ตอนที่ 1203 ซื่อเสิน ข้าชื่อซื่อเสิน!
บุรุษลึกลับเป็นคนลักเอานาฬิกาวิเศษหนึ่งในหกของวิเศษหมู่บ้านฝังดาบไปเย่ว์หยางตะโกนร้องตกใจ
เจอสมบัติวิเศษชิ้นนี้ตอนนี้ไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน
เทียบกับของวิเศษชิ้นที่สามกระจกเงาก่อนหน้านี้มีความดีอยู่ด้านหน้าความไม่ดีอยู่ที่ด้านหลังเท่านั้น โดยเฉพาะเสียงโบราณที่ทำให้สั่นสะท้านมันเป็นของที่ไม่สามารถยับยั้งได้ นาฬิกาวิเศษชั้นเทพนี้จะทำลายได้อย่างไร?
เด็กหนุ่มจากโลกอื่นพอไม่มีสาวหิมะอยู่ด้วยคอยให้ความช่วยเหลือเขารู้สึกกังวล
ในที่สุดแล้วจะเป็นอย่างไร? จะจบลงอย่างไร?
ขณะนั้นบุรุษลึกลับหัวเราะย่ามใจ
ซื่อเสิน
เทพบูรพาจู่ๆ ก็ลุกขึ้นยืนทันที
บุรุษลึกลับเมื่ออยู่ในร่างที่บริบูรณ์แล้วไม่ใส่ใจแม้แต่จะมองเขา ในสายตาของบุรุษลึกลับในตอนนี้ ในตอนแรกเขาสามารถระเบิดพลังจนซื่อเสินปลิวกระเด็นได้เมื่ออยู่ต่อหน้าร่างสุดท้ายของเขา ไม่ว่าจะทำอะไร ก็ใช้เวลาไม่เกินวินาที
ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นเทพอะไร ก็ไม่มีคุณสมบัติพอเป็นคู่ต่อสู้ของเขา
คนลึกลับไม่สนใจซื่อเสิน
ตาของเขาเพียงมองแต่ตั่วตั่วเจี้ยงอิงและเสี่ยวเหวินหลีที่อยู่ข้างหน้าเขาแม้แต่เย่ว์หยางเขาก็มองเป็นครั้งคราว ยอมรับความมีอยู่ของเด็กหนุ่มข้ามโลก
ซื่อเสินยกกระบี่วิถีกำศรวล ... คนลึกลับกระตุกริมฝีปากเล็กน้อยเยาะเย้ยแต่ไม่พูดอะไร เจ้าคนน่าสมเพชจะโจมตีเขาแม้แต่ปลายเส้นผมได้อย่างไร? ในทางตรงกันข้ามตราบใดที่ข้าหายใจรดแรงๆ พวกเจ้าเหล่าแมลงเล็กจะต้องปลิวขึ้นไปยังสวรรค์เก้าชั้นฟ้า! สำหรับความเคลื่อนไหวของซื่อเสิน บุรุษลึกลับไม่ห้ามเขาแม้แต่น้อยการกระทำของซื่อเสินมีแต่จะทำให้เขามองดูด้วยทัศนคติเยาะเย้ยอย่างเดียว
เขาเตรียมพร้อมเมื่อซื่อเสินโจมตีเต็มกำลังที่สุดเขาจะใช้เพียงนิ้วมือเดียวโค่นล้มคนผู้นี้ผู้ที่เรียกว่าเทพบูรพาให้ล้มตายเหมือนกับมด
กระบี่วิถีกำศรวลสั่นสะท้านเล็กน้อย
มันส่งเสียงครางหึ่งๆ ไม่หยุด
วินาทีต่อมาซื่อเสินแทงกระบี่ใส่หัวใจเขาทันที
ความเคลื่อนไหวที่ไม่ธรรมดานี้ทำให้เย่ว์หยางตกใจ บุรุษลึกลับรู้สึกเหลือเชื่อเช่นกันซื่อเสินผู้นี้คิดฆ่าตัวตายจริงๆ หรือ? ทำไมด้วยเงื่อนไขที่ดีอยู่แล้ว ทำไมเขาต้องฆ่าตัวตาย
“ดื่ม”กระบี่เทพถูกดึงออกมาและกระบี่ยังอาบเลือดอยู่พร้อมทั้งหัวใจที่ยังเต้นอยู่ถูกควักออกมา
ด้วยหัวใจกับเลือดของเขาเขาวาดอักขระรูนประหลาดในท้องฟ้า
และถ่ายทอดพลังเทพทั้งหมดลงไปในนั้น
เย่ว์หยางยื่นมือออก
และวิ่งมาหาเขาตะโกนอย่างตื่นเต้น “ไม่, ข้าไม่ต้องการให้ท่านทำอย่างนี้!”
