ตอนที่แล้วChapter 123 【Bone demon】
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 125 secure

Chapter 124 Bone armor


骨�

สองเดือนผ่านไปอย่างรวดเร็ว,ซูเห่ามีอายุใกล้จะ 11 ขวบแล้ว.

วิวัฒนาการปิศาจกระดูกสถานะสองสมบูรณ์แล้ว.

รวมทั้ง,การฝึกฝนทักษะปิศาจกระดูก,เขายังสามารถใช้มันได้อย่างเชี่ยวชาญอีกด้วย.

ทักษะของปิศาจกระดูกประกอบด้วย“สร้างเกราะกระดูก” “ฟื้นฟูเนื้อ” “แพร่กระจายกระดูก” “ควบคุมกระดูก” “พลังแห่งการรักษา” “เดือยกระดูก” “กระดูกบิน” “สะท้อนการโจมตี”

สิ่งที่ซูเห่าให้ความสนใจเป็นอย่างมากคือ“การสร้างเกราะกระดูก” “ฟื้นฟูเนื้อ” “แพร่กระจายกระดูก” และ “ควบคุมกระดูก”

อย่างแรกเกราะกระดูกและฟื้นฟูเนื้อ เป็นทักษะที่เพิ่มความสามารถในการเอาชีวิตรอดได้เป็นอย่างมาก,ทว่าแพร่กระจายกระดูกและควบคุมกระดูก,สามารถเปลี่ยนรูปร่างกระดูกได้ดั่งใจต้องการ.

การเปลี่ยนรูปร่างมีประโยชน์อย่างไร?

สำหรับคนอื่นไม่ได้มีประโยชน์นัก,ทว่าสำหรับซูเห่าแล้วมีประโยชน์มากมาย.

เขาสามารถสร้างปีกกระดูก,เพื่อบินบนท้องฟ้าได้.

นอกจากนี้,การบินของเขาในโลกนี้จะไม่ได้มีประสิทธิภาพย่ำแย่เหมือนกับชาติที่แล้ว,เพราะเขาสามารถฟื้นฟูปีกเวลาใดที่ใหนก็ได้.

แม้นว่าจะได้รับความเสียหายสักกี่ครั้ง,ทว่าก็สามารถงอกมันออกมาได้,ขอเพียงมีจิงซีเพียงพอ,แทบจะฟื้นฟูกลับมาได้ตลอด,โดยเปลี่ยนชิ้นส่วนของร่างกายเป็นปีก.

ซูเห่ามีจิงซีพอหรือไม่?

ตอนนี้ความหนาแน่นของจิงซีซูเห่านั้น,เกินกว่าจะคำนวณได้,ตราบเท่าที่เขากินและดื่มทุกวัน,จิงซีของเขาแทบจะใช้ไม่หมด.

ดังนั้น,ปิศาจกระดูกจึงเหมาะสมกับเขาอย่างยิ่ง.

อย่างไรก็ตามซูเห่าพบว่า,มนุษย์กลายพันธ์ขั้นสูงเองก็มีความแตกต่างกัน.

ยกตัวอย่างหยาซานที่เป็นปิศาจกระดูกเช่นกัน,ทว่าซูเห่ามีทักษะ“ควบคุมกระดูก” ส่วนหยาซานนั้นไม่มี.

อย่างไรก็ตามยีนของทั้งคู่,แทบจะเหมือน ๆ กัน.

“กล่าวอีกอย่างหนึ่ง,แม้นว่าจะมียีนที่เหมือนกัน,ทว่าก็ไม่อาจคัดลอกการแสดงออกของยีนที่แตกต่างกันได้.”ซูเห่าคาดเดาว่าผลของยีนที่แสดงออกมานั้น,แตกต่างกันในแต่ละบุคคล,ซึ่งมีความสัมพันธ์กับสำนึกคิดและความปรารถนาด้วย.

ซูเห่าที่นึกย้อนกลับไปขณะวิวัฒนาการเป็นสถานะสอง,เขาได้พยายามเปลี่ยนหนามกระดูกเป็นดาบกระดูกซ้ำ ๆ,ทว่ากับล้มเหลว,แต่ท้ายที่สุดหลังจากพยายามไม่หยุดหย่อนก็สำเร็จเปลี่ยนเป็นทักษะในการควบคุมกระดูกเป็นทักษะใหม่ขึ้นมา,น่าจะเกิดจากความปรารถนาอันรุนแรงของเขา.

