บทที่41
หลายสิบไมล์ทะเลห่างจากบาราติเอ มีเรือรบกำลังแล่นเข้ามาใกล้
เหนือดาดฟ้าเรือรบ นายทหารหนุ่มยิ้มกว้าง “ภัตตาคารลอยทะเล เฮ้... พวกเราไปทานอาหารเย็นกันเถอะ”
“รับทราบครับท่านพันตรี” จ่าทหารเรือที่อยู่ข้าง ๆยิ้มแล้วส่งคำสั่งไปยังทหารเรือคนอื่น ๆ
“ยอดไปเลยครับท่าน แต่ถ้าเราไปกินอาหารที่นั่น เรื่องค่าใช้จ่ายของเรา...” จ่าทหารเรือที่ยืนอยู่ข้าง ๆดูลังเล
“ค่าใช้จ่าย? ค่าใช้จ่ายอะไร?” ทหารเรือยศพันตรีกล่าว “เราไปกินอาหารที่นั่น มันถือว่าเป็นเรื่องดีสำหรับภัตตาคารบาราติเอแล้ว ทำไมเรายังต้องจ่ายอยู่อีก? นายไม่ได้ล้อเล่นอยู่ใช่ไหม?”
“ฮ่าฮ่า สิ่งที่ท่านพูด ถูกที่สุดครับท่าน” เมื่อจ่าคนนี้ได้ยินอย่างนั้น เขาก็หัวเราะออกมา
“อืม” พันตรีพยักหน้าพร้อมกับมองไปด้านหน้า
ในภัตตาคารลอยทะเล รอนกำลังพาสาว ๆไปทานมื้อค่ำ และบางครั้งก็แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับรสชาติของอาหารที่อยู่ตรงหน้าเขา “ปลาทะเลตัวนี้รสชาตดีแฮะ กินเยอะ ๆนะ ร่างกายของเธอกำลังเติบโต”
รอนตักปลาใส่จานให้คายะชิ้นหนึ่ง
“ขอบคุณค่ะคุณรอน” เมื่อคายะเห็นเธอก็ยิ้มกว้าง เธอรู้สึกดีใจและชอบความรู้สึกนี้มาก เธอรู้สึกว่ารอนเป็นคนดีมาก ๆคนหนึ่ง
อีกด้านหนึ่ง นามิและทาชิงิเมินเฉย แม้ว่าพวกเขาจะเดินทางไปกับรอนแต่พวกเขาก็ยังไม่ตกอยู่ในมือรอนเหมือนคายะ ไม่รู้ว่ารอนเจ้าเล่ห์หรือคายะไร้เดียงสาเกินไป
ในทางกลับกัน มากิโนะก้มหน้าก้มตาทานอาหาร ไม่พูดไม่จา เธอเงยหน้าขึ้นมองเป็นบางครั้งและมีแววตาหม่นลงเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่ายังไม่ลืมบทสนทนากับของเธอกับรอนเมื่อคืน
ตึก ตึก ตึก!
เสียงเท้าหนัก ๆดังขึ้น รอนและสาว ๆก็อดสนใจเสียงเท้านั้นไม่ได้ พวกเธอจึงได้หันไปมอง แล้วทหารเรือก็เดินเข้ามาด้านใน
“ยินดีต้อนรับแขกผู้มีเกียรติ ไม่ทราบว่าต้องการทานอาหารอะไรครับ?” ซันจิ พ่อครัวและบริกรต่างเดินเข้ามาถามทันที
“อืม!” พันตรีที่เป็นผู้นำกลุ่มทหารเรือพูดอย่างใจเย็น “จัดสถานที่ให้พวกเรา เรามีคนจำนวนมาก เอาคนอื่นออกไปให้หมด เราต้องการสถานที่ส่วนตัว”
“หืม?” ซันจิเงยหน้าขึ้นทันที ดวงตาของเขาแข็งขึ้นเล็กน้อย “ถึงคุณจะอยู่ในกองทัพเรือ แต่คุณก็เอาแต่ใจมากนะครับ แขกคนอื่นเองก็มาทานอาหารของเราด้วย พวกเขาเองก็เป็นลูกค้าเหมือนกับคุณนะครับ”
“อะไรนะ?” เมื่อพันตรีได้ยินก็ยิ้มแข็งออกมา “กล้าพูดแบบนี้กับฉันเหรอ?”
“โอ้ พันตรีครับ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผมเอง” จ่าเอกด้านข้างก้าวออกมาข้างหน้า เขามองไปที่ซันจิแล้วกล่าวว่า “ข้างหน้าของนายคือพันตรีแห่งกองทัพเรือ นายไม่ต้องการทำตามคำสั่งเหรอ? ถ้าอย่างนั้นเรือรบของเราที่อยู่ด้านนอกจะระดมยิงปืนใหญ่ถล่มร้านของนายทันที”
“กองทัพเรือคิดจะคุกคามฉันเหรอ?” ซันจิไม่ใช่ผู้ชายที่จะถูกขู่ได้ เขาเริ่มโกรธขึ้นมานิดหน่อย
“แขกผู้มีเกียรติทุกท่าน ใจเย็น ๆกันก่อน” ในเวลานี้ เซฟก็ได้ยินเสียงความวุ่นวายที่ร้านอาหารข้างล่าง เขาก็ได้เดินออกมาดูซันจิและกล่าวด้วยรอยยิ้ม “แขกผู้มีเกียรติคนอื่น ๆก็มากินอาหารร้านเราเช่นกัน พวกเขาจ่ายเงินมากิน มีคนมากมายมาที่นี่ พวกคุณอยากจะสร้างปัญหากับเราเหรอ?”
“หา?” นี่ชายคนนี้กำลังดูถูกกองทัพเรือ? เมื่อจ่าผู้ช่วยพันตรีได้ยินก็พูดด้วยความโมโห “พวกเราให้นายไล่คนอื่น ๆออกไป แต่พวกนายกลับมาขัดขวางพวกเราตลอด นายอยากตายไหม?”
“นี่...” มุมปากของเซฟกระตุก แต่เขาก็ไม่สามารถไล่ลูกค้าพวกนี้ออกไปได้จริง ๆ ไม่อย่างนั้น ถ้าเขาทำแบบนั้น ธุรกิจในอนาคตก็คงเจ๊ง ใครจะกล้ามากินที่ร้านนี้ล่ะ
“กองทัพเรือ ช่างอวดดีจริง ๆ” รอนส่ายหัวเล็กน้อยและถอนหายใจออกมาเมื่อเห็นว่าพันตรีของอีสต์บลูทำตัวอวดเบ่ง
หญิงสาวที่อยู่ด้านข้างก็รู้สึกแบบเดียวกัน กองทัพเรือทำตัวเย่อหยิ่งเกิดคาดจริง ๆ ทาชิงิก้มหน้าด้วยความอับอาย
“หืม?” พันตรีคนนั้นได้ยินเสียงรอนพูด อยู่ ๆเขาก็ไม่พอใจขึ้นมา
“ไอ้หนู นายเป็นใคร?” แกไม่เคารพกองทัพเรือของเรา อยากตายหรือไง? พันตรีจ้องไปที่รอนเขม็งและทหารเรือด้านหลังก็หยิบปืนคาบศิลาเล็งไปที่โต๊ะของรอน
“กล้าหันปืนมาทางฉัน พวกนายไม่รู้จักความตายกันจริง ๆใช่ไหม?” รอนเงยหน้าขึ้นอย่างเฉยเมยและมองไปที่กลุ่มทหารเรือ เขาจะไม่ลงมือเอง หากเขาลงมือเอง มันก็เหมือนกับเอาช้างไปบดขยี้มด
“รอน...” ทาชิงิมองรอนด้วยสายตาสื่อความหมาย เธอไม่ต้องการให้รอนฆ่าทหารเรือ หากเป็นแบบนั้น เธอจะบอกว่าตัวเองเป็นคนของกองทัพเรือได้ยังไง แต่ว่าทหารเรือตรงหน้าเธอนี้มันก็ไม่ต่างอะไรกับโจรสลัดเลย ขนาดรอนที่เป็นโจรสลัดที่มีค่าหัวหนึ่งร้อยล้านเบรียังไม่เป็นแบบนี้