Chapter 78 Gives me the Lu Yiping’s life( third)
将路一平的命让给我(第三更)
ลู่อี้ผิงที่ยืนอยู่บนยอดเขาเทพสวรรค์,กวาดตามองสายน้ำที่พลุ้งพล่านคลื่นที่ซัดแรงขึ้นเรื่อย ๆ ของแม่น้ำเทพสวรรค์.
แม่น้ำเทพสวรรค์,นี่คือหนึ่งในแม่น้ำที่มีอยู่เนิ่นนานผ่านมาหลายยุคสมัยแล้ว.
ตามความทรงจำของลู่อี้ผิง,ก่อนเขาปรากฏมันก็คงอยู่มาก่อนแล้ว.
แม่น้ำเทพสวรรค์,เริ่มต้นจากเทือกเขาเทพสวรรค์,ไหลไปจนสุดขอบฟ้า,ข้ามผ่านหลายทวีป,แม่น้ำแห่งนี้ใสอยู่ตลอดเวลา,จนสามารถมองเห็นก้นแม่น้ำได้.
เทพปิศาจโบราณเฉียงเหลียงที่จ้องมองคลื่นน้ำบนแม่น้ำเทพสวรรค์,เอ่ยออกมาว่า“เห็นชัดเจนว่าแม่น้ำเทพสวรรค์ไม่มีสิ่งใด,แล้วเมื่อเกิดช่วงเวลาทวนกระแส,ทำไมมีสิ่งของมากมายปรากฏขึ้น?”
ผ่านมาเนิ่นนานหลายปีแล้ว,เหล่ายอดฝีมือมากมายต่างก็ศึกษาเรื่องของแม่น้ำเทพสวรรค์,ทว่ากับไม่มีใครบอกความลึกล้ำของมันได้เลย.
ดวงตาของลู่อี้ผิงที่ลึกล้ำ,จ้องมองผ่านไปถึงพื้นที่ส่วนลึกของแม่น้ำเทพสวรรค์,เอ่ยออกมาว่า“แม่น้ำเทพสวรรค์นั้น,มีพื้นที่กาลอวกาศขนาดใหญ่มากมายนับไม่ถ้วน,เมื่อเกิดการทวนกระแสของสายน้ำ,จะทำให้พื้นที่กลางอวกาศเหล่านั้นปรากฏขึ้น.”
“ด้วยพลังของกระแสน้ำนั้น,ทำให้พื้นที่กาลอวกาศปรากฏรอยรั่วทำให้มีสมบัติล้ำค่าหลุดออกมา.”
โจวเฉิงได้ยิน,ก็เผยความประหลาดใจ“แม่น้ำเทพสวรรค์มีพื้นที่กาลอวกาศมากมายอย่างงั้นรึ? ทว่า,ทำไมถึงเกิดปรากฏการแม่น้ำทวนกระแสล่ะ?”
ลู่อี้ผิงเอ่ยอย่างไม่แยแส,“โลกใบใหญ่,มีเรื่องแปลกประหลาดมากมาย,บางสิ่งที่เจ้าไม่คิดว่ามี,ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เกิดขึ้น.”
วัวกระทิงมังกรเขาทองคำเผยยิ้มพรายเอ่ยด้วยรอยยิ้ม“หนึ่งล้านปีก่อน,แม่น้ำเทพสวรรค์,เหมือนว่าจะมีของดีปรากฏขึ้นนะ!”
หนึ่งล้านปีก่อน,เหตุการณ์แม้น้ำทวนกระแสครั้งใหญ่,มันยังคงจำได้ดี.
ลู่อี้ผิงเผยยิ้ม“เห็ดเทวะเก้าสี,ไม่ควรปรากฏขึ้นเป็นรอบที่สอง.”
ในอดีต,เห็ดเทวะเก้าสี,โดนมันกินไปแบบไร้ราคา.
ทว่าในครั้งนี้,ยอดฝีมือมากมายต่างก็เดินทางมา.
ยอดฝีมือนับไม่ถ้วนได้อยู่ล้อมกรอบเทือกเขาเทพสวรรค์.
ผู้คนมากมายเห็นพวกลู่อี้ผิงบนยอดเขาสูง,ก็เผยอารมณ์ซับซ้อน,พูดคุยกระซิบกระซาบเบา ๆ.
