Chapter 108 I want to revenge
我想报仇
ในเวลานั้น,ซือเข่อปิศาจเส้นด้ายเอ่ยปากออกมาว่า“อัน,ปิศาจความเร็วนี้ข้าช่วยเจ้าจัดการแล้ว,สิ่งที่ข้าต้องการล่ะ?”
อันที่หยิบชิ้นเนื้อของปิศาจความเร็วขึ้นมา,จากนั้นก็จ้องมองปิศาจเส้นด้ายซือเข่อพร้อมกับเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม“ขออภัยด้วยสิ่งที่หัวหน้าซือเข่อต้องการนั้น,ไม่ได้อยู่กับข้า.”
ซือเข่อเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา“เจ้ากำลังเล่นตลกกับข้าอย่างงั้นรึ?”
อันส่ายหน้าไปมาเอ่ยออกมาทันที“ไม่! ข้ารึ? จะกล้าเล่นตลกกับท่าน? ข้ายังรักชีวิตอยู่,หากแต่ของล้ำค่าขนาดนั้นจะนำติดตัวไปใหนมาใหนได้อย่างไร? วางใจได้,ข้าซ่อนไว้ในที่ปลอดภัย,ท่านเพียงแค่ไปรับมันมาเท่านั้นก็พอ!”
ซือเข่อโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก,จ้องมองอันเขม็ง,ใบหน้ากระตุกอันที่เอ่ยออกมาต่อ”ข้าได้วางสิ่งนั้นไว้ในสถานีหลิวซิ่งบนโต๊ะชั้นสอง,ที่ใหนท่านควรจะรู้,ตั้งแต่สามวันก่อนแล้ว.
ใช่แล้ว,หัวหน้าซือเข่อ,เกือบลืมบอกท่าน,ตอนนี้ท่านอาจไม่มีเวลา,ตอนข้าออกมานั้น,ข้าลืมดับไฟตะเกียง,ตอนนี้ไฟคงเริ่มไหม้แล้ว,ข้าคิดว่าท่านควรรีบกลับไป,หากไม่แล้วอาจจะสายไป.”
อันเอ่ยจบ,ร่างกายของเขาก็หายไปจากครรลองสายตาของอีกฝ่ายทันที.
“ไอ้สารเลว!”ซือเข่อตะเบ็งเสียงคำรามลั่น,ไม่อาจไล่ตามอีกฝ่ายไปได้,เร่งรีบกลับไปยังสถานีหลิวซิ่งทันที.
เหลือเพียงแค่ปิศาจกระดูก,ที่ยืนมองอยู่ไกล ๆ ด้วยความมึนงง“เกิดอะไรขึ้น,ไม่สู้กันอย่างงั้นรึ? ข้ายังไม่พอใจเลย!”
ท้ายที่สุดเขาก็กระโดดลงพื้น,ก่อนที่จะเก็บชิ้นเนื้อ,แล้วจากไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน.
หลังจากที่ทุกคนจากไป,ซูเห่าก็จ้องมองชิ้นเนื้อที่กระจายเกลื่อน,มุมปากยกยิ้มขึ้นมา“คืนนี้เก็บเกี่ยวได้ไม่น้อย!”
เมื่อเร็ว ๆ นี้เกิดความวุ่นวายกระจายไปทั่ว,ซึ่งเป็นแผนการที่ถูกวางไว้ล่วงหน้า,ผู้บงการ,ซ่อนตัวอยู่ด้านหลัง,เป็นชายที่ผอมสูง,เป็นคนที่น่าสงสัยที่สุด.
กล่าวได้ว่าคนที่เป็นเจ้าแผนการเช่นนี้,เป็นคนที่อันตรายที่สุดแล้ว.
หลังจากนี้,หากอีกฝ่ายลงมือใหม่จะต้องคิดทบทวนระมัดระวังให้ดี.
ซูเห่าที่เก็บข้อมูลจิงซีของฝ่ายตรงข้ามไว้,ขอเพียงอีกฝ่ายปรากฏในเรดาร์,เขาก็จะพบทันที.
อย่างไรก็ตาม,เวลานี้ควรจะหยุดก่อน.
ซูเห่าออกจากสถานที่ดังกล่าวอย่างรวดเร็ว,ขณะที่ต้องการกลับบ้านนอน,เพราะเขาถูกปลุกขึ้นด้วยเสียง,จึงนอนไม่พอ!
ขณะเข้าใกล้ถึงบ้าน,ซูเห่าพบกับจิงซีคุ้นเคย,อีกฝ่ายที่เดินไปรอบ ๆ บ้าน,แววตาเต็มไปด้วยความกระวนกระวาย.
“หยาซาน? กลางดึกเช่นนี้,มาหาเขาทำไม?”
ซูเห่าไม่ได้บอกที่อยู่ของเขาให้หยาซานรับรู้,เอ่ยเพียงว่าเขาอยู่ชายขอบเมืองทางตะวันตก.
หยาซานที่กำลังค้นหาซูเห่าไปทั่วตลอดชานเมืองตะวันตก,ทำให้ซูเห่ารับรู้ตำแหน่งของเขาทันที.
ซูเห่าเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงไปหาหยาซานเอ่ยออกมาว่า“หยาซาน?”
หยาซานที่แบกผู้หญิงคนหนึ่ง,ที่มือซ้ายขวาก็อุ้มเด็กฝั่งละคนด้วย.
สตรีหนึ่งบุตรสองคน,เวลานี้ ร่างกายเต็มไปด้วยโลหิต,ไหลหยดออกมาจากเสื้อผ้า.
หยาซานได้ยินเสียงซูเห่า,หันกลับมาทันที,ดวงตาเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอย,ใบหน้าตื่นตระหนก,ขณะเห็นซูเห่าก็ตื่นเต้นดีใจเป็นอย่างมาก.
หยาซานที่เอ่ยเสียงแหบแห้งตะโกนดัง“พี่ใหญ่,พี่ใหญ่เหว่ย,เร็วเข้า! ช่วยภรรยาและบุตรของข้าด้วย,ได้โปรด,ช่วยด้วย....”
ซูเห่าที่ตกใจ,ไม่เอ่ย,พร้อมกับทำการตรวจร่างกายของภรรยาและบุตรของอีกฝ่ายทันที.
ภรรยาและบุตรชายหยาซานตายแล้ว,ซูเห่าไม่มีวิธีช่วยเหลือ,เหลือเพียงบุตรสาวที่ยังมีชีพจรอยู่,ทว่าหากช้ากว่านี้,เกรงว่าคงตกตายอย่างแน่นอน.
บุตรสาวของหยาซานชื่อไทนี,เป็นบุตรคนเล็กสุด,เวลานี้ได้รับบาดเจ็บที่ไหล่,ท้องและขา.
ไม่โดยจุดสำคัญ,ทว่าเสียโลหิตมาก,อันตรายมากอาจตายได้ทุกเวลา.
ซูเห่าทำการห้ามโลหิต,ปิดแผล,ปรับโครงสร้างพร้อมกับใช้รูนรักษา,พร้อมกับกระตุ้นร่างกายให้ผลิตโลหิตขึ้นมา,แม้แต่ขับโลหิตเสียออกไป.
จนทำให้เธอปลอดภัย.
ผ่านไปไม่นาน,ซูเห่าพ่นลมหายใจยาวเอ่ยออกมาว่า“บุตรสาวของเจ้าปลอดภัยแล้ว.”
“เยี่ยมเลย!”
หยาซานที่ผลักบุตรชายและภรรยา,เอ่ยอย่างร้อนรน“พี่ใหญ่เหว่ย,เร็วข้า,ภรรยาข้า,บุตรชายข้า,ช่วยพวกเขาเร็วเข้า!”
ซูเห่าส่ายหน้าไปมาเอ่ยออกไปว่า“พวกเขาตายแล้ว,ข้าไม่อาจช่วยได้.”
หยาซานที่กอดภรรยาและบุตรชาย,ร่างกายที่ส่ายไปมา“เป็นไปไม่ได้ที่จะตาย? ยังไม่ตาย,พี่ใหญ่เหว่ย,ขอร้อง,ช่วยพวกเขาที!”
ซูเห่าที่ได้แต่ยืนนิ่ง.
หยาซานที่คุกเข่าให้กับซูเห่า,น้ำตาไหลอาบแก้ม,ร้องไห้สะอื้นเอ่ยเสียงสั่น“พี่ใหญ่...ขอร้อง,พี่ใหญ่....”
ซูเห่าที่เห็นความเป็นความตายมานับครั้งไม่ถ้วน,รู้ว่าหยาซานเอ่ยอะไรออกมาก็ไร้ประโยชน์,เวลานี้คงทำได้แค่ให้อีกฝ่ายยอมรับความจริงเท่านั้น.
อย่างไรก็ตามเขาเองก็เคยเห็นญาติทางสายโลหิต,บิดามารดา ถูกสังหารต่อหน้าต่อหน้ามานับครั้งไม่ถ้วน,โดยที่เขาทำอะไรได้,เขารู้ดีว่ารู้สึกอย่างไร,หลายคนที่อาจจะเสียสติ,หรือเสียตัวตน,จมอยู่กับความแค้น.
ซูเห่ารู้สึกสงสารหยาซานเช่นกัน,ทว่าเขาก็ไม่มีพลังในการช่วยเหลืออีกฝ่ายได้.
ต้องบอกว่าสงสารก็ทำอะไรไม่ได้,เมื่อภรรยาและบุตรของหยาซานตายไปแล้ว.
หลังจากนั้น,หยาซานก็คุกเข่าต่อหน้าภรรยาและบุตรชาย,ร้องไห้เสียงดัง,เขาที่ตบหน้าตัวเองไปมา,ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่,ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นไปยืนที่หน้าบุตรสาว,จ้องมองบุตรสาวที่ใบหน้าซีดเซียว,ทว่าได้ยินเสียงหัวใจแผ่ว ๆ.
ดวงตาที่สิ้นหวังหมดอาลัยตายอย่าง,ที่ฟื้นขึ้นมาเล็กน้อย.
เขายื่นมือที่สั่นเทาจะไปสัมผัสแก้มไทนี,ทว่ากลับไม่กล้าแตะ,ก่อนจะชักมือกลับ.
หลังจากนั้น,หยาซานน้ำตาแห้งเกรอะกรัง,คุกเข่าลงด้านหน้าซูเห่า,เอ่ยออกมาว่า“พี่ใหญ่เหว่ย,ขอบคุณที่ช่วยบุตรสาวของข้า,ข้าไม่รู้จะตอบแทบได้อย่างไร,นับจากนี้ข้าจะรับใช้พี่ใหญ่เหว่ย,ไม่ว่าพี่ใหญ่เหว่ยต้องการสิ่งใด,หยาซานจะทำทุกอย่าง.”
ซูเห่าจ้องมองหยาซาน,พลางถอนหายใจ“หยาซานเจ้าคือผู้ช่วยของข้า,ข้าย่อมต้องช่วยเจ้า!”
อาซานที่เอ่ยออกมาอีกครั้ง“ไม่! เรื่องเป็นมนุษย์ทดลอง,ท่านได้ตอบแทนข้า,ด้วยการยกระดับเป็นขั้นสองผู้บ้าบิ่นไปแล้ว,แล้วยังช่วยชีวิตของข้าหลายครั้ง,แม้แต่เวลานี้ยังช่วยไทนีอีกด้วย.”
สำหรับซูเห่า,การช่วยเหลือ,เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย,การช่วยบุตรสาวของหยาซาน,ซึ่งจะทำให้หยาซานยินดีที่จะช่วยเหลือและทำงานหนักให้กับเขาต่อไป.
กล่าวได้ว่าต่างฝ่ายต่างได้ผลประโยชน.
สำหรับหยาซานนั้น,เขาแทบนึกภาพไม่ออก,หากบุตรสาวของเขาตายไป,เขาคงไม่รู้ว่าจะอยู่ในโลกนี้ไปเพื่ออะไร? ชีวิตของเขายังจะมีความหมายอีกรึ?
การยกระดับเป็นมนุษย์กลายพันธ์ขั้นสูงสุด,กลายเป็นพระเจ้า? แล้วไม่มีภรรยาและบุตร,แล้วจะเป็นพระเจ้าไปเพื่ออะไร!
ซูเห่าที่จ้องมองหยาซาน,เอ่ยออกมาช้า ๆ,“หยาซาน,เจ้า,เจ้าได้ช่วยเหลือข้ามาตลอดสองปี,นี่ถือว่าเป็นค่าจ้างของเจ้า!”
นี่เป็นสิ่งที่พอจะทำให้อาซานรู้สึกดีขึ้นมาได้บ้าง.
หยาซานยังคุกเข่าลงบนพื้น,น้ำตาที่ยังคงไหลอาบแก้มเอ่ยออกมาว่า“ขอบคุณพี่ใหญ่เหว่ย....ทว่าพี่ใหญ่เหว่ย,ข้าต้องการแก้แค้น....”