“ก่อนที่จะวิวัฒนาการ,จำเป็นต้องแสดงความต้องการออกมาให้ชัดเจน!”

เจตจำนงของซูเห่าเคลื่อนไหว,เกราะกระดูกที่งดงามปรากฏขึ้นปกคลุมทั่วร่างกายทันที,ร่างกายของเขาที่สูงขึ้นกว่าสองเมตร,ไหล่สองข้างที่มีแผ่นสนับสนุนการบินปรากฏขึ้นด้วย,หนามกระดูกที่ควบแน่นขึ้นเป็นลวดลายโค้งเว้าราบเรียบ,ดูสมส่วนพอดีเป็นเหมือนดั่งกับงานศิลปะ.

ซูเห่าที่ยื่นมือออกไป,ดาบยาวถูกสร้างขึ้น,เป็นดาบใหญ่ที่มีความยาวหนึ่งเมตรแปดสิบ,โค้งด้านหน้าเล็กน้อย,ดูน่าเกรงขามเป็นอย่างมาก,คมดาบที่เป็นลวดลายคลื่นคล้ายกับมีชีวิต,ส่องประกายแสงเย็นยะเยือบออกมา.

ซูเห่าที่ก้าวไปด้านหน้า,กระดูกด้านหลังที่ยืดยาวออกมาอย่างรวดเร็ว,หนึ่งนาทีหลังจากนั้นปรากฏปีกบางสองปีกขึ้น.

“แก๊ก แก๊ก~”

ปีกที่ถูกปรับแต่ง,ท้ายที่สุดก็กลายเป็นปีกที่มั่นคงเหมือนกับปีกเครื่องบิน.

เกราะกระดูกปรากฏลวดลายขึ้น,แพร่กระจายไปทั่วทั้งเกราะ,ทั้งบนปีกและดาบยาว.

ผ่านไปนานเหมือนกัน,ลวดลายอักขระที่ถูกสลักลงไปมากมายนับไม่ถ้วน!

บนเกราะสีขาว,มีอักขระ“ผสานงาน”และ“สง่างาม” ถูกสลักลงไปด้วย.

ซูเห่าที่ก้าวออกมา,หยาซานที่กำลังสอนไท่นี่ฝึกฝนวิชายุทธ์อยู่.

พ่อและบุตรสาวเห็นซูเห่า,ก็จ้องมองด้วยความตื่นตะลึง,ดวงตาแทบถลนออกมา,อ้าปากค้าง,คางแทบล่วงหล่นไปบนพื้น.

ไม่คาดคิดเลยว่าจะมีเกราะที่งดงามขนาดนี้บนโลกใบนี้?

ไม่เพียงแค่หยาซานที่รู้สึกชื่นชอบเกราะดังกล่าว,ไท่นีเองก็รู้สึกหลงเสน่ห์เกราะซูเห่าไปด้วย.

ทั้งสองแทบจะวิ่งเข้าไป,ลูบคลำเกราะสีขาวที่มีลวดลายประณีตงดงาม.

ดวงตาที่เป็นประกาย,ส่องสว่างเจิดจ้า.

หยาซานเอ่ยด้วยความอิจฉา“พี่ใหญ่,ข้าต้องการศึกษาทักษะนี้!”

ไท่นี่ที่ตื่นเต้นจนต้องหยิกหนูตัวน้อย,เอ่ยด้วยความปรารถนา“ลุง,โตขึ้นข้าต้องการเป็นมนุษย์กระดูก! งดงามมาก!”

หนูตัวน้อยกำลังดิ้นไปมา“อี๊ด อี๊ด อี๊ด!”

ซูเห่าเผยยิ้ม,เอ่ยปากออกมาว่า“ไม่ต้องรีบร้อน,หลังจากนั้นค่อยว่ากัน,พวกเจ้าหลบออกไปก่อน,ข้าต้องการทดสองการบิน!”

“ทดสอบการบิน?”ทั้งสองเผยความสงสัย,ขณะก้าวหลบไปด้านข้าง.

