Chapter 118 Happy 1 day
美好1天
จากเรื่องที่เกิดขึ้น,ซูเห่าก็ตระหนักได้,จูเห่าเหรินของโลกนี้ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยฉลาดนัก.
แม้นว่าพวกเขาจะแข็งแกร่ง,ใบหน้าประณีตงดงาม,แม้แต่มองเห็นได้ในเวลากลางคืน
อย่างไรก็ตามสมองในการจดจำและพิจารณานั้นค่อนข้างมีปัญหาคิดได้ช้า.
สมองของจูเห่าเหรินมันใช้ไม่ได้เลยจริง ๆ.
หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ซูเห่าต้องสอนหยาซานให้เข้าใจประโยคทั้งห้าช้า ๆ,จากนั้นก็ให้เขาแนะนำมนุษย์กลายพันธ์ต่อไป.
เป้าหมายของซูเห่านั้นง่ายมาก,อย่างแรกคือชี้แนะให้พวกเขาเข้าใจหลักการดังกล่าว,ล้างสมองพวกเขาซ้ำไปซ้ำมา,เมื่อพวกเขาจำคำพูดทั้งหมดได้,พวกเขาก็จะถูกคำพูดฝังหัว,จนทำให้ต้องปฏิบัติตาม.
ในระยะเริ่มต้นอาจมีบางคนที่ละเลยไม่ปฏิบัติตาม,ทว่าไม่เป็นไร,ซูเห่าจะทำการลาดตะเวนสักสองสามวัน,ใครที่ไม่ทำตามกฎจะต้องถูกทุบตีอย่างบ้าคลั่ง.
ไม่กี่วันหลังจากนี้,ทุกคนต้องเชื่อฟังอย่างซื่อสัตย์แน่นอน
เมื่อเมืองเล็กแห่งนี้สงบลง,ซูเห่าก็จะสามารถศึกษายีนได้อย่างวางใจ.
หากเป็นไปตามแผนการ,เมืองเล็กแห่งนี้จะก้าวไปตามคำพูดของเขา.
แม้นว่าจะมีมนุษย์กลายพันธ์ระดับสูงจากเมืองอื่นมาอยู่ในเมืองซือหลิน,ทว่าพวกเขาก็ต้องปฏิบัติตามกฏของเขาเช่นกัน.
อย่างไรก็ตามซูเห่าต้องการเปลี่ยนเมืองอย่างรวดเร็วสมบูรณ์,ไม่ใช่เรื่องง่าย,โดยเฉพาะวัฒนธรรมและความคิด,จำเป็นต้องใช้เวลา,ทว่าไม่ว่าอย่างไร,เขาก็ยังมีหยาซานที่ทรงพลังคอยช่วยเหลือ.
เรื่องต่อจากนี้,เขาเพียงแค่สั่งการหยาซานก็พอแล้ว.
ไม่จำเป็นต้องให้เขาลงมาจัดการเอง,เขาสามารถสร้างห้องทดลอง,เพื่อศึกษายีนโดยเฉพาะได้.
รุ่งอรุณมาถึง,มนุษย์กลายพันธ์ทั้งหมดก็ถูกซูเห่าปล่อยตัวไปชั่วคราว.
หยาซานเวลานี้ที่ปวดสมองเป็นอย่างมาก,ในหูที่ดังหวี่ ๆ มี“สองหลักสามกฎเกณฑ์” ดังกังวานอยู่.
เขาที่ก้าวตามหลังซูเห่า,เอ่ยออกมาว่า“พี่ใหญ่เหว่ย,ตอนนี้เป็นเส้นทางที่ถูกต้องแล้วใช่ใหม?”
ซูเห่าเผยยิ้ม“แน่นอนว่ายังไม่ใช่,นี่เพียงแค่เริ่มต้น! จากนี้ต้องให้เจ้าลงมือต่อ!”
หยาซานที่ส่ายหน้าไปมา“ได้เลยพี่ใหญ่เหว่ย,แต่ว่าเรื่องนี้....มีเพียงแค่ข้า จะจัดการได้อย่างงั้นรึ?”
ซูเห่าเอ่ย“เรื่องนี้ไม่ยาก,เรื่องแรกเจ้ามองหามนุษย์กลายพันธ์ขั้นสองมาเป็นผู้ช่วย,หรือชั้นสามยิ่งดี,เลือกหนึ่งคนในลำดับกลายพันธ์นั้น ๆ,เจ้าไปพูดคุยกับพวกเขา,จากนั้นก็สุ่มทดสอบว่าพวกเขาสามารถท่องจำหลักการดังกล่าวได้ใหม.”
“รับทราบพี่ใหญ่เหว่ย!”
“เรื่องที่สอง,เจ้าพยายามฝึกฝนผู้ช่วยเจ้าให้ดี,บอกพวกเขาสิ่งที่พวกเราต้องการทำ,บอกถึงประโยชน์ที่ทุกคนจะได้รับให้ชัดแจ้ง,และบอกข้อเสียหากไม่ทำ,พร้อมกับสอนพวกเขา,ให้พวกเขาช่วยจัดการเรื่องราวฉุกเฉินต่าง ๆ,เรื่องนี้เจ้าไม่ต้องกังวล,วันนี้ข้าจะเขียนเป็นตำราให้กับเจ้า,เจ้าสามารถใช้มันเป็นข้อมูลอ้างอิงในการฝึกคนเหล่านีได้.”
“รับทราบพี่ใหญ่เหว่ย!”
“ข้อสาม,หลังจากฝึกฝนผู้ช่วยแล้ว,ทุก ๆ คืน,เจ้าต้องพาพวกเขาออกลาดตะเวนไปทั่วเมืองซือหลิน,เมื่อพวกเขาสามารถทำได้ตามข้อกำหนดแล้ว,เจ้าก็ปล่อยให้กับพวกเขาทำเองได้.”
หยาซานที่รู้สึกนับถือซูเห่าอย่างหน้ามืดตามัว,ซูเห่าเอ่ยอะไรเขาก็เชื่อหมด,ความคิดของเขาเวลานี้อยู่ในกำมือของซูเห่าแล้ว.
ซูเห่าทีเอ่ยเพิ่ม“แน่นอน,เจ้าไม่อาจให้พวกเขาช่วยโดยเปล่าประโยชน์,จะต้องให้ผลประโยชน์ให้กับพวกเขาด้วย,โดยแบ่งแยกตามผลงานที่พวกเขาทำ,ยกตัวอย่างพนักงานขั้นหนึ่ง,พนักงานขั้นสอง,พนักงานขั้นสามและขั้นอื่น ๆ,สร้างระบบแบ่งแยกให้สามารถเพิ่มและลดได้,คนที่อยู่ในระดับหนึ่งก็ให้ได้รับผลประโยชน์มากหน่อย,ระดับอื่นก็ลดหลั่นกันลงมา,แม้แต่คนที่ทำได้ตามเงื่อนไข่ก็ช่วยพวกเขาวิวัฒนาการ,สอนเขาเกี่ยวกับระบบรูนอักขระ.....”
ซูเห่าเอ่ยออกไป,เขาเอ่ยอธิบายมากแล้ว,หากมากกว่านี้เกรงว่าสมองของเขาอาจรับไม่ไหว.
หยาซานที่ตั้งใจฟังเป็นอย่างมาก,แม้นว่าจะเข้าใจไม่มาก,ทว่าความนับถือที่มีต่อซูเห่านั้นกับมากมายมหาศาล.
......
สองเดือนหลังจากนั้น,เมืองซือหลินสภาพบรรยากาศดีขึ้นเรื่อย ๆ.
ซูเห่ายังเพิ่มกฎเกณฑ์เพิ่มขึ้นมาอีกหลายข้อ.
ยกตัวอย่าง“ในเวลากลางคืนไม่อนุญาตให้เข้าห้องคนอื่น.”
“เวลากลางคืนไม่อนุญาตให้ขึ้นไปอยู่บนหลังคา” “ก่อนเวลาเที่ยงคืนไม่อนุญาตให้ออกมา” เขาที่สร้างรายระเอียดให้ชัดเจน.
ทำให้เมืองซือหลินสภาพบรรยากาศดีขึ้นทันตา,เหล่ามนุษย์กลายพันธ์จำนวนมากที่ดูทุกข์ทรมานเป็นอย่างมาก.
มีหลายคนที่ไม่ระวังกระโดดขึ้นไปบนหลังคา,ทันใดนั้นก็ถูกองค์กร,แก๊งซือหลิน”จับตัวไปทุบตีอย่างบ้าคลั่ง,ที่เลวร้ายที่สุดคือให้ท่องสองหลักสามกฎพื้นฐาน,อยู่ในสภาพน่าอนาถเป็นอย่างมากมาก.
อย่างไรก็ตามต่อหน้าพี่ใหญ่เหว่ยและหัวหน้าหยาซานปิศาจกระดูก,ที่ทรงพลัง,พวกเขาทำได้แค่ต้องยอมรับ.
ด้วยแผนการของซูเห่า,สภาพแวดล้อมรอบ ๆ พัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ.
