Chapter 150 Strange
诡异
ซูเห่าที่เผยท่าทางประหลาดใจ“เจ้ามาจากแก๊งสี่ราชาอย่างงั้นรึ? แล้วต้องการเชิญข้าเข้าร่วม?”
ไก่ลี่พยักหน้าเอ่ยออกมาทันที“ใช่!”
ไก่ลี่ที่เหยียดมือออกไปพร้อมกับวาดวงกลมขนาดใหญ่บนอากาศเอ่ยอย่างภาคภูมิ“พื้นที่ทางเหนือของเมืองแห่งนี้นั้นอยู่ภายใต้การควบคุมของแก๊งสี่ราชาของพวกเรา,ฮึฮึ ไม่เลวใช่ใหม!”
ซูเห่าพยักหน้ารับ,“โดยรวมแล้วถือว่าไม่เลวเลย.”
ไกลี่ที่เผยยิ้มพราย,เผยใบหน้าคาดหวัง“มาเถอะ! เข้าร่วมแก๊งสี่ราชา! ร่วมสร้างเมืองให้น่าอยู่!”
ซูเห่าที่เอ่ยสอบถามด้วยความงงงวย“เจ้ารู้จักข้าอย่างงั้นรึ?”
ไกลี่พยักหน้าเอ่ย“รู้,ไม่ใช่ว่าเจ้าชื่อเหว่ยหรอกรึ?”
ซูเห่าขมวดคิ้ว ปวดขมับขึ้นมา,จึงเอ่ยถามออกมา“ข้าหมายถึง,พวกเราเคยรู้จักกันมาก่อนอย่างงั้นรึ?”
ไกลี่ที่เกาศีรษะไปมา,จากนั้นก็หัวเราะ“ไม่รู้! แต่เรื่องนั้นสำคัญด้วยรึ? ตอนนี้ก็รู้จักกันแล้วไง!”
ซูเห่าเอ่ย“ในเมื่อไม่รู้จักกันมาก่อน,เจ้าเชิญข้าเข้าร่วมแก๊งสี่ราชาของเจ้า? คิดดีแล้วรึ? เจ้ายังไม่รู้อะไรเกี่ยวกับข้าเลย!”
ไก่ลี่ที่เผยยิ้มอย่างไม่แยแส“ไม่เห็นต้องใส่ใจเลย! หลัก ๆ แล้วข้าชอบเจ้า,ดังนั้นจึงเชิญเจ้า!”
ซูเห่าที่ที่ยกมือขึ้นโบกไปมา“หยุด หยุดตอนนี้เลย! โปรดระวังคำพูดสองแง่สองง่ามของเจ้า,อย่าได้ทำเป็นใกล้ชิดสนิทสนมกับข้าขนาดนั้น,พวกเราไม่ได้รู้จักกันขนาดนั้น.”
ไกลี่ที่หัวเราะร่วน,อย่างมีความสุข“อย่าอายไปเลย! ข้าเห็นเจ้าซื้ออาหารให้เด็กน้อยเหล่านั้น,ข้าเห็นแววตาของเจ้า,ข้าชอบมัน! หากทุกคนเป็นเหมือนเจ้า,เมืองนี้จะต้องดีขึ้นอย่างแน่นอน.”
ซูเห่าพยักหน้าเอ่ยออกมาว่า“เป็นเช่นนี้นะเอง,อย่างไรก็ตามความปรารถนาดีของเจ้าขอขอบคุณก็แล้วกัน,ข้าไม่ต้องการเข้าร่วมแก๊งของเจ้า,หากต้องการ,จะไปหาเจ้าก็แล้วกัน.”
ไกลี่ที่เผยท่าทางประหลาดใจ“ทำไม! แก๊งสี่ราชาของพวกเราเป็นหนึ่งในสี่กลุ่มอิทธิพลใหญ่ของเมืองหลิงหยวน,ความแข็งแกร่งไม่ธรรมดา,เข้าร่วมกับพวกเรามีอนาคตที่สดใส.”
ซูเห่าที่ก้าวออกมาขณะพูด“โทษที,ข้าไม่จำเป็นต้องมีอนาคต.”
ไกลี่เร่งรีบก้าวเข้าใกล้ซูเห่า“เข้าร่วมกับพวกเรา,พวกเราสามารถช่วยเหลือกันและกัน,สร้างเมืองให้ดี,นี่คือสิ่งที่เจ้าเองก็ต้องการไม่ใช่รึ?!”
ซูเห่าที่ส่ายหน้าไปมาทันที“ไม่,อย่าได้พูดอะไรไร้สาระอีก,หยุดแค่นั้น,อย่าตามข้ามา!”
