Chapter 73 Slandering
诬蔑
ทุกคนที่จ้องมองไปยังโหลวหนิงทันที.
วันนี้เป็นวันฉลองคล้ายวันเกิดของโหลวหนิง,คาดไม่ถึงว่าลู่อี้ผิงจะมา?
ลู่อิ้ผิงต้องการพบโหลวหนิง,ทำไมกัน?
โหลวหนิงเต็มไปด้วยความสงสัย,เขาไม่ได้รู้จักมักคุ้นอะไรกับลู่อี้ผิง,ทำไมลู่อี้ผิงถึงมาพบเขา?
ทว่าบรรพชนชราสำนักกระบี่ไท่ชิง หลินอี้และหยวนอี้หัวทั้งสองได้ยินว่าลู่อี้ผิงมา,ต้องชงักด้วยความประหลาดใจ,หลินอี้ที่เผยยิ้ม“ลู่อี้ผิงรู้ว่าพวกเราต้องการหาเขา,ดังนั้นเลยมาด้วยตัวเองเลยรึ?!”
หยวนอี้หัวเผยยิ้ม“ได้ยินมาว่าวิชากระบี่เจ้าเด็กนี้,เร็วมาก,มีแม้แต่บางคน เอ่ยว่ามันเร็วกว่าเพลงวิชากระบี่วายุอสนีของสำนักกระบี่ไท่ชิงของพวกเราด้วย.”จากนั้นเขาก็เอ่ยต่อโหลวหนิง,“ให้เขาเข้ามา.”
โหลวหนิงพยักหน้า,ก่อนที่จะสั่งอาวุโสสูง“ให้เขาเข้ามา!”
อาวุโสสูงที่ดูลังเลเอ่ยออกมาว่า“นอกจากลู่อี้ผิง,ยังมีผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาสองสามคน,ให้เข้ามาด้วยหรือไม่?”
“ให้พวกเขาเข้ามา.”โหลวหนิงเอ่ย.
อาวุโสสูงตระกูลโหลวที่แสดงความเคารพและก้าวออกไป.
ในเวลานี้ผู้คนในห้องโถง,ล้วนแต่จับจ้องมองไปยังทิศทางของประตู.
เมื่อเร็ว ๆ นี้ เรื่องของลู่อี้ผิงได้กระจายไปทั่วทวีปเทพยุทธ์,พวกเขาต่างก็สงสัยว่าลู่อี้ผิงหน้าตาเป็นเช่นไรกันแน่.
มหาจักรพรรดิไป๋เยว่หลินจวินเองก็สงสัยเกี่ยวกับลู่อี้ผิงเช่นกัน,ได้ยินมาว่า เป็นบุรุษที่หล่อเหลาอันดับหนึ่งของพิภพเหิงหยวน,และยังได้ยินมาว่ามีวิชากระบี่ที่โดดเด่น,และยังเป็นเซียนกู่ฉินอีกด้วย!
หนึ่งกระบี่,กุดหัวทหารนับร้อย!
เป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้คนมากมายที่ชื่นชอบฝึกฝนวิชากระบี่จะสนใจ.
ไม่เว้นแม้แต่เขา,นอกจากนี้กล่าวได้ว่าเขาคือผู้ก้าวเดินไปบนเส้นทางของวิถีกระบี่ก็ว่าได้.
เขาได้ยินมาว่ากระบี่ของลู่อี้ผิงสามารถกุดศีรษะของเห่าตัน ประมุขน้อยนิกายภูตหยิน,นั้นน่าอัศจรรย์ใจ,เป็นทักษะกระบี่ที่โดดเด่นจนทำให้เขาต้องการเห็นเป็นอย่างมาก.
แม้นว่าในทวีปเทพยุทธ์เขาคือจักรพรรดิลำดับสอง,ทว่าพลังบ่มเพาะของเขาเองก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ามหาจักรพรรดิเป่ยโตว,โจวติงเทียน,นอกจากนี้วิถีกระบี่ของเขานั้นนับว่าสูงกว่า,กล่าวได้ว่าคงอยู่ไม่ห่างจากเทพกระบี่โหลวหนิงอย่างแน่นอน.
ทุกคนที่กำลังรอคอย,ด้วยท่าทางสงสัยใคร่รู้เป็นอย่างมาก.
ภายใต้สายตาของผู้คนที่จับจ้อง,บุรุษในชุดน้ำเงินขี่วัวกระทิงเขาทองคำก้าวเข้ามา,โหลวหนิงที่เห็นเข้าก็ใบหน้ามืดครึ้ม,วันนี้เป็นงานฉลองครบรอบคล้ายวันเกิดของเขา,ลู่อี้ผิงกับขี่วัวเข้ามาในคฤหาสน์ของเขาอย่างคาดไม่ถึง.
ทว่าเมื่อโหลวหนิงเห็นชายชรามอซอขี่ลาด้านหลังลู่อี้ผิงก็ตกใจเช่นกัน.
“อาวุโสโจวเฉิง?”โหลวหนิงที่ลุกขึ้นทันที.
หลายคนที่ได้ยิน,ต่างก็เผยความประหลาดใจออกมา.
