ตอนที่แล้วตอนที่ 1196 โกรธ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 1198 ฟ้าเบื้องบนโลกเบื้องล่างล้วนนับถือข้า

ตอนที่ 1197 มีผลอย่างเดียว คือตาย


ผลของการต่อสู้เย่ว์หยางถูกทำร้ายลงไปนอนกับพื้น

เขาถูกโจมตีทุบตีไม่ถึงกับเป็นหมื่นครั้ง แต่แค่เก้าพันครั้ง นับแต่สื่อจินโหวเป็นต้นมา เส้นทางการเติบโตของเย่ว์หยางต้องพบเจอกับศัตรูที่แข็งแกร่ง  บ่อยครั้งที่ต้องต่อสู้อย่างยากลำบาก กว่าจะชนะบางทีก็ต้องอาศัยโชคดี  บ่อยครั้งที่ต้องต่อสู้อย่างยากลำบากเด็กหนุ่มจากโลกอื่นไม่อาจฆ่าศัตรูได้ง่าย ร่างกายของเขาหากไม่มีเพลิงอมฤตคอยช่วยชำระรักษาบาดแผลได้อย่างสมบูรณ์คาดว่าบาดแผลของเขาคงพอๆ กับดวงดาวในท้องฟ้า

แน่นอนว่ายิ่งเขาพ่ายแพ้ถูกศัตรูทุบตีลงไปนอนกับพื้นมากเพียงไหนแต่เย่ว์หยางก็จะลุกขึ้นมาได้หลายครั้ง

อย่างไรก็ตาม

มันไม่เคยเป็นแบบนี้

หลังจากเย่ว์หยางถูกตีลงไปนอนกับพื้นเขาไม่สามารถต่อสู้ได้อีกต่อไป!  เขาไม่ได้เป็นลมหมดสติแม้กระทั่งลมหายใจยังนิ่งเงียบ แต่เขาไม่สามารถควบคุมร่างกายตนเองให้ลุกขึ้นยืนสู้ได้อีกต่อไปเท่านั้น! เย่ว์หยางมั่นใจว่าความสามารถหลักที่น่าเกรงขามของบุรุษลึกลับนี้ หรือบางทีเขาอาจถูกขัดขวางโดยประกายเทพของบุคคลลึกลับนี้ในฐานะผู้เข้าถึงระดับเทพ แม้เขาจะใช้สมบัติเทพอื่นมาใช้ครั้งแล้วครั้งเล่าแต่เขาเริ่มเห็นระยะห่างระหว่างตัวเขาและบุรุษลึกลับ

นั่นคือช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างนักรบระดับกึ่งเทพและเทพปราณราชันย์...พลังแบบนี้ไม่สามารถเอาชนะด้วยความตั้งใจอย่างเดียวได้

ขณะเดียวกันนี่คือความแตกต่างกันระหว่างมนุษย์และเทพแท้

บุรุษลึกลับนี้คือนักรบระดับเทพแท้

นอกจากสุดยอดนักสู้ปราณราชันย์แล้วไม่มีมนุษย์คนใดเอาชนะเขาได้ ต่อให้เป็นมนุษย์ใกล้เคียงเทพอย่างเย่ว์หยางก็ไม่ยกเว้น

เมื่อเผชิญหน้ากับกฎสวรรค์,ประกายเทพความคิดเหล่านี้สามารถสร้างโลกและทำลายโลกด้วยพลังทำลายล้างที่น่ากลัว เย่ว์หยางยังสามารถปกป้องตนเองได้ภายใต้พลังกดดันของฝ่ายตรงข้ามได้ปานปาฏิหาริย์

แม้ก่อนที่เย่ว์หยางจะล้มลงกับพื้นเขาจะสร้างปาฏิหาริย์ที่บ้าคลั่งเหลือเชื่อขึ้นมาอีกหนึ่ง

นั่นคือ

ในฐานะมนุษย์

เขาทำร้ายบุรุษผู้มีพลังเทพราชันย์ผู้มีประกายเทพ และกฎสวรรค์ข่มเขาไม่ได้จนเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส

บุรุษลึกลับยืนอยู่กลางอากาศใบหน้าซีกซ้ายไหม้เกรียมเจ็บปวดลึกถึงเบ้าตาเขาใช้นิ้วขุดพลังดับสุริยาที่ฝังอยู่ในแขนออกผิวของเขาถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง บางแห่งก็มองเห็นกระดูก ภายใต้ประกายเทพของคนลึกลับอาการบาดเจ็บของเขาหายเร็วขึ้นมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าแต่เขาไม่สามารถกำจัดอาการทรมานเจ็บปวดที่เกิดขึ้นได้  บุรุษลึกลับถูกเผาร่างไปถึงครึ่งหนึ่งที่น่าสนใจคือซี่โครงขวาถูกปราณกระบี่ส้มที่เย่ว์หยางสร้างขึ้นเล่นงาน

กระบี่นี้

แม้แต่ปณิธานเทพของเขาก็ยังทำลายไม่ได้ง่ายๆ

หลังจากควักพลังดับสุริยาที่เบ้าตาซ้ายออกบุรุษลึกลับเกลียดจนอยากกระแทกทำลายจุดดับสุริยาให้ระเบิดแต่เกรงว่าจุดดับสุริยาจะทำให้เกิดการระเบิดและทำให้เขาบาดเจ็บรุนแรงในที่สุดเขาโยนมันขึ้นไปบนอากาศอย่างไม่เต็มใจ

จากนั้นบุรุษลึกลับใช้มือยึดปราณกระบี่ส้มเฉิงหงกวง

ในบรรดาพลังโจมตีกระบี่ส้มส่งผลมากที่สุด

เขาบังคับใช้พลัง

ค่อยๆดึงปราณกระบี่ที่แทงลึกในชายโครงขวาออกมาทีละนิดๆ

เขาใช้พลังเทพคลุมรอบปราณกระบี่จากนั้นใช้พลังแสงเทพผลักดันปราณกระบี่กลับไปหาเย่ว์หยางที่ร่วงหล่นไปบนพื้นยังไม่สามารถขยับตัวได้เพื่อระบายความเกลียดชังในใจของเขา

ซื่อเสินกระเด็นห่างออกไปยี่สิบกิโลเมตร

แม้ว่าจะได้รับการปกป้องจากกระบี่วิถีกำศรวลแต่ก็ทำให้สายตาของเขาพร่าไปชั่วขณะยังไม่ฟื้นฟูการมองเห็นชั่วคราว

จ้าวซีห่างออกไปมากกว่าเขาเขาใช้กระจกเทพปกป้องซวงหานที่อยู่ในสภาพอ่อนแอทำให้แสงทำลายล้างแทงเข้าที่แขนของเขา  และแขนของเขาชุ่มไปด้วยเลือด  ซวงหานจ้องมองและถามเขา  “ผลเป็นยังไงบ้าง?  ตอนนี้ผลเป็นยังไง? ทำไมไม่มีเสียง?  แย่แล้ว พลังเทพผันผวน ปีศาจเฒ่ายังไม่ตายเขายังไม่ตาย!”

จ้าวซีสามารถเข้าใจถึงความเปลี่ยนแปลงในสถานการณ์การต่อสู้โดยไม่ต้องใช้สายตา  แต่ซวงหานทนไม่ได้ที่จะบอกว่าบุรุษลึกลับไม่เป็นไรภายใต้รังสีดับสุริยาและปราณกระบี่แสงสี่สายที่โจมตีใส่ร่างกายเขาอย่างหนัก

ตรงกันข้ามเด็กหนุ่มผู้ท้าทายกลับทรุดนอนลงกับพื้น

ไม่มีพลังลุกกลับมาสู้อีกต่อไป

เขาใกล้จะประสบความพ่ายแพ้

“เจ้าเด็กน้อย! ในรอบสามหมื่นปีไม่เคยมีใครทำให้ข้าต้องเจ็บปวดขนาดนี้มาก่อน! เจ้ามันช่างน่ารำคาญมาก แต่ข้าอยากจะบอกว่ามนุษย์อย่างไรก็ยังเป็นมนุษย์ เทพก็คือเทพมนุษย์ไม่สามารถท้าทายเทพได้ และไม่มีทางเอาชนะเทพได้!”  ชุดคลุมของคนลึกลับเริ่มกระพือภายใต้พลังเทพและจากพลังนี้ทำให้ไม่มีใครสามารถเห็นหน้าของเขาได้ชัดเจนพลังเทพประเภทหนึ่งที่คนไม่สามารถเห็นได้แผ่ออกมาจากร่างของเขาแข็งแกร่งเหนือกว่าซื่อเสิน  จ้าวซีและพวก ในทันทีนั้นพวกเขารู้สึกได้ถึงการยอมจำนนต่อคนลึกลับที่เหนือกว่านี้  แค่พลังเทพที่เปล่งออกมาจากร่าง คนที่ชมดูอยู่ก็ไม่สามารถต่อต้านทนได้คนลึกลับแผ่พลังเทพกดดันเย่ว์หยางบนพื้นและพูดช้าๆ  เหมือนกับทำการพิพากษาตัดสิน  “บัดนี้ เจ้าบังอาจต่อต้านสวรรค์ทำร้ายต่อร่างเทพผู้มีเกียรติคุณสูงสุดด้วยปราณกระบี่ของเจ้า ดังนั้นข้าจะให้เจ้าตายด้วยปราณกระบี่ของเจ้าเอง”

หลังจากคนลึกลับพูดจบเขาเพิ่มพลังคลุมรอบปราณกระบี่เฉิงหงกวนเป็นสองเท่า

และเตรียมใช้พลังตอบโตปราณกระบี่ส้ม

จากนั้นเล็งไปที่ศีรษะของเย่ว์หยางอีกครั้ง  ตราบใดที่เขาถอนพลังเทพออกเขาเชื่อว่าแรงกดของปราณกระบี่ส้มจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และจะทำลายทุกอย่างที่ขวางหน้าอย่างมิอาจต้านทานได้

นัยน์ตาของซื่อเสินคล้ายเสือที่ได้รับบาดเจ็บมีโลหิตสองสายหลั่งออกมองคล้ายน้ำตา  เขายังถือกระบี่วิถีกำศรวลอยู่ในมือ

จ้าวซีวิ่งเข้ามาสมทบกับซวงหานที่ร่างอ่อนแออย่างรวดเร็ว

พวกเขาวิ่งเขามาหาอย่างกระวนกระวายใจ  “ซื่อเสิน!  อย่าเพิ่งบุ่มบ่าม เราจะช่วยทุ่มพลังให้เจ้า!”

ซื่อเสินไม่รู้ตัวว่ากัดริมฝีปากจนเลือดซึมออกมาตั้งแต่เมื่อใด  เขาสูดหายใจลึกและระเบิดพลังเทพทั้งหมดทันที“ข้ารู้ดี  พลังของเราทั้งหมดสู้ก็ไม่ต่างกับมดที่เขย่าตอไม้ อย่างไรก็ตามข้าจะไม่นั่งดูเด็กหนุ่มผู้รุ่งเรืองที่อาจเป็นเผ่าพันธุ์เดียวกับข้าต้องตายไปต่อหน้าต่อตา  ไม่ว่าวิธีการของข้าจะมีประโยชน์หรือไม่ ข้าต้องสู้!  นอกจากสู้อย่างสิ้นคิด ข้าจะทำอะไรได้อีก...บางทีข้าอาจเป็นตัวทำให้ยุ่งยากมากขึ้นแต่ข้าไม่อาจเพิกเฉยมองดูคนเผ่าพันธุ์เดียวกับข้าถูกฆ่าตาย!”

“เปล่าประโยชน์ เฮ้อ!”  จ้าวซีถอนหายใจหมดหวัง

เขาเข้าใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าซื่อเสินถูกฆ่าตาย

ตอนนี้พวกเขาไม่ใช่เป้าหมายของคนลึกลับ เพียงแต่พลังเทพกดดันก็แทบทำให้ผู้ที่เห็นต้องงอมืองอเทามองดู  ถ้าคนลึกลับลงมือเขาควรจะสู้ด้วยไหม?

