ตอนที่แล้วChapter 114 Hasn't died?
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 116 From Su vast instruction

Chapter 115 Big stone


大石头

“หยาซาน! ทำได้ดีมาก!”ซูเห่าที่ก้าวเดินเข้าไป,ยกมือขึ้นตบบ่าของหยาซาน,กระทบเกราะของเขาที่ดังกังวาน,“ก๊อง ก๊อง”

หยาซานที่สูดหายใจเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง,ดวงตาว่างเปล่าจ้องมองซูเห่า“พี่ใหญ่เหว่ย,ข้า.....ข้าสังหารปิศาจกระดูก? ข้าแก้แค้นแล้วรึ?”

ซูเห่าเอ่ยออกมาทันที“แน่นอน! ดาบก่อนหน้านี้,ทำให้มันเกือบตายแล้ว.”

หยาซานเอ่ยอย่างลังเล“ก่อนหน้านี้...”

ซูเห่าที่ยกมือขึ้นขวาง“อะไรกัน....ศีรษะนั่นเจ้าตัดมันลงด้วยตัวเอง! หากไม่ใช้เจ้า,มันจะล่วงหล่นลงมาได้อย่างไร.”

หยาซานพยักหน้าช้า ๆ.

รอสองปีเพื่อแก้แค้น,หลังจากแก้แค้นแล้วหัวใจของเขากลับว่างเปล่า,พลังทั่วร่างที่มีมากมายไม่รู้ว่าจะใช้มันอย่างไรต่อไป.

หากเป็นไปได้,เขายินดีที่จะใช้ความแข็งแกร่งทั้งหมดแลกเปลี่ยนภรรยาและบุตรชายกลับมา,หลังจากนั้น เขาจะรักษาหวงแหนวันเวลาที่ใช้กับภรรยาและบุตรชายทุกวัน.

ตอนนี้,เขาต้องการได้ยินเสียงกรนและเสียงบ่นของภรรยา.....

อย่างไรก็ตาม,ไม่มีอีกแล้ว!

หยาซานต้องการร้องไห้ออกมาหลายครั้ง,ทว่าก็อดกลั้นเอาไว้.

สะกดเอาไว้อยู่ชั่วขณะ,หยาซานก็เงยหน้าคำรามออกมาทันที“อ๊ากกก!”

เสียงคำรามของเขาเต็มไปด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย,ดังก้องท่ามกลางความมืดมิด.

หลังจากนั้น,ซูเห่าก็เอ่ยขึ้น“หยาซาน,ไปได้แล้ว!”

หยาซานที่ได้สติ,ก่อนคุกเข่าลงทันที,น้ำตาที่อาบแก้มเอ่ยต่อซูเห่า“พี่ใหญ่เหว่ย,ขอบคุณ,ขอบคุณจริง ๆ! ข้าไม่รู้จะเอ่ยเช่นไร,ข้ารู้เพียงว่า,หากไม่มีท่าน...”

ซูเห่าถอนหายใจ“กลับไปค่อยพูด! พวกเราไปก่อน!”

ซูเห่าคิดว่าคืนนี้ไม่ค่อยเหมาะจะลงมือต่อ!

หยาซานลุกขึ้นเอ่ยอกมาว่า“รับทราบพี่ใหญ่เหว่ย!”

o his body.”

ซูเห่ายกเท้าขึ้นเตะปิศาจกระดูก,เอ่ยออกมาว่า“นำศพนี้กลับไปด้วย,ข้าจะใช้ศึกษา,ข้าสงสัยในร่างกายของเขาเป็นอย่างมาก.”

“รับทราบพี่ใหญ่เหว่ย!”

ซูเหาที่ก้าวเดินออกไป“เนื้อของปิศาจกระดูก,เจ้าสามารถใช้มันยกระดับเป็นขั้นสี่ได้!”

เสียงฝีเท้าจากที่ไกลออกไปจากทั่วสารทิศกำลังเคลื่อนที่เข้ามาใกล้ช้า ๆแล้ว.

สำหรับหยาซานหลังจากเขาเป็นปิศาจกระดูก,เขาจะยังซื่อสัตย์กับเขาหรือไม่,ยังจะให้ความสำคัญต่อซูเห่าอีกใหม?

นั่นหาใช่เรื่องที่ต้องใส่ใจ,หากอีกฝ่ายกล้าเป็นปฏิปักษ์กับเขา,เขาสามารถจัดการหยาซานได้โดยตรง.

หลังจากที่หยาซานได้ยิน,ดวงตาก็เป็นประกายขึ้นมาทันที.

เขารังเกียจเมืองเล็กแห่งนี้มาก,มนุษย์กลายพันธ์มากมายอาศัยเพียงความแข็งแกร่ง,ลงมือโดยไม่สนคนทั่วไป,ด้วยเหตุนี้ภรรยาและบุตรชายของเขาจึงต้องตายลง.

อย่างไรก็ตามเมืองเล็กแห่งนี้เป็นสถานที่เขาเกิดและเติบโต,ถึงเขาเกลียดก็ยังรักมันด้วยเช่นกัน.

หลังจากคืนนี้,เขาจะกลายเป็นมนุษย์กลายพันธ์ที่แข็งแกร่งอันดับสองของเมืองนี้ไปแล้ว.

บางที,เขาอาจจะใช้ความแข็งแกร่งที่มี,เปลี่ยนเมืองเล็กแห่งนี้ได้.

คิดได้ดังนั้น,หยาซานก็เอ่ยออกมาต่อซูเห่า,“พี่ใหญ่เหว่ย,ข้าต้องการจัดการเมืองนี้ให้ดี,ฟื้นฟูให้มันกลายเป็นเมืองที่สงบ,พวกกลายพันธ์จำเป็นต้องถูกจัดระเบียบ,ไม่ว่าอย่างไร,ข้าก็ไม่ต้องการให้พวกเขาทำให้คนทั่วไปได้รับบาดเจ็บถูกลูกหลงจากการต่อสู้ของพวกเขา,ท่านคิดว่าอย่างไร?”

ซูเห่าพยักหน้ารับ“ดีมาก!”

หยาซานที่ราวกับพบเป้าหมายใหม่,เขาที่กำหมัด,ภายในใจที่ครุ่นคิดเงียบ ๆ “ข้าต้องการสร้างบ้านที่สงบและปลอดภัย! ทุกคนสามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุข,มีบ้านที่มั่นคงไร้กังวล!”

......

เช้าวันถัดมา,ซูเห่าที่เก็บเกี่ยวข้อมูลของหยาซานที่พัฒนาเป็นขั้นสี่,ปิศาจกระดูกได้สำเร็จ.

เส้นทางวิวัฒนาการของหยาซานนั้น,เหนือกว่าคนอื่น ๆ,เขาที่อยู่ในขอบเขตสูงสุด.

ความแข็งแกร่งของมนุษย์กลายพันธ์ขั้นสี่,ในเมืองเล็กแห่งนี้,กล่าวได้ว่าเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดแล้ว.

ส่วนซูเห่าที่ได้ศึกษายีนของลำดับต่าง ๆ,เขาพบว่าลำดับมนุษย์เกราะเหมาะสมสำหรับเขาที่สุดแล้ว.

เพราะการแปลงร่างของลำดับดังกล่าว,สามารถสร้างเกราะปกคลุมปกปิดตัวตนของเขาได้.

อย่างไรก็ตามก่อนที่เขาจะวิวัฒนาการ,ต้องทำสิ่งหนึ่งให้เสร็จก่อน.

เมืองซือหลินนั้นวุ่นวายเป็นอย่างมาก,เขาไม่อาจอยู่ศึกษาวิจัยอย่างสงบได้.

ดังนั้น,เขาจึงต้องจัดระเบียบมนุษย์กลายพันธ์ทั้งหมด,สั่งสอนพวกเขา,ให้ทำตามกฎเกณฑ์,กำจัดขยะเหม็ดเน่าให้หมดเกลี้ยง.

คืนหนึ่ง,ซูเห่าและหยาซานปรากฏขึ้นใจกลางเมือง.

การรับรู้ของซูเห่าที่ปกคลุมรัศมี 3500 เมตรปกคลุมทั่วเมืองซือหลินแล้ว,ทุกการกระทำทุกการเคลื่อนไหวของมนุษย์กลายพันธ์,ล้วนแต่อยู่ในการจับตาของซูเห่า.

นับตั้งแต่ปิศาจเส้นด้ายและปิศาจกระดูกตาย,พวกกลายพันธ์ระดับต่ำก็ออกมาสร้างปัญหาไม่หยุดหย่อน,พวกเขาต่างต้องการเพิ่มพลัง,ต้องการเนื้อเพื่อวิวัฒนาการ.

การกระทำของพวกเขา,นั้นไร้ความคิดไม่ได้ตระหนักถึงปัญหาที่จะเกิดขึ้นเลย.

ซูเห่าที่สั่งหยาซาน“คืนนี้เจ้าไม่จำเป็นต้องลงมือ,ตามข้ามาก็พอ,ข้าจะทำให้พวกเขาหมดสติ,เจ้าเพียงแค่แบกคนเหล่านี้ตามมาเท่านั้น.”

หยาซานเอ่ยรับ“รับทราบพี่ใหญ่เหว่ย.”

ซูเห่าเอ่ย“ไป,รีบจัดการให้เร็วที่สุด.”

เรดาร์ของซูเห่าที่จับจ้องเหยื่อที่ต้องการลงมือทันที.

“เริ่มงาน!”

ซูเห่าตะเวนไปทุกที่,ในมือมีศิลาก้อนใหญ่.

มนุษย์กลายพันธ์คนแรกก็คือลำดับมนุษย์อ่อนช้อย,ขั้นสองก็คือผู้พเนจร,นี่คือลำดับที่เคลื่อนที่รวดเร็ว,ราวกับว่ากลมกลืนหายไปกับสภาพแวดล้อม,ไปมารวดเร็วคล้ายล่องหน,มนุษย์กลายพันธ์สตรีที่สวมกระโปรง,กำลังเคลื่อนที่หายไปในความมืด,ดูผิดปรกติเป็นอย่างมาก.

ผู้พเนจรเป็นจู่เห่าเหริน,สวมชุดเข้ารูปสีดำ,สวมหน้ากากปกปิดใบหน้าที่งดงามของเธอเอาไว้.

ผู้พเนจรที่เวลานี้เคลื่อนที่ไปมากลมกลืนในความมืดอย่างมีความสุข,กำลังตะเวนหาเนื้อกิน,ทว่าในเวลานั้นเธอต้องสะดุ้งจู่ ๆ ด้านหน้าปรากฏผู้เยาว์คนหนึ่งด้านหน้า,กำลังเผยยิ้มให้เธอ.

“ตั้งแต่เมื่อไหร่....”

อย่างไรก็ตามไม่รอให้เธอได้เอ่ยถาม,ศิลาก้อนใหญ่ก็ฟาดลงมาแล้ว.

“ตูมมมม!”

ผู้พเนจร,หญิงที่ดวงตาเหลือกขาว,ล้มลงบนพื้น,หมดสติโดยไม่ทันตั้งตัว.

ซูเห่าพอใจกับผลงานเปิดม่านของเขาเป็นอย่างมาก!

เห็นมีคาบโลหิตติดอยู่ที่ก้อนศิลา,ภายในใจก็ได้แต่คิด,บางทีก็ไม่อาจควบคุมพลังได้,ไม่รู้หนักเบา,บางครั้งก็ทะลุหนังเข้าไป.

“หยาซาน,เก็บ! ต่อไป!”

“รับทราบ!”หยาซานที่แบกสาวน้อย ผู้พเนจรขึ้นบ่า,ไล่ตามหลังซูเห่าไป.

“หืม~มีขั้นสองของมนุษย์ท่องรัตติกาล 【ผู้สืบเสาะ】,มีร่างเป็นเหมือนค้างคาว,คาดไม่ถึงว่าจะมาซ่อนตัวอยู่นี่,ซ่อนตัวรึ? คิดว่าข้าไม่เห็นรึไง!”

ผู้สืบเสาะเหมือนกับค้างคาว,กำลังไล่ล่าลำดับสองของมนุษย์พิษ【ผู้ลำพัง】ที่เป็นสตรีคนหนึ่ง,โดยที่ ผู้ลำพังไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองกำลังถูกสะกดรอยตาม.

ใช่แล้วผู้สืบเสาะกำลังรอโอกาสอยู่,เมื่อได้โอกาสก็จะลงมือสังหารผู้ลำพักสตรีคนดังกล่าวทันที,ทว่าทันใดนั้นศิลาก้อนใหญ่ก็ปรากฏขึ้นด้านข้าง,ไม่ทันให้เขาได้ตอบสนอง,ก็ถูกฟาดลงไปแล้ว.

“ตูมมมม!”

ผู้สืบเสาะล้มคว่ำลงทันที,ได้ยินเพียงเสียงดังหวึ่ง ๆ ในหัว,ไม่เข้าใจเลยว่าเกิดอะไรขึ้น,พยายามจะลุกขึ้นอีกครั้ง.

“เบาไปสินะ!”ซูเห่ายกก้อนศิลาฟาดลงไปยังศีรษะมนุษย์กลายพันธ์ผู้สืบเสาะที่มืนงงซ้ำอีกครั้ง

“ตูมมมม!”

ผู้สืบเสาะไม่อาจลุกขึ้นได้อีก,ล้มตึงบนพื้น,หมดสติไป.

ส่วนผู้ลำพังหญิงที่ตอบสนองตอบโต้,ร่างกายของเธอสั่นไปมา,พ่นแก๊สสีเหลืองและของเหลวสีดำออกมาทันที.

ชั่วขณะหนึ่งเมื่อเธอตรวจสอบเป้าหมาย,ก็เห็นศิลาก้อนหนึ่งพุ่งเข้ามาแล้ว.

“ตูมมมมม!”

อย่างไรก็ตามซูเห่าที่ทำให้ผู้ลำพังสลบ,รู้สึกดีใจขึ้นมา,ที่หลบของเหลวสีดำนั่นทัน,ทว่าแก๊สสีเหลืองนั่นเขาได้สูดไปเล็กน้อย.

กลิ่นของมันรุนแรงชวนอ๊วกมาก,แทบทำให้เขาพ่นอาหารที่กินไปทั้งหมดวันนี้ออกมา.

ในเวลานั้นหยาซานก้าวเข้ามา,ได้กลิ่นแปลก ๆ,ทันใดนั้นก็ถอยกรูด,อดไม่ได้ต้องคำรามลั่น“มารดาเถอะ,กลิ่นนี่...อ๊วกกกก!”

ซูเห่าที่ถอยออกมาใกล้,จากนั้นก็ใช้รูนอักขระสะกดประสาทปรับสภาพ,การอ๊วกของเขาทันที.

ขณะเห็นหยาซานเองอ๊วกออกมาไม่หยุด ก็ก้าวเข้าไปหา

พร้อมกับวาดสลักอักขระสะกดประสาท,รักษาเขา.

ซูเห่าเผยยิ้มเอ่ยออกมาว่า“เก็บ!”

หยาซานที่จ้องมองผู้ลำพังที่นอนบนพื้นด้วยแววตาหวั่นเกรง,จากนั้นก็พยักหน้ารับช้า ๆ.

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด