ตอนที่ 1196 โกรธ
ปราณกระบี่ตัดผ่าพื้นปฐพี
รวดเร็วยิ่งกว่าเย่ว์หยางบุรุษอันดับหนึ่งแห่งขุนเขาเหนือขุนเขาซื่อเสินถือกระบี่เทพวิถีกำศรวลเขาลงมือกับบุรุษลึกลับอย่างไม่ยั้งมือ
เนื่องจากอิทธิพลของโบราณวัตถุสนามพลังเทพสังหารทำให้พื้นแข็งยิ่งกว่าเหล็กกล้าเป็นแสนเท่าภายใต้เจตจำนงสังหารของซื่อเสินปราณกระบี่ยังไม่ทันถึงพื้นก็เกิดรอยกระบี่ลึกยาวถึงหมื่นเมตรปรากฏอยู่บนพื้น ซื่อเสินเดิมพันทุกอย่างขนาดพลังทำลายล้างทำให้เฮยโจวที่ตั้งใจจะยึดครองตำแหน่งบุรุษอันดับหนึ่งรู้สึกงงงวยไปหมด ความร้ายกาจของซื่อเสินเฮยโจวไม่ได้ประเมินต่ำไป แต่ปัจจุบันนี้เขาพบว่าตนเองคาดคำนวณพลังของซื่อเสินศัตรูผู้ยิ่งใหญ่นี้ต่ำไปถึง10%
ถ้าเฮยโจวรู้เร็วกว่านี้เขาจะขอเป็นอันดับสองต่อไปและจะไม่แย่งชิงอันดับหนึ่งของซื่อเสินยอดฝีมือแห่งขุนเขาเหนือขุนเขาแน่นอน
ถ้าไม่ใช่หลายอย่างในสภาพปัจจุบันนี้หรือไม่มีปีศาจแมงมุมของจีอู๋ลี่คอยพันแข้งพันขาเขาไว้ ต่อให้เขามีผู้ช่วยอื่น เขาจะแพ้แน่นอน
ปราณกระบี่และพลังทำลายล้างไม่ใช่สิ่งที่เทพจะครอบครองได้
นั่นคือระดับสูงสุด
ถ้ามีมุกประทีปราตรีอยู่ในมือ
หากซื่อเสินต้องการใช้ปราณกระบี่นี้ก็คงทำไม่ได้
เกิดพื้นที่ซึ่งถูกปราณกระบี่ผ่าเป็นช่องว่างขนาดใหญ่หลังจากที่กระบี่วิถีกำศรวลผ่าทั้งมิติในอากาศ ท้องฟ้าและพื้นโลกเต็มไปด้วยผงธุลีพลังปราณกระบี่ของซื่อเสินยิ่งใหญ่น่าทึ่ง ซวงหาน จ้าวซีและเฮยโจวไม่กล้ายืดตัวตรงทันใด ชั่วขณะหนึ่งเขาลืมตำแหน่งของบุรุษลึกลับ และรีบหนีออกจากสนามรบ เพราะกลัวว่าเขาจะถูกฆ่าด้วยปราณกระบี่หรือเกี่ยวข้องกับช่องมิติว่างและอาจถูกดูดเข้าไปในช่องมิติว่างต่างๆนานาซึ่งมีเป็นหมื่นเป็นพัน และหลุดออกมาไม่ได้
“ตาย!”
ซื่อเสินถือกระบี่วิถีกำศรวลอยู่ในมือ
เขาทุ่มพลังทั้งหมดเพื่อฆ่าอีกฝ่ายอย่างกล้าหาญ
เขาไม่ได้หวังว่ากระบี่นี้จะสามารถฆ่าบุรุษลึกลับได้เพียงแต่หวังว่ากระบี่สามารถแสดงบทบาทเล็กๆ น้อยอย่างช่วยลดความเย่อหยิ่งของบุรุษลึกลับที่มองดูคนอื่นเหมือนกับมดแมลง
ในขณะนั้นบุรุษผู้ลึกลับถูกกระบี่วิถีกำศรวลฟันใส่พฤติกรรมไม่คาดคิดเช่นนี้ เขาไม่หลบหลีกเขาเพียงแต่ใช้นิ้วชี้ขณะนั้นเขาใช้นิ้วยิงลำแสงโดยไม่สนใจการป้องกันไม่สนใจมิติและทุกอย่างเหมือนกับตอนที่ยิงร่างจีอู๋ลี่
ขณะนี้เขาชี้นิ้วอีกครั้งซื่อเสินจะเดินตามรอยของจีอู๋ลี่หรือ?
