Chapter 107 4 points 5 cracks
4分5裂
“พรึด พรึด พรึด!”
เดือยกระดูกที่พุ่งขึ้นจากพื้นรอบ ๆ ร่างของเฟยหลุน.
เฟยหลุนที่กระโดดขึ้นบนอากาศ.
ปิศาจกระดูกเต๋อลี่ที่ปล่อยมือข้างหนึ่งเขาจากศีรษะแล้วยื่นฝ่ามืออกไปคว้าความว่างเหล่าเอาไว้.
“พรึบ!”
“ซี่!”
ที่ฝ่ามือของเขาปรากฏหนามแหลมพุ่งออกมาเช่นกัน.
เฟยหลุนที่ถูกหนามเสียบ“รู้ตำแหน่งข้าด้วยรึ?”
......
การต่อสู้ในคืนนี้,ได้ปรับเปลี่ยนสำนึกรู้มนุษย์กลายพันธ์ต่อซูเห่าเป็นอย่างมาก.
เขารู้ว่ามนุษย์กลายพันธ์ขั้นสูงนั้นแข็งแกร่งมาก,ทว่าไม่คาดคิดว่าจะไปถึงระดับนี้.
แขนขาด,สร้างขึ้นมาใหม่,ทำได้ด้วยรึ?
คอเกือบขาด,แต่ก็ยังกลับมาต่อกันได้,แม้แต่ยังมีกระใจนำมืออีกข้างประครองศีรษะ,อีกมือโจมตีศัตรูได้อีก.
นอกจากนี้พริบตาเดียวก็หายกลับมาเป็นปรกติแล้ว.
กล่าวตามจริง,ความแข็งแกร่งของยีนเกินกว่าที่เขาจะจินตนาการถึงได้.
“หากว่าได้ลำดับยีนของทั้งสองล่ะก็...”
สิ่งที่ซูเห่าคิดคือเร่งรีบไปเก็บโลหิตของอีกฝ่ายมา.
ทว่าเวลาต่อมาก็ส่ายหน้าไปมา,เลิกล้มความคิดดังกล่าวไป.
ตอนนี้อันตรายเกินไป! รอสัก 1-2 ปี,ไว้ให้เขาเติบใหญ่กว่านี้.
นอกจากนี้มนุษย์กลายพันธ์เหล่านี้แปลกจริง ๆ.
ยกตัวอย่างมนุษย์กระดูกนั่น,หากเป็นดาบของเขาฟันคออีกฝ่าย,เขาคิดว่าอีกฝ่ายจะต้องตายแน่,ทว่าเขาก็ยังรู้สึกระมัดระวัง,จำเป็นต้องรอโอกาสพร้อมที่สุดถึงจะลงมือสังหารอีกฝ่าย.
กล่าวตามจริง,ซูเห่าไม่ได้รู้สึกหวาดกลัว,เขามั่นใจว่ามีทักษะเอาตัวรอดได้.
หากรู้ความสามารถมนุษย์กลายพันธ์ดังกล่าวได้,เขาก็สามารถเตรียมรูนเอาไว้,ไม่มีทางที่เขาจะไม่อาจรับมืออีกฝ่ายไม่ได้.
ซูเห่ายังเฝ้ามองการต่อสู้,พร้อมกับชั่งนักหนักในใจถึงข้อดีข้อเสียหากเขาเป็นคนต่อสู้กับอีกฝ่าย.
......
ในเวลานั้นกระแสการต่อสู้ได้เปลี่ยนไป,กลายเป็นมนุษย์กระดูกที่กดดันมนุษย์ความเร็ว.
เฟยหลุนที่ขยับเคลื่อนที่ไปยังตำแหน่งต่าง ๆ,ทว่าเต๋อลี่กับไปรอคอยเขาที่ตำแหน่งดังกล่าวแล้ว,พร้อมกับโจมตีออกมา,ทันทีที่ขาเขาเหยียบลงบนพื้น,จะมีเดือยกระดูกพุ่งขึ้นมา,โจมตีเขาบนอากาศ,ทำให้เขาอยู่ในสถานะการณ์ยากลำบาก.
ในเวลานี้,เฟยหลุนถูกปิศาจกระดูกโจมตีเข้ามาซ้ำแล้วซ้ำเล่า.
“เขารู้ตำแหน่งข้าได้อย่างไร?”เฟยหลุนแทบไม่อยากเชื่อ.
ความสามารถลอบเร้นของเขานั้นไม่ธรรมดา,ไม่เพียงแค่การปกปิดด้านการมองเห็น,เขายังปกปิดกลิ่นของเขาได้ด้วย,กระทั่งเสียงยังแทบไม่ได้ยิน,ด้วยความสามารถดังกล่าวนี้แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่ปิศาจกระดูกจะจับตำแหน่งเขาสำเร็จ.
เฟยหลุนเริ่มเปลี่ยนสถานะมารับ,เขาที่ย้ายตำแหน่งไปเรื่อย ๆ,ทว่าไม่ว่าเฟยหลุนจะไปที่ใหนหยุดที่ตรงใหน,ปิศาจกระดูกก็จะตามมาถึงทันที,แล้วยังโจมตีใส่เขาอย่างรุนแรง.
เฟยหลุนที่หนีหลบฉาก,พลางขมวดคิ้วไปด้วย.
ในเวลานี้ปิศาจกระดูกเต๋อลี่พอใจเป็นอย่างมาก,ด้วยวิธีการพิเศษของเขาเมื่อจับเป้าหมายได้,ไม่ว่าอีกฝ่ายจะซ่อนตัวอยู่ที่ใหน,เขาก็สามารถไล่ตามไปได้.
วิธีการของเต๋อลี่นั้นง่ายมาก,เมื่อเฟยหลุนตัดเศษกระดูกของเขาลอยลอยฟุ้งกระจายไปทั่วอากาศและได้เกาะติดไปบนร่างของของเฟยหลุน,เมื่อมีระดับที่เพียงพอ,เขาก็จะสามารถรับรู้ตำแหน่งของชิ้นส่วนร่างกายของตัวเองได้,ไม่ว่าปิศาจความเร็วจะซ่อนตัวอยู่ที่ใหน,เขาก็ย่อมสัมผัสได้.
ก่อนหน้านี้ปิศาจความเร็วมีความสุขมากที่ได้ไล่ฟาดฟันเฉือนร่างกายเขา,เวลานี้ถึงคราของเขาบ้าง.
อย่างไรก็ตามเต๋อลี่ก็ยังไม่ประมาท,เขายังคงไล่แทงปิศาจความเร็ว,เคลื่อนย้ายไปรอบ ๆ เมืองเล็ก,มีคนธรรมดาทั่วไปจำนวนมากที่ได้รับผลกระทบ.
ซูเห่าที่ขมวดคิ้ว,ไล่ตามไปช้า ๆ.
เขาที่คิดว่าการประจันหน้ากับคนเหล่านี้,เขาไม่มั่นใจเลย.
หากต้องต่อสู้กับคนเหล่านั้น,เขาจะต้องเตรียมการให้พร้อมกว่านี้.
......
“กึก!”
อันที่ร่อนลงบนพื้น,พ่นลมหายใจยาว.
สองศพที่ล้มลงบนพื้นช้า ๆ,หนึ่งคืออสูรตัดลำดับสามของลำดับมนุษย์ปั่น,อีกหนึ่งคนคือลำดับสามของลำดับมนุษย์เกราะที่เรียกว่าอสูรทิ่มทะลวง.
ใช่แล้วอันก็คือขั้นสามของลำดับมนุษย์ความเร็วที่เรียกว่าอสูรไร้เงานั่นเอง.
