Chapter 152 The way of cooperation, is busy respectively various
合作的方式,各忙各的
ทั้งหกคนที่มาอยู่ในภัตตาคารแห่งหนึ่ง,ขณะที่ทุกคนกำลังจิบชานั่งพูดคุยกัน.
เสี่ยวถงที่เอ่ยในนามแก๊งสี่ราชา เอ่ยออกมาว่า“ในเมื่อพวกเราร่วมมือกัน,จากนี้ก็ควรจะทำความเข้าใจกันและกัน,วางแผนการร่วมกันให้สมบูรณ์,เพื่อรับประกันความสำเร็จของแผนการ.”
แคสพยักหน้ารับ เอ่ยออกมาว่า“ใช่แล้ว.”
ซูเห่าเผยยิ้มเอ่ย“ข้าคิดว่าพวกเจ้าเข้าใจความหมายของความร่วมมือที่ข้าเอ่ยผิดไป.”
“หืม?”เสี่ยวถงที่จ้องมองซูเห่าด้วยความสงสัย.
ซูเห่าเอ่ย“ข้ารับผิดชอบในการสังหารจักรพรรดิสวรรค์แสตน,เรื่องนี้พวกเจ้าไม่จำเป็นต้องเข้ามาเกี่ยวข้อง,พวกเจ้าเพียงแค่รอคอย,ไว้ข้าสังหารจักรพรรดิสวรรค์เสร็จแล้ว,พวกเจ้าก็รับผิดชอบเข้าครอบครอบพื้นที่ทิศใต้,อย่าให้เกิดความวุ่นวาย ไม่ว่าพวกเขาต้องการกระทำการอย่างไร ข้าก็จะไม่รบกวนพวกเจ้า,ทุกอย่างขึ้นอยู่กับพวกเจ้าทั้งหมด.”
เสี่ยวถงเอ่ย“แล้วจากนั้นล่ะ? ผลประโยชน์อะไรที่เจ้าต้องการจากเขตแดนทิศใต้?”
ซูเห่าเอ่ย“ไม่จำเป็น! ไม่มีสิ่งใดที่ข้าต้องการ,หลังจากนี้เขตแดนทิศใต้ พวกเจ้าต้องการทำอะไรก็แล้วแต่พวกเจ้า,ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับข้า.”
เหล่าแก๊งสี่ราชาจ้องมองกันและกัน,แววตาเต็มไปด้วยประหลาดใจ,จากนั้นเสี่ยวถงก็เอ่ยถามออกมา“เช่นนั้น,เป้าหมายที่แท้จริงของพวกเจ้าคืออะไร?”
ซูเห่าเอ่ยออกมาเล็กน้อย“พวกเรามาจากเมืองซือหลิน,แก๊งเทียนซาส่งคนมาเก็บค่าคุ้มครองจำนวนมหาศาลที่เมืองซือหลิน,พวกเราไม่อาจยอมรับได้,ในเมื่อแก๊งซือหลินคือแก่นของปัญหา,เช่นนั้นข้าจึงมาแก้ไขแก่นของปัญหาที่นี่เลย.”
คนของแก๊งสี่ราชา“.......”
ความรู้สึกของพวกเขา,คือพูดไม่ออก มีอะไรเช่นนี้ด้วยรึ?
นอกจากนี้คนที่มาจากเมืองเล็ก ๆ ชนบทบ้านนอกคอกนา,กล้าวิ่งมายังเมืองหลินหยวนอย่างคาดไม่ถึง,แม้แต่เอ่ยประกาศว่าจะสังหารยักษ์ใหญ่ของเมืองหลินหยวนอีกด้วย.
สิ่งที่พวกเขาได้ยินรู้สึกราวกับกำลังพูดเรื่องตลกขบขันในวงเหล้าเท่านั้น.
อย่างไรก็ตาม,พวกเขาไม่ได้หัวเราะ,แม้แต่เสี่ยวถงเองยังรู้สึกว่าคนเหล่านี้กำลังหลอกลวงพวกเขาอยู่หรือไม่?
นอกจากนี้แก๊งสี่ราชาเองก็เรียกเก็บค่าคุ้มครองจากเมืองเล็กทุกปีเช่นกัน,ซึ่งเป็นเงินจำนวนมาก,ไม่เช่นนั้นแล้วพวกเขาจะมีเงินเลี้ยงดูผู้คนมากมายได้อย่างไร?
