ตอนที่ 59 หนีไป
ตอนที่ 59 หนีไป
"เป็นยังไงกันบ้าง ยังอยู่ดีกันนะ"
หลิน ยู มองไปที่ หยาน หวู่ แน่คนอื่นๆ ข้างๆเขา
"สบายมาก"
หยาน หวู่ โศกเศร้าเขาส่ายหัว
"ดูเหมือนฉัน จะเสียทหารไปมากทีเดียว"
หยิน เทียนเก่อ เห็นด้วย เขามองไปที่ข้างๆ เขา
หลังจากที่ผ่านต่อสู้มา เขาสูญเสียกำลังพลไปเกือบทั้งหมด เหลือเพียงแค่ปิศาจระดับ 6 4 ตัวเท่านั้น
สถานการณ์ของ หยาน หวู่ และ ไป๋ ไห่ถัง ไม่ต่างกัน พวกเขาเหลือทหารเพียง 3 ถึง 4 ตัวเท่านั้น
พวกเขาไม่คาดคิดว่าอาณาเขตสายหมอกระหว่างภูมิภาคจะแฝงไปด้วยอันตรายมากขนาดนี้ ระหว่างอาจเรียกได้ว่าพวกเขาผ่านประสบการณ์เฉียดตายมา
โชคดีที่พวกเขาสามารถหลบหนีจากมอนสเตอร์ระดับ 10 มาได้
"ไปกันเถอะ ที่นี้คงจะเป็นใจกลางของอาณาเขตสายหมอก พวกเราควรรีบออกไป"
หลังจากที่พักได้เพียงไม่นาน พวกเขาก็ออกเดินทางต่อพร้อมกองทัพที่ยังเหลืออยู่เพียงน้อยนิด
หลังจากผ่านหุบเขามา สายฟ้าและเสาลาวาโดยรอบและรอยแยกของมิติก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง พวกเขาต้องไม่ประมาท ทำทุกอย่างด้วยความระมัดระวัง
ทั้ง 4 คนค่อยๆ เดินหายไปเข้าไปในสายหมอก...
....
หลังจากนั้นผ่านไป 1 วัน
ณ อีกด้านหนึ่งของอาณาเขตสายหมอก
ชายป่าใกล้อาณาเขตสายหมอก
มีกลุ่มราชัน 5 คน ปรากฏตัวขึ้นที่นั้นพวกตรวจสอบสถานการณ์ในอาณาเขตสายหมอก
"พี่กวง ดูเหมือนที่นี้จะไม่มีอะไรนะ"
ในทีม ชายหนุ่มที่มีกองทัพแมลงอยุ่ด้านหลังพูดขึ้น
"แมร่งไม่มีอะไรเลย! ฉันมาเสียเที่ยวงั้นหรอ ฉันคิดว่ามันจะมีสมบัติอยู่ซะอีก!"
ชายหนุ่มคนี้ เขาเป็นที่รู้จักกันในชื่อ พี่กวง ดูเหมือนจะอยู่ในช่วงอายุ 30 ท่าทางเหมือนนักเลง มีทหารเผ่าสัตว์ร้ายอยู่ข้างๆเขา
เหตุผลที่พวกเขามาที่นี้เพราะพวกเขาเห็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างกระทันหันของท้องฟ้า และทันใดนั้นก็มีสายหมอกปรากฏขึ้น พวกเขามาที่นี้เพราะคิดว่ามีสมบัติถือกำเนิดขึ้น
ท้ายที่สุด เขาไม่ได้คาดคิดว่าจะไม่พบสิ่งใดเลย แต่กลับสูญเสียกองกำลังทหารไปถึง 2 3 ตัว หลังจากที่เขาเข้าไปสำรวจในสายหมอกไม่ถึงครึ่งนาที
"หมอกที่นี้ค่อนข้างลึกลับ มันสามารถสังหารทหารระดับ 5 ได้ในเวลาเพียงไม่นาน พี่กวง ผมว่าพวกเราควรจะถอยกันก่อน?"
ชายหนุ่มอีกพูดขึ้นด้วยท่าทีหวาดกลัว
การปรากฏขึ้นของสายหมอกนี้แปลกมาก แม้แต่กองกำลังระดับ 5 ยังไม่สามารถที่จะต้านทานมันได้ อย่างนี้ คงมีแต่ผีเท่านั้นที่รู้ว่าอะไรอยู่ข้างใน
พี่กวง รู้ว่าไม่ควรแช่อยู่ที่นี้นานนัก ดังนั้นเขาจึงมองไปสายหมอกเป็นครั้งสุดท้ายด้วยสีหน้าบูดบึ้ง ตัดสินใจถอยกลับ
"พี่กวง ดูนั้น ดูเหมือนจะมีคนอยู่ตรงนั้น!"
