Chapter 153 Ambush point
狙击点
ไก่ลี่เอ่ยออกมาทันที“ไม่จำเป็นต้องหาวิธี,เขาออกมาเอง,ทุก ๆ วันตอนเย็น,เขาจะนำคนกลุ่มหนึ่งออกตรวจตราพื้นที่ของเขา,ขอเพียงอยู่ในพื้นที่เมืองทิศใต้,แทบทุกคนสามารถเห็นเขาได้ทุกวัน.”
ซูเห่าพยักหน้ารับ“เป็นเช่นนี้นะเอง.”
ไกลี่เอ่ยเพิ่ม”จักรพรรดิสวรรค์แสตน,เพียงแค่กลิ่นอายของเรา,เขาก็สามารถแยกแยะได้อย่างชัดเจนแล้ว,ยกตัวอย่างพวกเรา,ขอเพียงเข้าใกล้เขาในรัศมีหนึ่งกิโลเมตร,เขาก็พบพวกเราแล้ว,แน่นอนว่าไม่มีวิธีใหนเลยที่จะลอบสังหารเขาได้.
นอกจากนี้เขายังเป็นคนที่ระมัดระวังตัวเป็นอย่างมาก,เขากังวลที่จะพบกับขั้นหกคนอื่น ๆ ในเมืองเป็นอย่างมาก,ในระดับเดียวกันและสูงกว่า,ไม่มีใครสนใจเขา,กระทั่งคร้านที่จะสังหาร,เขาเป็นหนึ่งคนที่ขี้ขลาดจริง ๆ!”
ซูเห่าเผยยิ้ม“เช่นนั้น! พรุ่งนี้เย็นนี้,ข้าจะสังหารเขา,หลังจากเขาตายแล้ว,ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับเจ้าแล้ว.”
ไกลี่ที่วางมือบนโต๊ะ,ลุกขึ้นยืน“ตกลง! พรุ่งนี้ตอนเย็น,ข้าจะรอฟังข่าวดี!”
ซูเห่าลุกขึ้นยืนเอ่ยกับหยาซาน“หยาซาน,พวกเราไปเถอะ!”
หยาซานที่ระงับอาการหดหู่ ลุกขึ้นเอ่ยออกมาทันที“ตกลง,พี่ใหญ่เหว่ย!”
ซูเห่าที่นำหยาซานกลับโรงแรม.
เขาที่เริ่มครุ่นคิดวางแผนเกี่ยวกับการวางกลยุทธ์จัดการศัตรู.
วิธีการทิ้งระเบิดก่อนหน้านี้,ดูเหมือนว่าจะเต็มไปด้วยช่องโหว่.
เพราะตราบเท่าที่จักรพรรดิสวรรค์แสตนบินขึ้นสู่ท้องฟ้า,ก็ย่อมสามารถหลบหนีจากแรงระเบิดได้.
หากฝ่ายตรงข้ามกล้าหาญไร้ความกลัว,เป็นไปได้ว่าจะกระโดดขึ้นมาบนอากาศ,พร้อมกับต่อสู้กับซูเห่าสัก 300 รอบ,ในฐานที่เป็นจักรพรรดิสวรรค์,ควรจะปกป้องดินแดนของตน,รักษาศักดิ์สิทธิ์ของจักรพรรดิสวรรค์เอาไว้.
แต่หากฝ่ายตรงข้ามขลาดเขลา,เห็นสถานการณ์ไม่สู้ดี,คงจะดำดินหนีไป,ตามประสบการณ์แล้ว,ระเบิดที่ทิ้งลงไป,นอกจากสิ่งก่อสร้างที่พังทลาย,เกรงว่าคงไม่มีพลังทำลายจมลึกลงไปจนถึงใต้ดิน.
ดังนั้นวิธีการง่ายที่สุด,คือไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายตั้งตัว,ซุ่มโจมตีจากระยะห่างหนึ่งพันเมตร.
ระเบิดศีรษะของเขา.
จากนั้นก็จากไปอย่างสง่างาม.
......
หลังจากที่พวกซูเห่าจากไป.
เสี่ยวถงที่กลายเป็นบ้าคลั่งขึ้นมาทันที,เป็นสตรีปิศาจ,ที่เข้าขีดข่วนทำร้ายไกลี่.
“ไกลี่เจ้าสารเลว,คาดไม่ถึงว่าเจ้าจะรังแกข้าต่อหน้าคนนอก,ข้าก็มีศักดิศรีของราชาเงา,เจ้าไม่คิดจะไว้น้าข้าเลย?”
ไกลี่ที่ไปซ่อนอยู่ด้านหลังแคส,เผยยิ้มเอ่ยเสียงเบา“ฮ่าฮ่า,เสี่ยวถงเจ้าไม่ควรจะโกรธนะ,มันเป็นเรื่องบังเอิญ,ครั้งหน้า,ข้ารับรองว่าจะไม่ทำอีก!”
เสี่ยวถงที่บ้าคลั่งยิ่งกว่าเดิม“กี่ครั้งแล้วที่เจ้ารับรอง? แคสหลบไป,วันนี้ข้าจะทุบตีไกลี่ให้ตายไปเลย!”
แคสที่กระโดดออกไปด้านข้างทันที.
ไกลีที่ไปซ่อนด้านหลังอาซือ.
เสี่ยวถงที่ชี้ไปยังอาซือ,“อาซือเจ้าหลบไป,เจ้าไม่ควรปกป้องเขา!”
อาซือเอ่ยออกมาเล็กน้อย“ข้าฟังไกลี่!”
เสี่ยวถงที่แทบร้อง“....”
แคสที่เอ่ยอธิบาย“เอาล่ะ,ไกลีนั้นย่อมมีเหตุผลของเขาแน่นอน,พวกเราควรจะเชื่อไกลี่,ไว้ฟังเขาอธิบายก่อนเป็นไง.”
ไกลี่ที่พยักหน้าหงึก ๆ เป็นไก่จิกข้าวสารทันที“ใช่แล้ว,ฟังข้าอธิบายก่อน!”
เสี่ยวถงที่ยืนค้ำเอว“งั้นก็พูดมา!”
ไกลี่ที่ค้ำเอวยืนหัวเราะออกมาทันที“ฮ่าฮ่า,ตาของข้าย่อมมองไม่เห็นคนทั่วไปอย่างแน่นอน!”
แคสที่เผยความสนใจ,เอ่ยออกมาด้วยความสงสัย“แล้วเขาเป็นคนแบบใด?”
ไกลีทำตัวลึกล้ำ“คนผู้นี้.....”
ทั้งสามที่ตั้งสมาธิรับฟัง.
ไกลี่เอ่ยออกมาอย่างจริงจัง“เต็มไปด้วยความเมตตา!”
ทุกคนแทบสำลักน้ำลาย! อะไรว่ะ?
เสี่ยวถงที่ยกมือขึ้นตบหน้าไกลี่,เอ่ยด้วยความไม่พอใจ“เมื่อไหร่,จะเลิกล้อเล่นสักที!”
ไกลี่ยกมือขึ้นลูบใบหน้า เอ่ยออกมาว่า“ข้าไม่ได้ล้อเล่น,ข้าเห็นเขาครั้งแรกก็รู้สึกประทับใจแล้ว,ดังนั้นจึงคิดจะเป็นเพื่อนกับเขา,แม้แต่ต้องการนำเขาเข้ามาในแก๊งด้วยสี่ราชาด้วย...”
เสี่ยวถงที่ยกมือขึ้นบีบไหล่ไกลี่แน่นเอ่ยเสียงดัง“พูดเข้าประเด็นสักที!”
สาวน้อยผู้งดงาม,ที่จ้องเขม็งไปยังไกลี่.
แคสอดไม่ได้ได้แต่ถอนหายใจส่ายหน้าไปมา,หากได้เสี่ยวถงไปเป็นภรรยา,ไม่อยากจะคิดถึงสภาพเลย.
ไกลี่ที่หยุดเอ่ยออกมาว่า“เอาล่ะ,ข้าจะพูด,เสี่ยวถงปล่อยข้าก่อน.”
เสี่ยวถงที่ปล่อยไกลี่พร้อมกับผลักเขาไปหาอาซือ,เอ่ยออกมาทันที“ตอนแรกข้าไม่ได้สนใจ,คิดเพียงแค่ว่าคนผู้นี้ค่อนข้างพิเศษ,หลังจากนั้นข้าก็รู้สึกว่ามันไม่ใช่,จากนั้นครุ่นคิดอีกที,แม้แต่ไม่เข้าใจอีกฝ่ายมากขึ้นเรื่อย ๆ....”
ไกลี่ต้องการจะหัวเราะ,ทว่าก็ทำตัวแสดงท่าทางเคร่งขรึมเอ่ยออกมาว่า“คนผู้นี้,อย่างน้อยก็ต้องเป็นมนุษย์กลายพันธ์ขั้นห้า! อืม,หยาซานที่ติดตามเขานั้นเป็นมนุษย์กลายพันธ์ขั้นห้าแน่นอน.”
ทั้งสามไม่ได้ประหลาดใจ,คนที่สามารถสังหารราชาเกราะเหล็กอาบีได้,อย่างน้อยก็ต้องมีระดับนี้เป็นอย่างต่ำ.
ไกลี่เอ่ยต่อ“หากว่าพวกเราสามารถชักชวนพวกเขาเข้าร่วมแก๊งสี่ราชา,หลังจากนี้พวกเราไม่เรียกตัวเองว่าแก๊งหกราชาเลยรึ? ดังนั้นทันทีที่เขาขอความร่วมมือ,ข้าจึงตอบตกลงไปทันที!”
ทั้งสาม“......”
ไกลี่เอ่ย“อย่ามองข้าแบบนั้น! เขาเป็นคนที่มีความเมตตาจริง ๆ,เขาจะเป็นคนไม่ดีได้อย่างไร? อย่างน้อยพวกเขาก็มีเป้าหมายและอุดมการณ์เหมือนกับพวกเรา! เมื่อถึงเวลาที่พวกเราพร้อมและต้องการเปลี่ยนโลกใบนี้,จากนั้นข้าก็จะจับมือกับเขาอีกครั้ง...”
ทั้งสามที่ส่ายหน้าไปมา,ใบหน้าที่จ้องมองไกลี่ด้วยความคาดหวัง.
ไก่ลี่เอ่ย“ข้าพบว่าความแข็งแกร่งของเขาอาจจะเป็นมนุษย์กลายพันธ์ขั้นเจ็ดก็ได้.”
ทั้งสาม“???”
......
แก๊งสี่ราชาทำการระดมพลด่วน,เตรียมพร้อมทันที,ส่วนซูเห่าและหยาซานที่พักผ่อนตอนเย็น,เช้าวันถัดมา,พวกเขาก็ตะเวนไปยังเมืองทิศใต้,ตอนบ่าย,ซูเห่าและหยาซานก็ยืนอยู่บนป้อมปืน,กวาดตามองพื้นที่รอบ ๆ ใกล้เคียงเมืองหลินหยวน,ที่กว้างขวางไกลสุดลูกหูลูกตา.
สถานที่แห่งนี้กว้างขวางเป็นอย่างมาก,สามารถมองเห็นถนนได้เกือบทั้งหมด,สิ่งสำคัญ,อยู่ห่างจากปราสาทของจักรพรรดิสวรรค์แสตน 1600 เมตร,สามารถมองเห็นทุกซอกมุมได้.
ซูเห่าได้เลือกที่นี่เป็นสถานที่ซุ่มยิงที่ยอดเยี่ยมที่สุด.
ตามความเห็นของไกลี่,จักรพรรดิสวรรค์,มีสัมผัสราว ๆ หนึ่งกิโลเมตร,ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย,เขาจึงเลือกระยะซุ่มยิงเป็นระยะทาง 1600 เมตร.
ครั้งนี้ซูเห่าจะลงมือด้วยตัวเอง,เพื่อป้องกันความเสี่ยง,และป้องกันปัญหาที่จักรพรรดิสวรรค์จะสัมผัสได้ถึงอันตรายจากระยะไกลได้.
เขาเข้าใจอย่างลึกซึ้ง,เหล่าตัวตนในตำนาน,พวกเขาแทบทุกคนมักจะสัมผัสได้ถึงจิตสังหารและสัมผัสอันตรายได้อย่างแม่นยำ.
ยิ่งซูเห่ามีประสบการณ์จากหลายโลก,เกี่ยวกับจิตสังหารนั้นเขาเข้าใจดี,แม้นว่ามันจะถูกปล่อยออกมาเล็กน้อย,ทว่าใครบางคนก็สามารถสัมผัสมันได้.
อย่างไรก็ตามใครบางคนที่ถูกจับจ้องจากความมืดมิด,ไม่มีทางรับรู้แน่นอนว่าอันตรายจะเข้ามาไกล.
ซูเห่าเชื่อว่าหากเขาอยู่ห่างออกมาไกลพอ,ไม่น่าจะมีคนที่รับรู้สัมผัสอันตรายได้ไกลขนาดนี้.
เมื่อพบว่าอันตรายเข้ามาไกล้แล้ว,ก็ไม่เหลือเวลาให้ตอบสนองแล้ว...
ยกตัวอย่าง,ซูเห่าที่ควบคุมเรดาร์ตรวจสอบผู้คน,คงไม่มีใครกระโดดออกมาบอกว่า“ไม่ได้การ,ข้าถูกจับจ้องมอง,ร่างกายเหมือนมีเข็มทิ่มแทงอยู่ตลอดเวลา!”
อธิบายตามหลักวิทยาศาสตร์,สายตาของผู้คนสามารถมองเห็นสิ่งต่าง ๆได้,เพราะว่าแสงที่ตกกระทบเข้ามาในดวงตา.
ซูเห่าที่จับจ้องผู้คน,เกิดจากแสงจากภายนอกวิ่งเข้ามาในดวงตา,ดังนั้นจึงยากที่จะบอกได้ว่ามีคนกำลังจับจ้องพวกเขาอยู่,นั่นก็เพราะว่าดวงตาของซูเห่าไม่ได้เปล่งแสงออกมาเองอย่างไงล่ะ.
ดังนั้น,ตามความเข้าใจของซูเห่า,การซุ่มยิงที่อยู่ห่างจากระยะตรวจจับของอีกฝ่าย,ฝ่ายตรงข้ามย่อมไม่รู้สึกตัว.
ซูเห่าที่เดินลงไปจากป้อมปืน,เอ่ยกับหยาซาน“ไปหยาซาน,ออกไปนอกเมือง!”
หยาซานที่ดวงตาเบิกกว้างเอ่ยด้วยความสงสัย“พี่ใหญ่เหว่ย,พวกเราจะออกไปทำอะไรนอกเมือง?”
ซูเห่าเอ่ย“เพื่อให้มั่นใจว่าทุกอย่างปลอดภัย,สามารถสังหารศัตรูได้ในนัดเดียว,จำเป็นต้องตรวจสอบสภาพแวดล้อม,เจ้าดูข้า,หลังจากนี้ก็ศึกษาให้ดี.”
หยาซานเอ่ย,“รับทราบพี่ใหญ่เหว่ย!”