Chapter 101 2 years
2年
กลางวันในเมืองซือหลิน(วิหารป่า)ผู้คนใช้ชีวิตอย่างสงบสุข,ส่วนเวลากลางคืนกลับมีการต่อสู้ที่หนักหน่วงรุนแรงเหมือนเช่นเคย.
ซูเห่าใช้เวลาส่วนใหญ่ในบ้าน,ศึกษาลำดับยีนของคนทั่วไป,และพยายามถอดรหัสที่ซ่อนอยู่ในยีน.
อย่างไรก็ตามไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำสำเร็จ,เขายังขาดข้อมูลจำนวนมาก,ลำดับยีนที่ได้รับมาประกอบด้วยลำดับยีน A, T, C และ G ยังไม่อาจบอกได้ว่ามันมีความสอดคล้องกันอย่างไร.
จะต้องทดลองทั้งหมดด้วยตัวเองหรือไม่?
เป็นไปไม่ได้ เขาไม่อาจทำสำเร็จได้,โดยเฉพาะในโลกที่ล้าหลังขาดอุปกรณ์ทดลองที่ทันสมัย,ไม่มีทางที่เขาจะทำการทดลองศึกษาถอดรหัสยีนให้สำเร็จได้.
สิ่งที่เขาพอทำได้ตอนนี้ ก็เพียงแค่การเปรียบเทียบความแตกต่างของยีน,คาดเดาผลลัพธ์,จากนั้นก็ตรวจสอบผลลัพธ์ที่ได้.
ยีนของจูเห่าเหรินนั้นเหมือนกับยีนของมนุษย์โลกอื่นถึง 99.99%,มีเพียงส่วนน้อยที่แตกต่าง.
ซูเห่าที่หยุดการศึกษายีนที่เหมือนกัน ซ้ำกันออกไปชั่วคราว,จากนั้นก็ศึกษายีนที่แตกต่างกัน,พร้อมกับวิจัยการแสดงผลของการมีอยู่ของยีนที่แตกต่างแต่ละตัว.
สิ่งสำคัญที่สุด ความความแตกต่างของคนทั่วไปและมนุษย์กลายพันธ์,มีความแตกต่างกันอย่างไร.
แน่นอนว่าแม้นว่าจะศึกษายีนที่แตกต่างแต่ก็ยังไม่อาจเปรียบเทียบศึกษายีนทั้งหมดได้.
แม้นว่าการเปรียบเทียบจะเป็นส่วนสำคัญของหัวข้อที่ต้องศึกษา,ทว่าสุดท้ายแล้วสิ่งจำเป็นที่สุดในเวลานี้ก็คือการยกระดับความแข็งแกร่งของตัวเอง.
ยกตัวอย่างการศึกษา“ฟังก์ชันยกระดับปราณโลหิต” และ“ฟังก์ชันยกระดับความแข็งแกร่งของกระดูก.”
และสิ่งสุดท้ายที่เขาไม่ได้คาดหวังมากนัก“ฟังก์ชันยกระดับสัมผัสทั้งห้า” และ “ฟังก์ชันยกระดับอวัยวะภายใน”ที่อยู่ในขั้นเริ่มต้นต้องยกระดับไปถึงขั้น“เชี่ยวชาญ”ให้ได้
กล่าวได้ว่ามันลึกล้ำเกินจะกล่าว.
บางทีความลับนั้นอาจจะซ่อนอยู่ในยีนก็ได้.
วันเวลาที่ผ่านไอย่างรวดเร็ว.
สองปีหลังจากนั้น,ซูเห่ามีอายุหกขวบครึ่ง.
เขาสูงหนึ่งเมตรสี่สิบแล้ว,ร่างกายแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก,ร่างกายที่ล่ำสันเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อมากกว่าชาติที่แล้วสิบเท่า.
ตลอดสองปีมนี้เขาเติบโตและแข็งแกร่งขึ้นมาก,ความหนาแน่นทางร่างกายที่ยกระดับสูง,กระดูกแข็งแกร่งไร้เทียมทาน,ไม่ได้ด้อยกว่าอสูรวัวแล้ว.
ด้วยฟังก์ชันยกระดับอวัยวะภายใน,ทำให้อวัยวะภายในของเขาแข็งแกร่งมาก,สมบูรณ์แบบ,ดูเหมือนว่าทนทาน ยากจะได้รับบาดเจ็บง่าย ๆ.
ในเวลานี้,ทั้งภายในและภายนอก,เขาเหมือนกับไอรอนแมน,ไม่ว่าสัตว์อสูรโจมตีอย่างไร,ก็ไม่อาจทำร้ายเขาได้โดยง่าย.
สิ่งที่เปลี่ยนไปที่สุดคงจะเป็นสัมผัสทั้งห้า,เขาไม่เคยรู้สึกแจ่มแจ้งชัดเจนเท่านี้มาก่อน,ก่อนหน้านี้เป็นความรู้สึกที่อึมครึมเป็นภาพขาวดำ,ทว่าตอนนี้โลกนี้เต็มไปด้วยสีสันอย่างแท้จริง.
บางที,ตอนนี้ดวงตาของเขาอาจจะมีลำแสงเสปกตรัมที่ใช้มองเห็นอยู่ก็เป็นได้.
การได้ยินที่แหลมคมขึ้น,แม้แต่เสียงพูดคุยอยู่ห่างออกไปหลายร้อยเมตรก็ยังได้ยิน.
พลังของการดมกลิ่นเองก็ทำให้เขาสามารถแยกแยะความแตกต่างของกลิ่นต่าง ๆ ได้ดีขึ้น.
ปริมาณจิงซีที่ยกระดับขึ้นหลายเท่าเป็นความหนาแน่นที่ไม่เคยมีมาก่อน.
สัมผัสของเรดาร์ที่ยกระดับเกือบสองกิโลเมตรแล้ว,รัศมีตรวจจับทั่วไปหนึ่งกิโลเมตรโดยไม่ต้องผลาญจิงซีใด ๆ.
นอกจากนี้หูทั้งสองข้างของเขาเริ่มมีขนสีขาวขึ้นบ่งบอกได้ถึงสัญญาณการเติบโตของเผ่าพันธุ์จูเห่าเหริน.
ในวันนี้ซูเห่ากำลังจัดแจงแบ่งแยกขวดแก้วอยู่ในบ้าน.
มีตัวอย่างทดลองของโลหิตลำดับกลายพันธ์ต่าง ๆ ที่เก็บรวบรวมมาตลอดสองปีที่สะสมเอาไว้.
โลหิตตัวอย่างเหล่านี้ถูกแช่ในของเหลวพิเศษ,สามารถรักษาสภาพของยีนเอาไว้ได้หลายปีโดยไม่เสียหาย.
แม้นว่ายีนตัวอย่างเหล่านี้จะถูกเก็บเอาไว้ในพื้นที่พินบอลของเขาแล้ว,ทว่าตัวอย่างโลหิตเหล่านี้ยังมีประโยชน์ในอนาคต.
หลังจากเวลากลางคืนมาถึง,ซูเห่าได้ผลักประตูเดินออกไปเงียบ ๆ,ไปยังพื้นที่นัดหมายที่ขอบชานเมือง.
สถานที่แห่งนี้เป็นที่นัดหมายของเขาและหยาซาน.
หยาซานที่ยอมรับซูเห่าเป็นพี่ใหญ่โดยเต็มใจ,ก่อนหน้านี้ในช่วงหนึ่งปีครึ่ง,เขาได้พบเข้ากับมนุษย์พิษขั้นหนึ่งไล่ล่า,เกือบถูกสังหาร,โชคดีที่ซูเห่าเข้ามาช่วยเหลือ,มนุษย์เกราะต่อหน้ามนุษย์พิษแล้วแทบจะไร้ประโยชน์,เพียงแค่สัมผัสร่างอีกฝ่าย,พิษก็จะแพร่ผ่านเกราะเข้าสู่ร่างกาย,ไม่อาจป้องกันได้เลย.
ซูเห่าใช้ดาบสังหารมนุษย์พิษไป,ส่วนพิษที่หยาซานได้รับมา,ทำเขาเกือบตายไปแล้ว,แต่ซูเห่าก็สามารถดึงเขากลับมาจากความตายได้.
ซูเห่าได้ใช้มีดสลักรูปแบบฟื้นฟูและตัดชิ้นส่วนพิษออกไปจนหมดอย่างคาดไม่ถึง.
หยาซานที่นับถือซูเห่าราวกับเป็นเทพยาดาไปแล้ว.
การล้างพิษเขาในครั้งนั้น,ทำให้เขาเสียโลหิตไปเป็นจำนวนมาก,เกือบตายเพราะเสียโลหิต,ทว่านั่นไม่สำคัญ,สิ่งสำคัญคือเขารอดชีวิตมาได้.
ตั้งแต่นั้นมาเขาก็รับใช้ซูเห่าทุกอย่าง โดยไม่อิดออด,ไม่ว่าซูเห่าจะสั่งให้ทำอะไรก็ตาม.
ซูเห่ารู้สึกพอใจที่มีผู้ช่วยที่ขยันขันแข็งเป็นอย่างมาก.
สองปีมานี้ด้วยการมีหยาซานช่วยเหลือ,ทำให้ซูเห่าเก็บเกี่ยวตัวอย่างโลหิตของมนุษย์กลายพันธ์ลำดับต่าง ๆ,เก็บไว้ศึกษามากมาย.
แน่นอนว่าหยาซานมีประโยชน์มากกว่านั้น.
เขายังเป็นมนุษย์ทดลองที่สำคัญ ให้กับซูเห่าด้วย.
โดยเฉพาะข้อมูลเกี่ยวกับยีน,เขาที่มอบชิ้นเนื้อให้อีกฝ่ายหลายครั้งเพื่อ,เฝ้ามองการเปลี่ยนแปลง,ตรวจสอบยีนหลังจากผ่านการเปลี่ยนแปลงและเปรียบเทียบก่อนหลัง.
แม้นว่าการวิจัยหยาซาน,ทำให้เขาต้องล๊อกเป้าไปที่ลำดับมนุษย์เกราะอย่างเดียว,ทว่าก็ทำให้งานวิจัยของเขาก้าวหน้ามาก.
เมื่อซูเห่ามาถึง,ก็พบว่าหยาซนมารออยู่ก่อนแล้ว.
หยาซานเห็นซูเห่าปรากฏก็เผยยิ้มแป้นแล้น,แสดงท่าทางยินดีอย่างยิ่งก้าวเข้าไปหา“พี่ใหญ่เหว่ยท่านมาแล้ว! หลายวันไม่เห็นหน้า,หยาซานคิดถึงท่านจริง ๆ!”
ซูเห่าถึงกับพูดไม่ออก“หยาซาน,มั่นคงหน่อย,เจ้าเป็นพ่อมีลูกสองคนแล้ว.”
หยาซานที่ร่างกายเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ,แม้นว่าหน้าตาจะดูหล่อเหลา,ทว่ารอยยิ้มที่ยิ้มออกมานั้น,ทำให้เขารู้สึกขนลุกขึ้นมาเหมือนกัน.
หยาซานที่เห็นซูเห่าเอ่ยถึงบุตรสองคน,ก็เผยยิ้มกว้าง,ราวกับว่ามีความสุข,แม้แต่เริ่มเล่าเรื่องราวของบุตรให้กับซูเห่าฟัง.
ซูเห่าที่โบกมือไปมาให้หยุดเล่าได้แล้ว,บุตรสองคนของหยาซานนั้น,อายุน้อยกว่าซูเห่าสองปี,ดูน่ารักน่าชัง,ดูเหมือนว่าหยาซานจะรักมาก.
อย่างไรก็ตามการที่บิดาเอ็นดูบุตรตัวเองก็เป็นเรื่องธรรมดา.