เวลานี้เขายังสามารถได้รับยีนของมนุษย์กลายพันธ์ดั่งใจปรารนา,ต้องการวัตถุดิบทดลองเมื่อไหร่,หยาซานก็หามาให้ทันที,นอกจากนี้เขายังมีห้องพิเศษที่ทำให้เขาสามารถจดจ่อและทำการทดลองได้อย่างสงบสุข.
สำหรับซูเห่า,นี่คือสิ่งที่เขาปรารถนา.
และแล้ว,เขาก็สามารถศึกษายีนอย่างสงบได้ในที่สุด.
นอกจากนี้,เขายังวางแผนที่จะวิวัฒนาการตัวเองเป็นมนุษย์กลายพันธ์อีกด้วย.
อย่างไรก็ตาม,ก่อนที่จะลงมือ,เขาจำเป็นต้องจัดเรียงข้อมูลวิจัยตลอดทั้งสองปีก่อน.
......
ซูเห่ากำลังศึกษาวิจัยยีนในสวนเล็ก ๆ,หยาซานที่อยู่,ข้าง ๆ ส่วนไท่นี่นั้นกำลังเล่นอยู่กับหนูตัวน้อย.
บ่วงเชือกที่ถูกปล่อยลงมาโดยมนุษย์ที่ไร้คุณธรรม,กำลังเหวี่ยงใส่หนูวิ่งวน มันต้องการหนีแต่ไม่อาจหนีได้.
เชือกยาวที่ถูกผูกดึงหางของมัน,โดยปิศาจร้าย,ก่อนที่มือใหญ่จะยื่นลงมา
อสุรกายตัวใหญ่ที่หัวเราะ“อิ อิ อิ” ดูน่าหวาดกลัวเป็นอย่างมาก.
ทว่าเมื่อมันถูกกุมไว้ในมือของปิศาจร้าย,มันก็ไม่อาจทำอะไรได้แล้ว,ทำได้แค่ต้องยอมรับชะตากรรมตัวเอง.
เห็นซูเห่ากลับมา,ไท่นี่ก็ปล่อยเชือกทันที,จากนั้นก็วิ่งอ้อมเข้าไปหาซูเห่า,เอ่ยด้วยความประหลาดใจ“ลุง,คุณกลับมาแล้ว! ดูนี่สิไท่นี่ช่วยดูแล้วเสี่ยวไป๋ให้,ตอนนี้มันโตมีน้ำหนักมากเลย.”
จากนั้นเธอก็เอ่ยออกมาว่า“เป็นอย่างไร,ไท่นี่ร้ายกาจใหม,ลุงจากนี้หนูตัวน้อยเหล่านี้,ให้ไท่นี่เป็นคนช่วยเลี้ยงใหม?”
ซูเห่าที่จ้องมองหนูตัวน้อยที่มีเชือกรัดอยู่,ก็เอ่ยปฏิเสธ“ยังไม่ใช่ตอนนี้,เจ้าต้องรักษาตัวให้ดีก่อน!ไว้มันมีลูกแล้ว,ค่อยพูดเรื่องนี้อีกครั้ง.”
ไท่นี่เอ่ยด้วยความสงสัย“แล้วมันจะมีลูกได้อย่างไร?”
ซูเห่าที่หันหน้าไปหาหยาซาน“ถามพ่อเจ้าสิ,เขามีประสบการณ์มากมาย!”
หยาซาน“......”
จากนั้นไท่นี่ก็วิ่งไปข้างหยาซาน“พ่อ,เสี่ยวไป่จะมีลูกได้อย่างไร?”
หยาซานที่เผยท่าทางอักอ่วนขึ้นมาทันที.
นี่มันปัญหาใหญ่เลย,เขาควรจะตอบอย่างไร?
ซูเห่าที่พ่นลมหายใจ“เป็นวันที่งดงาม!”
ซูเห่าที่กลับห้องทดลองของเขา,เริ่มทดสอบโลหิตต่าง ๆ,ก่อนที่จะเผยยิ้ม.
เขาเอ่ยพึมพำ“ด้วยสถานการณ์ในเมืองที่มั่นคงมากขึ้นเรื่อย ๆ,ดูเหมือนว่าจะต้องถอดลำดับพันธุกรรมทั้งหมดของยีนให้ดีที่สุด.”
ตลอดการวิจัยทดลองหลายปีมานี้,เขาได้พบความลับวิวัฒนาการของจูเห่าเหรินแล้ว.
จูเห่าเหรินที่กินยีนคนอื่น ๆแล้ววิวัฒนาการ,เป็นหลักการง่าย ๆ.
อย่างไรก็ตาม,ก่อนที่จะพบความลับนี้,ซูเห่าไม่อาจคาดผลลัพธ์ที่ถูกต้องได้เลย.
ที่เป็นเช่นนี้,เพราะเหตุใด?