หากการเก็บค่าคุ้มครองแล้วทำให้เมืองเล็กส่งนักล่ามาสังหารพวกเขา,แล้วพวกเขาจะดำเนินการกิจการแก๊งต่อไปได้อย่างไร?
หากเป็นเช่นนั้นจริง ๆ,เกรงว่าพวกเขาคงกลายเป็นกองกระดูกไปเรียบร้อยแล้ว.
ซูเห่าไม่ได้สนใจสายตาแปลก ๆ ของพวกเขา,เอ่ยออกมาว่า“ดังนั้น,เป้าหมายของข้านั้นง่ายมาก,ใครที่กล้าหาเรื่องเมืองซือหลิน,ไม่ว่าจะเป็นใคร,ข้าจะทำลายมันให้สิ้น!”
คนทั้งสี่ที่จ้องเขม็งมา,เฝ้ามองด้วยท่าทางระมัดระวัง
แคสแค่นเสียงเอ่ยออกมาว่า“เจ้าหนู,รู้ใหมสิ่งที่เจ้ากำลังทำคืออะไร? เจ้ารู้คำว่า จักรพรรดิสวรรค์ใหม,ว่ามันหมายความว่าอย่างไร?”
ซูเห่าเอ่ย“ไม่รู้,ทว่าสำหรับข้าแทบจะเหมือน ๆ กัน.”
แม้นว่าจะดูเหมือนกับคนยโสโอหัง,ทว่ากับไม่ได้เป็นอย่างนั้นแม้แต่น้อย.
ซูเห่าเอ่ยออกมาเล็กน้อย“ก่อนหน้านี้มีราชาเกราะเหล็กอาบี,นำคนสองคนไปที่เมืองซือหลินเพื่อเก็บค่าคุ้มครอง,และถูกข้าสังหารไปเรียบร้อยแล้ว.”
“อึก ๆ”ทั้งสี่ที่กลืนน้ำลายคำโต,ดวงตาเบิกกว้างไม่มีใครกล้าเอ่ยอะไรออกมา.
แคสที่ดวงตาเบิกกวาง,ดวงตาแทบหลุดจากเบ้า,เอ่ยเสียงแหบ“เจ้าสังหารราชาเกราะเหล็กอาบีอย่างงั้นรึ?”
ซูเห่าพยักหน้ารับ“หากชายร่างใหญ่มีหนวดนั่นคือราชาเกราะเหล็กอาบี,ก็เป็นคนนั้นล่ะ.”
แก๊งสี่ราชาทั้งหมดที่กลายเป็นเงียบไปในทันที.
ราชาเกราะเหล็กอาบีคือใคร,พวกเขาย่อมเข้าใจดี,กล่าวว่าในหมู่พวกเขาไม่เคยมีใครชนะราชาเกราะเหล็กได้เลย,ไม่ต้องเอ่ยถึงการสังหารอีกฝ่าย.
หากสิ่งที่เขาเอ่ยเป็นจริง,เช่นนั้น...
เขาคือมนุษย์กลายพันธ์ขั้นหกอย่างงั้นรึ?
พวกเขาเริ่มจะเชื่อคำพูดของซูเห่าแล้ว,เพราะว่าผ่านมาสองเดือนแล้วไม่เห็นทรราชราชาเกราะเหล็กอาบีเลย,เขาไม่ใช่คนที่จะชอบเก็บเนื้อเก็บตัวแน่ ๆ.
ภายในใจที่รู้สึกดีใจขึ้นมาทันทีเช่นกัน.
ก่อนหน้านี้แก๊งเทียนซาที่ต้องการตัดสินใจแบ่งเมืองเล็ก และต้องการเป็นผู้ครอบครองเมืองซือหลินเป็นอย่างมาก,แม้แต่มีการต่อสู้กันขึ้นด้วย.
ท้ายที่สุดพวกเขาก็เลิกล้มยอมแพ้ในค่าคุ้มครองเมืองซือหลิน,ตอนแรกพวกเขาไม่ค่อยพอใจนัก,ทว่าการยอมแพ้เมืองซือหลินกับกลายเป็นเรื่องดีซะอย่างงั้น.
ตอนนี้หากเป็นแก๊งสี่ราชาได้ครอบครองเมืองซือหลิน,พวกเขาจะต้องส่งขั้นห้ามนุษย์กลายพันธ์ออกไปเก็บค่าคุ้มครองเช่นกัน,และคนที่ตายย่อมไม่ใช่ราชาเกราะเหล็กอาบีอย่างแน่นอน.