ซื่อเสินพร้อมเสี่ยงทุกอย่างแล้ว
สู้ตาย
เพื่อให้โจมตีถูกบุรุษลึกลับข้างหน้าเขา เขาไม่สนใจทุกอย่างยอมทุ่มเทพลังทั้งหมดต่อให้เสียชีวิตก็ตาม
สิ่งที่ทำให้เย่ว์หยางและจีอู๋ลี่เบิกตาค้างก็คือดรรชนีของบุรุษลึกลับไม่ได้ฉายแสงมรณะแต่เขาใช้นิ้วชี้นิ้วกลางคีบคมกระบี่เทพวิถีกำศรวลไว้
เฮยโจวกล้าจะทำอย่างนี้ไหมนิ้วจับไว้อย่างมั่นคงเหมือนกับเกรงว่าอาจจะมีปราณกระบี่โจมตีซ้ำอีก
แม้แต่จีอู๋ลี่ก็ยังไม่กล้าใช้นิ้วชี้นิ้วกลางคีบจับกระบี่เทพวิถีกำศรวล
ในกลุ่มผู้ชมดูนั้นยกเว้นบุรุษลึกลับ
ต่อให้เย่ว์หยางอยู่ในสภาพคลั่งเกรงว่ายังไม่ห้าวพอขนาดนั้น
ติง!
หลังจากนั้นหนึ่งวินาที
สิ่งที่ทำให้เย่ว์หยางและจีอู๋ลี่ตกตะลังก็คือบุรุษลึกลับใช้นิ้วข้างซ้ายจับกระบี่ของซื่อเสินได้อย่างสบายกระบี่วิถีกำศรวลสามารถตัดทุกอย่างในโลกได้แต่จะตัดนิ้วของบุรุษลึกลับกลับทำได้ยาก ด้วยพลังทั้งหมดของซื่อเสินพลังที่ทุ่มเทใช้ทั้งหมดยังไม่สามารถตัดแม้กระทั่งเส้นผมได้
นิ้วมือนั้นไม่เป็นไรเรียบเนียนเหมือนเมื่อก่อน
แม้แต่ผิวนิ้วชั้นนอก
ไม่มีแม้แต่ร่องรอย
“..........” เฮยโจวดูเหมือนหวาดกลัวจนแทบเป็นลมอยู่กับที่ บุรุษลึกลับผู้นี้ร้ายกาจเกินไปหรือไม่? เป็นแบบนี้ไปได้อย่างไง?
จีอู๋ลี่มองดูแล้วนัยน์ตากระตุก และตอนนี้เขาตระหนักแล้วว่า เมื่ออยู่ต่อหน้าบุรุษลึกลับนี้ไม่ว่าเขาจะทำอะไรก็ตามล้วนแต่ไร้ประโยชน์
คนผู้นี้เป็นปีศาจเฒ่า
นี่เป็นสิ่งดำรงคงอยู่ที่ไม่สนใจอะไรทุกอย่างและเหนือจินตนาการ!
นอกจากอาจารย์ของเขาผู้คลั่งไคล้วิทยายุทธแล้วจีอู๋ลี่ไม่เคยเห็นใครน่ากลัวขนาดนั้น
มิน่าเล่าแม้จะเป็นเจ้าตำหนักสูงสุด อาจารย์ของเขาก็ยังพากเพียรอย่างหนักกลับกลายเป็นว่าเขาไม่เพียงแต่ใฝ่หาระดับสูงสุดยอด แต่ยังมีเหตุผลกังวลต่อการกลัวว่าจะถูกผู้อื่นแซงหน้าได้ตลอด เช่นเดียวกับบุคคลลึกลับที่อ้างว่าเป็นอาจารย์ของจิ่วเซียว ถ้าเทียนอี้อาจารย์ของเขาเองไม่ฝึกฝนอย่างหนักทุกวันพร้อมกับพัฒนาต่อไป บางทีอาจถูกปีศาจเฒ่าผู้นี้ตามทัน
“พลังก็พอใช้ได้ แต่ความเร็วยังช้าเกินไป” บุรุษลึกลับพลิกนิ้วเหวี่ยงกระบี่วิถีกำศรวลและซื่อเสินกระเด็นออกไปพร้อมกับเหมือนแมลง
“แล้วข้าเล่า?”
เย่ว์หยางแตกต่างจากจีอู๋ลี่
จีอู๋ลี่ตกใจกับภาพที่เห็นขณะที่เขารอคอยหาโอกาสหนี
ในทางตรงกันข้ามเด็กหนุ่มจากโลกอื่นไม่เคยคิดจะหลบหนี สิ่งที่เขาต้องการทำมากที่สุดในใจก็คือลงมือสู้กับบุรุษลึกลึกลับเขาต้องการเอาชนะปีศาจเฒ่านี้ มิฉะนั้นเขาคงกินไม่ได้นอนไม่หลับและไม่มีความสุข.. ถ้าไม่ใช่เพราะซื่อเสินใช้กระบี่ เย่ว์หยางคงเริ่มวิ่งเข้าไปสู้แล้ว ตอนนี้ซื่อเสินถอนกำลังออกมาแต่พุ่งออกไปโจมตีคนลึกลับแทน ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีที่รุนแรงหรือต่อสู้ให้หนักหน่วงวิธีเดียวที่ทำให้ชนะได้ก็คือต่อสู้ให้ดี เย่ว์หยางผู้เชื่อทฤษฎีแมวดำแมวขาวก็จับหนูได้ เขาเชื่อในเรื่องอย่างนี้ คทาเทพจักรพรรดิอวี้ทุบลงอย่างหนักตามด้วยผนึกเทพจักรพรรดิอวี้
โลกและสวรรค์ราวกะว่าหยุดในวินาทีนี้
พลังผนึก
หมดจดทุกอย่าง
มันทำให้สิ่งมีชีวิตทุกอย่างในโลกหยุดการเคลื่อนไหว
ราวกับว่าเวลาจะหยุดภายใต้แรงกดดันของผนึกเทพจักรพรรดิอวี้มีเพียงคนเดียวที่เคลื่อนไหวได้นั่นคือเย่ว์หยาง
เย่ว์หยางกวัดแกว่งคทาเทพจักรพรรดิอวี้ไม่หยุดและหวดไปที่ด้านหลังของบุรุษลึกลับอย่างหนัก ไม่รอให้คนลึกลับโต้ตอบเขาใช้พลังกดดันจากผนึกเทพจักรพรรดิอวี้ที่ปกติหนูน้อยซวงเอ๋อใช้เป็นที่ทุบลูกเกาลัดขณะเดียวกันเด็กหนุ่มจากโลกอื่นกวาดตราประทับอยู่เหนือศีรษะของบุรุษลึกลับ
เผียะเผียะ
เสียงดังชัดสองครั้ง
หูทุกคนได้ยินในเวลาเดียวกันแทบจะแยกไม่ออก
จีอู๋ลี่,ซวงหานและจ้าวซีและคนอื่นต่างมองดูภาพการต่อสู้ที่น่าหวาดกลัวนี้
จบลงอีกครั้ง
ภายใต้แรงกดดันของผนึกเทพจักรพรรดิอวี้บุรุษลึกลับต้านรับการโจมตีของเย่ว์หยางทั้งสองครั้งได้อย่างสมบูรณ์ครั้งแรกหลังจากรับพลังโจมตีจากซื่อเสินเต็มกำลังบุรุษลึกลับใช้แค่เพียงนิ้วชี้ทำลายทักษะแฝงเร้นพันธนาการของเสี่ยวเหวินหลีต้านรับพลังโจมตีสองครั้งแรกของเย่ว์หยางและหันกลับไปป้องกันดาบน้ำแข็งคู่ของเสี่ยวเหวินหลีได้อย่างสบาย
ม่านตาของซื่อเสินหรี่แคบลงดูราวกับเข็ม
ตาของเฮยโจวแทบถลนออกจากเบ้า
ตอนนี้เฮยโจวยอดฝีมือในทำเนียบขุนเขาเหนือขุนเขานั่งอยู่บนพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรงกำลังความทะเยอทะยานความปรารถนาจะปกครองโลกและสวรรค์ละลายหายไป พวกเขาหลั่งเหงื่อเยียบเย็น
ความหมายของกบก้นบ่อคืออะไร?