ปีกยาวของซูเห่าที่สะบัดไปด้านหลัง,ก่อนที่เขาจะวิ่งไปด้านหน้า.

รูนอักขระปะทุที่เกิดระเบิดขึ้นทันที.

“ปัง.”

ใต้เท้าที่เกิดการประเบิดเหมือนกับไอพ่นผลักร่างเขาขึ้นไปบนท้องฟ้า.

เกราะที่เขาสวมใส่ไม่ใช่เกราะโลหะแต่ะเป็นเกราะกระดูกทำให้น้ำหนักโดบนงใลดลงมาก,ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง,มีความยืดหยุ่นที่เหนือกว่าชาติที่แล้วหลายเท่า.

ปีกที่ขยับปรับโครงสร้างให้เข้ากับกระแสอากาศ,เสี่ยวกวงทำการคำนวณปรับปรุงทุก 7-8 วินาที,จนกระทั่งได้โครงสร้างที่เหมาะสมที่สุดในการบิน.

“สุดยอด!”ซูเห่าที่หัวเราะร่วน,บินทะยานขึ้นไปบนฟ้า,สูงขึ้นและก็สูงขึ้น.

ทะลวงหมู่มวลเมฆา,แหวกท้องฟ้าสีน้ำเงิน,ฝ่าแสงแดงอันเจิดจรัส,บินขึ้นสูงเรื่อย ๆ.

เขาต้องการบินขึ้นไปให้สูงที่สุด,เพื่อมองกลับลงมาดูดาวดวงนี้.

อุณหภูมิที่ลดลงช้า ๆ.

อักขระ“อุณภูมิสูง” ที่เปิดใช้งานทันที.

อากาศเบาบาง

อากาศเบาบาง,ยังไม่อาจแก้ปัญหาได้ชั่วคราว,ทำให้เขาไม่อาจบินได้สูงกว่านี้แล้ว,เป็นไปได้ว่าในอนาคตสามารถสร้างถังออกซิเจนขึ้นมาเพื่อช่วยหายใจได้หรือไม่?

หลังจากบินขึ้นไปถึงความสูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ในปัจจุบัน,เขาก็จ้องมองลงมาเห็นดาวดวงนี้เป็นดาวเคราะห์สีเหลืองน้ำเงินและขาว.

ไม่อาจมองเห็นภาพรวมทั้งหมด,ทว่าในครรลองสายตานั้น,บอกได้ว่านี่คือดาวเคราะห์ทีมีขนาดใหญ่มาก.

“ดูคล้ายโลกมาก,แต่ดูเหมือนจะขาดพลังชีวิตไปหน่อย,ค่อนข้างแห้งแล้ง”ซูเห่าทำการวิเคราะห์เพราะที่นี่มีทะเลน้อย,ส่วนมากเป็นทะเลทรายซะส่วนใหญ่.

ซูเห่าที่บินอย่างอิสระ,เริ่มทดสอบการบินในรูปแบบต่าง ๆ ,กระทั่งโหมดปิดเสียง,จากนั้นก็กลับมาและค่อย ๆ ร่อนลงไปยังลานพี่พัก.

แน่นอนว่าในเมืองมีบางคนที่มองเห็นซูเห่าบินขึ้นและร่อนลง,แต่เพราะมันเคลื่อนที่เร็วเกินไป,คนที่เห็นจึงมีน้อยมาก,แม้แต่คนที่เห็นคิดว่าพวกเขาตาลายไปด้วยซ้ำ,จึงไม่ได้เกิดเรื่องใหญ่อะไร.

ซูเห่าที่กลับเข้าห้อง,สลายเกราะกลับคืนรูปลักษณ์มนุษย์,สวมชุดเสื้อผ้าตัวเองก้าวออกมา.

หยาซานและไท่นีต่างก็วิ่งเข้าไปหาทันที.

หยาซานที่เอ่ยออกมาด้วยความตื่นเต้นจนเสียงสั่น“...พี่ใหญ่เหว่ย,ข้า...ข้าต้องการเรียน,โปรดสอนข้าด้วย!”

ไท่นีเองก็ตื่นเต้น,ใบหน้ากลายเป็นสีแดง“ลุง,สอนข้า,ข้าต้องการเรียน,ข้าต้องการบิน!”