ในขณะนั้น ก็มีเสียงอุทานดังออกมาจากด้านข้าง
พี่กวงและกลุ่มของเขา มองเข้าไปพร้อมเพรียงกัน
ชาย 3 คน และ หญิง 1 คนปรากฏตัวขึ้นที่ขอบของอาณาเขตสายหมอกพร้อมกับกองกำลังทหารเพียงไม่กี่ตัว สภาพพวกเขาดูย่ำแย่มีบาดแผลมากมายตามร่างกาย
ทันทีที่พวกเขาเห็นคนเหล่านั้น ดวงตาของพี่ดวงก็สว่างขึ้นทันที
"ฮ่าๆ ไม่คิดเลยว่าที่นี้จะมีคนอื่นอยู่อีก ดูเหมือนว่าทหารของพวกใกล้จะตายกันหมดแล้ว ไปกันเถอะ! ไปปล้นทรัพยากรของพวกมันกัน!"
ในตอนนั้น ความสนใจของพวกจดจ่ออยู่ที่สายหมอก พวกเขาไม่ได้คิดว่า ชาย 3 คนและ หญิง 1 คนปรากฏตัวขึ้นที่นั่นได้อย่างไร พวกเขาแค่คิดว่าคนพวกนี้ก็เหมือนกับเขา พึ่งมาถึงที่นี้หลังจากผ่านการต่อสู้ครั้งใหญ่มา
เมื่อเห็นอีกฝ่ายอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ กลุ่มของพี่กวงก็แสดงความมุ่งร่ายออกมา พวกมันค่อยๆล้อมรอบพวกเขาด้วยกองกำลัง จำนวนหลายสิบคน ค่อยๆแสดงรอยยิ้มที่โหดเหี้ยมออกมาบนใบหน้า
ในตอนนั้นเอง
หลิน ยู และพวกที่เพิ่งออกมาจากสายหมอก มองเห็น พี่กวงและคนอื่นๆ กำลังพวกมาใกล้ การแสดงออกของเขาเต็มไปด้วยจิตสังหาร
"ดูเหมือนพวกเขาทั้งหมดจะอยู่ระดับ 5 นะ จะจัดการยังไงดี"
หยาน หวู่ ถามขึ้น
"ทำให้มันเงียบซะ!" การแสดงออกของ หลิน ยู กลายเป็นเย็นชา
แม้พวกเขาจะเพิ่งผ่านอาณาเขตสายหมอก สภาพของพวกเขาเหมือนกับพึ่งผ่านความตายมา
แต่พวกเขาก็ไม่ใช่สิ่งที่ราชันระดับ 5 เพียงไม่กี่คนจะมากลั่นแกล้งได้
ยิ่งไปกว่านั้น ไม่ควรมีใครรู้ว่าเขาข้ามมาจากภูมิภาคอื่น!
เนื่องจากคนพวกนี้ต้องการที่ปล้นพวกเขา เขาจึงไม่มีความเห็นอกเห็นใจเลยแม้แต่น้อย
เมื่อเขาเหลือบไปมอง พวกเขาก็ออกคำสั่งไปยังทหารระดับ 6 ที่เหลือเพียงไม่กี่ตัวรอบๆตัวพวกเขาทันที
ทันใดนั้น ก็มีแสงศักดิ์สิทธิ์สาดส่องลงมา เถาวัลย์เลือดพุ่งออกไป ปิศาจระดับ 6 2 ตัว กับทหารธาตุดินระดับ 6 2 ตัวก็พุ่งเข้าหาพี่กวงและพวกของเขา
"หือ? มันกล้าดียังไงมาโจมตีพวกเราก่อนกัน? เอาเลยพี่น้องทั้งหลายไปกำจัดพวกมันอย่างให้เหลือ!!"
มันบ้าจริงๆ
ด้วยเสียงตะโกนที่ดังลั่น กองกำลังทหารทั้งหลาย 10 ตัวได้ล้อมรอบ หลิน ยู และพวกทันที
อย่างไรก็ตามใน วินาทีต่อมา สิ่งที่พวกเขาหวาดกลัวก็ได้เกิดขึ้น
เขาเห็นว่าปิศาจทั้ง 2 ตัวได้ควบม้ามายา พุ่งเข้ากระแทกกับกองกำลังของพวกเขา
"ตูมมมม!!"
แสงสีดำระเบิดออกทำให้พื้นดินสั่นสะเทือน ด้วยความรุนแรงของมัน ทำให้กองทหารระดับ 5 มากกว่า 1 โลตายในทันที
มันยังไม่จบเพียงเท่านี้
หลังจากที่ปิศาจเริ่มโจมตี ธาตุดินอีก 2 ตัวก็ยกแขนของมันขึ้นมา และทุบลงพื้นด้วยกำลังที่ยากจะต้านทาน
"บรึ้มมมม!!"
พื้นดินบริเวณนั้นแตกเป็นเสี่ยงๆ กองกำลังของพวกพี่กวงมากว่า 10 ตัวที่พุ่งเข้ามาถูกบดขยี้ตายในทันที
ในตอนนั้นเอง มีแสงสว่างพุ่งลงมาอากาศ เป็นลูกธนูศักดิ์สิทธิ์ได้พุ่งทะลวงร่างกายของทหารเหล่านั้น มันสังหารพวกเขาก่อนจะทันได้ส่งเสียงร้องด้วยซ้ำ
พี่กวงและคนอื่นๆจ้องมองด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง เฝ้ามองดูกองกำลังทหารของตัวเองที่กำลังถูกสังหารอย่างต่อเนื่องด้วยการโจมตีอันทรงพลัง ด้วยดวงตาของพวกเขา
จากนั้นพี่กวงดูเหมือนจะคิดอะไรขึ้นมาได้บางอย่าง หัวใจของเขาก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัวทันที
"ไม่ใช่! พวกนี้มันไม่ใช่ระดับ 5 แต่เป็นระดับ 6! นี้มันทหารระดับ 6 ทั้งหมดเลยย! รีบหนี!!!"
ระดับ 6
ทั้งหมดนั้นเป็นกองกำลังระดับ 6!
เป็นไปได้ยังไงกัน
ตัวตนที่น่าสะพรึงกลัวเช่นนี้มาปรากฏตัวที่นี้ได้ยังไง
พวกเขามีถึง 4 คน
ไม่จำเป็นต้องคิดมากพวกเขาวิ่งหนีเข้าไปในป่าอย่างรวดเร็ว
สหายของเขารอบตัวถูกปลุกให้ตื่นขึ้นด้วยเสียงร้องของเขา พวกเขาต่างพากันหนีตายด้วยความตื่นตระหนก ไม่สนใจกองกำลังของตัวเองแม้แต่น้อย
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่พวกเขาคาดไม่ถึงก็คือมีเถาวัลย์หลายสายปรากฏขึ้นที่เท้าของพวกเขา หลังจากที่วิ่งออกไปได้เพียงไม่นาน มันพันรอบเท้าพวกเขา ร่างที่กำลังหลบหนีถููกลากลงพื้นและถูกเถาวัลย์ลากกลับมา
"ไม่!! ฉันยังไม่อยากตาย! ได้โปรด! ยกโทษให้ฉันด้วย!"
"ไม่!!"
เสียงร้องขอความเมตตาหยุดลงทันที
พวกเขาทั้ง 4 ถูกแทงทะลุหน้าอกด้วยหนามไม้ที่หลิง ซี เสกออกมา เลือดไหลนองทั่วพื้น
พวกเขาทั้งหมดร้องคร่ำครวญและสิ้นใจตายไปพร้อมกับกองกำลังที่เหลืออยู่
การต่อสู้ที่ไม่เท่าเทียมถูกแก้ไขอย่างง่ายดาย
หลิน ยู มองไปรอบๆ และตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่ได้พลาดอะไรไป ก่อนจะพูดว่า "ดูเหมือนว่าพวกเราจะถึงอีกภูมิภาคได้สำเร็จ!"
"เยี่ยม ในที่สุดฉันก็มาถึง ฮ่าๆ" หยาน หวู่ หายใจเข้าลึกๆด้วยเสียงที่สั่นคลอนของเขา
เพื่อที่จะผ่านอาณาเขตสายหมอกมาได้ พวกเขาได้ตกอยู่ในอันตรายต้องวางแผนกันตั้งมากมาย
ตอนนี้เขาสามารถผ่าการปิดล้อมของภูมิภาคเดิมมาได้แล้ว มันคงเป็นจะเป็นเรื่องโกหกถ้าจะบอกว่าเขาไม่ตื่นเต้น
ในตอนนี้ กองกำลังที่อยู่รอบตัวเขาเหลือน้อยเต็มที
ยกเว้น หลิน ยู ที่มี หลิง ซี กับ นางพญาปิศาจโลหิต 2 ตัว และมังกรปิศาจพฤกษา ส่วนอีก 3 คนนั้นเหลือทหารระดับ 6 เพียงคนละ 2 ตัวนี้เป็นเรื่องที่น่าอนาจจริงๆ
"ฉันไม่รู้ว่าภูมิภาคนี้จะถูกปิดกั้นไว้หรือเปล่า"
ขณะนั้นเอง หยิน เทียนเก่อ พูดด้วยสีหน้าที่เคร่งขรีม
ทันทีคำพูดนั้นออกมา หลิน ยู และคนอื่นๆก็พลันเปลี่ยนสีหน้าของเขา จากบรรยากาศที่เริ่มจะผ่อนคลายกลับมาตึงเคลียดอีกครั้ง