Chapter 109 Obtains the strength
获得力量
อาซานที่เอ่ยเสียงแหบเครือ“ข้าต้องการแก้แค้น,ข้าต้องการสังหารเจ้ากระดูกนั่น! อย่างไรก็ตามข้าไม่อาจทำสำเร็จ...พี่ใหญ่เหว่ย,โปรดช่วยข้า...”
ซูเห่าเอ่ยออกมาทันที“ข้าไม่อาจช่วยเจ้าได้,ข้าไม่มีความจำเป็นต้องเป็นศัตรูกับมนุษย์กระดูกนั่น,เจ้าคงไม่คิดจะวิ่งไปหาความตายหรอกนะ,เจ้าควรจะมีชีวิตดูแลบุตรสาวให้ดี! หากไม่มีเจ้าปกป้อง,บุตรสาวของเจ้าจะเติบโตขึ้นมาได้อย่างยากลำบาก.”
หยาซานที่สงบอารมณ์“ข้ารู้,พี่ใหญ่เหว่ยข้ารู้,ทว่าในใจของข้าเต็มไปด้วยความเกลียดชัง,ข้าต้องการให้มันได้ลิ้มรสความสูญเสียบ้าง! ข้าต้องการสังหารมัน,ไม่เช่นนั้น,ข้าคงไม่อาจสงบใจได้,ข้า...ต้องการสังหาร...”
เห็นซูเห่าไม่ตอบ,หยาซานเอ่ยต่อ“พี่ใหญ่เหว่ย,ขอเพียงท่านช่วยข้าสังหารมนุษย์กระดูก,ข้ายินดีเป็นช้างม้าวัวควายให้ท่าน,ได้โปรด,ช่วยข้า,ข้าไม่อาจทำสำเร็จ,ข้าทำไม่ได้จริง ๆ....”
ซูเห่าที่ครุ่นคิด,ในโลกนี้,เขามีคนรู้จักเพียงคนเดียว,นั่นก็คือหยาซาน,และคนรู้จักคนนี้,ยังยินดีที่จะเสนอชีวิตให้กับเขา?
อย่างไรก็ตาม,เขาที่จ้องมองไปบนเกราะของหยาซาน,จิตใจของเขาที่สั่นไหวพลางครุ่นคิด.
หลังจากนั้น,ซูเห่าที่เอ่ยออกมาช้า ๆ“ต้องการสังหารมนุษย์กระดูกนั้น,ใช่ใหม?”
หยาซานที่เศร้าสร้อยเงยหน้าขึ้นทันที,จ้องมองซูเห่าด้วยความจริงจัง.
ซูเห่าเอ่ยออกมาว่า“ข้าสามารถช่วยเจ้าเพิ่มความแข็งแกร่งเพื่อไปสังหารมนุษย์กระดูก,ทว่า....”
หยาซานเอ่ยออกมาอย่างเร่งรีบ“อะไร?”
ซูเห่าที่ชูสองนิ้วขึ้นมา“ทว่าเจ้าต้องรอสองปี,อย่างน้อยสองปี,สองปีหลังจากนี้ค่อยสังหารเขา.”
หยาซานที่ประหลาดใจดีใจ,ไม่ใช่ว่านานแต่อย่างใด,ขอเพียงสังหารมนุษย์กระดูกนั่นได้,เขาสามารถรอได้.
เทียบกับไม่อาจแก้แค้น,การรอสักหน่อยย่อมเป็นเรื่องดีกว่าพันเท่า!
ซูเห่าเอ่ยเพิ่ม“อย่าคิดว่าจะข้าช่วยเจ้าโดยไม่มีเงื่อนไข.”
“อย่างแรก,เจ้าต้องเป็นผู้ช่วยข้าห้าปี,ไม่ว่าข้าจะสั่งอะไรก็ต้องทำตาม.”
“อย่างที่สอง,สิ่งที่เจ้าได้มาจากข้า,ไม่ได้รับอนุญาต,ห้ามเผยให้กับคนที่สามรู้,กระทั่งบุตรสาวของเจ้าด้วย.”
“อย่างที่สาม,ห้าปีคือขีดจำกัด ทว่าต้องดูผลงานของเจ้าด้วย,หลังจากนี้ห้าปีมาดูว่าเจ้าช่วยข้าจัดการเรื่องต่าง ๆได้มากเท่าไหร่,หลังจากห้าปีค่อยว่ากันอีกที.”