ไก่ลี่ที่หยุดและเอ่ยออกมาว่า“แก๊งสี่ราชาของพวกเราต้องการคนที่มีจิตใจเมตตา,ต้องการเปลี่ยนเมืองนี้ให้ดีขึ้นด้วยกัน,เจ้าเห็นเด็ก ๆ เหล่านี้แล้ว,หากปล่อยไปเช่นนี้พวกเขาจะต้องอดตายอย่างแน่นอน,ข้าคนเดียวทำไม่สำเร็จ,พวกเราต้องการเจ้า....”
ซูเห่าที่ก้าวหายไปที่มุม.
ในเวลานั้นหยาซานที่เอ่ยออกมาว่า“พี่ใหญ่เหว่ย,ข้าคิดว่าเขาพูดมีเหตุผล! หากเข้าร่วมกับพวกเขา,ไม่ใช่ว่าสามารถทำให้เมืองดีขึ้นได้หรอกรึ?”
ซูเห่าที่หยุดชงักและหันกลับไป“หยาซาน!”
หยาซานที่จ้องมองซูเห่าด้วยความระมัดระวัง,ราวกับว่าตัวเองได้เอ่ยอะไรผิด.
“เจ้าจำไว้ให้ดี,ทำให้เมืองดีขึ้นคือเป้าหมายของเขา,ไม่ใช่เป้าหมายของเจ้าหรือข้า,พวกเรามาที่นี่เพื่อแก้ปัญหาให้กับเมืองซือหลิน,เมื่อแก้ปัญหาเสร็จแล้ว,พวกเราค่อยพูดคุยกันอีกครั้ง.”
หยาซานที่ก้มหน้าด้วยความละอาย,ซูเห่าเอ่ยเพิ่ม“หยาซาน,เจ้าไม่ควรหลงไหลในภาพลวงตาที่เห็นอยู่ตรงหน้าเจ้า,เจ้าต้องมองให้เห็นถึงแก่นของมัน,สิ่งที่เจ้าต้องการแตกต่างจากสิ่งที่ไกลี่ต้องการ,เขาต้องการพัฒนาเมืองแห่งนี้,เจ้าเข้าใจหรือไม่? สิ่งที่เจ้าต้องการคือเปลี่ยนโลกทั้งใบ,หากถามถึงคนที่ต้องเข้าร่วม,ควรเป็น เขาที่เข้าร่วมกับเจ้า,เจ้าเข้าใจใหม?”
หยาซานที่ได้สติ,ดวงตาเป็นประกาย“เข้า...เข้าใจแล้ว,พี่ใหญ่เหว่ย!”
ซูเห่าที่ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้“เฮ้อ! เจ้าเป็นคนที่ลังเล ใจง่ายขนาดนี้ได้อย่างไร? หลังจากจบเรื่องนี้,เจ้าจงคัดลอกเขียนเป้าหมายมาให้ข้าหนึ่งพันจบ!”
หยาซานที่พยักหน้าอย่างจริงจัง“รับทราบพี่ใหญ่เหว่ย!”
......
หลังจากที่ซูเห่าจากไปแล้ว,ไกลี่ยืนนิ่งด้วยท่าทางหดหู่ใจ.
ในเวลานั้นมีชายสองคนและหญิงหนึ่งคนที่เดินเข้ามายืนอยู่ข้าง ๆ ไกลี่.
สตรีผมยาวที่มัดผมหางม้าแกว่งไปมา,ดวงตากลมโต,ขนปุยที่หูสีขาวนวลดูงดงามเป็นอย่างมาก.
สตรีผมเปียที่ก้าวเข้ามาพร้อมกับยกมือขึ้นตบศีรษะของไกลี่,กล่าวตำหนิ“เจ้าโง่! เจ้าไปเชิญคนแปลกหน้าแบบนั้นเข้าแก๊งได้อย่างไร? ฝ่ายตรงข้ามเป็นผีที่ใหนก็ไม่รู้,เห็นใครก็เชิญหมดรึไง!”
ชายร่างเล็กด้านข้างเองก็เอ่ยออกมาว่า “เสี่ยวถงพูดถูก,จะไปเชิญคนไม่รู้หัวนอนปลายเท้าได้อย่างไรกัน? เจ้าควรจะชวนพวกเขาไปกินข้าวก่อน,ทำให้เขาเขามีความสุขก่อน,จากนั้นค่อยเอ่ยชวน,รับรองว่าพวกเขาตอบตกลงเข้าร่วมกับเราแน่! ฮ่าฮ่าฮ่า!”
เสี่ยวถงที่หันขวับพร้อมกับยกมือขึ้นตบศีรษะชายร่างเล็กอีกคนเช่นกัน“แคสเจ้าเองก็โง่ไปด้วยรึไง,พวกเจ้าทั้งสองนี่มันน่าโมโหจริง ๆ!”
แคสและไกลี่ที่จ้องมองหน้ากันและกัน แล้วหัวเราะออกมา.
เสี่ยวถงที่หันหน้าไปพูดกับชายผมหยิกที่ยืนเด่นไร้อารมณ์ด้านข้าง“อาซี,โชคดีที่เจ้าเป็นคนปรกติ,ไม่เช่นนั้นคงแย่แน่!”