ทันใดนั้นสีหน้าที่เยือกเย็นของซื่อเสินมีรอยยิ้มที่ยากจะเห็นเหมือนธารน้ำแข็งหมื่นปีในขณะที่เย่ว์หยางวิ่งเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง เขาทำลายหัวใจเทพรัศมีเทพฉายออกทันที “ในที่สุดวันนี้ข้าก็เข้าใจถึงความเสียสละของเทพมหาอัคคีและเทพสุดยะเยือก แม้ว่าซื่อเสินไม่อาจจะเทียบกับพวกท่านเอาชนะศัตรูได้แต่ข้าสามารถผนึกสมบัติเทพด้วยขีดจำกัดพลังและโลหิตที่ไร้ที่สิ้นสุดอย่าแม้แต่จะเข้ามาในโลกนี้! ข้าซื่อเสินไม่ใช่คนอ่อนแอที่ดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอด อย่างน้อย ก็มีความเข้มแข็งที่จะเอาชนะได้นั่นคือเกียรติยศของข้า แม้ว่าข้าจะต้องตายในวันนี้แต่ก็ไม่มีความเสียใจ โลกจะไม่สูญเสียความรุ่งเรืองเพราะความสูญเสียข้ามีแต่จะเพิ่มพูนความฉลาดขึ้นเพราะความมีอยู่ของข้า เพราะผู้ฆ่าเทพคือชื่อของข้าซื่อเสิน!”
เมื่อเย่ว์หยางมาถึงข้างหน้าเขา เขาต้องการยื่นมือกอดบุรุษผู้ไม่เคยยอมแพ้ศัตรูไม่ยอมพ่ายแพ้ต่อชะตากรรมผู้นี้
ซื่อเสินร่างสลายกลายเป็นผุยผงกระจายไปตามสายลม
พลังเทพและศักยภาพทั้งหมด
ปณิธาน วิญญาณ
ทุกอย่างไหลเข้าไปในภาพผังอักขระรูน
กระบี่วิถีกำศรวลส่งเสียงหวีดหวิวส่งพลังแสงเทพไปที่ภาพผังอักขระรูนบรรจุเต็มไปด้วยพลังเทพของซื่อเสินทั้งหมดในนาฬิกาเทพต่อหน้าบุรุษลึกลับ
แสงเทพนั้นไม่มีอะไรขัดขวางได้แม้ว่าบุรุษลึกลับจะเปลี่ยนพลังโล่เทพป้องกันได้ก็เปล่าประโยชน์ด้วยผังภูมิอักขระรูนได้ประทับลงที่ผนังนาฬิกาเทพเนื่องจากความปรารถนาของซื่อเสิน นาฬิกาเทพเดิมทีเปล่งปมแสง จู่ๆก็เป็นหนึ่งในนั้น เสียงโบราณแต่เดิมในใจของทุกคนอ่อนแอลงและไม่สามารถส่งเสียงได้อีกต่อไป
“มะ..ไม่” เย่ว์หยางยื่นมือปัดอากาศที่ว่างเปล่า
ไม่มีความหวังแล้ว
แลกเปลี่ยนชัยชนะให้ผู้อื่นเพื่อชัยชนะของเขาเอง
ต่อให้ซื่อเสินเสียสละโดยความสมัครใจแต่ก็สร้างความกระทบกระเทือนใจต่อเด็กหนุ่มข้ามโลกเป็นอย่างมาก
เย่ว์หยางไม่ได้พูด แต่ในใจของเขาเย่ว์หยางมีความหยิ่งทระนงยิ่งกว่าใครๆ เขาไม่ต้องพึ่งพาอาศัยคนอื่นเขาดิ้นรนด้วยตนเองเสมอมา ไม่ว่าจะต้องใช้ความพยายามมากเพียงไหนเขาไม่ยินดีก้าวหน้าโดยใช้ชีวิตของคนอื่น องค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและเย่ว์หวี่ผู้มาพร้อมกับเขาองค์หญิงเชี่ยนเชี่ยนและเย่ว์หวี่นั้นต่างออกไป พวกนางตั้งใจจะอยู่กับเขาตลอดชีวิตถ้าพวกนางยอมให้ช่วยเขาจะไม่รู้สึกละอายหรือว่าเป็นการทำร้ายความภาคภูมิใจของพวกนางแต่อย่างใด เนื่องจากพวกนางคือเป้าหมายในการปกป้องชีวิตของพวกเขา พวกเขาไม่สามารถแยกจากกันได้แม้จะด้วยสถานะภายนอก.... ถึงอย่างนั้นเย่ว์หยางมักจะรับต่อสู้ในส่วนที่ยากที่สุดในการรบอยู่เสมอ!
เมื่อครู่นี้ซื่อเสินยอมเสียสละด้วยจิตวิญญาณและน้ำใจระอุกรุ่นเพื่อเขา เขาใช้พลังเทพผนึกนาฬิกาเทพสมบัติวิเศษชิ้นที่ห้าให้กับเขา เย่ว์หยางรู้สึกว่าความรู้สึกที่น่าภูมิใจส่วนลึกของเขาแตกเป็นเสี่ยงเขาสัมผัสได้ถึงความอัปยศที่ไม่เคยมีมาก่อนความหยิ่งภูมิใจของเขาปั่นป่วนอยู่ในใจบีบคั้นจนแทบหายใจไม่ออก นั่นทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดจนอธิบายไม่ออก
เพราะเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอย่างกะทันหันเย่ว์หยางไม่ต้องการจะยอมรับความจริง
ซื่อเสินพันธมิตรผู้มีเกียรติต้องมาตายแบบนี้
สลายหายไปกับสายลม
ถ้าพูดถึงมิตรภาพเทพซื่อเสินไม่ได้เป็นสหายกับเย่ว์หยางอย่างจริงจังนักทั้งสองเพิ่งพบกันในสงครามเทพเท่านั้น เว้นแต่พวกเขาร่วมผนึกพลังต่อต้านศัตรูด้วยกัน อย่างไรก็ตามในแง่มุมหนึ่งซื่อเสินและเย่ว์หยางนั้นมีสัมพันธ์ลึกซึ้งไม่ธรรมดา และความสัมพันธ์นี้ไม่ชัดเจนเพราะทั้งคู่เป็นคนจากเชื้อชาติเผ่าตะวันออกยังมีความคลุมเครือในเรื่องชาติพันธุ์ แต่มีความรู้สึกเหมือนกับเป็นพี่น้อง!
กระบี่วิถีกำศรวลหล่นลงในมือเย่ว์หยางยังคงส่งเสียงคร่ำครวญ
ซื่อเสินหลังจากตายแล้วเขาได้มอบกระบี่เทพที่เขารักเป็นสหายศึกร่วมต่อสู้มาด้วยกันเป็นพันปีเขาเชื่อใจเย่ว์หยางหนุ่มแปลกหน้าที่เขาไม่เคยพบมาก่อนและมีความรู้สึกเหมือนเป็นพี่น้องครอบครัวเดียวตั้งแต่แรกเห็น!
เขาเชื่อใจน้องชายผู้นี้
เพื่อชัยชนะ
เขายินดีสละชีวิตให้
ขณะที่บุรุษลึกลับหัวเราะอย่างย่ามใจที่สุดซื่อเสินทำตัวเหมือนพี่ใหญ่ปกป้องน้องชายเขายืดอกใช้ชีวิตในฐานะผู้นำวิญญาณเป็นตราผนึกนาฬิกาเทพสมบัติวิเศษชิ้นที่ห้า เย่ว์หยางไม่ต้องการให้เขาทำเช่นนี้แต่ซื่อเสินกลับทำโดยไม่ลังเลใจคนที่มีสีหน้าเย็นชากลับมีเลือดร้อนอยู่ในระดับแนวหน้าของโลก
เลือดระอุของเขาทำลายความเยือกเย็นและเหตุผลที่เย่ว์หยางใช้คุ้มครองตัวเอง
เย่ว์หยางมือถือกระบี่วิถีกำศรวลแน่นเขาผู้ไม่ยอมหลั่งน้ำตาให้เห็นหลับตาแน่น
หยดน้ำใสเป็นประกายหยดลงบนกระบี่วิถีกำศรวลช้าๆ
ซื่อเสิน!