หยาซานเอ่ยตอบ“ตกลง!”
......
เมื่อปิศาจด้าย,ซือเข่อเร่งรีบกลับมายังสถานีหลิวซิ่ง,เปลวเพลิงเริ่มไหม้จดหมายแล้ว,หากช้าไปอีกสองสามวินาที,เกรงว่าเปลวเพลิงคงไหม้หมดแล้ว.
ซือเข่อยกมือขึ้น,พร้อมกับเร่งรีบเข้าไปดับไฟ,ดึงกระดาษด้านในออกมาจากซองจดหมาย,พร้อมกับเปิดอ่าน.
“เรียนหัวหน้าซือเข่อ,ยินดีที่ท่านมาทัน,เนื้อขั้นห้า【ราชาควบคุม】ที่ท่านต้องการ,ข้าได้ช่วยท่านวางไว้ในบ้านของท่านแล้ว,ไม่จำเป็นต้องขอบคุณข้า,นี่คือสิ่งที่ข้าต้องทำ,ทว่าข้ามีข่าวร้ายที่ต้องบอกด้วย,เนื้อราชาควบคุมมีเพียงครึ่งเดียว,คงไม่พอให้ท่านยกระดับได้,ส่วนอีกครึ่งหนึ่งหกเดือนที่แล้วปิศาจรัตติกาลได้ปล้นข้าไป,ข้าไม่มีทางเลือกที่ต้องส่งมอบให้เขา,หากท่านต้องการยกระดับ,คงต้องค้นหาปิศาจรัตติกาลแล้วชิงกลับมา,ต้องขอบคุณที่ท่านช่วยเหลือ!”
“สารเลว!”ปิศาจเคียวที่ขยี้จดหมายไปในทันที.
“อ๊ากกก!!!”เขาคำรามด้วยความโกรธ,พร้อมกับทำลายตัดทุกอย่างรอบ ๆ จนขาดเป็นชิ้น ๆ.
ทว่าอันคนที่เขาอยากฉีกเป็นชิ้น ๆ,เขาได้มาถึงนอกเมืองทิศใต้,รวมตัวกับสมาชิกหลิวซิ่งของเขาแล้ว.
มนุษย์เกราะขั้นสอง,ฟอร์ดผู้บ้าบิ่น,ได้ยกระดับเป็นขั้นสาม,อสูรหนามทะลวงแล้ว,ได้รับความสามารถสะท้อนอาการบาดเจ็บ,หนามเข็ม,สองความสามารถใหม่.
ส่วนขั้นสองของมนุษย์ปั่น,ขั้นสองผู้พันรอบเซี่ยลี่ก็ยกระดับเป็นขั้นสามเป็นอสูรตัด,ได้รับความสามารถด้ายคมและด้ายทะลวง,สองความสามารถ.
อันไม่เร่งรีบกินเนื้อปิศาจความเร็ว,ทว่าเอ่ยกับคนอื่น ๆ“ข้ากำลังจะออกจากเมือง,พวกเจ้าจะเลือกอะไร?”
ฟอร์ดอสูรหนามทะลวงเอ่ยออกมาทันที“หัวหน้า,ข้าจะไปกับท่าน.”
เซี่ยลี่เอ่ย“ข้าจะสังหารนังสารเลวชาร์ลอตต์ก่อน,แล้วข้าจะไปหาท่านอีกครั้ง.”
ทั้งสองมีความต้องการแตกต่างกัน.
อันพยักหน้ารับก่อนที่จะหันหลังเดินจากไป“พวกเราไป!”
ยกเว้นเซี่ยลี่,คนอื่น ๆ ก็ตามอันไป.
......
บ้านหยาซานถูกทำลายจากลูกหลงการต่อสู้,ซูเห่าได้ให้หยาซานมาอยู่ด้วย,ให้เขาเป็นแม่บ้านทำงานที่นี่.
อย่างไรก็ตาม,บ้านนี้ค่อนข้างเล็ก.
ดังนั้นพวกเขาจึงย้ายไปยังบ้านที่ใหญ่กว่า,ส่วนเงินทุน,หยาซานที่เป็นพนักงานทำความสะอาด,มีเก็บอยู่เล็กน้อย,ซูเห่าจึงหยิบยืมมาจากอีกฝ่ายก่อน.
ซูเห่าที่ตรวจอาการบาดเจ็บของไท่นี,ก็เอ่ยออกมาว่า “วางใจได้,อีกไม่นานก็หายดีแล้ว.”
หยาซานคราแรกก็ดีใจ,จากนั้นก็เผยแววตาเศร้าใจ,ไท่นี่ยังไม่ฟื้น,ไม่รู้ว่าหากตื่นขึ้นมา,เขาจะบอกกับเธออย่างไรเกี่ยวกับแม่และพี่ชายของเธอ.
ซูเห่าลุกขึ้นเอ่ยกับหยาซาน“หยาซาน,ตามข้ามา,ก่อนที่จะช่วยเจ้ายกระดับความแข็งแกร่ง,ข้าต้องการยืนยันอะไรบางอย่างก่อน.”
หยาซานได้ยินคำพูด,ก็เก็บอารมณ์เศร้าเอาไว้,จากนั้นก็เดินออกมาพร้อมกับซูเห่า.
นับตั้งแต่ภรรยาและบุตรชายตายไป,หัวใจของเขาก็กลายเป็นเย็นชา,ก่อนหน้านี้เขาเหมือนกับเด็กไม่โต,ชอบพูดถึงการไล่ล่าตามเป้าหมาย กลายเป็นพระเจ้าอยู่บ่อย ๆ,เวลานี้ราวกับว่าความคิดนั้นหายไปแล้ว,นับว่าเขาเติบโตขึ้นมาก.
อย่างไรก็ตามราคาที่ต้องจ่ายเพื่อเติบโตนี้ก็ใหญ่โตจริง ๆ.
ซูเห่าไม่รู้ว่านำมีดออกมาเมื่อไหร่,พริบตานั้นริ้วแสงมีที่เย็นยะเยือบ,ทำให้หยาซานรู้สึกเย็นไปทั่วหลัง,สังหรณ์ใจไม่ดี.
แม้นว่าเขาจะเติบโตขึ้นทว่าการถูกมีดเฉือนก็ใช่ว่าจะไม่รู้สึกอะไร.
ซูเห่าเผยยิ้ม”ไม่ต้องกังวล,ข้าเพียงแค่ต้องการตัวอย่าง.
หยาซานที่พยักหน้ารับ.
ซูเห่าเอ่ย“หยาซาน,แปลงเป็นผู้บ้าบิ่น.”
“ได้,พี่ใหญ่เหว่ย!”หยาซานพยักหน้า,ถอดเสื้อผ้าเหลือแต่กางเกางใน,เผยร่างเปลือย,จากนั้นผิวกายค่อย ๆ กลายเป็นสีดำ,และเงางาม,เป็นข้อปล้องเหมือนกับเต่าทอง,เป็นเกราะที่ดูแข็งมาก,ร่างกายที่ยกระดับขยายขนาดเป็นสองเท่า,ทุกส่วนปกคลุมด้วยเกราะทั้งหมด.
จนไม่อาจเห็นรูปลักษณ์ที่แท้จริงของหยาซานได้.
เห็นการเปลี่ยนแปลงทีไร,ซูเห่าเต็มไปด้วยความอัศจรรย์ใจ,มันน่าเหลือเชื่อจริง ๆ.
การเปลี่ยนแปลงทุกครั้ง,จำเป็นต้องผลาญจิงซีมหาศาล.”ซูเห่าตรวจสอบหยาซานบนเรดาร์สัมผัสของเขา.
บางที,เป็นไปได้ว่าจิงซีนั้นได้กระตุ้นยีนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์,กล่าวอีกอย่างหนึ่งจิงซีเป็นรูปแบบหนึ่งของพลังงานของจูเห่าเหริน.
เป็นเพียงแค่ คนในโลกนี้ไม่มีใครรู้วิธีในการรวบรวมควบคุมจิงซีจำนวนมากและทำให้พวกเขาไม่อาจควบคุมจิงซีได้ดั่งใจนึก,ดังนั้นพวกเขาจึงอาศัยเพียงสันชาติญาณในการรวบรวมจิงซีเท่านั้น.
เพราะเหตุนี้พวกเขาจึงทำได้แค่การปล้นยีน,เพี่อสะสมจิงซีเป็นวิธีการที่ง่ายมากที่จะได้รับมา,ดังนั้นจึงไม่มีความจำเป็นที่ต้องศึกษาพลังจิงซี.