ในเวลาเดียวกัน,ภายในฝูงชนได้ส่งเสียงดังอื้ออึงขึ้นมาทันที.
“ท่านเฉินชิงหยาง,ท่านเฉินชิงหยางเองก็มา!”ใครบางคนเอ่ย.
ผู้คนมากมายที่จ้องมองไปยังยอดฝีมือกลุ่มหนึ่งที่บินตัดผ่านอากาศมาแต่ไกล.
ผู้นำมานั้น,เป็นชายวัยกลางคนที่รูปร่างสูงใหญ่,ผมส่วนหนึ่งเริ่มมีสีขาวแซมแล้ว,สวมชุดคลุมสีเทา,ที่ดูหม่นหมองอยู่เล็กน้อย.
นี่คือปรมาจารย์ค่ายกลอันดับหนึ่งของทวีปเทพยุทธ์!
เฉินชิงหยางไม่ได้เชี่ยวชาญด้านค่ายกลอย่างเดียว,ยังเป็นยอดฝีมือในอีกหลายแขนง.
แน่นอนว่าตระกูลเฉินหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของทวีปเทพยุทธ์,เป็นเขาที่ก่อตั้งขึ้นมา.
เฉินชิงหยางที่มาถึง,ยอดฝีมือมากมายไม่มีใครที่ไม่เคารพเขา.
แม้แต่กองกำลังจักรวรรดิไม่น้อย เมื่อเขามาถึงต้องหลีกทางและแสดงความเคารพ.
เฉินชิงหยางที่เผยยิ้มพยักหน้าให้กับทุกคน,ก่อนที่สายตาของเขาจะจับจ้องมองไปยังชายชุดน้ำเงินบนยอดเขาเทพสวรรค์.
“เขาคือลู่อี้ผิง?”แววตาของเขาที่เผยความประหลาดใจ.
อาวุโสสูงตระกูลเฉินพยักหน้ารับ“ควรจะเป็นเขา.”เขาหยุดและเอ่ยต่อ“เขาคือเซียนกู่ฉิน,ยอดมือกระบี่,ไม่รู้ว่าเข้าใจค่ายกลหรือไม่?”
ในเวลานั้น,บุตรของเฉินชิงหยาง,เฉินหยวนที่เผยยิ้ม“เกรงว่าคงระดับทั่วไป ไม่เช่นนั้นคงเป็นที่ลือกระฉ่อนไปแล้ว,เวลานั้นหากประมุขน้อยนิกายภูตหยินเห่าตัน,ประลองกับเขาด้วยค่ายกลแทนที่กู่เฉิน,คงชนะเขาไปแล้ว.”
อาวุโสสูงตระกูลเฉินอีกคนเอ่ย“ได้ยินมาว่าประมุขน้อยนิกายภูตหยินเห่าตัน,ระดับความเชี่ยวชาญค่ายกลได้ไปถึงขั้นควบแน่นอักขระจากความว่างเปล่าแล้ว,นอกจากนี้ยังสามารถสร้างอักขระขึ้นมาได้กว่า 4000 ตัว! ความสามารถของเขานั้นเหนือกว่าคุณชายเจ้าจื่อเห่าซะอีก.”
ขณะที่คนของตระกูลเฉินกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น,ผู้คนมากมายก็อุทานเสียงดังทำให้พื้นที่รอบ ๆ วุ่นวายขึ้นมาทันที,เวลานั้นเจ้าหอสาขาเทพยุทธ์,เจ้าเซี่ยนำคนของหอเทพยุทธ์สาขาทวีปเทพยุทธ์บินตัดห้วงอากาศมา.
ซึ่งเขาได้มาพร้อมกับประมุขตระกูลอวิ๋น,อวิ๋นเหว่ย,และประมุขน้อยตระกูลอวิ๋น,อวิ๋นไห่เทียนและยอดฝีมือของตระกูลอวิ๋นอีกมากมาย.
พวกเขาที่เห็นเฉินชิงหยางนำยอดฝีมือมากมายมา,ก็ก้าวเข้าไปหา,เจ้าเซี่ยงและอวิ๋นเหว่ยที่กล่าวทักทาย.
ด้วยเหตุนี้,สี่ตระกูลใหญ่ทวีปเทพยุทธ์,ดูเหมือนว่าจะขาดตระกูลหว่านตระกูลเดียวเท่านั้น.
หอเทพยุทธ์เจ้าเซี่ยงที่ก้าวเข้ามา,จ้องมองไปยังยอดเขาไกลออกไปเห็นร่างของลู่อี้ผิง,ดวงตาก็เผยความเย็นชาออกมา,ที่ทุ่งราบเทพยุทธ์,บุตรชายของเขาเจ้าจื่อเห่าถูกทำลายชีพจร,จุดตานเถียนทั้งหมด! ตอนนี้เป็นเพียงคนพิการเท่านั้น.
“เจ้าหอโปรดวางใจ,เมื่อท่านเทพยุทธ์จิ่วเจว่นำกองทัพหอเทพยุทธ์มาถึง,เมื่อท่านเทพเมื่อนั้น,ลู่อี้ผิงจะต้องตายแน่นอน!”ยอดฝีมือของหอเทพยุทธ์คนหนึ่งเอ่ย.
เจ้าเซี่ยงพยักหน้ารับ,ภายในใจที่เศร้าสลดเปี่ยมไปด้วยจิตสังหาร.
ในเวลานั้น,เสียงอึกทึกก็ดังขึ้นอีก ในฝูงชนต่างเอ่ยอุทานด้วยความตื่นเต้น“ท่านเจียงยวีมาแล้ว! ท่านเจียงยวีเดินทางมาถึงแล้ว!”
สายตาของทุกคนที่มองไปยังทิศทางเดียวกัน.
เป็นความจริง,เห็นยอดฝีมือของสำนักไท่อี้มากมายที่กำลังบินตัดผ่านอากาศมา,คลื่นพลังกลิ่นอายมหึมาที่พลุ้งพล่าน,ไม่อาจปกปิดเอาไว้ได้เลย.
นี่คือผู้นำยอดฝีมืออันดับหนึ่งของพิภพเหิงหยวน,เจียงยวี.
หลังจากที่เจียงยวีปรากฏ,บรรพชนชรา,อาวุโสสูง,อาวุโสศิษย์และผู้ใต้บังคับบัญชากองทัพจักรวรรดิต่าง ๆ และยอดฝีมือนับไม่ถ้วนของสำนักไท่อี้มากมายล้นหลามก็ตามมาด้วย.
ถึงแม้นว่าจะมองเห็นไกล ๆ,ทว่าทุกคนก็สัมผัสได้ถึงจิตสังหารของเจียงยวีที่ปกคลุมท่วมท้องฟ้าแล้ว.
ปราณกระบี่ที่อัดแน่นรวมตัวกันซ้อนทับเป็นชั้น ๆ,สั่นไหวเป็นระลอกคลื่นทุกการเคลื่อนไหวของเจียงยวี.
กลิ่นอายที่น่าพรั่นพรึงมากล้นแผ่ออกมาไม่หยุดหย่อนจากยอดฝีมือของสำนักไท่อี้,มองเห็นเป็นคลื่นใหญ่ที่กำลังซัดม้วนกวาด มาจากขอบฟ้าไกล,ราวกับว่าสายธารของน้ำหลากที่กำลังท่วมผืนปฐพี.
ผู้คนที่มองเห็นกองกำลังของสำนักไท่อี้กำลังเคลื่อนที่มา,ต่างก็ตกใจหวาดกลัวไปตาม ๆ กัน.
เหล่าผู้คนที่อยู่ใกล้เคียงกับเทือกเขาเทพสวรรค์ต่างก็เร่งรีบหลบออกมาไกล,ด้วยหวาดกลัวที่จะได้รับบาดเจ็บโดยไม่คาดคิด.
เจ้าเซี่ยงเห็นเจียงจวีนำยอดฝีมือสำนักไท่อี้มากมายมาถึง,ใบหน้าของเขาที่เผยความสุข,เขาหันหน้าไปหาเฉินชิงหยางและอวิ๋นเหว่ย,กล่าวด้วยรอยยิ้ม“ทั้งสอง,ท่านเจียงยวีมาถึงแล้ว,พวกเราไปคารวะกัน.”
เฉินชิงหยาง,และอวิ๋นเหว่ยทั้งสองที่พยักรับ.
อย่างไรก็ตาม,ขณะที่ทั้งสามกำลังจะเคลื่อนไปด้านหน้า,ทันใดนั้นพวกเขาก็พบว่าจากอีกซีกท้องฟ้าเสียงร้องโหยหวนของสัมภเวสีได้กรีดก้องกังวาน,ความหนาวเย็นที่ซัดม้วนตลบ,สวรรค์และปฐพีที่ราวกับว่าเย็นขึ้นจนแทบจะถูกแช่แข็ง.
“นิกายภูตหยิน!”
หลายคนที่ใบหน้าเปลี่ยนสีไปตาม ๆ กัน.
กลิ่นอายของกองทัพภูตหยิน,แทบจะปกคลุมกองทัพไท่อี้ไปทั้งหมดด้วยซ้ำ.
“บรรพชนหวง!”เมื่อเจ้าเซี่ยง,อวิ๋นเหว่ยเห็นกองทัพนิกายภูตหยิน,ก็พบว่าที่ด้านหน้าคนที่นำมานั้นคือบรรพชนหวง,พวกเขาต่างก็กล่าวเสียงสั่น.
แม้นว่าพวกเขาจะอยู่ในทวีปเทพยุทธ์,ทว่ามหาอำนาจทวีปข้างเคียง,อสุรกายชราบรรพชนหวงย่อมเป็นที่เลืองลือ,ทำให้พวกเขารู้สึกหวาดกลัวขาดเขลาขึ้นมาทันที.
แม้นว่าบรรพชนหวงจะซ่อนตัวไม่ปรากฏขึ้นมาหลายปีแล้ว,ทว่าชื่อเสียงของเขานั้นก็ยิ่งใหญ่ไม่จางหาย.
อย่างไรก็ตาม,หลังจากกองทัพนิกายภูตหยินปรากฏ,อีกสองกำลังจากอีกสองทิศ,ก็ปรากฏคลื่นทมิฬและปราณปิศาจที่หนักหน่วงปิดปกคลุมท้องฟ้า,กองกำลังวิหารปิศาจทมิฬและกองกำลังนิกายปิศาจน้ำพุเหลืองก็มาถึงแล้วเช่นกัน.
สำนักไท่อี้,นิกายภูตหยิน,วังปิศาจทมิฬ,นิกายปิศาจน้ำพุเหลือง,ประจำการทิศตะวันออก,ตะวันตก,ทิศใต้และทิศเหนือ,กลิ่นอายแรงกดดันที่พุ่งมาจากทุกทิศทุกทาง,แทบจะปกคลุมอัดกระจุกเข้าที่จัตุรัสตรงกลางโดยสมบูรณ์.
เหล่ากลุ่มอิทธิพลอื่น ๆ มากมายต่างก็ตกใจ,ที่เห็นกองทัพใหญ่ปิดล้อมทั้งสี่ด้าน.
เทือกเขาเทพสวรรค์ที่ถูกล้อมกรอบจนแทบไม่มีช่องว่างให้หลบหลีกได้อีก.
กล่าวได้ว่าเทือกเขาเทพสวรรค์เวลานี้,แทบไม่อาจมองผ่านออกไปด้านนอกได้เลย, กองทัพทั้งสี่ปิดล้อม และยังแผ่กลิ่นอายที่ยิ่งใหญ่ท่วมท้นจนเทือกเขาเทพสวรรค์มืดครึ้มลง.
เจียงยวีสำนักไท่อี้จ้องมองไปยังอาวุโสหวง,กู่เหล่ากุย,ไป่อู๋ซ่าง ทั้งสาม,เอ่ยด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม“อาวุโสทั้งสามโปรดให้ข้าเป็นคนเอาชีวิตของลู่อี้ผิงเอง!”
“กระบี่รัตติกาลนิรันดร,ตำราหมัดคุกเทวะปรากฏการณ์สวรรค์,หมัดเทวะแห่งกาลเวลาฉบับจริง,ข้าไม่ต้องการ!”
บรรพชนหวงที่ได้ยินคำพูดดังกล่าว,ใบหน้าที่เต็มไปด้วยอักขระก็เผยยิ้มออกมา“ชีวิตของเขาจะเป็นอย่างไร,ข้าไม่สน,ข้าต้องการเพียงแค่กระบี่รัตติกาลนิรันดร!”
กู่เหล่ากุยวังปิศาจทมิฬเผยยิ้ม“ข้าเองก็ต้องการกระบี่รัตติกาลนิรันดร.”