อาซีที่พยักหน้ารับ,จากนั้นก็เอ่ยออกมาเล็กน้อย“ข้าฟังไกลี่.”
ไกลี่ที่ยกมือขึ้นตบไหลอาซีพร้อมกับหัวเราะ“ใช่ ใช่! คนที่ข้าเชิญนั้นยอดเยี่ยมแน่! เจ้าเด็กนั่นถูกตาข้ามาก,หากว่าได้เป็นพรรคพวกคงดี,น่าเสียดายฝ่ายตรงข้ามไม่มีท่าทางสนใจเลยแม้แต่น้อย,แต่มันก็ไม่แน่.”
ชายร่างเล็ก,แคสที่สีคางเอ่ยออกมาว่า“ฝ่ายตรงข้ามดูเหมือนว่าจะไม่รู้ความแข็งแกร่งของพวกเรา! ไกลี่,เมื่อครู่เจ้าไม่ควรรีบร้อน,หากเป็นข้า,จะต้องแสดงความสามารถให้พวกเขาเห็นก่อน,รับรองว่าเขาจะต้องเข้าร่วมกับพวกเราแน่นอน.”
เสี่ยวถงที่ปรบมือเสียงดัง“พวกเจ้าพอได้แล้ว,พูดกี่ครั้งแล้ว,อย่าเชิญคนที่ไม่รู้หัวนอนปลายเท้าเข้ามา! เข้าใจบ้างใหม!”
แคสที่ก้มหน้าลงเอ่ยด้วยความห่อเหี่ยว“ได้ยินแล้ว,เสี่ยวถง!”
......
สัมผัสเรดาร์ของซูเห่ามีขั้นห้าสามคนที่มารวมตัวกับไกลี่,ซึ่งพอจะบอกได้ว่าพวกเขาคือสมาชิกของแก๊งสี่ราชา,เป็นสามราชามนุษย์กลายพันธ์นั่นเอง.
อย่างไรก็ตาม,ขอเพียงพวกเขาไม่มีความคิดมุ่งร้ายไปยังเมืองซือหลิน,ซูเห่าก็ไม่สนใจพวกเขา,แน่นอนหลังจากนี้เกี่ยวกับการศึกษายีนในลำดับอื่น ๆ,บางทีอาจจะขอความร่วมมือกับพวเขาได้.
ซูเห่าที่นำหยาซานมาพักที่โรงแรมแห่งหนึ่ง,หลังจากที่เขาทำความสะอาดร่างกาย,ก็ไม่ได้อยู่เฉย,ทว่ามุ่งหน้าไปยังสองจุดจิงซีที่รุนแรง,ตรงไปยังพื้นที่กลุ่มของมนุษย์กลายพันธ์ที่แข็งแกร่งที่สุดนั่นเอง.
เขาจำเป็นต้องยืนยันเจ้านายแก๊งเทียนซา,จักรพรรดิสวรรค์,แสตน จากนั้นก็จัดการเรื่องราวให้เสร็จ,แล้วรีบกลับเมืองซือหลินวิจัยทดลองต่อ,เรื่องราวที่ไม่เกี่ยวข้องกับเขา,ก็เปลืองแรงที่เขาจะเข้าไปยุ่งวุ่นวาย.
ทั้งสองที่มุ่งหน้าไปยังพื้นที่ทิศใต้,ขณะผ่านพื้นที่แห่งหนึ่ง,พื้นที่สะอาดสดใสของเมืองทิศเหนือได้หายไปเลย,ถูกแทนที่ด้วยความหม่นหมองแทน.
ที่นี่ผู้คนดูไร้จิตวิญญาณ,ดูวุ่นวาย,แต่ไม่มีใครพูดคุยกัน,ซูเห่าที่ยืนอยู่ท่ามกลางพวกเขา,ดูเด่นขึ้นมาทันที.
ซูเห่าที่ขมวดคิ้ว,สัมผัสเรดาร์ของเขาคนเหล่านี้มีพฤษติกรรมที่แปลกๆ,สัมผัสได้ถึงจิงซีที่ดูคล้าย ๆ กัน เป็นมนุษย์กลายพันธ์ขั้นสองและขั้นสาม.
หยาซานอดไม่ได้ต้องเอ่ยออกมาเสียงเบา”พี่ใหญ่เหว่ย,รู้สึกแปลก ๆ.
ทันทีที่หยาซานพูดออกมาว่า ที่นี่แปลก,เหล่าแรงงานทั้งหมดรอบ ๆ ก็หยุดมือและจ้องมองมายังคนทั้งสองทันที.
ทันใดนั้น,บรรยากาศที่กลายเป็นเงียบขึ้นมาทันที.
หยาซานถึงกับกลั้นหายใจโดยที่ไม่รู้ตัว.