อย่างไรก็ตาม,นี่คือการคาดเดา,จำเป็นต้องทดลองเพื่อพิสูจน์ด้วย.
ก่อนจะสรุป,ซูเห่าจำเป็นต้องทดลองเล็ก ๆ.
ซูเห่านำดาบสั้นเคาะไปยังเกราะของหยาซาน,เกิดเสียงดังกังวาน,“หยาซาน,เจ้าสามารถควบคุมรูปร่างเกราะได้ใหม?”
หยาซานส่ายหน้าไปมา“ไม่ได้,มันเป็นรูปร่างแบบนั้นอยู่แล้ว.”
ซูเห่าพยักหน้ารับ“หากเกราะแยกออกจากร่าง,จะหายไปหรือไม่?”
ก่อนหน้านี้เขาเห็นการต่อสู้ของปิศาจกระดูก,การต่อสู้ดังกล่าวพบว่าหนามกระดูกที่ปิศาจกระดูกกระจายออกไปนั้น,เพื่อให้มันเกาะไปบนร่างปิศาจความเร็ว,เพื่อระบุตำแหน่งของอีกฝ่าย.
หยาซานส่ายหน้าไปมา“เรื่องนี้...ข้าไม่ได้ลอง,ไม่รู้ด้วยว่าต้องทำอย่างไร,ซูเห่ายกมีดขึ้น,เผยยิ้ม”มา,พวกเรามาทดลองกัน.”
ภายใต้การให้ความร่วมมืออย่างดีของหยาซาน,ซูเห่าได้ตัดส่วนเกราะของหยาซานออกมา,เพื่อทดสอบความสงสัย.
ยืนยันได้แล้วว่าเกราะนั้นไม่หายไป,ซูเห่าได้ทดลองคุณสมบัติชิ้นส่วนเกราะต่อไป.
เกี่ยวกับความคิดของซูเห่า,คิดว่ามันเหมือนกับหนอนขนในชาติที่แล้วของเขาที่ใช้ในการคงสภาพรูนอักขระ,คุณสมบัติของชิ้นส่วนเกราะนั้นใกล้เคียงกับหนอนขน,มันสามารถใช้เป็นตัวนำจิงซีได้ดีกว่าวัตถุอื่น ๆ.
เกราะที่เปลี่ยนมาจากส่วนร่างกายของหยาซาน,ยังนับเป็นสิ่งมีชีวิตใช่หรืไม่?
ซูเห่าที่ยินดีเป็นอย่างมาก,หากเป็นไปตามที่เขาคิด,เขาจะนำมาใช้แทนหนอนขนอย่างแน่นอน.
ด้วยเหตุนี้เขาสนใจเกราะหยาซานเป็นอย่างมาก,ในชาติที่แล้ว,เขาได้ใช้ชิ้นส่วนของสิ่งมีชีวิตมากมาย,พร้อมกับสลักรูนอักขระลงไป,ทว่าไม่ประสบความสำเร็จเท่าไหร่นัก,เหตุผลนั้นเมื่อชิ้นส่วนร่างกายของพวกมันแยกออกจากร่างกายแล้ว ก็ถือเป็นสิ่งที่ตายไปแล้ว,ไม่อาจใช้สร้างจิงซีได้อีก.
อย่างไรก็ตามเกราะของหยาซานนั้นแตกต่างไป,มันเปลี่ยนมาจากหนังของหยาซาน,เปลี่ยนรูปลักษณ์ให้เป็นเกราะ,เป็นวัตถุดิบที่มีชีวิต,แม้จะแยกออกจากร่างกายก็ตาม,นอกจากนี้ยังสามารถนำมาต่อกลับคืนได้อีกด้วย.
จากนั้นซูเห่าก็จ้องมองหยาซาน,เวลานี้อีกฝ่ายราวกับได้กลายร่างเป็นหนอนขนไปเรียบร้อยแล้ว.
ซูเห่าที่เอ่ยกับหยาซานด้วยน้ำเสียงนุ่มนวน,“หยาซาน,มาข้าจะสอนเจ้าเพิ่มพลัง!”
หยาซานที่ดีใจขึ้นมาทันที.
เกราะหยาซานที่เป็นตัวนำจิงซีที่ยอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก,ทำให้ซูเห่ามีวิธีใช้งานนับไม่ถ้วน.