เฮยโจวรู้สึกเหมือนอย่างที่เป็นในตอนนี้
ซื่อเสินจีอู๋ลี่และเย่ว์ไตตันอัจฉริยะในตำนานที่บอกว่าเป็นชาวหอทงเทียน แต่ละคนมีแต่จะแข็งแกร่งมากขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งจีอู๋ลี่และเย่ว์ไตตัน ทั้งสองคนไม่ใช่ธรรมดาเลย...และที่ยังเหนือกว่าสองคนนี้ยังมีบุรุษลึกลับยังทรงพลังผิดธรรมดายิ่งกว่า!
ตาแก่ผู้นี้ไม่รู้ว่ามีชีวิตยืนยาวนานเพียงไหน
เขาไม่รู้ว่าแข็งแกร่งขนาดไหน
ซื่อเสินกับเย่ว์ไตตันแข็งแกร่งพอกันต่างโจมตีด้วยพลังเต็มที่ของพวกเขาแต่เขากลับใช้เพียงนิ้วเดียวต่อต้านพลังโจมตีจากสมบัติเทพทั้งสามได้
นี่เขาเป็นสิ่งมีชีวิตแบบไหนกันแน่? เฮยโจวรู้สึกว่าเขาไม่เคยคิดขณะที่เขาฝัน ในแดนสวรรค์มีบางคนที่แข็งแกร่งมาก แน่นอนว่าเขาเคยได้ยินชื่อเจ้าตำหนักใหญ่ตงฟางและเจ้าตำหนักสูงสุดเทียนอี้แห่งตำหนักกลางศักดิ์สิทธิ์ เขารู้ว่าคนเหล่านี้มีพลังแข็งแกร่ง แต่เขาไม่เคยเห็นด้วยตาตนเอง ในใจของเขาไม่รู้สึกได้ถึงความแตกต่างที่ชัดเจน เขาไม่รู้ว่า ‘เทพแท้’ มีพลังที่มิอาจจินตนาการได้! แม้ว่าในมือของเขา(เคย)จะมีมุกประทีปราตรี แต่เขาไม่เคยคิดว่าจะมีบางคนที่สามารถต้านรับสมบัติเทพสามชิ้นด้วยนิ้วมือเดียว
ถ้ามีแต่ซื่อเสินคนเดียวแล้วดูแคลน อย่างนั้นเฮยโจวคงไม่รู้สึกตกใจเท่าใด
ตอนนี้ยังมีเด็กที่ผิดปกติผู้คนทั่วไปอย่างเย่ว์ไตตัน
อัจฉริยะไร้เทียมทานผู้สามารถผนึกเวลาและมิติได้กับพลังโจมตีเต็มกำลัง แต่ถูกคลี่คลายได้ด้วยนิ้วเดียว... โลกและอำนาจพลังใดๆจะทำร้ายคนผู้นี้ได้หรือไม่?
เฮยโจวสงสัย
เขาไม่เคยเชื่อว่าจะมีพลังใดๆในโลกจะทำลายคนผู้นี้ได้!
“ความเร็วของเจ้าไม่เลวแต่พลังของเจ้าอ่อนแอไปนิด!” บุรุษลึกลับสะบัดเสี่ยวเหวินหลีออกไปด้วยเพียงนิ้วเดียว แล้วหันมาโบกมือให้เย่ว์หยางทำนองว่าเขาต้องไปฝึกมามากกว่านี้
“งั้นลองอีกครั้ง” เย่ว์หยางโมโหจนควันออกหูจากนั้นเขาตอบสนองตามความต้องการทันที
ดาบอสูรเทาเถี้ย,แมงป่องดาวฟ้า, ดาบจันทร์เสี้ยว มีดสังหารเทพ, หอกกลืนมังกร, ระเบิดดวงดาว,ประทีปราตรี, ดาบทงเทียน.. ของวิเศษทั้งหมดถูกนำมาใช้กับคนลึกลับจนสมองเขาปั่นป่วนแต่ไม่ว่าเย่ว์หยางจะโจมตียังไงก็ตาม บุรุษลึกลับ ใช้นิ้วเดียวรับพลังโจมตีเป็นพายุบุแคมได้อย่างสบายอารมณ์ทั้งหมดโดยไม่ได้รับอันตรายในที่สุดเย่ว์หยางยิ่งโมโหมากขึ้นเขาใช้ทั้งดาบและธนูอาวุธเทพร่างมนุษย์สองพี่น้องมังกรพร้อมกับบรรจุปณิธานราชันย์แฝงเข้าไปด้วย ชายชราเคลื่อนไหวอย่างหมดจดงดงามแต่เขาไม่เพิ่มพลังดรรชนีป้องกัน
ซวงหานและคนอื่นๆต่างมองดูอย่างตื่นตาตื่นใจ
อย่าว่าแต่ต่อต้านเลย แค่มองดูก็ปวดเศียรเวียนเกล้าแล้ว
สีหน้าของจีอู๋ลี่เต็มไปด้วยความเกลียดและริษยา เดิมทีเขาคือบุรุษหมายเลขหนึ่งที่สมบูรณ์พร้อมที่สุดในแดนสวรรค์ แต่ดูเหมือนตอนนี้ไม่คู่ควรเอ่ยอ้างเมื่อเทียบกับอาวุธเทพและอาวุธศักดิ์สิทธิ์ของเย่ว์หยาง
อาวุธเทพของมนุษย์ผู้นี้ผิดธรรมดาหรือไม่?
เวลานี้เย่ว์หยางกราดเกรี้ยวอย่างสิ้นเชิงใต้เท้าของเขามีวงจักรนิรันดร ในมือข้างหนึ่งถือวงจักรล้างโลก
บุรุษลึกลับยังคงใช้นิ้วเดียวสู้ในตอนแรก แต่พอเขาพบว่าเย่ว์หยางใช้วงจักรล้างโลกในครั้งนี้ก็สายเกินไปเพราะวงจักรนิรันดรทำให้ปฏิกิริยาของเขาชะงักงัน พอเขาหลุดพ้นจากวงจักรนิรันดร ปรากฏว่าวงจักรล้างโลกได้กรีดนิ้วของเขาและตัดชุดคลุมของเขาขาดเป็นรูทันที... ในที่สุดบุรุษลึกลับต้องรีบประกบมือเพื่อจับวงจักรล้างโลก
เขาลอยตัวขึ้นและกระโดดเตะเย่ว์หยาง
ความอับอายที่นิ้วหัก
เขาไม่ได้ใช้เรี่ยวแรงมานานอย่างน้อยหมื่นปีแล้ว ตอนนี้เด็กหนุ่มอย่างเย่ว์หยางทำร้ายนิ้วเขาต่อหน้าธารกำนัลได้แน่นอนว่าบุรุษลึกลับเดือดดาลไม่อาจจะยั้งมือได้อีกต่อไป
“ข้าจะทุบเจ้า” เย่ว์หยางยังคงดื้อด้านรับพลังเตะของบุรุษลึกลับเขากลั่นเพลิงอมฤตเป็นดาบเพลิงอมฤตเตะใส่ต้นขาบุรุษลึกลับ และขณะเดียวกันเขาใช้แสงเทพเขียวที่ไม่เคยได้ใช้ออกฟาดใส่หน้าของบุรุษลึกลับ
“หือ?”บุรุษลึกลับตกใจหวาดหวั่น
“อั้ก!” เย่ว์หยางกระอักโลหิต
แต่ไม่กลัวตาย
หนึ่งในแสงเทพห้าสีแสงสีเขียวถูกใช้โจมตี
คนลึกลับที่ต้านรับวงจักรล้างโลกอยู่แต่เดิมต้องกลับมาต้านรับแสงเทพเขียว เย่ว์หยางไม่ต้องการล้มเหลวเร็วเกินไปและดูเหมือนจะคาดเรื่องนี้ไว้เช่นกันเขาฉวยโอกาสใช้มุกสร้างโลกระดับเทพทลายพลังป้องกันพลังเทพของคนลึกลับและต่อยเข้าที่ใบหน้าของเขา แม้จะลงมือประสบความสำเร็จในครั้งนี้แต่เย่ว์หยางรู้สึกเหมือนต่อยท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว ถ้าไม่ได้มุกสร้างโลกระดับเทพช่วยก็จะไม่ได้ผลอะไร แต่พลังเทพปั่นป่วนจากมุกสร้างโลก และเจตจำนงราชันย์ของเย่ว์หยางทำลายท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว...
บุรุษลึกลับร้องด้วยความเจ็บปวด
เป็นครั้งแรก
ที่เขารู้สึกเจ็บ
ภายใต้การโจมตีของเย่ว์หยางบุรุษลึกลับได้รับบาดเจ็บได้ในที่สุด แม้ว่าจะน้อยมากจนแทบไม่สำคัญ แต่ก็ทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดและอับอาย!
บุรุษลึกลับถูกเย่ว์หยางทั้งตบและต่อยหน้าไม่อาจสงบใจได้อีกต่อไป
เขาหมุนตัวเตะเข้าที่อกของเย่ว์หยางอีกครั้ง
ตำแหน่งคือหัวใจ
“ปัง!”
เท้านี้เตะจนเย่ว์หยางซี่โครงหักสามซี่แต่เขาไม่ยอมถอย กลับเดินหน้าใช้ปราณกระบี่ดำกุยจ้าง กระบี่ขาวซวงหัวจากมือซ้ายและขวาโจมตีใส่หูทั้งสองข้างของบุรุษลึกลับ..ขณะทะลวงหูเข้าไปได้ครึ่งนิ้ว ที่หูของบุรุษลึกลับเหมือนกับมีกระแสดวงดาวหมุนวนปราณกระบี่ทั้งสองที่สามารถทำลายฟ้าทลายดินไม่สามารถแทงเข้าไปได้อีก
บุรุษลึกลับตวาดลั่นและพลังเทพระเบิดออกจากปากของเขาพุ่งเข้าที่อกของเย่ว์หยางเหมือนลูกศร
เย่ว์หยางได้รับบาดเจ็บสาหัสตวาดลั่นเช่นกัน
กระบี่แดงชี่เสี่ยวเหลียนพุ่งออกจากปากของเขา
ต้านทานพลังเทพของบุรุษลึกลับ
ทลายแนวป้องกันของบุรุษลึกลับแทงเข้าที่คอของปีศาจเฒ่าโดยไม่สนใจถึงพลังโจมตีทั้งปวง....พลังเจตจำนงของคนลึกลับนั้นเหนือกว่าเย่ว์หยางมากมาย เย่ว์หยางรู้ว่าปราณกระบี่ดำและกระบี่ขาวไม่พอโจมตีเขาจงใจเปิดช่องว่างที่อก จากนั้นสวนพลังปราณกระบี่แดงทะลวงเข้าที่คอ
“เจ้าต้องตาย!” บุรุษลึกลับผมตั้งชันด้วยความโกรธ เขาตกใจกับเสียงที่แหบแห้งอย่างหนักตลอดชีวิตของเขานี่เป็นครั้งแรกที่เขาเปล่งเสียงอย่างยากลำบาก
“เฮอะ!” เย่ว์หยางยังคงโกรธ เขาคำรามขึ้นฟ้าและเพิ่มพลังจากสนามพลังสร้างโลกทันที
แสงดาวนับไม่ถ้วนสว่างขึ้น
กลุ่มดาวค่อยๆ เกิดขึ้นในท้องฟ้าแต่ละกลุ่มดาวมีพลังดวงดาวแตกต่างกันคอยสนับสนุนเสริมพลังให้เย่ว์หยาง กลุ่มดาวสิบสองนักษัตรชัดเจนที่สุด ดาวแกะดาววัว ดาวคนคู่ มีพลังเฉพาะแบบ ตราบเท่าที่เย่ว์หยางไม่ล้มลง เจตจำนงเขาจะเป็นอมตะมีพลังพร้อมสู้เสมอ
นี่คือการสร้างสนามพลังดารารายของจักรพรรดินีราตรีเพื่อเยียวยาอาการบาดเจ็บครั้งแรกของเย่ว์หยาง
มิตินับไม่ถ้วนบิดเบือนผันผวนในที่สุดรวมเป็นจุดสว่างเล็กในมือของเย่ว์หยางกลุ่มดาวที่สว่างในท้องฟ้าส่องแสงสว่างเหมือนกับดวงอาทิตย์ และสว่างมากขึ้นในที่สุดแสงก็สว่างเจิดจ้าจนแทบลืมตาไม่ขึ้นนี่คือการสร้างจำลองเลียนแบบไม้ตายของจื้อจุน
มือซ้ายเป็นจุดบอดดำมือขวาเป็นปราณกระบี่ส้ม
สวรรค์กับโลกเป็นนิรันดร
เย่ว์หยางกราดเกรี้ยวปล่อยพลังจากจุดกลางแสงสว่างตั้งใจจะทำลายบุรุษลึกลับผู้นี้