ข้าชื่อซื่อเสิน
นี่คือคำพูดสุดท้ายที่ซื่อเสินทิ้งไว้ในโลกและสร้างความเจ็บปวดใจให้กับเด็กหนุ่มจากโลกอื่น
สายเกินไปสำหรับบุรุษผู้หยิ่งทระนงที่จะได้ดื่มฉลองร่วมกับเขา เขาได้แต่ดูซื่อเสินหายไปอย่างรวดเร็วเขาเพียงแต่เอาชนะตนเอง มือกระบี่ผู้หยิ่งทระนงถือกระบี่เทพโบราณกวาดไปทั่วโลกและสวรรค์ทิ้งไว้เพียงชื่อประโยคเดียว ซื่อเสิน ข้าชื่อซื่อเสิน!
“ฮ่าฮ่าฮ่า ถ้าเจ้าคิดว่าแค่ผนึกชิ้นหนึ่งจะทำให้นาฬิกาเทพของข้าไร้ประโยชน์อย่างสมบูรณ์ นับว่าเพ้อเจ้อชัดๆ!” บุรุษลึกลับตกใจในตอนแรก แต่เมื่อเขาพลิกดูนาฬิกาเทพ ปรากฏว่าถูกผนึกไปเพียงครึ่งหนึ่งยังไม่สูญเสียพลังไปอย่างสิ้นเชิง “ข้าอยากจะพูดชื่นชมหรอกนะ บางครั้งมดไม่ว่าจะทำอะไรยิ่งใหญ่เพียงไหนไม่ว่าจะทุ่มเทอย่างไรก็ตาม มีแต่จะสิ้นเปลืองความพยายามเปล่าประโยชน์!”
“เจ้า!” เย่ว์หยางโมโหจัดเตรียมจะเข้าต่อสู้กับบุรุษลึกลับอีกครั้ง
“รอเดี๋ยว” ซวงหานแตกต่างออกไป เขาหลั่งน้ำตาเทพอุดรจ้าวซีผู้มีอารมณ์เยือกเย็นมากกว่าใครลุกขึ้นยืนทันทีในมือถือกระจกวิเศษชั้นเทพพูดด้วยน้ำเสียงชราภาพขุนเขาเหนือขุนเขาไม่มีแค่เทพบูรพาซื่อเสิน แต่ยังมีข้าด้วย ข้าไม่ใช่ซื่อเสินแต่เรื่องการใช้พลังเทพ ข้าจ้าวซีก็ทำได้เช่นกัน”
จ้าวซีใช้มือแทงหัวใจและใช้เลือดย้อมกระจกวิเศษ
เขียนเป็นผังอักขระรูนที่ไม่เหมือนใคร
นอกจากนี้ยังมีความเคลื่อนไหวของชิงหวินที่ใกล้ตายอีกด้วยเทพอีสานผู้นี้ไม่พูดอะไร ก่อนที่จะฝังชีวิตอย่างสมบูรณ์ไว้ในวงเวทอักขระรูนเขาเงยหน้าและยิ้มให้เย่ว์หยางเหมือนกับมองดูสหายเก่าที่มิได้พบเจอกันมานานหลายปีและถือโอกาสยิ้มให้ก่อนลาจาก
ทันใดนั้นบุรุษลึกลับแผดเสียงลั่นทันที
เขาพยายามอย่างหนักที่จะหยุดแต่ผนึกนี่คือผนึกที่สร้างจากชีวิตและวิญญาณที่พลังเทพมิอาจป้องกันหยุดยั้งได้
เขายิงพลังเทพสังหารใส่จ้าวซีตั่วตั่วกับเจี้ยงอิงถอยหลบ
ออกมาห่างจากเป้าหมาย
แม้ว่าร่างจ้าวซีและชิงหวินจะสลายไปกับสายลมทันที และพวกเขาไม่ยอมเห็นพลังเทพได้มีโอกาสทำลายร่างเขา ....ซวงหานล้มลงกับพื้นและร้องไห้เหมือนกับเด็ก
ในทันใดนั้นนาฬิกาเทพถูกผนึกไปสามด้านของวิเศษพลังอ่อนลงไปมากจนถึงขีดจำกัด
ซวงหานไม่พอใจ
เขาปาดน้ำตาสายตาเปลี่ยนเป็นมุ่งมั่นและชี้ไปที่บุรุษลึกลับที่แทบจะกระอักโลหิต “อย่านึกว่าข้าซวงหานเป็นคนที่ใช้ไม่ได้ที่สุดข้าไม่ใช่คนขี้ขลาด! อยากจะใช้นาฬิกาเทพนักหรือ? อยากหัวเราะเยาะที่คนอื่นล้มตายลงใช่ไหม? อย่านึกฝันเลยดีกว่า ข้าจะทับถมความอัปยศอับอายทั้งหมดที่ข้าได้รับไปให้เจ้า! จากนั้นจะหัวเราะอย่างภาคภูมิใจ เจ้ามันคือหนอนที่น่าสมเพชอย่างแท้จริง!”
“ข้าไม่ใช่บุรุษอันดับหนึ่งแห่งขุนเขาเหนือขุนเขาอย่างซื่อเสินไม่ใช่จ้าวซีผู้มองเห็นความจริงโดยไม่มีความสงสัยไม่ได้เหมือนคนเมตตาและจริงใจอย่างชิงหวิน...ข้าคือซวงหานผู้มักหวาดระแวงสามารถทำทุกอย่างได้เพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย เจ้าอาจจะคิดว่าข้าเป็นบ้า แต่เจ้าไม่เข้าใจความต้องการและการแสวงหาของข้า การมาของเจ้าทำให้ข้าหมดหวัง หวาดกลัวเจ็บปวดและอับอาย ตอนนี้ข้าขอคืนทุกอย่างให้เจ้าทั้งหมดต้องการให้เจ้าเข้าใจว่าแม้จะเป็นสิ่งมีชีวิตที่เหมือนมดแมลงแต่ไม่มีอะไรต้องละอาย”
ก่อนที่เย่ว์หยางจะหยุดยั้งเขาไว้โซ่น้ำแข็งนับไม่ถ้วนพุ่งออกมาจากอกของซวงหาน
ยืดยาวขยาย
บุรุษลึกลับต่อยโซ่น้ำแข็งป่นสลายเป็นผุยผงพร้อมกับร่างของซวงหาน
ในช่วงเวลาแห่งการทำลายล้างนั้นเองสีหน้าของซวงหานพลันเปลี่ยนเป็นยิ้มภูมิใจ
นาฬิกาเทพถูกผนึกต่อเนื่องโดยถูกผนึกด้วยผนึกชีวิตทั้งสี่ด้านพลังเทพไม่คงอยู่อีกต่อไปกลายเป็นนาฬิกาโบราณที่ดำเหมือนหมึกสัญญาที่ทำระหว่างบุรุษลึกลึกกับนาฬิกาเทพถูกยกเลิกเช่นกันกัน เขาโกรธแค้นแผดเสียงร้องเหมือนฟ้าคำรามหากสัญญาไม่ถูกยกเลิก สถานะวิญญาณของเขาอาจถูกผนึกเอาไว้ในนาฬิกาเทพ และตอนนี้มีศัตรูแข็งแกร่งอย่างตั่วตั่วเจี้ยงอิง เสี่ยวเหวินหลีและเย่ว์หยางรายล้อม เขาไม่อยากทำเช่นนั้นเลยแต่เมื่อทำลายโซ่น้ำแข็งของซวงหานเป็นผลให้สัญญาของเขาถูกยกเลิก
หมัดนั้นเหมือนเป็นหมัดที่ต่อยใส่หัวใจเขาเองจนเกินจะทนได้
ถ้าไม่ใช่เพราะสะท้อนคืนทุกอย่างไปที่บุรุษลึกลับซวงหานจะหัวเราะด้วยความภาคภูมิใจได้อย่างไร?
“ลาก่อนพี่ชายทั้งหลาย! ข้าสัญญาไว้ว่าจะต้องทวงคืนความเจ็บปวดและอับอายให้กับเจ้าผู้นี้แน่! ข้าจะทำให้เขาต้องทนทุกข์ทรมานสิ้นหวังที่ครั้งหนึ่งเขาเคยนำมาให้พวกท่านแน่นอนข้าจะเอาชนะเจ้าสวะนี่ให้ราบคาบ....” เย่ว์หยางสูดหายใจลึกและหันหน้าไปหาบุรุษลึกลับ “เจ้าทำให้ข้าโกรธอย่างสิ้นเชิงแล้ว อยากจะร้องไห้ไหม? อยากขอความเมตตาไหม? แต่รับรองได้เลยว่ามันจะใช้ไม่ได้ผล เพราะข้าจะเหยียบย่ำเจ้าให้ราบ!”