Chapter 8 No one can live
无一人能活
แม้แต่เจ้านิกายเหล่ยฉิวเจี้ยน ซ่งหนิงเวลานี้ยังสั่นเทิ้ม.
ถึงเขาจะเป็นเจ้านิกาย,เมื่ออยู่ต่อหน้าเฉินหง,เขาก็เต็มไปด้วยความเคารพ,แทบไม่กล้าหายใจ.
อย่างไรก็ตาม,เจ้าหนุ่มคนนี้กับกล้าเอ่ยนามของน้องชายบรรพชนของเขาตรง ๆ.
เฉินหง,ไม่คาดคิดเช่นกันว่าอีกฝ่ายจะกล้าเรียกชื่อเขาตรง ๆ.
ในเวลานั้น,อาวุโสนิกายเหล่ยฉิวเจี้ยน,คนอื่น ๆ,ขณะจะกล่าวด่าลู่อี้ผิง,เฉินหงที่ยกมือขึ้นห้ามพวกเขา,เอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม“เจ้าไม่กลัวข้าอย่างงั้นรึ?”
ลู่อี้ผิงที่จ้องมองเฉินหงอย่างไม่แยแส,“เจ้าน่ากลัวมากนักรึ?”
พันล้านปีก่อน,ก่อนที่เขาจะถือสันโดษ,คนเช่นเฉินหง,เขาใช้เพียงนิ้วเดียวดีดออกไป,ก็ตกตายเป็นหมื่นคนพร้อม ๆ กันแล้ว!
ในเวลานั้น.
เฉินหงที่เผยท่าทางตกใจ.
เขาจ้องมองลู่อี้ผิง,ก่อนที่จะเผยยิ้มออกมา,พร้อมกับหัวเราะเสียงดัง,กล่าวด้วยรอยยิ้ม“เจ้าพูดถูก,ที่จริงข้าไม่ได้น่าหวาดกลัวเลย.”จากนั้น,เขาก็เผยยิ้มอย่างอบอุ่น“เจ้ามีนามว่าอะไรอย่างงั้นรึ?”
“หลังจากนี้เจ้าก็จะรู้.”ลู่อี้ผิงที่ส่ายหน้าไปมา.
เฉินหงที่จ้องมองลู่อี้ผิงอีกครา,ก่อนจะหัวเราะ,“ดี,แล้วข้าจะฟังชื่อของเจ้าในอนาคต.”
เขารู้สึกสนใจชายหนุ่มคนนี้จริง ๆ.
“ไปเถอะ,ข้าจะพาเจ้าไปพบกับอาจารย์ของข้า.”เฉินหงเอ่ย.
ลู่อี้ผิงที่พยักหน้ารับ,เขาต้องการสอบถามหยางเฉิงเกี่ยวกับเรื่องของหยางตงว่าหายไปใหน.
ภายในใจของหลายคนที่รู้สึกแปลก ๆ,พวกเขาคิดไม่ออกเลยว่าเฉินหงไม่ได้ตำหนิลู่อี้ผิงเลย,หนำซ้ำยังดูชื่นชมอีกฝ่ายอีกด้วย.
เป็นไปได้ว่าเหล่าตัวตนที่ยิ่งใหญ่,ต่างก็มีนิสัยแปลก ๆ เช่นนี้นะรึ?
ก่อนที่จะไป,ลู่อี้ผิงจ้องมองไปยังลู่เผิง.
เฉินหงเอ่ย,“เขามากับเจ้าอย่างงั้นรึ?”จากนั้นเขาก็เอ่ยต่ออาวุโสคนอื่นของนิกายเหล่ยฉิวเจี้ยน,นำลู่เผิงไปยังตำหนักชั้นในเพื่อรอคอย.
ลู่อี้ผิงที่ตามเฉินหงตรงไปยังดินแดนบรรพชนของนิกายเหล่ยฉิวเจี้ยน.
เฉินหงที่คิดว่าลู่อี้ผิงเป็นเพียงปุถุชน,ไม่อาจบินได้,ดังนั้นเขาจึงสร้างเจิ้นหยวนกลุ่มหนึ่งขึ้น,ยกร่างลู่อี้ผิงบินออกไป.
เซียวฉางเฟิงที่จ้องมองลู่อี้ผิงถูกนำตัวไป,ใบหน้ากลายเป็นเคร่งขรึมซับซ้อน.
“นายน้อย,เรื่องของอาวุโสหยวนล่ะ!”อาวุโสเซียวอีกคนที่ยืนอยู่ด้านหลังเซียวฉางเฟิงเอ่ยออกมาด้วยเสียงเศร้าสร้อย.
“วางใจได้,ลุงหยวนไม่ตายเปล่าแน่!”เซียวฉางเฟิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา.
ทว่ากงจู่ไท่เหยี่ยนที่จ้องมองเฉินหงนำลู่อี้ผิงไป,เอ่ยถามไท่หงเทา,ด้วยน้ำเสียงสั่นไหว,“ลุงสาม,นี่เขาเป็นปุถุชนจริง ๆ รึ?”
ไท่หงเทาย่อมเข้าใจความคิดของกงจู่ไท่เหยี่ยนได้,เอ่ยพร้อมกับฝืนยิ้มออกมา“ข้าได้ใช้เนตรฟ้าครามดูแล้ว,เป็นเช่นนั้นจริง ๆ!”
กงจู่ไท่เหยียนที่ขมวดคิ้วแน่น,“ปุถุชน,ไม่มีเจิ้นหยวน,ไม่มีพลังวิเศษ,จะสามารถดึงกระบี่เพลิงชาติออกมาได้อย่างไร?”
ไท่หงเทาที่เอ่ยอย่างไม่เต็มความ“เรื่องนี้แปลกจริง ๆ.”
เขาไม่เข้าใจเลยแม้แต่น้อย,ว่าลู่อี้ผิงใช้วิธีไหนดึงกระบี่เพลิงชาติออกมา.
ไม่ใช่แค่เขาแน่นอน,ทุกคนรอบ ๆ ต่างก็ไม่เข้าใจเช่นกัน.
เจิ้งเยว่ที่เผยยิ้ม,“บางทีพวกเราทุกคนอาจจะคิดผิดตั้งแต่ต้นก็ได้,กระบี่เพลิงชาตินั้น,เป็นไปได้ว่าคนที่จะดึงมันออกมาได้,จะต้องเป็นปุถุชนที่ไร้พลังบ่มเพาะเท่านั้น.”
ทุกคนต่างก็ตกใจ.
เซียวฉางเฟิงเองก็มองตาโตเช่นกัน.
เป็นเช่นนี้จริง ๆ รึ?
ไม่นานหลังจากนั้น,ลู่อี้ผิงที่ตามเฉินหงมาถึงดินแดนบรรพชนเหล่ยฉิวเจี้ยน.
เฉินหงที่โบกมือ,เปิดค่ายกล,นำลู่อี้ผิงเข้าไปด้านใน.
ภายในดินแดนบรรพชน,เป็นเหมือนกับอีกโลกหนึ่งที่นี่มีท้องฟ้าภูเขาน้ำตก,นอกจากนี้พื้นที่รอบ ๆ ยังปลูกต้นไม้ใบหญ้าที่แปลกประหลาดมากมาย.
บนยอดเขาแห่งหนึ่ง,มีหมอกหนาปกคลุมไปทั่ว,แน่นอนว่ามันคือปราณวิญญาณที่ถูกควบแน่นนั่นเอง.
บนท้องฟ้ามีวิหคที่แปลกประหลาดมากมาย.
ท้องฟ้าในดินแดนแห่งนี้สะอาดใสราวกับผนึกคริสตัลที่ไร้สิ่งเจือปน.
ดินแดนบรรพชนและดินแดนบ้านนอก,เหมือนว่าเป็นโลกที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน.
เฉินหงที่กวาดตามองดินแดนบรรพชนที่เหมือนกับดินแดนสวรรค์,เผยยิ้มเอ่ยกับลู่อี้ผิง,“เจ้าคงจะเคยเห็นดินแดนสวรรค์ครั้งแรก,เป็นเช่นไร,ดินแดนบรรพชนของนิกายเหล่ยฉิวเจี้ยนของพวกเราดีหรือไม่?”
ระหว่างที่เอ่ยกล่าว,เขารู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก.
ลู่อี้ผิงที่มองดินแดนบรรพชนนิกายเหล่ยฉิวเจี้ยน,เผยยิ้มอย่างสุขุม“ก็เหมือน ๆ กันนั่นล่ะ.”
แม้นว่าดินแดนบรรพชนนิกายเหล่ยฉิวเจี้ยนนับว่าดี,ทว่าก็ด้อยกว่าป่าศักดิ์สิทธิ์ของเขาคนละโยชน์.
เหมือน ๆ กัน?
เฉินหงและเหล่าบรรพชนชราหลายคนที่พูดไม่ออก,เฉินหงที่จ้องมองลู่อี้ผิง,เผยยิ้ม,“เจ้าหนู,ข้ารู้สึกชอบท่าทางไม่แยแสของเจ้าจริง ๆ.”
จากนั้นเขาที่จ้องมองลู่อี้ผิงจากบนลงล่าง“น่าเสียดาย,เจ้าไร้พรสวรรค์! ไม่เช่นนั้น,ข้าคงรับเจ้าเป็นศิษย์ส่วนตัวแล้ว.”
ลู่อี้ผิงเผยยิ้ม.
เจ้าจะรับข้าเป็นศิษย์ส่วนตัวอย่างงั้นรึ?
เขายังจำได้ว่าเจ้าเด็กหยางตงคนนั้นเคยคุกเข่าต่อหน้าเขาในอดีตหมอบอยู่สิบวันสิบคืนเพื่อให้เขาเป็นศิษย์.
แม้นว่าเขาจะยอมในที่สุด,ทว่าก็อนุญาตให้เขาอยู่ในป่าศักดิ์สิทธิ์ได้ไม่กี่ปี,เขาได้ชี้แนะวิชากระบี่ให้กับอีกฝ่ายไม่กี่ครั้งเท่านั้น.
เพียงไม่นาน,เฉินหงและเหล่าบรรพชนชรานิกายเหล่ยฉิวเจี้ยน,นำลู่อี้ผิงมาหาหยางเฉิงในที่สุด.
หยางเฉิงที่เห็นลู่อี้ผิง,ก็เผยท่าทางประหลาดใจ.
เขาจ้องมองลู่อี้ผิง,จากนั้นก็จ้องมองกระบี่เพลิงชาติในมืออีกฝ่าย,เขาที่จินตนาการไม่ออกแม้แต่น้อยว่าลู่อี้ผิงผู้นี้กับคนที่เขาคิดเอาไว้จะเป็นคน ๆ เดียว.
เหมืองกับเฉินหง,ภายในใจที่รู้สึกผิดหวัง,แม้แต่ผิดหวังยิ่งกว่าเฉินหงซะอีก,กระบี่เพลิงชาติ,เป็นของบิดาของเขา,หลายปีมานี้เขาคาดหวังคนที่มีพรสวรรค์กระบี่ไร้ที่เปรียบมาดึงกระบี่และสืบทอดวิถีกระบี่ของบิดาของตัวเองเป็นอย่างมาก.
หลังจากรอคอยมาหลายปี,ตอนนี้กับมีคนดึงกระบีได้แล้ว.
แต่มันกลับไม่เป็น ดั่งเช่นที่เขาคาดหวัง,บางทีมันคงเป็นชะตาสวรรค์อย่างงั้นรึ?
หยางเฉิงจ้องมองลู่อี้ผิง,เอ่ยกล่าวอย่างลังเล“ในเมื่อเจ้าดึงกระบี่เพลิงชาติออกมาได้,เช่นนี้กระบี่นี้ก็เป็นของเจ้า,หวังว่าเจ้าจะดูแลสมบัติชิ้นดีอย่างดี,หลังจากนี้เจ้าสามารถอยู่ในนิกายเหล่ยฉิวเจี้ยนได้,ข้าจะมอบทักษะลับเพลงกระบี่ให้,เจ้าสามารถอ่านและศึกษามันได้.”
ลู่อี้ผิงส่ายหน้าไปมา“ข้าไม่ได้มาเพื่อกระบี่เพลิงชาติ,กระบี่เช่นนี้,ข้ามีอยู่มากมาย.”
“ส่วนตำรากระบี่,ข้าเองก็ไม่ได้ขาดแคลน.”
หยางเฉิง,เฉินหงและคนอื่น ๆ ต่างก็ตกใจเป็นอย่างมาก.
ชายหนุ่มคนนี้หมายความว่าอย่างไร?
กระบี่ล้ำค่าเช่นกระบี่เพลิงชาติ,เขามีอยู่มากมายอย่างงั้นรึ?
หยางเฉินขมวดคิ้วไปมา,ชายหนุ่มคนนี้,ดูเหมือนว่าจะไม่รู้สินะ ว่ากระบี่วิเศษเล่มนี้นั้นมีระดับใด.
ทว่าในเวลาเดียวกัน,เสียงที่ดังกึกก้องไปทั้งสวรรค์และปฐพี,แม้แต่ดินแดนบรรพชนเทือกเขาอนุสรณ์สถานยังสั่นไปมา,แผ่นดินที่ไหวอย่างรุนแรงราวกับจะพังทลายลงในทันที.
หยางเฉิงและเฉินหงตลอดจนคนอื่น ๆ ที่ใบหน้าเปลี่ยนสี.
นี่มัน?!
เสียงหัวเราะที่บ้าคลั่งอหังการดังก้อง,“เจ้าหนูหยางเฉิง,เหล่าฟู่มารกระบี่ตะวันตกมาถึงแล้ว,รีบไสหัวมาทักทายเหล่าฟู่ซะ!”
มารกระบี่ตะวันตก!
หยางเฉิง,เฉินหงและคนอื่น ๆ ที่หัวใจกลายเป็นหนักอึ้ง.
ด้านนอกดินแดนบรรพชน,พื้นที่อื่น ๆ,เหล่าผู้ฝึกตนที่มาทดสอบเข้าร่วมนิกายเหล่ยฉิวเจี้ยนได้ยินเสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง,ต่างก็ตื่นตกใจไปตาม ๆ กัน.
กงจู่ไท่เหยี่ยนที่ใบหน้าเปลี่ยนสี“มารกระบี่ตะวันตก? เป็นไปได้ว่าเขาคือคนที่พ่ายแพ้ให้กับเทพกระบี่หยางตงในอดีตนะรึ?!”
ไท่หงเทาที่ใบหน้ากลายเป็นจริงจัง“มารกระบี่ตะวันตก,ในอดีตมีขอบเขตกระบี่ดินแดนสวรรค์,การกลับมาอีกในวันนี้,เป็นไปได้ว่าเขตแดนกระบี่ของเขาเหนือกว่าดินแดนสวรรค์แล้วแน่ ๆ!”
“มารกระบี่ตะวันตกเป็นคนที่มีจิตใจโหดเหี้ยมเลือดเย็น,เห็นมนุษย์เป็นผักปลา,หากท่านหยางพ่ายแพ้ เกรงว่าศิษย์ทั้งหมดของนิกายเหล่ยฉิวเจี้ยนคงไม่มีใครรอดชีวิตไปได้แม้แต่คนเดียว!”