ซูเห่าส่ายหน้าไปมา“ไม่ใช่ว่าข้าไม่ต้องการสอน,อย่างแรกข้าต้องถามก่อน,หยาซาน,เจ้าควบคุมรูปร่างของกระดูกได้หรือไม่?”

หยาซานที่ได้แต่ส่ายหน้า“ตอนนี้ไม่,แต่ว่าพี่ใหญ่เหว่ย,ข้าจะพยายามอย่างหนัก.”

ซูเห่าเอ่ย“เมื่อเจ้าควบคุมกระดูกได้อย่างอิสระ,ค่อยพูดกันอีกครั้ง,ไท่นี,ก่อนอื่นเจ้าฝึกวิชายุทธ์ให้ดี,เมื่อไหร่ที่เป็นจอมยุทธ์,ค่อยมาคุยกันใหม่.”

ทั้งคู่ที่เผยท่าทางผิดหวัง,ซูเห่าที่เอ่ยถามอาซานอีกครั้ง“หยาซาน,แก๊งซือหลิน,ตอนนี้เป็นอย่างไร?”

หยาซานได้ยินซูเห่าถามเรื่องแก๊งซือหลิน,ก็หัวเราะออกมาทันที“แก๊งซือหลินแบ่งออกเป็นสามหน่วยงาน,มีสามหัวหน้าหน่วย,คอยจัดการเรื่องราวใหญ่เล็กในเมือง,นอกจากนี้,ด้วย”จรรยาบรรณของมนุษย์กลายพันธ์“มันได้กลายเป็นรากฐานในใจของทุกคน,เวลานี้ทุกคนต่างก็สนับสนุนหลักการของพวกเรา.”

หยาซานเอ่ย“สามหัวหน้าหน่วยประกอบด้วย,ขั้นสามลำดับมนุษย์จอมพลัง【อสูรระเบิด】ซาบอน,ขั้นสามลำดับมนุษย์ท่องรัตติกาล 【อสูรซ่อนเร้น】ชวน,ขั้นสามลำดับมนุษย์อ่อนช้อย【อสูรโคลน】นานะ,ทั้งสามล้วนแต่เป็นมนุษย์กลายพันธ์ที่สนับสนุน”จรรยาบรรณมนุษย์กลายพันธ์”อย่างเหนียวแน่น.

อย่างที่พี่ใหญ่เอ่ย พวกเขาล้วนแต่มีความคิดเช่นเดียวกับพวกเรา,ส่วนคนอื่น ๆ,ไม่อาจบอกได้,เป็นไปได้ว่าพวกเขาเพียงแค่ใช้ประโยชน์จากแก๊งซือหลินของพวกเราเท่านั้น.”

“พี่ใหญ่เหว่ย,เมืองซือหลินดีขึ้นมาก,เป็นไปตามที่ข้าต้องการ,แม้นว่ายังมีมนุษย์กลายพันธ์ที่ไล่ล่ากันเวลากลางคืน,ทว่าพวกเขาก็ทำตามกฏของพวกเรา

ไม่มีใครก่อกวนคนธรรมดา,ไม่มีใครทำลายถนนและบ้านเรือนในเมือง,คนทั่วไปไม่ต้องผวาและหวาดระแวงอีกต่อไป,ผู้คนในเมืองเองก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ,ข้าไม่คิดเลยว่าเมืองซือหลินจะกลายเป็นเช่นนี้มาก่อน.”

ซูเห่าที่พยักหน้ารับ“ดีแล้ว,เจ้าอย่าได้ผ่อนคลาย,บางทีอาจจะสงบแค่ผิวหน้า,ต้องคอยตรวจตราทุกวัน,อย่าได้ประมาท,หากใครสร้างผลงานดี,ก็ควรให้รางวัล,ไม่จำเป็นต้องตระหนี่,ให้รางวัลต่อหน้าทุกคนและอธิบายออกมาด้วยว่าทำไมถึงมอบให้!”

หยาซานพยักหน้ารับ“รับทราบพี่ใหญ่เหว่ย,ข้าทราบแล้ว,ข้าจะไม่ประมาท.”

ซูเห่าเอ่ย“จากนี้สองสามเดือน,หากไม่มีปัญหาอะไร,ไม่ใช่เรื่องสำคัญ,อย่าได้รบกวนข้า.”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด