ตอนที่แล้วเล่มที่ 1: ถิ่นทุรกันดาร – บทที่ 14: พลัง! [อ่านฟรี]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปเล่มที่ 1: ถิ่นทุรกันดาร – บทที่ 16: ผลไม้ [อ่านฟรี]

เล่มที่ 1: ถิ่นทุรกันดาร – บทที่ 15: การเดินทางเล็ก ๆ [อ่านฟรี]


อเล็กซ์เริ่มฝึกฝนร่างกายมาได้สามวันแล้ว และเขาก็มีพัฒนาการมากพอสมควร การฝึกด้วยการทรมานร่างกายนั้นรับมือได้ยากในช่วงแรก แต่อเล็กซ์ก็ค่อย ๆ คุ้นชินกับมันหลังจากกระโดดข้ามเงาตัวเองอยู่หลายครั้ง

หลังจากผ่านการกระโดดไปสองสามครั้งแรก เขาไม่อยากรู้สึกถึงความเจ็บปวดไปมากกว่านี้ เพราะมันได้มากเกินไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ความแข็งแกร่งได้เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เขาก็กัดฟันฝึกฝนต่อ รสชาติของพลังมันช่างหอมหวาน แต่ในวันนี้เขาจะต้องยกเลิกการฝึกฝน อเล็กซ์เริ่มขาดน้ำ และซากสัตว์ที่เขาฆ่าก็เริ่มถูกพวกแมลงรบกวน เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็นทำให้เนื้อยังคงกินได้ แต่พวกแมลงที่เกาะอยู่บนซากนั้นน่าขยะแขยงเกินไป

ยิ่งไปกว่านั้น กลิ่นของพวกมันค่อย ๆ จางหายไป และอเล็กซ์ก็พบกวางตัวหนึ่งกำลังใกล้เข้ามาในระยะการมองเห็นก่อนจะหนีหายไปหลังจากที่เขาพบมัน

สามวันก่อน เขาไม่พบสัตว์สักตัวใกล้บริเวณที่เขาอยู่ นั่นหมายความว่าอเล็กซ์ไม่ปลอดภัยอีกต่อไป

ตึ้ง! ตึ้ง!

อเล็กซ์กระโดดขึ้นต้นไม้และลุกยืนด้วยขาทั้งสองพร้อมจับกิ่งไม้ที่อยู่ใกล้สุด หากเป็นเมื่อสามวันก่อนเขาคงทำอะไรแบบนี้ไม่ได้ ความก้าวหน้าของพลังทางกายภาพของเขานั้นช่างน่าทึ่ง! ร่างกายอเล็กซ์ตอนนี้มีพลังมากกว่าร่างกายบนโลกก่อนเสียอีก

มานาคือสิ่งที่ทำให้ความเร็วในพัฒนาการของอเล็กซ์ก้าวกระโดด เขาปีนต้นไม้และมองไปรอบ ๆ เขาพบสัตว์นานาชนิดในป่าแห่งนี้ เป็นที่แน่นอนว่าต้องมีแหล่งน้ำอยู่ตรงไหนสักแห่ง แต่ด้วยต้นไม้ที่หนาแน่นทำให้เขามองไม่เห็นจากตรงนี้ การจะรู้ตำแหน่งของแหล่งน้ำจึงเป็นเรื่องยาก จะมองเห็นได้แค่จุดที่ต้นไม้ขึ้นอยู่บาง ๆ เท่านั้น ซึ่งพบอยู่สองสามจุดและเลือกจะสำรวจบริเวณดังกล่าว ขณะเดียวกันนั้น อเล็กซ์ก็จะออกหาเสบียงเพิ่มเติมด้วยเช่นกัน

ตึ้ง!