เขาซ่อนตัวตนอย่างดี,ขณะอสูรตัดแก๊งเสิ่นกวงปะทะกับอสูรหนามทะลวงแก๊งเทียนเหมิน,เมื่อทั้งคู่ได้รับบาดเจ็บ,เขาก็ลงมือ,ก่อนที่ทั้งสองจะตอบสนองได้ทัน,ก็ถูกกุดหัวไปเรียบร้อยแล้ว.
อสูรหนามทะลวงและอสูรตัดที่ปะทะกันจนแทบหมดสภาพแล้ว,แน่นอนว่าไม่อาจต้านทานได้,จึงถูกสังหารไป.
อันที่หันหลังกลับไป“ฟอร์ด,เซี่ยลี่!”
ฟอร์ดและเซี่ยลี่ได้ก้าวออกมาจากความมืด,จ้องมองร่างสองร่างที่รอคอย,ร่างกายสั่นไปมาด้วยความตื่นเต้น.
ฟอร์ดคือผู้บ้าบิ่นจากลำดับของมนุษย์เกราะ,เขาที่พร้อมยกระดับมานานแล้ว,ทว่ากับไม่มีโอกาสสักที,ท้ายที่สุดก็สมหวัง.
ส่วนเซี่ยลี่ที่ดวงตาเบิกกว้าง,ก้าวไปด้านหน้าช้า ๆ,ก้มลงพร้อมกับกัดกินศพของอสูรตัดอย่างบ้าคลั่ง.
ฟอร์ดที่จ้องมองอันพยักหน้าให้,จากนั้นก็ก้มลงกันกินอสูรหนามทะลวงเช่นกัน.
“เอิ๊ก!”ทั้งสองที่กินจนพอใจเรอออกมา.
อันจ้องมองไปยังพื้นที่ไกลออกไป,เอ่ยเสียงเบา“พวกเจ้าไปรอข้าที่สวนใบไม้ร่วงทางทิศใต้เพื่อวิวัฒนาการซะ,หลังจากนั้นข้าจะไปหาพวกเจ้าเอง.”
จากนั้นเขาก็หันหลังกลับมุ่งสู่สนามรบอีกครั้ง,ร่างกายของเขาจมหายไปในความมืดอย่างรวดเร็ว,ภายในใจของเขาเอ่ย“ใกล้แล้ว! ใกล้ถึงทีของข้าแล้ว,ที่จะยกระดับเป็นปิศาจความเร็ว!”
อันต้องการยกระดับเป็นปิศาจความเร็ว,เขาจึงมายังเมืองซือหลินวางแผนอยู่ห้าปี,เก็บเกี่ยวข้อมูล,วิเคราะห์สถานการณ์,ยืนยันเป้าหมาย,วางแผนไปมากมาย,ท้ายที่สุดเขาก็ลงมือในคืนนี้.
อีกฝั่ง,ปิศาจความเร็วเฟยหลุนและปิศาจกระดูกต่อสู้กันขยับขยายพื้นที่ไปทั่วทุกหนแห่ง.
เฟยหลุนที่ถูกกดดันหนีออกไปเอ่ยออกมาว่า“ปิศาจกระดูก,ตราบเท่าที่ข้าต้องการหนี,เจ้าไม่อาจหยุดข้าได้,มาดูว่าเจ้าจะหยุดข้าอย่างไร?”
เต๋อลี่แค่นเสียง,ไม่เอ่ยอะไร,ยังคงไล่ตามเฟยหลุนต่อไป.
ปิศาจความเร็วที่ใบหน้ากลายเป็นอัปลักษณ์.
เขาที่คิดในใจ“ข้าจะวิ่งเต็มกำลังแล้ว,มาดูกันว่ามันจะตามข้ามาได้อย่างไร!เพ่ย!”
