ตอนที่ 10
อเล็กซ์นั้นไม่อยากที่จะสุงสิงกับใคร เพราะพวกคนเหล่านี้เป็นเพียงคนธรรมดา
ภายในหัวเขาคิดถึงแต่การต่อสู้ การออกหมัด การป้องกันจุดตายในมุมต่างๆ
ภายในหัวของเขาคิดวนไปเวียนมาถึงแต่เรื่องราวแบบนี้ และก็ใช้เทคนิคชาโดว์บ็อกซิ่งบ่อยๆ
การต่อสู้คือการฝึกฝนตัวเองอย่างต่อเนื่อง แม้จะพ่ายแพ้หรือได้รับชัยชนะก็ตาม
อเล็กซ์มีความทะเยอทะยานที่ยิ่งใหญ่ เขายอมตัดทุกสิ่งที่ไม่สำคัญเพื่อเส้นทางแห่งพลังอันท่วมท้น
จนกระทั่งเวลาเลยผ่านไป 1 ชั่วโมง อเล็กซ์ก็ได้ก้าวขึ้นบนเวที พร้อมกับคู่ต่อสู้ที่มีร่างกายใหญ่โตแต่หัวล้าน
" ไอเด็กฟันน้ำนมเนี้ยหรอคู่ต่อสู้ข้า ? กลับบ้านไปดูดนมไป ไอหนู เดี๋ยวจะไม่เหลือฟันไว้เคี้ยวข้าวเอา "
เมื่อขึ้นมาบนเวที อเล็กซ์ก็พบเจอกับปากแซ่บๆของฝ่ายตรงข้าม
แต่นี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก อเล็กซ์ยังคงมีอายุไม่เยอะ ถ้าจะโดนดูถูกก็ไม่แปลก แถมบนเวทีเขาก็มีการบลัฟกันเป็นเรื่องปกติ
" ทางฝ่ายตะวันตก พวกท่านคงทราบชื่อของเขากันดี เขาคือ เนเทอร์ขวาวายุ … ส่วนทางตะวันออก พวกท่านอาจจะไม่รู้จัก แต่เขาคือนักสู้หน้าใหม่ที่มีสถิติไร้พ่ายในเวลานี้ โดยมีการชนะติดต่อกันถึง 10 แมตช์ภายในหนึ่งวัน เขาคือออ อเล็กซ์ …. "
เสียงประกาศจากโฆษก ทำให้ผู้คนต่างหันไปให้ความสนใจ
เนเทอร์เป็นนักสู้ที่พวกเขาล้วนรู้จักและคุ้นเคย แต่ชื่อเสียงของอเล็กซ์ก็มีมาให้ผ่านหูเช่นกัน ผู้คนจึงมามุงดู แต่พวกเขาค่อนข้างกังขาลักษณะภายนอก
" เจ้าเด็กนี้ยังเด็กอยู่เลย จะไหวแน่หรอ "
" นั้นสิ ข้าว่าเนเทอร์ใช้เพียงแค่มือยันหัวอีกฝ่ายไว้ มันก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว ฮ่าๆ "
" ฮ่าๆๆๆ "
ผู้คนต่างออกปากสบประมาทอเล็กซ์อย่างดูถูกดูแคลน ไม่มีใครมองชายหนุ่มตัวเล็กในแง่ดีเลย เมื่อพวกเขามองเห็นแค่รูปร่างภายนอกของทั้งสองฝ่าย ที่ต่างกันฟ้ากับเหว
แต่ในโลกใบนี้ ทุกสิ่งไม่ได้ตัดสินกันจากภายนอกได้ชัดเจนถึงขนาดนั้น แต่มันก็ยังถือว่าเป็นสามัญสำนึกทั่วไป แต่ว่าอเล็กซ์นั้นแค่แตกต่างออกไปไกล มากๆ
แต่เป็นเพราะอเล็กซ์ยังคงเติบโตไม่เต็มที่ สิ่งนี้อาจจะทำให้เขาเสียเปรียบด้านระยะเล็กน้อย
" ทั้งสองฝ่ายพร้อมนะ ? เริ่มได้ !!! "
โฆษกเห็นว่าผู้ชมมามุงดูสำเร็จ เขาก็ส่งสัญญาณให้กรรมการ และการต่อสู้ก็เริ่มขึ้นทันที
เนเทอร์ขยับเท้าอย่างรวดเร็วและพุ่งเข้ามาประชิดอเล็กซ์ พร้อมปล่อยหมัดซ้ายขวาออกมาอย่างต่อเนื่อง
" ปุ๊กๆๆๆ "
อเล็กซ์ตกเป็นฝ่ายตั้งรับ และถูกขนาดของอีกฝ่ายกดดันไปด้านหลังอย่างต่อเนื่อง
หมัดขวาของเนเทอร์สมคำร่ำลือ เขาสามารถออกหมัดซ้อนกันได้อย่างรวดเร็ว ทำให้อาจจะถูกหมัดนั้นทะลวงเข้ามาได้ หากป้องกันตัวเองเอาไว้ไม่ดี
' เจ้านี้มีคลาสหลักเป็นนักมวย หมัดของมันจึงรวดเร็วมาก '
คลาสนักมวยต่างจากคลาสนักสู้ ที่มอบค่าสถานะค่อนข้างสมดุล ในขณะที่คลาสนักมวยจะมอบค่า ความว่องไวเยอะเป็นพิเศษ บวกกับความสามารถด้านหมัด อีกฝ่ายจึงมีการโจมตีที่รวดเร็วมาก
ระหว่างที่อเล็กซ์ป้องกัน เขาก็สังเกตุอีกฝ่ายและพยายามมองหาข้อมูลเพื่อไม่เป็นการประมาท
สิ่งนี้เขาจะทำมันเป็นนิสัยของตัวเอง ไม่ว่าศัตรูเป็นใคร เขาก็เลือกที่จะวิเคราะห์ก่อน นี้ยังรวมถึงเรื่องผลได้ผลเสีย ตราบใดถ้าเขาไม่มีผลประโยชน์ให้ชนะ เขาก็สามารถเลือกที่จะแพ้อย่างไม่ลังเล เพราะเป้าหมายของเขาไม่ใช่แค่สิ่งที่เรียกว่าการชนะชั่วคราวแบบเล็กๆ
มีเพียงการต่อสู้ที่สำคัญเท่านั้น ที่จะให้เขาทุ่มสุดตัวได้ ถ้าสู้ไม่ได้ก็ถอยตั้งหลักและพัฒนาตัวเองให้หนักขึ้น
' คลาสนักมวย มีดีเพียงแค่ความเร็วหมัดเท่านั้นแหละ งั้นเรามาลองพลังใหม่กัน '
อเล็กซ์เพ่งตรวจสอบอีกฝ่ายเสร็จ เขาก็ยกเท้าขวาและเตะเข้าที่น่องอีกฝ่ายอย่างแรงทันที ความรวดเร็วบวกกับพละกำลัง ทำให้เกิดเป็นภาพติดตาซ้อนทับกัน
" ปึง !!! "
เนเทอร์ที่กำลังรัวหมัดอย่างเมามัน ก็โดนแข้งที่หนักแน่นฟาดเข้าใส่อย่างรุนแรงอย่างกระทันหัน กล้ามเนื้อน่องก็กรีดร้องพร้อมติดสถานะที่น่องทันที การจะทรงตัวก็ยากบวกกับความเจ็บปวดที่ทำให้ขยับแทบไม่ไหว
แม้ในตอนนี้อเล็กซ์จะมีเลเวล นักสู้ อยู่ที่ 7 แต่ด้วยความสามารถ อัจฉริยะนักสู้ มันทำให้เขาเขามีค่าสถานะเทียบเท่าเลเวล 10 หรือใกล้เคียงกัน
เนเทอร์แทบจะเสียการทรงตัวทัน ความเจ็บปวดทำให้ใบหน้าของเขากระตุก เหมือนรถยนต์ที่ถูกเจาะยางระหว่างกำลังวิ่งด้วยความเร็วสูง
แต่อเล็กซ์ก็ไม่มีรีรอ เขาเตะเข้าไปที่จุดเดิมอย่างแรงอีกครั้งโดยไม่มีชะงัก จนอีกฝ่ายทรุดตัวลงไปคุกเข่า พร้อมขาและตัวที่สั่นเทา
" เปรี้ยง "
และสุดท้ายอเล็กซ์ก็กำหมัดเหวี่ยงเข้าช่วงบริเวณปากของอีกฝ่าย ซึ่งมันไม่ใช่จุดที่เป็นจุดตายที่ควรโจมตีนักในการต่อสู้ชี้ขาด แต่เขาต่อยบริเวณนี้เพราะมีดประสงค์
เนเทอร์หน้าสะบัด ซึ่งมีชิ้นส่วนฟันรอยกระจายพร้อมเลือดที่สาดไปทั่ว พร้อมหงายหลังหมดสติในทันที
ถ้าเขาเลือกต่อยบริเวณที่ดั้งจมูก อีกฝ่ายอาจจะบาดเจ็บหนักและต้องพักฟื้นอีกนานเลย เพราะอาการบาดเจ็บที่ลึกขึ้น
แต่ถ้าอเล็กซ์เลือกที่จะต่อยเข้าขมับแทน อีกฝ่ายมีสิทธิ์ตายคาที่ได้เลยทีเดียว
ร่างกายมนุษย์ถ้าโดนจุดตายจังๆ พลังชีวิตมากแค่ไหนก็ไม่พอ
เพียงแค่พลังขาของอเล็กซ์ก็รุนแรงมากๆแล้ว แต่เขามีความสามารถคือ หมัดเหล็ก ที่ทำให้พลังหมัดรุนแรงกว่าปกติ ถ้าหมัดถึงขั้นสังหารอีกฝ่ายได้ก็ไม่แปลก
' น่าเสียดาย มันโดนไปหมัดเดียวก็ร่วงซะแล้ว ไม่เช่นนั้นจะลองถอนฟันให้หมดปากไปเลย '
อเล็กซ์ไม่สนใจนักที่ชนะศัตรูมาได้ แต่เขาคิดทบทวนถึงวิธีการต่อยยังไงให้อีกฝ่ายฟันร่วงให้หมดปากในครั้งเดีย ซึ่งนั่นถือเป็นความท้าทายมากกว่าในการต่อสู้นี้ซะอีก
แต่หลังจากคิดวิเคราะห์ มันก็เป็นการยากที่จะซัดหมัดเดียวและหลุดออกมาได้ นอกเสียจากจะต้องมีค่าสถานะมากว่าอย่างท่วมท้นกว่านี้ เอาให้ทะเทือนไปรวมกับกระโหลกเลย
เหตุการณ์ทั้งหมด ผ่านยังไม่ถึงหนึ่งนาทีตั้งแต่เริ่มการต่อสู้ เนเทอร์ก็ถูกเด็กใหม่ซัดลงไปกองกับพื้น ซึ่งทำให้รอบข้างตกใจอย่างมาก
" ไอเด็กนี้น่ากลัวมาก "
" ด้วยอายุเพียงแค่นี้ นี้มันอัจฉริยะชัดๆ "
ผู้คนต่างให้ความสนใจกับอเล็กซ์พร้อมจับตามองรายละเอียด รวมทั้งนักสู้ที่กำลังพักผ่อนและเฝ้าจับตาดูสถานการณ์อยู่
อเล็กซ์มีรูปลักษณ์ที่ยังเติบโตไม่เต็มที่ ใบหน้านิ่งเฉยพร้อมดวงตาที่เหม่อลอยราวกับกำลังขบคิดถึงหลายสิ่งหลายอย่างในเวลาเดียวกัน ไม่มีความยินดีหรือความสะใจที่มักเห็นในมือใหม่ทั่วไป
กรรมการรีบประกาศชัยชนะและให้คนมาดูอาการคนเจ็บ
ส่วนอเล็กซ์ก็เดินลงจากเวทีและกำลังกลับเข้าโซนที่พักซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเวทีอย่างสงบ
อเล็กซ์นั้นไม่ซีเรียสเรื่องความพ่ายแพ้หรือชนะ แต่ที่เขาลงมือหนักและรวดเร็วเช่นนี้
เพราะแมตช์นี้ถือเป็นการเปิดตัว มันไม่เหมือนการต่อยเพื่อเอนเตอร์เทนคนดูหรือฝึกฝนการรับมืออีกฝ่าย
เขาจะต้องประกาศศักดาตัวเอง เพื่อเพิ่มชื่อเสียง และชื่อเสียงก็จะดึงดูดคนแข็งแกร่งให้มาเผชิญกับเขา และสิ่งนี้ก็จะเป็นตัวช่วยให้เขาประหยัดเวลาได้มากขึ้น
" ปังๆๆๆๆ "
ในตอนที่อเล็กซ์กำลังจะกลับเข้าไปในห้องที่พัก เขาก็ได้ยินเสียงปะทะกันดังสนั่น เสียงเหมือนใครเอาเครื่องจักรมาทุบค้างๆบ้าน เขาจึงไปตรงบริเวณที่มีคนมุงดูกันเยอะที่สุด
บริเวณนี้มีเวทีที่ใหญ่โตที่สุด เมื่อเขาหาทางจนมองไปบนเวทีได้สำเร็จ เขาก็เห็นมีนักสู้สองคนกำลังผลัดกันโจมตีอย่างรุนแรงบนเวที
พวกเขาซัดหมัดหนึ่งครั้ง สามารถส่งทั้งลมและเสียงออกมาอย่างน่าหวาดกลัว แถมความเร็วของพวกเขาแทบจะกลายเป็นภาพติดตาเท่านั้น
' พวกนี้คือปรมาจารย์นักสู้ ซึ่งเป็นคลาสขั้นสองของนักสู้ แถมยังมีคลาสอื่นเสริมอื่นอีก น่าจะมีเลเวลรวมเกือบ 30 แล้ว '
เมื่อได้รับคลาสขั้นสองมา พวกเขาจะถือได้ว่าไปอีกระดับ มีทั้งค่าสถานะและความสามารถ รวมถึงทักษะที่เพิ่มมากขึ้น
ซึ่งคลาสต่างๆทั้งคลาสขั้นหนึ่งและคลาสระดับอื่นๆ ก็จะนำมารวมกันและกลายเป็นเลเวลรวมของคนๆนั้น ซึ่งเลเวลรวมก็มีความสำคัญ ที่จะมอบความสามารถที่จะเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน
อเล็กซ์เฝ้าดูการต่อสู้เงียบๆและจดจำการต่อสู้ของทั้งสองเอาไว้ ทั้งสไตล์และแนวทางต่อสู้ ทุกคนล้วนมีจุดเด่นจุดด้อย การศึกษาไว้เยอะทำให้มีข้อมูลเวลาใช้ในยามต่อสู้จริง
แถมเขาคิดว่าอาจจะนำคนพวกนี้ ไปเป็น ชาโดว์บ็อกซิ่งให้กับเขาได้
มันคือการใช้จินตนาการสร้างพวกเขาขึ้นมาและจำลองการต่อสู้ โดยคิดว่ากำลังถูกอีกฝ่ายไล่โจมตีและตัวเขาเองจะตอบโต้ยังไง ด้วยร่างกายปัจจุบัน มันถือเป็นความท้าทายไม่น้อยเลย
ลองจินตนาการถึงตัวเราในเวลานี้ ที่ถูกพวกระดับปรมาจารย์บนเวทีไล่โจมตีกดดัน จะต้องรับมือและเอาตัวรอดยังไง
เพราะอย่างที่เคยบอกไว้ อเล็กซ์ไม่มั่นใจในการต่อสู้หรือสังหารผู้คน เขาเป็นปรมาจารย์ด้านป้องกันตัวเองและเอาชีวิตรอด แม้จะเผชิญหน้ากับผู้ที่อันตรายสุดๆ เขาก็จะใช้ทุกการเคลื่อนไหวเอาตัวรอดให้ได้…..
การต่อสู้บนเวทีเป็นไปอย่างดุเดือด เรียกเสียงเชียร์ข้างเวทีอย่างล้นหลาม พวกเขาล้วนหลงไหลและนับถือผู้แข็งแกร่ง ซึ่งมันเป็นธรรมชาติของมนุษย์ส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะในโลกจริงหรือในโลกนี้ก็ตาม
การเป็นปรมาจารย์คือเป้าหมายของผู้คน รวมถึงนักสู้ในสนามประลองนี้ทุกคน
พวกเขามีมุมมองที่คับแคบ การเป็นปรมาจารย์นักสู้ถือเป็นเป้าหมายใหญ่ในชีวิตที่สุดของพวกเขาแล้ว
ซึ่งต่างจากอเล็กซ์ที่เขามีมุมมองที่กว้างไกลกว่านั้นหลายเท่า เขาไม่ได้มองพวกปรมาจารย์ชนบทพวกนี้อยู่ในสายตา อายุก็มากแล้วยังมีเลเวลแค่นี้
จะโทษพวกเขาก็ไม่ได้ พวกเขาล้วนขาดข้อมูล และโลกใบนี้ NPC คือคนจริงๆ พวกเขามีชีวิตเดียว ไม่สามารถออกไปเสี่ยงเพื่อพัฒนาตัวเองให้ถูกต้องได้
' แต่พวกเขาไม่ได้สู้กันอย่างเต็มที่จริงๆ นี้มันการแสดงชัดๆ '
อเล็กซ์จับตาดูไปซักพัก เขาก็เริ่มจับสังเกตุได้ว่า ปรมาจารย์บนเวทีทั้งสองฝั่ง ไม่ได้ต่อสู้กันอย่างเอาจริง
เพียงมาโชว์แลกหมัดและพลังของคลาสขั้นสองเท่านั้น ถ้าพวกเขาเอาจริงพลังของมันไม่ได้มีเพียงแค่นี้แน่ เวทีแค่นี้ก็เอาไม่อยู่หรอก
' นี้คือธุรกิจสินะ '
อเล็กซ์เลิกให้ความสนใจ และเขาก็กลับเข้าไปที่พักหลังจากมองทะลุถึงพวกเขาทั้งสองฝั่ง จดจำทั้งรูปแบบและค่าสถานะของพวกเขาโดยประมาณ
อเล็กซ์นั่งพักได้เล็กน้อย ก็มีคนของสนามประลองเดินเข้ามาหา ซึ่งเป็นผู้จัดการผสานงานระหว่างนักสู้กับสนามประลอง
" ท่านอเล็กซ์ ข้าน้อยเป็นหนึ่งในคนของสนามประลอง ที่ได้รับหน้าที่คอยประสานงานให้กับท่านขอรับ "
" โอ้ งั้นรับนี้เป็นของขวัญต้อนรับความสัมพันธ์เราแล้วกัน "
อเล็กซ์เตรียมการไว้อยู่แล้ว จึงยื่นเหรียญเงินให้อีกฝ่าย 10 เหรียญ ซึ่งทำให้อีกฝ่ายหน้ายิ้มแย้มและเพิ่มความกระตือรือร้นทันที
อเล็กซ์เข้าใจถึงการใช้เงินเพื่ออำนวยความสะดวก เพราะใครก็ต่างทำงานเพื่อเงิน ถ้าพวกเขาได้เพิ่มย่อมขยันเพื่อหวังให้ได้มากกว่านี้
อเล็กซ์มีวิธีหาเงินมากมาย เขาไม่ซีเรียสกับเงินเล็กน้อยเพียงแค่นี้ ในอนาคตวิธีการหาเงินของเขาจะเพิ่มมากขึ้นตามความแข็งแกร่งของเขา
" ท่านอเล็กซ์ ข้าน้อยมีตารางนักสู้อีกฝ่ายมาให้ท่านดู และท่านสามารถเลือกต่อสู้ได้ตลอดเวลา แถมข้าน้อยเดาว่า อีกไม่นานต้องมีนักสู้จำนวนมากท้าทายท่านเข้ามาแน่ "
" งั้นก็ดีเลย เอาคนที่เจ้าคิดว่าอยู่ระดับกลางๆพอ"