อเล็กซ์ปีนกระโดดลงมาจากต้นไม้และการลงครั้งนี้ไม่มีอาการบาดเจ็บแต่อย่างใด ‘ได้เวลาออกสำรวจ’ อเล็กซ์คิดพลางขมวดคิ้วเล็กน้อย

นี่น่าจะเป็นครั้งแรกที่จะออกไปจากตำแหน่งเดิม และไม่รู้ว่ามีอะไรกำลังรออยู่ ได้เพียงแต่หวังว่าจะไม่เจอพวกสัตว์ที่ทรงพลังเหมือนปีศาจก่อนหน้าที่เขาได้ฆ่าไป โชคคงไม่เข้าข้างเขาเหมือนเดิม ไม่อย่างนั้นเขาอาจตายได้

อเล็กซ์หยิบเสื้อผ้าที่เปื้อนเขรอะ กระเป๋า และดาบ สุดท้ายเขานำเสื้อโค้ทสีดำใหญ่มาคลุมตัวเพื่อซ่อนดาบ โค้ทตัวนี้ทำมาจากขนสัตว์ที่ถูกทำให้แห้งมาหลายต่อหลายครั้ง ปกติเสื้อโค้ทจะทำมาจากหนังสัตว์ทั้งตัว จึงทำให้มันมีขนาดค่อนข้างใหญ่

อเล็กซ์กำหญ้าจากพื้นขึ้นมาและยัดลงไปในช่องตรงขอบเสื้อโค้ทเพื่อทำรอยตะเข็บ หลังจากทำเช่นนั้นอยู่สองสามครั้ง เสื้อโค้ทก็คลุมร่างกายเขาอย่างสมบูรณ์ เพิ่มความอบอุ่น และมันยังคงซ่อนดาบเอาไว้ได้อย่างมิดชิด

น่าเสียดายที่อเล็กซ์ยังไม่เก่งพอที่จะสร้างฝักไว้เก็บดาบแบบถาวร หากเขาต้องการใช้ดาบก็ต้องชัดเชือกที่มัดไว้ทั้งหมด ซึ่งจะต้องหาอันใหม่มาทดแทนทุกครั้ง

อเล็กซ์ลดกระเป๋าลงมาไว้ที่กลางลำตัว และพักไว้ที่ต้นขวาซ้าย ดีที่สายสะพายยาวพอ เขาทำเช่นนี้เพราะหากต้องหยิบดาบมาใช้ เขาจะเหวี่ยงมันไปทางด้านขวา กระเป๋าจะขวางทางหากเอามันมาไว้ทางด้านขวา

ท้ายที่สุด อเล็กซ์ก็ยืนขึ้นพร้อมโค้ทสีดำสนิทที่คลุมร่างกายเขาอยู่ ผมดำรุงรังและสกปรกของเขาดูเหมือนจะเข้ากับเสื้อโค้ทที่สวมพอดี ทำให้เขาดูเหมือนคนป่าลึกลับ หากใครเจอเขาในสภาพนี้ ก็คงไม่มีใครเชื่อว่าอายุเขายังน้อย

จากนั้นอเล็กซ์ก็ก้าวเข้าไปในป่าอย่างรวดเร็วพร้อมกับมือที่ว่างเปล่า ทำไมอเล็กซ์ถึงไม่ถือดาบไว้? มีอยู่สองเหตุผลด้วยกัน ข้อแรกคือเขาต้องการซ่อนมัน พวกสัตว์มันไม่ได้โง่ ถ้าพวกมันเห็นวัตถุสีดำยาวในมือก็เพิ่มความระมัดระวังตัวขึ้นมาระดับหนึ่งแล้ว

ข้อที่สอง หากมีอะไรโจมตีเขาจากด้านหลัง ดาบจะเป็นตัวคั่นกลาง และเพราะดาบถูกซ่อนไว้ ผู้โจมตีจะไม่มีทางรู้เลย หากอเล็กซ์ถูกโจมตีจากทางด้านหลัง ผู้โจมตีจะตายอย่างรวดเร็วเพราะดาบได้จ่อคอเขาอยู่ ตอนนั้นเอง อเล็กซ์ก็เพียงแค่ขยับดาบเล็กน้อยก็ฆ่าศัตรูได้แล้ว