หยาซานนำขวดเล็ก ๆ ออกมา,เอ่ยออกไปว่า“พี่ใหญ่เหว่ย,ท่านดูสิ่งที่ข้านำมาให้ท่าน?”
ซูเห่าที่รับมา,พร้อมกับตรวจสอบโลหิตดังกล่าว.
ไม่รอให้ซูเห่าสอบถาบหยาซานก็เอ่ยออกมาว่า“นี่คือโลหิตขั้นสองของมนุษย์เลียนแบบที่เรียกว่า【ผู้บิดเบือน】”
“?”ซูเห่าที่ดวงตาเป็นประกาย,นี่คือตัวอย่างโลหิตที่เขายังไม่มี,ในความเห็นของเขา,ผู้บิดเบือนนั้น,เป็นยีนที่มีค่าให้ศึกษาเป็นอย่างมาก.
สองปีมานี้,เก้าลำดับของมนุษย์กลายพันธ์ขั้นที่หนึ่ง,เขาเก็บตัวอย่างโลหิตมาได้เจ็ดแล้ว,เหลือเพียงแค่【มนุษย์ความเร็ว】และ【มนุษย์ทำนาย】
ส่วนขั้นสองนั้น,เขาเก็บเกี่ยวได้เพียงลำดับของมนุษย์จอมพลัง,ขั้นสองก็คือ【ผู้บ้าคลั่ง】.
เพราะมนุษย์จอมพลัง ลำดับดังกล่าว,ค่อนข้างโง่! คิดว่าตัวเองแข็งแกร่ง,จึงไม่ระวังสนใจมนุษย์กลายพันธ์ลำดับอื่น ๆ เลย.
ทำให้ลำดับมนุษย์จอมพลังมักตกตายง่ายกว่าลำดับอื่น ๆนั่นเอง.
ซูเห่าที่รับตัวอย่างโลหิตมา,กล่าวชื่นชม“หยาซานทำได้ดีมาก,ตัวอย่างโลหิตขั้นสองไม่ง่ายเลยที่จะเก็บมาได้,ดูเหมือนว่าไม่เสียแรงที่ข้าสนับสนุนเจ้า.”
หยาซานที่ถูมือหัวเราะชอบใจเอ่ยออกมาว่า“มนุษย์กลายพันธ์ผู้บิดเบือนดูเหมือนว่าจะบังเอิญต่อสู้กับผู้บ้าบิ่น,จนได้รับบาดเจ็บ,ข้าจึงลอบเก็บตัวอย่างโลหิตมา”
ซูเห่าที่เอ่ยสอบถามออกมาอีกครั้ง“สถานะของเจ้าพร้อมที่จะยกระดับรึยัง?”
หยาซานที่พยักหน้าด้วยความตื่นเต้นเอ่ยออกมาว่า“ข้าคิดว่าพลังงานของข้าอยู่ในสถานะสูงสุดแล้ว,การเลื่อนระดับเป็น【ผู้บ้าบิ่น】จะต้องสำเร็จอย่างแน่นอน.”
ซูเห่าที่เผยยิ้ม,งานวิจัยของเขากำลังจะคืบหน้าไปได้อีก,โดยเฉพาะการเปรียบเทียบยีนของมนุษย์กลายพันธ์ขั้นหนึ่งและขั้นสอง.
ในเมื่อมีหยาซานให้ความร่วมมือเช่นนี้,เขาย่อมยินดีรับเอาไว้อย่างเต็มใจ.
ซูเห่าเผยยิ้ม“สองปีมานี้เจ้าทำผลงานได้ดีมาก,ข้าจะทำตามคำของของเจ้า,แล้ว 【ผู้บ้าบิ่น】อยู่ที่ใหน?”
หยาซานเผยยิ้มอย่างมีความสุข“พี่ใหญ่เหว่ย,ตามข้ามาเลย!”
ทว่าซูเห่าที่ยื่นขวดใบหนึ่งออกไป“ไม่ต้องรีบ,ก่อนอื่นเจ้าใส่โลหิตลงไปในขวดให้เต็มก่อน.”
หยาซาน“......”