆ วัน,เพื่อให้ร่างกายค่อย ๆ ปรับตัวให้เข้ากับการคงอยู่ของปราณโลหิตจำนวนมาก,หกเดือนหลังจากนี้,เจ้าจะเห็นมันเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน.
“นานขนาดนั้นเลย!”ซูเห่าที่ดวงตาเบิกกว้างกลมโต“เช่นนั้นข้าสามารถกลั่นต่อไปตอนนี้เลยได้ใหม?”
อู๋หยุนเทียนที่ส่ายหน้าไปมา“วันนี้พอแค่นี้,ร่างกายของเจ้าถึงขีดจำกัดแล้ว,เจ้าต้องพักผ่อนก่อน,จากนั้นคอยเริ่มใหม่ในวันพรุ่งนี้.”
ซูเห่าพยักหน้ารับ,หลังจากที่บิดาของเขาจากไป,เขาได้เข้าไปในพื้นที่พินบอลทันที,พร้อมกับสั่งการเสี่ยวกวง,ให้ทำการดึงข้อมูลตลอดชั่วโมงหนึ่ง ก่อนหน้านี้ทั้งหมดขึ้นมา.
หลังจากที่ย่อยอาหารเสร็จ,สารอาหารต่าง ๆ ก็จะสลายตัวกระจายออกไป,ถูกดูดซับเข้ามาในร่างกาย,ทว่าหลังจากที่ซูเห่าใช้แบบฝึก“ปราณโลหิตจิ่วกง”แล้ว,จะมีสารอาหารส่วนหนึ่งที่เปลี่ยนเป็นปราณโลหิต,แม้นว่าจะเป็นเพียงส่วนน้อย,ทว่าก็เห็นได้ชัดว่ามันเพิ่มขึ้นจริง ๆ.
ซูเห่าที่สีคางไปมา,เอ่ยพึมพำ.“แล้วจะเพิ่มความเร็วกระบวนการดังกล่าวได้อย่างไร?”