ดาบอเล็กซ์คมมาก จนเขาไม่จำเป็นต้องใช้พลังมากมายเพื่อฆ่าศัตรู อเล็กซ์คิดทุกอย่างขณะที่แต่งตัว ต้องตื่นตัวระหว่างอยู่ในป่านี้ตลอดเวลา อเล็กซ์วิ่งออกจากตำแหน่งเดิมด้วยความเร็วพอสมควร ทำไมล่ะ? เพราะหากเขาเดินอย่างช้า ๆ พวกที่คอยซุ่มโจมตีจะมีเวลามากขึ้นในการวางแผนเพื่อดักซุ่มโจมตีเขา แน่นอนว่าอเล็กซ์อาจผ่านไปได้โดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็นหากเขาเดินช้าลง แต่ผลเสียจะมาตกที่ความรุนแรงของการซุ่มโจมตีจะเพิ่มขึ้น

แต่อเล็กซ์ก็ไม่พนันว่าจะไม่มีการถูกซุ่มโจมตีเกิดขึ้นกับเขา หลังจากวิ่งมาได้ราวสิบนาทีเขายังไม่พบกับสัตว์สักชนิด แต่กลับพบอาหารบางอย่าง ลูกเกาลัด! อเล็กซ์หยุดทันทีเมื่อเห็นต้นเกาลัดและปีนขึ้นไปทันที สามสิบนาทีต่อมาอเล็กซ์เก็บลูกเกาลัดได้เพียบและกินไปจำนวนมาก

‘หวังว่าจะไม่ทำฉันท้องเสียนะ’ อเล็กซ์ขณะทุบเปลือก แน่นอนว่ามันไม่ได้อร่อย แต่จากที่เขาบอกได้ก็คือมันพอที่จะกินได้ ‘สิ่งที่เลวร้ายที่สุดคือฉันเพิ่งวิ่งมาเหนื่อย ๆ’ เขาคิด

กรอด! กรอด!

อเล็กซ์ได้ยินเสียงคำรามและมองไปที่ต้นตอของเสียง ห่างออกไปไม่กี่เมตรมีหมูป่าตัวใหญ่ตัวหนึ่ง แต่ขนาดไม่ได้เท่าตัวที่อเล็กซ์เคยเจอ แต่ดูเหมือนจะหนักกว่าหมาป่าพวกนั้น เมื่ออเล็กซ์เห็นมัน ดวงตาเขาก็หรี่แคบ

‘ตอนนั้นที่ไม่ได้โจมตีหมูป่าตัวนั้นก็เพราะไม่มีอาวุธดี ๆ แต่ตอนนี้ฉันมีมันในมือแล้ว!’ เขาคิด

หมูป่ากำลังมองดูต้นไม้อย่างระแวดระวัง มันเห็นและได้ยินอเล็กซ์แต่ก็ยังไม่ได้ซุ่มเดิน และยังไม่ได้ไปจากตรงนั้นเพราะนี่คือต้นเกาลัดของมัน และมันก็เคี้ยวเกาลัดไปไม่น้อย

อเล็กซ์ดูตัวใหญ่ขึ้นกว่าก่อนหน้าเล็กน้อยเพราะเสื้อโค้ทที่เขาสวมอยู่ ทำให้หมูป่าดูจะเกรงกลัวเขา การได้เห็นสิ่งมีชีวิตสีดำขนาดใหญ่บนต้นไม้นั้นค่อนข้างน่ากลัว

อเล็กซ์ สัตว์ประหลาดสีดำค่อย ๆ เคลื่อนตัวไปรอบ ๆ กิ่งก้านบนต้นไม้อย่างช้า ๆ และเงียบเชียบจากนั้นก็ค่อย ๆ หายไปเมื่อปีนขึ้นไปสูงขึ้น

แกร่ก! แกร่ก!

ลูกเกาลัดจำนวนมากค่อย ๆ ร่วงลงพื้นเพราะต้นไม้ที่สั่นจากการปีนของอเล็กซ์ จากนั้นกิ่งไม้ด้านหลังต้นเกาลัดก็ขยับ หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงกรอบแกรบดังขึ้นอีก แต่ห่างออกไป

ยังมีสิ่งมีชีวิตอยู่แถวนี้อีกไหม? หมูป่าตัวนี้เริ่มเกิดความสับสน หลังจากเกิดความลังเลอยู่ครู่หนึ่ง หมูป่าก็เดินไปรอบ ๆ ต้นไม้โดยเว้นระยะห่าง พยายามหาสิ่งมีชีวิตสีดำ หลังจากค้นหาอยู่หลายนาที หมูป่าก็ขบเกาลัดหนึ่งลูกแล้วถอยกลับไป มันรีบกินเกาลัดอย่างรวดเร็วและมองดูรอบ ๆ มันทำเช่นนี้อยู่สองสามครั้งจนกระทั่งในที่สุดหมูป่าก็เลิกระวังตัว สัตว์สีดำนั่นได้หายไปแล้ว

ฉ่า!

เหนือตำแหน่งของมันขึ้นไปข้างบนเกิดเสียงเบา ๆ และมันก็มองขึ้นไป

อเล็กซ์กระโดดลงมาจากข้างบน ดาบถูกกำอยู่ในมือทั้งสอง มือขวาของเขาจับด้ามดาบ ส่วนมือซ้ายจับขอบดาบ อเล็กซ์รู้ดีว่าดาบจะไม่ทำให้เขาบาดเจ็บด้วยเหตุผลบางอย่าง นั่นหมายความว่าเขาจะจับดาบเล่มนี้ได้เหมือนจับคทา

อเล็กซ์ลงมาทับคอเหมือนเครื่องกิโยติน

ตึ้ง!

ดาบนั้นคมช่างน่าเหลือเชื่อจนสามารถฟันคอหมูป่าหนา ๆ ให้ขาดได้อย่างง่ายดาย เกิดเสียงจากการกระแทกกับพื้นดังลั่น

หมูป่าตายในทันที เลือดของมันสาดกระเซ็นติดตัวอเล็กซ์ ขณะที่ท้องของเขากระแทกกับหัวหมูที่ขาด เขาทำหน้าเหยเกด้วยความขยะแขยงเมื่อเห็นเลือดที่เปื้อนเนื้อตัว

‘ถ้าไม่รีบล้างออกต้องเป็นเน่าเป็นคราบกรังแน่ ๆ’ เขาคิด

ภาพของหมูป่าที่ถูกตัดหัวทำให้อเล็กซ์สั่นสะท้ายไปทั้งตัว แต่เขาก็รู้ดีว่าต้องทำความรู้สึกให้คุ้นชินกับอะไรแบบนี้ ในอนาคตอันใกล้เขาจะต้องฆ่าสัตว์อีกนวนมาก และเขาอาจต้องฆ่ามนุษย์ด้วยซ้ำเมื่อต้องไปเข้าสังคม อเล็กซ์ไม่ได้ไร้เดียงสาถึงขนาดที่เชื่อว่าสังคมมนุษย์ที่ทรงอำนาจจะเป็นสถานที่ที่ดี

อเล็กซ์มองดูผลงานของเขาครู่หนึ่ง และตั้งสติ เลือดทะลักออกจากหัวหมูป่าที่ขาดอย่างบ้าคลั่งและมันยังคงกระตุกอยู่ ในขณะเดียวกัน สายตาที่ว่างเปล่าของหัวหมูป่าที่ถูกตัดขาดก็มองมาที่อเล็กซ์เหมือนกับกำลังถามเขาว่าทำไมถึงฆ่ามัน

อเล็กซ์สูดหายใจเข้าลึกทันทีใดนั้นก็ถูกโจมตีด้วยกลิ่นคาวเลือด เขากัดฟันแน่น

‘ตอนนี้ปัญหาเรื่องเสบียงและน้ำถูกแก้ไขแล้ว’ อเล็กซ์คิดขณะมองไปที่ซากสัตว์ ‘ดาบนี่คมมาก น่าจะช่วยสร้างอะไรที่ทำจากไม้ได้บ้าง อย่างพวกถังหรือชาม’

‘ตอนนี้สามารถดื่มน้ำที่กลั่นจากเลือดหมูได้ ออกจะน่าขยะแขยงเล็กน้อยและไม่ดีต่อสุขภาพ แต่นั่นก็ไม่ได้อยู่ในลำดับความสำคัญของฉันเท่าไรนัก’

‘มาจุดไฟกันเถอะ!’

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด