ตอนที่ 28 พลังที่ทำลายทุกสิ่งและร่างดาบราชันย์
แม้ว่าลู่หยานรันจะปลุกพลังของร่างดาบหยกแล้วแต่เธอก็ยังรู้สึกกดดันจากพลังบางอย่างที่ไม่อาจต้านทานได้
"นี่มัน!"
เมื่อได้เห็นสิ่งนี้ยื่อซวนก็พูดเบาๆออกมาก่อนที่เขาจะเอื้อมมือออกไปและคว้าพลังนั้นมาเบาๆ
ทันใดนั้นพลังมหาศาลที่พุ่งออกมาก็หายไปทันที
"พลังมหาศาลนี่มันอะไรกัน?" เมื่อได้เห็นฉากนี้สายตาของยื่อซวนก็แคบลง
หากเขาลังเลในตอนนี้พลังที่อยู่ตรงหน้าเขาจะทําให้ที่พักที่เขากำลังอาศัยอยู่นี้พังทลายในทันที!
ร่างดาบราชันย์ : พลังร่างกายอันศักดิ์สิทธิ์ของดาบที่มีพลังมากที่สุด มันมีพลังที่จะทําลายทุกอย่าง เมื่อร่างกายนี้ไปถึงระดับที่สมบูรณ์แบบมันสามารถทําลายทุกอย่างที่ขวางหน้าผู้ครอบครองร่างนี้ได้
"ท่านอาจารย์นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?" สายตาของลู่หยานรันจ้องไปที่ยื่อซวน ซึ่วแววตาของเธอนั้นเต็มไปด้วยความตกใจ
หากการสังเกตุของเธอนั้นถูกต้อง ดูเหมือนว่าอาจารย์ของเธอนั้นจะแข็งแกร่งขึ้น
สิ่งสําคัญที่สุดคือพลังของร่างดาบหยกในร่างกายของเธอนั้นยังไม่สามารถเทียบได้!
เป็นไปได้ไหมว่าอาจารย์ของเธอได้ปลุกพลังร่างกายที่ทรงพลังได้ด้วยเช่นกัน?
"ข้าช่วยเจ้าปลุกพลังของร่างดาบหยกในตอนนี้และนี่คือผลข้างเคียงของมัน!" ยื่อซวนได้พูดแก้ตัวออกไป
เขาเข้าใจพลังของร่างดาบนั้นได้อย่างถ่องแท้ นี่ไม่ใช่เพราะความสามารถของเขาเอง แต่เป็นพลังของร่างดาบราชันย์
ร่างดาบราชันย์ที่เขาได้รับจากระบบนั้นมันสูงเกินไปมากจนทําให้เขาเข้าใจพลังของดาบทั้งสองระดับได้ทันที
เจตจำนงดาบนั้นเป็นความเข้าใจที่พัฒนาขึ้นหลังจากทำความเข้าใจในเส้นทางของดาบสวรรค์ได้ ยิ่งกว่านั้นเจตจำนงของดาบนั้นยังเกินขอบเขตของพลังทางจิตวิญญาณธรรมดาและเกี่ยวข้องกับอํานาจของพลังด้วย
แน่นอนว่านอกจากดาบพลังฉีที่เปลี่ยนสภาพเป็นเจตจำนงดาบแล้ว ยังมีความเข้าใจที่คล้ายกันอีกมากมายในโลกนี้ เช่น เจตจำนงดาบและเจตจำนงหมัด...
แต่ไม่ว่าจะเป็นความเข้าใจแบบไหนก็ตามมันจะเพิ่มความแข็งแกร่งของผู้ฝึกตนได้อย่างมาก ในขณะเดียวกันความเข้าใจที่สูงจนเกินกว่าความเข้าใจนี้ มีเพียงผู้ฝึกตนที่มีความสามารถสูงมากเท่านั้นที่จะทำความเข้าใจความเข้าใจนั้นได้
ยิ่งอยู่ในระดับที่ต่ำ ค่ากระดูกของผู้ฝึกตนนั้นจะเพิ่มเร็วขึ้นยิ่งซึ่งจะส่งผลให้ความแข็งแรงของคนๆนั้นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยเช่นกัน
และเมื่อระดับของผู้ฝึกตนมาถึงระดับหนึ่งมันจะก็เปลี่ยนไปเป็นค่าความเข้าใจของผู้ฝึกตนคนนั้น
คนที่มีค่าความเข้าใจสูงจะมีโอกาสสูงมากที่จะเข้าใจความเข้าใจในเรื่องต่างได้อย่างง่ายดาย และเมื่อพวกเขาสามารถเรียนรู้ความเข้าใจนั้นได้ความแข็งแกร่งของผู้ฝึกตนคนนั้นจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก
หรือก็คือจุดเริ่มต้นของผู้ฝึกตนนั้นถูกกําหนดโดยค่ากระดูกของพวกเขา แต่จุดสิ้นสุดของผู้ฝึกตนนั้นจะถูกกําหนดโดยค่าความเข้าใจของพวกเขา
ความเข้าใจนี้ยังได้แบ่งออกเป็นเก้าระดับ เมื่อความเข้าใจถึงระดับที่เก้าก็เป็นไปได้ที่จะเข้าใจถึงพลังในตํานานได้
แน่นอนว่ายื่อซวนเพิ่งเข้าใจได้เพียงเจตจำนงดาบเท่านั้น พลังในตำนานนั้นยังคงเป็นความฝันที่ห่างไกลสําหรับเขา
แม้ว่าเขาเข้าใจเจตจำนงของดาบเพียงสองระดับ แต่ความแข็งแกร่งของเขาได้เพิ่มถึงระดับที่น่ากลัวแล้ว มันเพียงพอที่จะทำให้เขาจินตนาการว่าพลังในตำนานนั้นจะทรงพลังเพียงใด
อย่างไรก็ตามหลังจากปลุกพลังร่างดาบราชันย์ได้แล้ว ไม่เพียงแค่ยื่อซวนจะมีเจตจำนงดาบสองระดับเท่านั้นระดับของเขายังได้ทะลุผ่านไปสู่แก่นหลังแท้จริงอีกด้วย!
และในตอนนี้เขาอยู่ในขั้นต้นของแก่นหลักทองคำแล้ว!
ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาของราชวงศ์เฉียนอันยิ่งใหญ่ผู้ฝึกตนที่ระดับของพวกเขามาถึงแก่นหลักทองคํานั้นล้วนเป็นคนที่ทรงพลังทั้งสิ้น!
จํานวนผู้ฝึกตนเหล่านี้สามารถนับได้เพียงแค่มือข้างเดียวเท่านั้น!
ความแข็งแกร่งของผู้ฝึกตนแก่นหลักทองคําในขั้นต้นนั้นนอกเหนือจาก "วิชาดาบอัสนีป้องกัน" (ระดับปัฐพีขั้นต่ำ) ดาบวิญญาเยือกแข็งเ (อาวุธเวทย์มนตร์ระดับต่ำ) ร่างดาบราชันย์และเจตจำนงดาบสองระดับ..."
ยื่อซวนสามารถจัดการกับผู้ฝึกตนในระดับแก่นหลักทองคำขั้นกลางได้ และแม้ว่าเขาจะต้องเผชิญหน้ากับผู้ฝึกตนที่แข็งแกร่งในระดับแก่นหลักทองคำขั้นสูงเขาก็ยังพอจะสู้ไหวเช่นกัน!
อาจจะเรียกได้ว่าวันนี้เป็นวันที่ดีวันหนึ่ง เพราะความแข็งแกร่งของทั้งอาจารย์และลูกศิษย์นั้นได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก
เมื่อฮวงหลิงและซื่อหมินรีบกลับไปที่ที่พักของพวกเขา พวกเธอก็ตกตะลึงทันทีเมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงของคนสองคน
"นี่มัน...ทำไมถึงได้งดงานขนาดนี้!"
เมื่อสายตาของพวกเธอจ้องไปที่ลู่หยานรันปากของพวกเธอก็อ้าออกมาทันที สายตาของพวกเธอนั้นเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
แม้ว่าใบหน้าของลู่หยานรันไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ แต่ความงามของเธอนั้นเพิ่มขึ้นอย่างมาก
สิ่งสําคัญที่สุดคือรูปร่างของลู่หยานรันนั้นตอนนี้คล้ายกับนางฟ้าจากสวรรค์!
นอกจากนั้นออร่าของลู่หยานรันก็สูงขึ้นด้วยราวกับว่าดาบศักดิ์สิทธิ์ในร่างของเธอกำลังจะพุ่งออกมา ออร่าอันทรงพลังของพลังทางจิตวิญญาณที่พุ่งออกนั้นสามารถบ่งบอกได้ว่าเธอได้ก้าวเข้าสู่ระดับแก่นแท้จริงแล้ว!
แน่นอนว่ายังมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในร่างกายของยื่อซวนด้วย!
ยื่อซวนซึ่งมีพลังมากอยู่แล้วในสายตาของหวงหลิงและซื่อหมิน กลายเป็นคนที่ทรงพลังขึ้นราวกับพลังของเขานั้นเพิ่มขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
แม้ว่าเขาจะทำเพียงแค่นั่งอยู่เท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าจะมีพลังมหาศาลบางอย่างที่พร้อมจะพุ่งออกมา!
"อะไรกัน...นี่เกิดอะไรขึ้นกัน?"
ทั้งสองคนมองหน้ากันด้วยความสงสัย
พวกเธอหายไปเพียง 15 นาทีนับตั้งแต่พวกเธอกลับมาจากการรวบรวมข้อมูล ทําไมพวกเธอถึงรู้สึกว่ามีการเปลี่ยนแปลงที่มากมายเกิดขึ้นกับสองคนนี้ได้?
"ได้เรื่องว่ายังไงบ้าง? และผู้หญิงคนนั้นเป็นใครกัน?"
ยื่อซวนมองไปที่หวงหลิงและซื่อหมินแล้วถามอย่างช้าๆ ในขณะเดียวกันออร่าพลังนั้นก็ค่อยๆสลายไป
การแสดงออกของหวงหลิงและซื่อหมินผ่อนคลายมากขึ้น พวกเธอออกจากภวังค์ของพวกเธอและบอกเขาอย่างรวดเร็วเกี่ยวกับข้อมูลที่พวกเธอได้รวบรวมมา
"ตระกูลหลี่แห่งเมืองเจียงชิงงั้นหรือ?"
เมื่อได้ยินแบบนี้ยื่อซวนก็อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วขึ้น
ดูเหมือนว่าหลังจากที่เขาช่วยลู่หยานรันแก้แค้นแล้วเขาจะต้องไปที่เมืองเจียงชิง
ผู้ฝึกตนที่มีร่างวิญญาณคู่ตั้งแต่เกิดนั้นหาได้ยากมาก หากบุคลิกของอีกฝ่ายนั้นดี ยื่อซวนก็จะทำให้เธอเข้ามาเป็นลูกศิษย์เพิ่มขึ้นอีกคน
"หวงหลิงและซื่อหมิน ถ้าเจ้าสองคนไม่มีอะไรทําเจ้าช่วยพาลู่หยานรันไปฝึกวิชาดาบที แน่นอนว่าข้ามีรางวัลให้พวกเจ้าด้วย"
เช่นเดียวกับที่ทั้งสองกําลังจะจากไปหลังจากรายงานข้อมูลของพวกเธอ ยื่อซวนก็หยุดสองสาวเอาไว้
แม้ว่าระดับของลู่หยานรันนั้นจะสูง แต่เธอก็ไม่มีประสบการณ์การต่อสู้จริงมากนัก หากเธอไม่ผ่านการฝึกฝนเธอจะไม่สามารถปลดปล่อยพลังของเธอได้อย่างเต็มที่
"ได้ค่ะท่านปรมาจารย์" เมื่อได้ยินแบบนี้ทั้งสองสาวก็ตกลงโดยไม่ลังเล
เรื่องการฝึกดาบสำหรับพวกเธอนั้นเป็นเรื่องที่ง่ายมาก
ทั้งสองคนมักจะออกไปฝึกด้วยกันอยู่แล้วดังนั้นพวกเธอจึงมีประสบการณ์การต่อสู้มากมาย แม้ว่าพวกเธอจะสังเกตเห็นว่าลู่หยานรันไปถึงระดับแก่นแท้จริงแล้ว แต่พวกเธอก็ไม่สนใจเรื่องนี้มากนัก
ไม่ว่าพวกเธอจะคิดอย่างไรข้อตกลงนี้ก็คุ้มค่าอย่างมาก!