เจตจำนงราชันย์ของสุดยอดนักรบปราณราชันย์ก็สามารถฆ่าซื่อเสินได้!  ไม่มีเหตุผลที่ควรท้าทายคนลึกลับในตอนนี้

รู้ว่าฝีมือห่างไกลแต่เขาก็ยังคงกล้าหาญ

ดึงดันเกินไปหรือเปล่า?

โง่ใช่ไหม?

จ้าวซีไม่ห้ามซื่อเสินอีกเขาหลับตาเจ็บปวดไม่สามารถทนดูเทพบูรพาที่เขารู้จักมาเป็นหมื่นปีถูกศัตรูฆ่าตายทันที!

“เฮอะ!”  คนลึกลับไม่สนใจป้องกันซื่อเสินแต่อย่างใด  เขาโบกมือสะบัดแขนแต่พลังเทพโจมตีซื่อเสินกระเด็นไปหมื่นเมตรและจากนั้นใช้พลังกักซื่อเสินให้ดิ้นรนทรมานด้วยความเจ็บปวด

ถ้าไม่ใช่เพราะเขายังหวังจะได้รับความลับบางอย่างเกี่ยวเทพมหาอัคคีและเทพสุดยะเยือกทั้งสองแล้ว  เขาคงสังหารซื่อเสิน จ้าวซีและคนอื่นๆจนเหลือเถ้าธุลีไปนานแล้ว  ขณะที่ซื่อเสินจ้าวซีและซวงหานถูกพลังเทพของเขาข่มไว้ ในอีกด้านหนึ่ง ปราณกระบี่ส้มเฉิงหงกวงถูกบีบอัดแน่นด้วยพลังเทพถึงสิบเท่าและพลังกระบี่ขยายเพิ่มอีกร้อยเท่า

บุรุษลึกลับระมัดระวังไม่คลายพลังที่ใช้หุ้มห่อปราณกระบี่ส้ม

เขาสงสัยว่าปราณกระบี่ชนิดนี้จะไม่ทำลายผู้เป็นนาย

แต่ว่าตอนนี้เขาไม่ต้องการกลับคำพูดของเขา

ดังนั้นแนวคิดเรื่องปราณกระบี่ส้มเปลี่ยนไปอย่างลับๆ แต่พลังเทพที่ใช้ห่อหุ้มปราณกระบี่ยังคงอยู่และการสะท้อนพลังปราณกระบี่อาจจะตอบสนองต่อพลังชีวิตของเขาเย่ว์หยาง  เขาจะใช้พลังปราณกระบี่สนอ

คืนเย่ว์หยาง

เย่ว์หยางนอนอยู่บนพื้นและร่างกายทั้งสิ้นทำให้คนลึกลับไม่รู้เรื่องกฎข้อห้าม และเขาไม่สามารถดิ้นรนได้

เขาต้องเห็นปราณกระบี่ส้มพุ่งออกไปเหมือนจรวดด้วยตาตนเอง

ตรงไปต่อหน้าต่อตาเขา

“ตาย” เมื่อบุรุษลึกลับเห็นว่าเย่ว์หยางไม่สามารถต่อต้านได้ในที่สุดเขารู้สึกสบายใจขึ้นมาบ้างและความโกรธที่โดนเจ้าเด็กนี่ทำร้ายบาดเจ็บหายไปเกือบครึ่งหนึ่ง  ตราบใดที่บดขยี้เจ้าเด็กนี่จนเหลือแต่เถ้าถ่านเขาจะไม่มีอะไรต้องกลัวแม้แต่น้อย  อย่างไรก็ตามเขาฆ่าอัจฉริยะมานับไม่ถ้วนแล้ว

“อา...”

เสียงร้องกราดเกรี้ยวดังขึ้นที่ด้านหลังบุรุษลึกลับ

ก่อนที่คนลึกลับจะหันกลับมาเขารู้สึกว่ามีพลังเทพทำลายล้างสรรพสิ่ง สามารถทำลายกฎสวรรค์ของตัวเขาในขณะเดียวกันก็บีบบังคับให้เขาต้องปกป้องร่างกายตนเอง พลังนั้นทำลายเจตจำนงราชันย์ที่ปกป้องร่างกายของเขาระดมโจมตีใส่ตัวของเขาราวกับฟ้าผ่า

เป็นเวลากว่าหมื่นปีที่คนลึกลับไม่ได้ทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวดหลั่งโลหิต

ดูเหมือนว่าหัวใจของเขาแทบแตกและเลือดเนื้อ สมองแทบจะระเบิด ความเจ็บปวดพุ่งขึ้นมาจากลำคอ

เขารู้สึกว่ากระดูกสันหลังและซี่โครงราวกับจะระเบิดร่างของเขาปลิวไปร้อยเมตรอย่างมิอาจควบคุมได้ พลังเทพของคนลึกลับกลับมารวมตัวอีกครั้งและกำจัดพลังเทพโจมตีที่ค้างอยู่ในร่างของและพยายามรักษาอาการบาดแจ็บให้เสถียร คนลึกลับผู้นั้นพยายามกลืนเลือดลงท้อง ใครโจมตีเขา? ใครสามารถโจมตีตัวเขาได้ที่ขุนเขาเหนือขุนเขาแห่งนี้

ใครบังคับให้เขาถอยหลังได้?

เทียนอี้มาถึงหรือ?

เป็นไปได้อย่างไร

คนลึกลับหันไปมองด้วยความประหลาดใจ

เขาพบว่าเป็นปีศาจอสรพิษน้อยที่เขาไม่ได้ให้ความสนใจ

ตอนนี้สภาพของเธอแตกต่างจากก่อนหน้านี้อย่างสิ้นเชิง  ในเวลานี้เธอมีพลังมากพอจะตรึงโลกทั้งโลกร่างปีศาจอสรพิษทองสูงหนึ่งกิโลเมตรยืนมองอยู่เหนือโลก  การโจมตีหนักหน่วงเมื่อครู่นี้คือพลังควบแน่นจากประกายเทพ

โชคดีที่ปีศาจอสรพิษน้อยนี้ยังไม่เติบโตเต็มที่ มิฉะนั้นคงอันตรายอย่างไม่คาดคิดแน่นอน

อายุน้อยขนาดนั้นมีประกายเทพฉายร่างสูงถึงหนึ่งกิโลเมตรนั่นนับว่าไม่เลวแล้ว

บุรุษลึกลับมีความคิดอำมหิตฆ่าฟันทันที

ขณะที่เธอยังเติบโตไม่เต็มที่ถ้าไม่ฆ่าในตอนนี้ปล่อยไปจะเป็นหายนะ ถ้าจะฆ่าต้องรีบฆ่าปีศาจน้อยนี่ทันที

“ได้คู่ต่อสู้แบบนี้ให้ข้ารับมือเอง! ตลอดเวลาข้ามักจะได้รับสิ่งที่ดีที่สุดที่นายท่านมอบให้เสมอ  แต่เข้าร่วมต่อสู้แม้แต่ฮุยไท่หลางที่กินของเหลือจากข้าก็ยังได้ต่อสู้เพื่อนายท่านอยู่บ่อยๆ...ข้ามักจะนอนหลับอยู่ในโลกคัมภีร์ บ่อยครั้งที่เกียจคร้านเพียงเพราะข้ออ้างเพื่อความก้าวหน้า  ในที่สุดวันนี้ข้าก็ได้โอกาสเสียที  เสี่ยวเหวินหลี ครั้งนี้ให้ข้าลงมือเอง! นอกจากนี้ถ้าปล่อยให้เจ้าสู้อาจจะทำให้ขุนเขาเหนือขุนเขาพังทลายก็ได้  ครั้งนี้ให้ข้ารับมือเอง!”

