Chapter 98 The fan dies you
扇死�
ภายในพื้นที่ซั่งเซิ่ง,มีทั้งหมด 34 มนทล,แต่ละเขตนั้นมีตระกูล,นิกาย,จักรวรรดิมากมายนับไม่ถ้วน,มีเหล่าคนที่มีพรสวรรค์มากมายนับไม่ถ้วน,พวกเขาสองพี่น้อง,แม้นว่าจะเป็นผู้เยาว์ที่โดดเด่นของตระกูลฟ่าน,มีชื่อเสียงในมนทลเฟิงเหล่ย,ทว่าทั้งดินแดนซั่งเซิ่งไม่นับเป็นอะไรเลย.
ลู่อี้ผิงได้ยินสองพี่น้องที่กล่าวด้วยความปรารถนาแล้วถอนหายใจ ก็เอ่ยออกมาว่า“ฉูถงอยู่ในขอบเขตอะไรเวลานี้?”
ฟ่านอี้หลานและฟ่านเซิ่ง,สองพี่น้องที่ตกใจ.
“ไม่ชัดเจนนัก.”ฟ่านอี้หลานส่ายหน้าไปมา“หลายปีก่อน,ท่านฉู่ถงคือจ้าวพิภพ,มีบางคนบอกว่าท่านฉู่ถงนั้นเป็นจ้าวพิภพขั้นกลาง,บางคนก็บอกว่าเป็นจ้าวพิภพขั้นปลาย.”
“แม้แต่มีคนบอกว่า,ท่านฉู่ถงนั้นคือจ้าวพิภพขั้นปลายสุดท้ายด้วย!”
“ครั้งหนึ่งท่านฉู่ถงได้เข้าไปในตำหนักเทวะสวีเทียน,ได้รับโอกาสไร้ที่เปรียบมา.”
ลู่อี้ผิงที่เผยความประหลาดใจ“ตำหนักเทวะสวีเทียน.”
ฟ่านอี้หลานพยักหน้ารับ,“ใช่แล้ว,ได้ยินมาว่าท่านฉู่ถงนั้นได้สมบัติบางอย่างของจ้าวเทวะสวีเทียน,ส่วนเป็นของสิ่งใด,ไม่มีใครรู้.”
จ้าวเทวะสวีเทียน,ก็คือตัวตนในตำนานของจิวเทียนในอดีตนั่นเอง.
“คุณชายที่ด้านหน้าเป็นเมืองซิงเหอ,ซึ่งเป็นที่ตั้งของนิกายกุยหยวนในอดีต.”ฟ่านอี้หลานที่เอ่ยต่อลู่อี้ผิง.
ลู่อี้ผิงพยักหน้ารับ.
พวกเขาที่เดินทางเข้าไปในเมืองซิงเหอ.
เมืองซิงเหอ,เต็มไปด้วยรถลากด้วยอาชามังกรวารี,วิ่งกันเต็มท้องถนน.
ที่นี่เป็นถนนที่เชื่อมต่อไปยังนิกายกระบี่กุยหยวน,จึงมีร้านขายกระบี่มากมายนับไม่ถ้วน.
หลังจากที่เข้าเมืองมา,ลู่อี้ผิงหยุดลง“โรงเตียมอู๋ซ่วง”(โรงเตี้ยมไร้ที่เปรียบ)
อู๋ซ่วง(ไร้ที่เปรียบ)อักขระสองตัวที่มีมังกรและฟินิกซ์ร่ายรำ,มีอำนาจกฏฟ้าดินไร้ที่เปรียบแผ่รัศมีออกมา.
วัวกระทิงมังกรเขาทองคำเผยยิ้ม“อู๋ซ่วงรึ?”
ฟ่านเซิ่งที่เผยยิ้ม“โรงเตี้ยมอู๋ซ่วง,ถือว่ามีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในจิวเทียน,กล่าวได้ว่าเป็นโรงเตี้ยมอันดับหนึ่งก็ได้,โดยเฉพาะสุราของนักบุญอู๋ซ่วง,เป็นสุราที่มีชื่อเสียงที่สุด.”
Saint is honorary disciple of Sir Saint Demon.”
กล่าวถึงสุรานักบุญอู๋ซ่วง,ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความยกย่อง,แววตาที่นับถืออย่างที่สุด“สุรานักบุญอู๋ซ่วงนั้น,เป็นนามของยอดฝีมือไร้คู่เปรียบของจิวเทียน,ทว่ามีใครบางคนบอกว่า,นักบุญอู๋ซ่วงนั่นเป็นศิษย์กิตติมศักดิ์ของท่านนักบุญปิศาจ.”
“...”ลู่อี้ผิงที่เผยความประหลาดใจ“ศิษย์กิตติมศักดิ์ของนักบุญปิศาจอย่างงั้นรึ?”
ฟ่านอี้หลานพยักหน้า“มีเรื่องเล่าเอ่ยออกมาว่า,ท่านนักบุญปิศาจนั้นไม่ได้รับนักบุญจิวอู๋ซ่วงเป็นศิษย์,ทว่าเพียงแค่ชี้แนะนักบุญอู๋ซ่วงเท่านั้น.”
พวกลู่อี้ผิงที่ก้าวเข้ามาในโรงเตี้ยมอู๋ซ่วง.
พื้นที่ด้านในนั้นกว้างเป็นอย่างมาก.
มีทั้งหมดสองชั้น.
ลู่อี้ผิงที่ตรงขึ้นไปยังชั้นสอง.
พนักงานต้องรับที่ก้าวเข้ามาหา,ลู่อี้ผิงเอ่ยถามออกไปว่า“สุราที่ดีที่สุดของเจ้าคืออะไร?”
พนักงานต้องรับเอ่ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม“สุราของโรงเตี้ยมอู๋ซ่วง,สุราที่ดีที่สุดย่อมเป็น,สุราเหล่ยซิง,ทว่าสุราเหล่ยซิงที่อายุต่างกัน,ย่อมมีรสชาติต่างกันด้วย.”
“นำสุราเหล่ยซิงที่ดีที่สุดมา ห้าไห”ลู่อี้ผิงเอ่ย.
วัวกระทิงมังกร,หวงจิวเวลานี้กลายร่างเป็นมนุษย์แล้ว,รวมกับสองพี่น้องฟ่านอี้หลาน,รวมเป็นคนทั้งหมดห้าคน.
วัวกระทิงมังกรเขาทองคำที่กลายร่างเป็นมนุษย์นั้นร่างกายใหญ่โตมากเป็นบุรุษที่สูงสองเมตรกว่า,โดยเฉพาะขาและแขนของเขาที่หนาเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ,ดูหล่อเหลาโดยเฉพาะผมสีทองและคิ้วขนตาขอบตาที่เป็นสีทองทั้งหมด.
ส่วนหวงจิว,นั้นก็ไม่ได้ด้อยกว่าวัวกระทิงมังกรเขาทองคำ,ใบหน้าประณีตงดงาม,ส่วนสูงไม่ห่างจากลู่อี้ผิงหนึ่งเมตรแปดสิบเซนติเมตร,ดูเหมือนกับนักศึกษาวัยละอ่อน.
พนักงานต้อนรับได้ยินอีกฝ่ายสั่งสุราซิงเหล่ยห้าไห,ก็ดูลังเลเอ่ยออกมาว่า“คุณชายเกรงว่าท่านยังไม่รู้ราคาของสุราซิงไห่?”
“สุราซิงไห่ธรรมดา,นั้นราคาไหล่ะหนึ่งหมื่นศิลาวิญญาณเกรดเทวะ.”
“ส่วนสุราที่ดีที่สุดนั้น,ไหล่ะ 1.001 ล้าน!”
ห้าไห,ก็คือห้าล้าน.
วัวกระทิงขามังกรที่นำแหวนมิติออกมา,เผยให้เห็นด้านใน,มีกองศิลาวิญญาณเกรดเทวะมากมายเต็มไปหมดเป็นภูเขาใหญ่เลากา.
พนักงานต้องรับที่กลืนน้ำลายคำโต,เอ่ยด้วยความเคารพ“ท่านทั้งหลายโปรดรอสักครู่,ข้าจะไปนำสุรามาเสิร์ฟในทันที.”
ขณะที่ฝ่ายตรงข้ามจากไป,ลู่อี้ผิงก็เข้าไปนั่งบนโต๊ะรับรอง.
เพียงไม่นาน,สุราซิงเหล่ยและกับแกล้มก็ถูกนำมาส่ง.
ฟ่านอี้หลานและฟ่านเซิ่งที่จ้องมองกันและกัน,มองไปยังสุราซิงเหล่ยบนโต๊ะ,ด้วยอารมณ์ซับซ้อน,แม้นว่าทั้งสองจะเป็นบุตรของประมุขตระกูลฟ่าน,ทว่าก็เคยดื่มสุราซิงเหล่ยเกรดทั่วไปเท่านั้น.
ในเวลาเดียวกันนั้น,ปรากฏคนกลุ่มหนึ่งที่ก้าวเข้ามาในโรงเตี้ยมชั้นสอง,ผู้นำเป็นผู้เยาว์ที่มองเห็นฟ่านอี้หลานและฟ่านเซิ่งสองพี่น้อง,ก็เผยความประหลาดใจก่อนก้าวเข้ามาหาทันที.
“ไม่คิดเลยว่าจะมาพบกับน้องสาวอี้หลานโดยบังเอิญเช่นนี้.”หลังจากผู้เยาว์คนดังกล่าวเข้ามา,ก็ยกมือผสานเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม“น้องสาวอี้หลานต้องการเข้าร่วมงานชุมนุมกระบี่ด้วยอย่างงั้นรึ?”
เขาที่ไม่เอ่ยถามลู่อี้ผิงหรือวัวกระทิงแม้แต่น้อย,ก้าวเข้ามานั่งโดยไม่เกรงใจผู้ใด.
ชายหนุ่มที่เอ่ยปากต่อ“เรื่องของตระกูลฟ่าน ข้าเองก็ได้ยิน,รู้สึกเสียใจสุดซึ้ง,ต้องการนำคนไปช่วยเช่นกัน,ทว่าเวลานั้นอาวุโสตระกูลข้ากับขวางเอาไว้.”
อย่างไรก็ตาม,ใบหน้าของเขานั้นไม่ได้มีความเสียใจเลยแม้แต่น้อย.
เห็นชัดเจนว่าเป็นการเอ่ยกล่าวอย่างไร้ซึ่งความนับถือ.
เสียใจสุดซึ้ง,ถูกอาวุโสขวางอะไร,เพียงแค่เสแสร้งชัดเจน.
“ใครอนุญาตให้เจ้านั่ง.”ในเวลานั้นเสียงที่ไม่แยแสได้ดังขึ้น.
ชายหนุ่มที่ตกใจ,จ้องมองไปยังลู่อี้ผิง.ด้วยความตกใจ.
ฟ่านอี้หลานที่ไอออกมาเล็กน้อย,พร้อมกับกล่าวต่อลู่อี้ผิงแนะนำต่อชายหนุ่ม“นี่คือคุณชายลู่,ลู่อี้ผิง,พวกเราถูกยอดฝีมือนิกายเห่ยเฟิงไล่ล่า,เป็นคุณชายลู่อี้ผิงช่วยเหลือพวกเรา.”
จากนั้นนางก็เอ่ยต่อลู่อี้ผิง“นี่คือคุณชายฉีเหว่ยตระกูลฉีมนทลชิงอวิ๋น.”
ตระกูลฉี,มนทลชิงอวิ๋นนับเป็นตระกูลใหญ่,แม้นว่าจะไม่มียอดฝีมือระดับจ้าวพิภพ,ทว่าตระกูลฉีก็มียอดฝีมือขอบเขตเทพสวรรค์ถึงสี่คน!
ว่าด้วยความแข็งแกร่ง,ตระกูลฉีนั้นแข็งแกร่งว่านิกายเห่ยเฟิงและตระกูลเถามาก.
ฉีกเหว่ยจ้องมองลู่อี้ผิงเอ่ยออกมาว่า“ช่วยน้องสาวอี้หลานไว้รึ? มีปัญหาอะไร,โรงเตี้ยมอู๋ซ่วงเป็นของคุณชายลู่รึไง,ข้าจะนั่งจึงต้องถามเจ้า?”
ยอดฝีมือตระกูลฉีที่จ้องมองลู่อี้ผิงด้วยท่าทางเย้ยหยัน.
ในเวลานั้น,วัวกระทิงมังกรที่คว้าไปยังคอของฉีเหว่ย,ก่อนที่จะเหวี่ยงออกไป“ไอ้หนู,เป็นเพียงหมาแมวหากไม่อยากตาย ไสหัวไปให้พ้น!”
ฉีเหว่ยที่ถูกวัวกระทิงมังกรเขาทองคำโยนออกไป,กลิ้งม้วนลากไปบนพื้นก่อนที่จะกระแทกเข้ากับเสาหินดังสนั่น.
“แส่หาความตาย!”ยอดฝีมือตระกูลฉีหลายคนที่โกรธเกรี้ยว,พวกเขาที่พุ่งเข้าไป,ยอดฝีมือตระกูลฉีคนหนึ่งที่ปล่อยหมัดต่อยตรงไปยังวัวกระทิงมังกรเขาทองคำ.
ขณะที่ทุกคนโจมตีออกไป,ในมือของวัวกระทิงมังกรปรากฏขนหนาสีทองที่ปรากฏในมือ.
ขนวัวกระทิงมังกรเขาทองคำที่ถูกเหวี่ยงออกไป.
ในเวลานั้น,ยอดฝีมือตระกูลฉีคนที่ปล่อยหมัดถูกเสาสีทองกระแทกลอยกระเด็นออกหน้าต่างขึ้นสู่ทองฟ้าหายไปลิบสายตาทันที.
เหล่ายอดฝีมือตระกูลฉีคนอื่น ๆ ที่ชงักงันกลายเป็นงงงวยไปตาม ๆ กัน.
แม้แต่ฉีเหว่ยประมุขน้อยตระกูลฉียังกลายเป็นนิ่งงงงันเช่นกัน.
ยอดฝีมือตระกูลฉีที่ลงมือก่อนหน้านี้,แม้นว่าจะไม่ใช่เทพวิญญาณ,ทว่าก็มีระดับใกล้กับขอบเขตเทพวิญญาณแล้ว.
วัวกระทิงมังกรเขาทองคำเอ่ยต่อฉีเหว่ย,หัวเราะเบา ๆ“หึหึ,ไอ้หนูอยากลองอีกใหม?”
ฉีเหว่ยและยอดฝีมือตระกูลฉีคนอื่น ๆ ที่เร่งรีบหนีไปในทันที.
วัวกระทิงเขามังกรเขาทองคำที่เก็บขนสีทอง“มารดาเถอะ,หนีไปซะแล้ว.”
ฟ่านอี้หลานและฟ่านเซิงสองพี่น้องที่ไม่รู้ว่าจะเอ่ยอะไรออกมาเช่นกัน.
หวงจิวกล่าวอย่างอิจฉา,“ขนสีทองของท่านเสี่ยวจินร้ายกาจมาก.”
วัวกระทิงมังกรเขาทองคำเผยยิ้ม“ร้ายกาจเหมือนกับขนจูเหริน.”
หวงจิวและอีกสามคนแทบสำลัก,ความหมายของวัวกระทิงมังกร,จะบอกว่าขนของลู่อี้ผิงร้ายกาจอย่างงั้นรึ?
ในเวลานั้น,ที่ไกลออกไปมีคนกลุ่มหนึ่งที่พูดคุยกัน“ได้ยินมาว่าศิษย์เทพดาบภูเขาหกตาถูกชายหนุ่มชุดดำสังหาร!”