ในเวลานั้นไกลี่เอ่ย“เจ้ามั่นใจอย่างงั้นรึ? ว่าจะจัดการจักรพรรดิสวรรค์,ขั้นหกมนุษย์กลายพันธ์ได้,ในเมืองหลินหยวน,เขาแทบจะเป็นตัวตนที่ไร้เทียมทาน,การเอาชนะเขาที่จริงอาจจะไม่ยาก,ทว่าต้องการสังหารเขานั้นเป็นเรื่องยากมาก.”
ซูเห่าเอ่ย“ข้าไม่ได้ล้อเล่น,เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาใหญ่.”
จากนั้นไกลี่ก็เอ่ยรับ“ตกลง,ข้ารู้แล้วต้องทำอย่างไร,เรื่องหลังจากนั้นมอบให้เป็นหน้าที่ของแก๊งสี่ราชาเอง,หลังจากพรุ่งนี้ตอนเย็น,พวกเราคิดว่าน่าจะจัดการรับเขตแดนทิศใต้ทั้งหมดได้.”
ซูเห่าพยักหน้ารับ.
ในเวลานั้นเสี่ยวถงที่ขมวดคิ้วไปมา,บังเกิดคำถามในใจ“ในเมื่อเจ้าสามารถสังหารจักรพรรดิสวรรค์แสตนได้อยู่แล้ว,ทำไมต้องมาร่วมมือกับพวกเราด้วยล่ะ?”
ไม่รอให้ซูเห่าตอบ,ไกลี่เอ่ยอธิบายออกมาเอง“เสี่ยวถง,เจ้าไม่เข้าใจอย่างงั้นรึ? เหว่ยกังวลว่าเมื่อสังหารจักรพรรดิสวรรค์แสตนแล้ว,จะทำให้พื้นที่ทิศใต้วุ่นวาย,การมาพบกับพวกเรา,หรือไปหาแก๊งจี่เล่อก็ดี,มันไม่สำคัญว่าจะเป็นใคร,ขอเพียงมีคนทำให้สถานการณ์ในเมืองมั่นคงได้ก็พอแล้ว.”
เสี่ยวถงที่หายใจเร็ว,ก่อนที่จะมองค้อน,ไม่พอใจไกลี่ที่ช่วยพูดให้กับคนนอก,เอ่ยออกมาว่า“แก๊งจี่เล่อนั้นสนใจแต่พวกสตรี,ไม่มีทางสนใจเกี่ยวกับดินแดนทิศใต้แน่.”
ไก่ลี่ที่หันหน้าไปพูดกับเสี่ยวถงอย่างจริงจัง“เสี่ยวถง,ฟังข้าพอ!”
ในเวลานั้น,เสี่ยวถงที่ดูลังเล,ก่อนที่จะนั่งลงไม่พูดอะไรอีกต่อไป.
ในเวลานั้นซูเห่าก็เอ่ยปากออกมา“ในเมื่อพวกเจ้าถามแล้ว,จากนี้ข้าจะถามสักสองสามคำถาม!”
ไกลี่เผยยิ้ม“เจ้าถามมาได้เลย,ขอเพียงพวกเรารู้จะตอบทั้งหมด.”
ซูเห่าเอ่ยถามออกมาทันที “ข้าสงสัย,ราชาเกราะเหล็กอาบีถูกข้าสังหารหนึ่งเดือนก่อนแก๊งเทียนซากับส่งคนออกไปตรวจสอบที่เมืองซือหลินเลย,เจ้ารู้ใหมว่าเกิดอะไรขึ้น?”
ไกลี่เผยยิ้ม“เป็นเรื่องธรรมดา,ราชาเกราะเหล็กอาบีแม้นว่าจะเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของจักรพรรดิสวรรค์แสตน,ทว่าเขาก็มีอิสระค่อนข้างสูง,เวลาหนึ่งถึงสองเดือน,หรือแม้แต่ครึ่งปียังไม่มีใครสนใจเขาเลย,พวกเขาคงคิดว่าอีกฝ่ายกำลังไปยังเมืองเล็กอื่น ๆ,นอกจากนี้จักรพรรดิสวรรค์คงไม่คิดว่าจะมีใครสังหารราชาเกราะเหล็กแสตนได้อย่างแน่นอน.”
ซูเห่าพยักหน้ารับ“เป็นเช่นนี้นะเอง!”
จากนั้นเขาก็เอ่ยออกมาว่า“ข้าได้ยินมาว่าในเมืองหลินหยวนมีสี่กองกำลัง,เจ้านายของสามแก๊งมีมนุษย์กลายพันธ์ขั้นหกปกครอง,ประกอบด้วย,จักรพรรดิสวรรค์แสตน,จักรพรรดิหมอกคานะและจักรพรรดิต้นกำเนิด,หยวน,ทว่าข้าเข้ามาในเมือง,ข้าพบเพียงมนุษย์กลายพันธ์ขั้นหกสองคน,คนที่สามนั้นไม่อยู่ในเมืองอย่างงั้นรึ?”
ไกลี่ที่ดวงตาสั่นส่ายไปมา,ก่อนหัวเราะออกมา“เจ้าคงหมายถึงจักรพรรดิต้นกำเนิดหยวนอย่างแน่นอน,เจ้านั่นเป็นคนแปลกประหลาด,หากไม่มีใครหาเรื่องเขา,เขาก็ไม่สนใจคนอื่นเช่นกัน,พวกเราไม่กล้าหาเรื่องเขา,แม้แต่รู้สึกกลัวเขาด้วยซ้ำ.”
ซูเห่าที่สอบถามด้วยความสนใจ“จักรพรรดิต้นกำเนิด,มีความสามารถอันใด?”
ไกลี่เอ่ย“จักรพรรดิต้นกำเนิดคือขั้นหกของลำดับมนุษย์เลียนแบบ,เรื่องนี้ข้าเองก็ไม่รู้,ที่รู้คือยังไม่เคยมีใครเคยเห็นร่างต้นของเขาเลย,หรือเขาอาจจะไม่มีร่างต้น,ที่พวกเราเจอส่วนมากแล้วมักจะเป็นร่างโคลนของจักรพรรดิต้นกำเนิดเท่านั้น.”
ในเวลานั้นซูเห่าที่นึกอะไรได้,ก่อนถามออกมา“ในพื้นที่แห่งหนึ่งในเมือง,มีคนกลุ่มหนึ่งที่ไร้ซึ่งจิตวิญญาณ,มีพฤติกรรมแปลก ๆ,เกี่ยวข้องกับจักรพรรดิต้นกำเนิดหรือไม่?”
ไกลี่พยักหน้ารับ“ใช่,เกี่ยวข้องกับจักรพรรดิต้นกำเนิด! เป็นมนุษย์กลายพันธ์ที่แปลกประหลาดมาก,ข้าเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน.”
ซูเห่าที่เปลี่ยนคำถามไม่เอ่ยถามเกี่ยวกับจักรพรรดิต้นกำเนิดแล้ว,เอ่ยออกมาว่า“แล้วจักรพรรดิสวรรค์ล่ะมีความสามารถอะไร?”
ไกลี่ที่ยกมือขึ้นเกาศีรษะไปมา,“จักรพรรดิสวรรค์,ข้าเข้าใจเล็กน้อย,เขาสามารถเคลื่อนไหวบินบนท้องฟ้าได้อย่างอิสระ,และยังมีความเร็วที่ไม่ธรรมดา,สามารถดำดินได้ตามใจปรารถนา,ร่างกายที่เคลื่อนไหวไร้ร่องรอย,นอกจากนี้เขายังสามารถรับรู้ตำแหน่งของฝ่ายตรงข้ามได้อย่างแม่นยำ,ลื่นไหลยิ่งกว่าปลาไหล,ไม่มีใครจับเขาได้,และสิ่งที่เขาจับต้องนั้น,ล้วนแต่กลายเป็นสิ่งของพิเศษ,ยกตัวอย่างเขาแตะไปที่โต๊ะ,แล้วโต๊ะตัวนั้นก็จะสามารถลอยไปบนฟ้า,หรือดำดินได้ด้วย,ความสามารถของจักรพรรดิสวรรค์นั้นนับว่าเป็นปัญหาไม่น้อย,เป็นคนที่ยากจะจัดการจริง ๆ”
ซูเห่าพยักหน้าเข้าใจ.
จากนั้นเขาก็เอ่ยคำถามสุดท้าย“มีวิธีทำให้จักรพรรดิแสตนออกมาจากปราสาทของเขาหรือไม่?”