เสียงนี้ไพเราะอ่อนโยน

เสียงไพเราะหวานหูแบบนี้แม้แต่คนที่โกรธโมโหเมื่อได้ยินได้ยินก็เป็นเหมือนกับคนที่ได้ดื่มน้ำเย็นในฤดูร้อนไม่สามารถโกรธต่อ และรู้สึกสบาย

แน่นอนว่าเสียงนี้ทรงพลังเหนือธรรมชาติที่มิอาจปฏิเสธได้

แม้จะไม่ได้ตั้งใจ

แต่พลังปณิธานราชันย์ไม่มีใครเพิกเฉยได้!

บุรุษลึกลับหันกลับไปและพบว่าปราณกระบี่ส้มเฉิงหงกวงที่เขาใช้พลังเทพหุ้มคลุมไว้ถูกสาวน้อยผู้งดงามดุจเทพธิดาใช้นิ้วที่งดงามเหมือนกลีบกุหลาบคีบจับไว้  ปราณกระบี่ส้มที่พยศร้ายกาจสามารถสะท้อนพลังกลับเชื่องเชื่อราวกับลูกแมวน้อย  นอกจากไม่สะท้อนยืดยาวเท่านั้นแต่กลับหดลงทีละนิดๆ  พลังเทพที่ล้อมคลุมโดยรอบหายไปกลายเป็นชิ้นส่วนของกลีบดอกไม้กระจายไปตามลม

“เจ้าก็เป็นเทพราชันย์ด้วยหรือ?”   ในหัวใจของบุรุษลึกลับหญิงสาวประหลาดนี้แกร่งกร้าวมากกว่าปีศาจอสรพิษน้อยที่อยู่ข้างหลังเสียอีก!  นางมาจากไหน?หรือว่านี่คืออสูรพิทักษ์ของเจ้าเด็กนี่?  เจ้าเด็กนี่มีอสูรพิทักษ์ถึงสองเชียวหรือ?

อสูรพิทักษ์คู่แฝด?

แต่ไม่เหมือนกัน!

ข้างหน้านี้ดูเหมือนจะเป็นอสูรสายพฤกษาและข้างหลังเป็นปีศาจอสรพิษน้อย!

สิ่งที่แปลกที่ทำให้คนลึกลับสับสนก็คืออสูรพิทักษ์ทั้งสองล้วนเป็นอสูรพิทักษ์ระดับเทพทั้งนั้นแม้แต่นางหนึ่งก็ถึงระดับเทพราชันย์.... ถ้าเจ้าเด็กนี่เป็นเจ้านายจริงๆ  ทำไมเขายังไม่เป็นระดับเทพ?  ทำไมยังไม่เข้าสู่ระดับเทพราชันย์?  ต้องมีบางอย่างผิดปกติแน่นอน  มิฉะนั้นคงไม่มีเรื่องเหลวไหลแบบนี้เกิดขึ้น!

“ข้าจะเป็นอะไรก็ไม่สำคัญ! ที่สำคัญคือเจ้าทำร้ายเจ้านายข้าด้วยเล่ห์เหลี่ยม! เจ้าแสร้งเป็นดูถูกการต่อสู้ของผู้เยาว์ แต่ในความเป็นจริงเจ้าใช้อสูรโจมตีเขาในขณะต่อสู้เสี่ยงชีวิต  นี่เป็นความผิดเป็นการกระทำที่ไร้ยางอายเพราะเจ้าเป็นระดับผู้อาวุโสกระทำการเช่นนี้ไม่สมกับสถานะเจ้าเลย  อย่างไรก็ตามไม่ว่าเจ้าจะเป็นใครไม่ว่าเจ้าจะใช้วิธีการไร้ยางอายขนาดไหน ตราบที่เจ้าทำร้ายเจ้านายข้า เจ้ามีจุดลงเอยเพียงอย่างเดียว”  ร่างกายของนางแผ่กระจายดอกไม้นับไม่ถ้วนด้วยพลังแห่งเทพนางเปลี่ยนโลกทั้งใบให้กลายเป็นทะเลดอกไม้ในทันทีนิ้วเรียวยาวชี้ไปทางบุรุษลึกลับ  “นั่นคือตาย!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด