Chapter 93 False limitless fleeing the world symbol
假的无极遁世符
โจวเฉิงที่เผยใบหน้าเย็นชา,ยกมือขึ้นปล่อยฝ่ามืออรหันต์นับไม่ถ้วน,รับการโจมตีจากฝ่ามือพุทธ,อำนาจมังกรพุทธะ,ฝ่ามือเสี่ยวเหยาฟู่และเสียงสวดแห่งท้องทะเล.
ตูมมมมมมมมม
เสียงระเบิดดังกึกก้องสั่นคลอนสวรรค์.
คลื่นอากาศที่กวาดม้วนออกไปทั่วสารทิศ.
เหล่าปิศาจสวรรค์ที่กำลังหลังไหลเข้ามาเองก็ถูกกระแทกลอยกระเด็นแตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ เช่นกัน.
เหล่ายอดฝีมือรอบ ๆ ต่างก็ตกใจถอยออกไปสองสามก้าว.
พื้นด้านหน้าห้องสมบัติ,เวลานี้กลายเป็นพื้นที่เปิดกว้างไปแล้ว.
เสียงระเบิดที่ดังกึกก้อง,โจวเฉิงที่ถอยออกมาก้าวหนึ่ง.
ส่วนอรหันต์ไจ่ชิง,เจ้านิกายหลงฟู่,เสี่ยวเหยาฟู่และหวนไห่ฟู่,ทั้งสี่ถอยครูดออกมาหลายก้าวเช่นกัน.
เจ้านิกายทั้งสี่ต่างก็ตกใจไม่แพ้กัน,พวกเขาที่โจมตีเต็มพลัง,คาดไม่ถึงว่าจะเพียงทำให้โจวเฉิงถอยออกไปได้ก้าวเดียว,หากเป็นก่อนที่โจวเฉิงจะผลาญพลังเทพไป,เกรงว่าพวกเขาคงจะไม่ใช่คู่มือของอีกฝ่ายอย่างแน่นอน.
ยอดฝีมือทั้งสี่ที่รวมมือกันไม่กล้าประมาทเลย,จากนั้นพวกเขาได้ใช้ทักษะที่แข็งแกร่งที่สุดออกมาซ้ำอีกครั้งและก็อีกครั้ง.
โจวเฉิงที่ถูกคนทั้งสี่ร่วมมือกันโจมตีมาไม่หยุด,เขาที่ถูกผลักให้ถอยออกไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า,จนไปถึงสุดขอบไม่อาจถอยได้อีกแล้ว.
เจ้านิกายกวนหยวนนิกายพุทธะไท่ฮัวและคนอื่น ๆ เวลานี้ถูกยอดฝีมือของวิหารไจ่ซิง,นิกายหลงฟู่,นิกายเสี่ยวเหยาฟู่และนิกายหวนไห่ฟู่ขวางกั้น ไม่อาจเข้าไปสนับสนุนโจวเฉิงได้เลย.
อรหันต์ไจ่ชิงและพวกทั้งสี่รุมสังหารโจวเฉิง,โจมตีกระหน่ำไม่หยุด,ท้ายที่สุดเขาก็ไม่อาจทนแบกรับได้อีกต่อไป,กระเด็นล่วงหล่นกองบนพื้นกระอักโลหิตคำโตออกมา.
ในเวลาเดียวกันลาของเขาที่พุ่งออกไป,แต่กับถูกฝ่ามือเจ้านิกายเสี่ยวเหยาฟู่ฟาดด้วยฝามือลอยกระเด็น,ร่างกายอาบไปด้วยโลหิตนอนจมอยู่บนพื้นด้วยเช่นกัน.
“อาเหมา!”โจวเฉิงที่ร้องลั่นโกรธเกรี้ยวเศร้าสลดออกมา
หานซิงเจ้าวังไจ่ซิงที่ลงมืออีกครั้ง,ฟาดโจวเฉิงลอยกระเด็นออกไป.
พวกหานซิงแค่นเสียงกล่าวเยาะ.
โจวเฉิงที่นอนกองอยู่บนพื้นเผยยิ้มออกมาทันที,จ้องมองไปยังพวกหานซิงทั้งสี่“บอกเจ้าหน่อยก็ได้,คุณชายลู่นั้นได้มาถึงทวีปฟู่เฉิงแล้ว.”
เจ้านิกายเสี่ยวเหยาฟู่,เหอกานที่เผยท่าทางประหลาดใจ“ลู่อี้ผิงนะรึ?!”
โจวเฉิงที่เผยยิ้ม“ใช่แล้ว.”
หานซิงแค่นเสียงดูแคลน“ก็แค่คุยโวเท่านั้นล่ะ! ในเมื่อลู่อีผิ้งมาพร้อมกับเจ้า,ข้าไม่เห็นลู่อี้ผิงเลย? เจ้าคิดว่าเอ่ยชื่อลู่อี้ผิงเพื่อขู่ให้เรากลัวแล้วพวกเราจะจากไปอย่างงั้นรึ?”
“ไม่ว่าลู่อี้ผิงจะอยู่หรือไม่อยู่แล้วยังไง,พวกเราต้องหวาดกลัวด้วยรึ?!”
ในเวลานั้นบนฝ่ามือของหานซิงปรากฏตราประทับหยกพุทธะสีครามขึ้น.
“ตราประทับพุทธะชิงหลิง!”
ใครบางคนที่อุทานออกมาด้วยความตกใจ.
ตราประทับชิงหลิง,เป็นสมบัติพุทธะที่สืบทอดมาจากยุคโบราณ,เป็นสุดยอดของวิเศษของยอดฝีมือยุคโบราณที่หลอมสร้างขึ้นมา.
หานซิงถือตราประทับพุทธะชิงหลิง,ปล่อยมันลอยออกไปแผ่อำนาจพุทธะที่ไร้เทียมทานกระจายไปทั่ว,ตราประทับพุทธะที่ขยายใหญ่ขึ้น,จนมีขนาดเท่ากับภูเขาย่อม ๆ,รัศมีแสงพุทธะที่สว่างเจิดจรัส ล่วงหล่นกระแทกตรงไปยังร่างของโจวเฉิง.
ขณะตราประทับพุทธะที่ล่วงหล่นลงมา,ทันใดนั้น,ริ้วแสงสีโลหิตก็พุ่งแหวกอากาศมา.
ริ้วแสงโลหิต,กระแทกตราประทับให้ลอยเติ่งบนอากาศ,รอยแตกที่ปรากฏขึ้นลามยาวออกไป,ก่อนขาดเป็นสองท่อนล่วงหล่นลงบนพื้นในเวลาต่อมา.
สายตาของทุกคนที่จับจ้องต่างก็เบิกกว้างกลมโต
หานซิงที่เผยใบหน้าท่าทางไม่อยากเชื่อออกมา.
สายตาของทุกคนที่จ้องไปเป็นสายตาเดียวกัน,ก่อนจะพบว่าบนท้องฟ้านิกายพุทธะไท่ฮัว,ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ปรากฏชายในชุดสีน้ำเงินขี่วัวกระทิงและชายชุดดำที่ยืนอยู่ด้านหลัง.
ริ้วแสงโลหิตสีแดงนั้นเป็นฝีมือของชายหนุ่มชุดสีดำนั่นเอง,พวกเขาพบว่าดาบของอีกฝ่ายนั้นยังคงแผ่รัศมีสีโลหิตออกมาไม่หยุด.
ลู่อี้ผิงที่ก้าวออกไป,ก่อนที่จะไปหยุดที่ด้านหน้าคลังสมบัติ,ปล่อยลำแสงสีเขียวออกไป,ผสานเข้าไปในร่างของโจวเฉิง.
สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า,บาดแผลของโจวเฉพงที่อาบไล้ด้วยรัศมีแสงสีเขียวขับไล่ทุกอย่างให้สลายหายไป,ฟื้นคืนพลังชีวิตกลับมาอย่างรวดเร็ว.
“เป็นอะไรหรือไม่?”ลู่อี้ผิงที่เอ่ยปากออกมาในที่สุด.
โจวเฉิงที่ลุกขึ้น,ส่ายหน้าไปมาเผยยิ้มเล็กน้อย“ไม่เป็นไร,โชคดีที่คุณชายลู่มาทัน,ไม่เช่นนั้นเกรงว่าชีวิตที่เหลือน้อยนิดนี้คงจะสูญสิ้นไปแล้ว.”
คุณชายลู่!
นามดังกล่าว,ที่เป็นเหมือนเงาที่สูงใหญ่.
ได้ยินโจวเฉิงเอ่ย,พวกหานซิงต่างก็ตกใจไปตาม ๆ กัน.
แม้แต่อรหันต์ไจ่ซิงที่เอ่ยว่าไม่หวาดกลัวลู่อี้ผิง,ยังตกใจถอยหลังออกไปก้าวหนึ่งโดยไม่ตั้งใจ.
ลู่อี้ผิงที่กวาดตามองไปรอบ ๆ,ทั่วร่างของเขาปรากฏปราณกระบี่ รวมตัวขึ้นก่อร่างสร้างเป็นค่ายกลกระบี่ไร้เทียมทานจากนั้น,ริ้วแสงกระบี่นับล้านล้านสายก็พวยพุ่งปะทุขึ้น,แผ่ลำแสงกระบี่พุ่งตัดข้ามท้องฟ้าทะลวงเหล่าปิศาจสวรรค์ที่อยู่ทั่วทุกหนแห่งของในอาณาเขตนิกายพุทธะไท่ฮัว.
ถึงจะเป็นปิศาจสวรรค์ขอบเขตเทพแท้จริง,เทพสวรรค์ก็ไม่อาจหลบพ้น
เหล่าปิศาจสวรรค์ที่ปกคลุมท้องฟ้านิกายพุทธะไท่ฮัวจนมืดฟ้ามัวดิน พริบตาเดียวก็กลายเป็นสว่างโร่ขึ้นมา.
แสงแดงที่สาดส่องอาบไล้ไปทั่ว.
จากนั้น,ลู่อี้ผิงที่โบกมือ,อักขระมามายนับไม่ถ้วนลอยออกไป,กลายเป็นมังกรปีกขนาดใหญ่บินร่อนลงที่ใจกลางรังปิศาจนิกายพุทธะไท่ฮัว.
ทันใดนั้น,เหล่าปิศาจสวรรค์ที่กำลังกรูออกมา,ก็สั่นสะท้านล่วงหล่นลงไปในหุบเหวพร้อมกันทั้งหมด
เหล่าปิศาจสวรรค์ที่พุ่งเข้าหามังกรปีกยักษ์เต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง,ทว่าพริบตานั้นพวกมันก็สลายกลายเป็นควันแทบจะในทันที.
“มหาค่ายกลมังกรสวรรค์กำราบปิศาจ!”
หลงฟู่เห็นมังกรปีกยักษ์,ก็เผยความตื่นตะลึงตกใจเป็นอย่างมาก.
มหาค่ายกลมังกรสวรรค์กำราบปิศาจ,นี่คือมหาค่ายกลเผ่ามังกรยุคโบราณ,แม้แต่บรรพชนเผ่ามังกรยุคโบราณก็มีน้อยคนนักที่สามารถวางค่ายกลนี้ได้.
นอกจากนี้,มหาค่ายกลมังกรสวรรค์กำราบปิศาจ,ไม่เพียงแค่แข็งแกร่งเท่านั้นยังสามารถทำลายล้างปิศาจสวรรค์นับล้าน ๆ ไม่ให้พวกมันออกมาจากหลุมได้อย่างหมดจด.
ผู้คนทุกคนที่ยืนเป็นไก่ไม้หยุดนิ่งไปตาม ๆ กัน.
วิหารอรหันต์ไจ่ซิง,นิกายหลงฟู่และยอดฝีมือคนอื่น ๆ ทั้งสี่นิกายใหญ่,เวลานี้จ้องมองลู่อี้ผิงไม่วางตา,แววตาที่เผยความหวาดกลัวอย่างสมบูรณ์.
อย่างไรก็ตาม,ลู่อี้ผิงกับไม่สนใจพวกเขาแม้แต่น้อย,ทว่ามือของเขาที่สะบัดคว้าความว่างเปล่า,ก่อนที่จะเห็นคนชุดดำที่สวมหน้ากากผีล่วงหล่นลงมาจากบนท้องฟ้า.
“จื่อหยินต้าเหริน!”
เจ้าวิหารอรหันต์ไจ่ซิง,เจ้านิกายหลงฟู่,เจ้านิกายเสี่ยวเหยาฟู่และเจ้านิกายหวนไห่ฟู่ เห็นคนชุดดำแล้วอุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ.
พวกเขาทั้งสี่ล้วนแล้วแต่ได้รับคำชี้แนะจากคนชุดดำให้มายังวิหารพุทธะไท่ฮัว.
เฉียงเหลียงที่จ้องมองคนชุดดำสวมหน้ากากผีก็หรี่ตาจดจ้องมอง.
คนหน้ากากผี,ที่เคยผนึกหัวใจปิศาจโบราณของเขาในอดีต,ดูเหมือนกันเป็นอย่างมาก.
คนชุดดำที่ล่วงหล่นลงพื้น,จ้องมองลู่อี้ผิง,เอ่ยด้วยความตกใจและสงสัย“เจ้าเป็นใคร?!”
แน่นอนว่าหมายถึงสถานะที่แท้จริงของลู่อี้ผิง.
“คนที่จะสังหารเจ้า.”ลู่อี้ผิงเอ่ยอย่างไม่แยแส.
คนชุดดำที่หัวเราะเยาะ,เสียงหัวเราะที่เหมือนกับนกฮูก“สังหารข้ารึ? เจ้าหนู,ความแข็งแกร่งของเจ้านับว่าใช้ได้,ทว่าในโลกหล้านั้นมีใครบางคนที่เจ้าไม่อาจล่วงเกินได้,ข้าขอเตือนเจ้า อย่าได้ยุ่งเกี่ยวกับนิกายพุทธะไท่ฮัวจะดีกว่า!”
“จะได้หลีกเลี่ยงไม่ลากตระกูลตัวเองเข้าสู่ภัยพิภพจนต้องล่มสลาย!”
“นอกจากนี้,ถึงข้ายืนให้เจ้าสังหาร,เจ้าคิดว่าสามารถสังหารข้าได้อย่างงั้นรึ?”
กล่าวจบ,ทั่วร่างของเขาก็ปรากฏอักษรรูนมากมาย!
อักษรรูนดังกล่าว,มีขนาดเท่ากับฝ่ามือ,ทว่ากับเปี่ยมล้นด้วยพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่.
“อักษรรูนลี้กาลอวกาศ!”เฉียงเหลียงที่จ้องมองอักษรรูนดังกล่าวพลางขมวดคิ้วไปมา.
คนชุดดำที่ตกใจ,ก่อนที่จะหัวเราะเบา ๆ“ใช่แล้ว,อักขระลี้กาลอวกาศ,อักษรรูนเหล่านี้ทำให้ข้าอยู่ในอีกมิติหนึ่ง,ถึงจะเป็นจ้าวพิภพก็ไม่อาจทำอะไรอักขระลี้กาลอวกาศเหล่านี้ได้!”
ในเวลานั้น,ลู่อี้ผิงที่ยกมือขึ้นดูดดึงร่างของคนชุดดำ,ก่อนที่จะทะลวงอักขระลี้กาลอวกาศเข้าไป.
อักขระลี้กาลอวกาศที่แตกออกเป็นเสี่ยง ๆทันที.
เห็นอักขระลี้กาลอวกาศพังทลายยุ่ยเป็นกระดาษ,ทำให้คนชุดดำกลายเป็นโง่งมไปเลย.
วัวกระทิงมังกรเขาทองคำที่เผยยิ้ม“นี่ใช่อักขระลี้กาลอวกาศของปลอมหรือไม่?”
คนชุดดำที่อ้าปากค้าง,ของปลอมงั้นรึ?
ลู่อี้ผิงที่ชี้นิ้วออกไปถอดหน้ากากผีของอีกฝ่ายออกไป,ผู้คนรอบ ๆ ต่างก็อุทานด้วยความตกใจ,ภายใต้หน้ากากผีนั่น,คาดไม่ถึงว่าจะเป็นใบหน้าที่ประณีตไร้ที่เปรียบ.
เป็นสตรีผู้หนึ่ง!