เฟยหลุนที่ไม่เอ่ยไม่กล่าว,เขาเร่งความเร็วทันที,หายไปในอากาศ,เขาเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง,เพียงสองลมหายใจ,ก็หนีหายไปจากการรับรู้ของซูเห่าแล้ว.
“พรึด ซี่!”
ทันใดนั้น,ปิศาจความเร็วที่หนีหายไปนั้น,ใบหน้าของเขาที่เผยความเหลือเชื่อเป็นอย่างมาก,หน้ากากของเขาที่ขาดเป็นสองท่อนหล่นลงบนพื้น.
เขาอ้าปากกว้าง,ราวกับว่าต้องการเอ่ยอะไร,อย่างไรก็ตามโลหิตของเขาที่พุ่งกระฉูด,วินาทีต่อมาปิศาจความเร็วก็ล้มลงไปบนพื้น.
เฟยหลุนจนท้ายที่สุดเขาก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น.
ซูเห่าที่จ้องมองจากพื้นที่ไกลออกไป,ทว่าหลังจากสัมผัสปิศาจความเร็วกลับมา,เขาก็เผยความประหลาดใจ,เวลานี้จิงซีของปิศาจความเร็วกำลังเลือนหายไป.
“เกิดอะไรขึ้น?”ซูเห่าขมวดคิ้ว,วางแผนที่จะเข้าใกล้เพื่อสังเกต,เวลานั้นปรากฏจิงซีของขอบเขตบรรพจารย์ขั้นสูงขึ้นในเรดาร์ของเขาอีกจุด.
“เป็นมนุษยกลายพันธ์ระดับสูงอีกคน!”
ซูเห่าที่ระมัดระวังเป็นอย่างมาก.
เขาที่มาถึงที่เกิดเหตุ,ปิศาจความเร็วได้ถูกหั่นเป็นชิ้น ๆ,ตายจนไม่อาจตายได้อีกแล้ว,ด้านข้างของปิศาจความเร็วนั้น,ปรากฏร่างที่ปกคลุมด้วยเส้นยืนอยู่,ซูเห่าบอกได้ว่าจิงซีมหาศาลที่ไม่รู้จักนั่นก็คือร่างที่อยู่ในเส้นด้ายนั่นเอง.
ในเวลานั้น,ปิศาจกระดูกเต๋อลี่ปรากฏบนหลังคา,จ้องมองเศษชิ้นส่วนของปิศาจความเร็ว,ใบหน้าของเขาจ้องมองร่างที่ปกคลุมด้วยเส้นด้ายด้วยความระมัดระวังจากพื้นที่ไกลออกมา,เขารู้จักอีกฝ่ายนั่นคือซือเข่อ,หัวหน้าองค์กรช่วยเหลือความร่วมมือทางการค้าซึ่งเป็นปิศาจเส้นด้ายนั่นเอง.
ซูเห่าพบว่าปิศาจความเร็วตายไปแล้ว,ภายในใจของเขาได้แต่คาดเดาว่าปิศาจความเร็วตายได้อย่างไร,กระทั่งเผยความกังวลใจ“ก่อนหน้านี้เขาคิดว่ามนุษย์กลายพันธ์ที่รวดเร็วซ่อนเร้นได้อย่างยอดเยี่ยม,แทบจะไร้เทียมทาน,ใครจะคิดล่ะว่ากับตายไปซะแล้ว! ความสามารถของมนุษย์กลายพันธ์ช่างแปลกประหลาด,ด้วยความสามารถของเขาเวลานี้,แทบเป็นไปไม่ได้ที่จะป้องกัน.”
ขณะซูเห่ารู้สึกสั่นสะท้านหวั่นเกรง,เขาก็สัมผัสได้ถึงจิงซีที่เทียบเท่าขอบเขตบรรพจารย์ขั้นต้นเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง,พริบตาเดียวก็มาปรากฏขึ้นที่กองเศษเนื้อของปิศาจความเร็ว.
เป็นอัน อสูรไร้เงานั่นเอง.