มหาจักรพรรดิไป๋เยว่หลินจวิน ใบหน้าเปลี่ยนสี“ปราชญ์กระยาจก!”
ไม่มีใครไม่ประหลาดใจ.
ชายชราผู้นี้,คาดไม่ถึงว่าจะเป็นปราชญ์กระยาจก!
เกี่ยวกับปราชญ์กระยาจก,ถือว่าเป็นหนึ่งในตำนานของพิภพเหิงหยวน.
ปราชญ์กระยาจกนั้น,กล่าวกันว่าเป็นตัวตนที่เก่าแก่ที่สุดของนิกายพุทธะไท่ฮัว,เป็นอาวุโสชั้นสูงที่เหนือกว่าเทพกระบี่โหลวหนิง,เจียงยวีและอีกหลายคนที่มีชื่อเสียในทวีปแห่งนี้.
กล่าวได้ว่าเป็นยอดฝีมือยุคเดียวกันกับเทพยุทธ์จิวเจว่ของวิหารเทพยุทธ์.
หลาย ๆ คนที่เคยได้ยินชื่อเสียงของปราชญ์กระยาจก,ต่างก็ลุกขึ้นพร้อม ๆ กัน.
แม้นว่าปราชญ์กระยาจกจะไม่ได้ถูกจัดอันดับเป็นสุดยอดฝีมือของพิภพเหิงหยวน,ทว่าทุกคนต่างก็รู้ดีว่าปราชญ์กระยาจกนั้นมีระดับพลังบ่มเพาะขอบเขตเทพสวรรค์!
บรรพชนชราสำนักไท่อี้,เจียงซู่ซูที่ลุกขึ้นเช่นกัน,กล่าวด้วยรอยยิ้มต่อโจวเฉิง“แท้จริงแล้วเป็นอาวุโสโจวเฉิง,ไม่คาดคิดเลยว่าจะมาพบอาวุโสโจวเฉิงเช่นนี้,หากรู้ว่าอาวุโสโจวเฉิงมา,พวกเราต้องออกไปต้อนรับอย่างแน่นอน.”
โจวเฉิงที่ยกสุราขึ้นจิบ,ก่อนที่จะจ้องมองไปยังเจียงซู่ซู่,เผยยิ้มพราย“แท้จริงแล้วเป็นสตรีคนงามซู่ซู่นี่เอง”จากนั้นเขาก็กวาดตามองไปรอบ ๆ เอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้ม“เฮ้,ที่นี่คึกครื้นดีจริง ๆ,ทว่าเจ้าหนูโหลวหนิง,ข้าไม่ได้ต้องการมาพบเจ้าแต่อย่างใด,เป็นคุณชายลู่ต่างหากที่มีเรื่องเล็กน้อยกับเจ้า.”
เมื่อพูดพึงเรื่องนี้,ภายในใจของเขาก็รู้สึกไม่ค่อยสบายอยู่เหมือนกัน.
ทุกคนที่จ้องมองไปยังลู่อี้ผิง.
โหลวหนิงไม่อาจบอกได้ว่าโจวเฉิงกับลู่อีผิ้งมีความสัมพันธ์ใดกันจึงเอ่ยออกมาว่า“ไม่รู้ว่าคุณชายลู่มาพบข้ามีเรื่องอันใด?”
ลู่อี้ผิงเอ่ยกล่าวอย่างไม่แยแส“ในอดีต,หยางตงได้รับเชิญให้เข้าไปในสนามรบแห่งทวยเทพ,หลังจากเข้าไปแล้วก็หายไปเลย,ในอดีตคนที่เชิญหยางตงเข้าไปในสนามรบแห่งทวยเทพก็คือเจ้า!”
พริบตานั้นทุกคนที่ได้ยิน,ต่างก็ตะลึงงัน,และจ้องมองไปยังโหลวหนิงพร้อม ๆ กัน.
เรื่องที่เทพกระบี่หยางตงหายไปในอดีต,นับเป็นเรื่องที่สั่นสะเทือนไปทั้งทวีปเทพยุทธ์ทีเดียว.
เรื่องนี้,คาดไม่ถึงว่าจะเกี่ยวข้องกับโหลวหนิง?!
ใบหน้าของโหลวหนิงที่สลับซับซ้อน,ทว่าเขาก็สงบลงอย่างรวดเร็ว,จ้องมองไปยังลู่อีผิ้ง“เหลวไหล! ข้าและหยางตงนั้นไม่ได้สนิทอะไรกัน,เป็นไปไม่ได้ที่ข้าจะเชิญเขาเข้าไปในสนามรบแห่งทวยเทพ!”
ในเวลานั้นเขาที่เอ่ยด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม“ไม่รู้ว่าข้าได้ล่วงเกินอะไรคุณชายลู่,เจ้าถึงได้มาใส่ความข้า!”
ในเวลานั้น,บรรพชนชราสำนักกระบี่ไท่ชิง,หลินอี้,หยวนอี้หัวสองคนที่ก้าวเข้ามา.
หลินอี้จ้องมองไปยังลู่อี้ผิง“ลู่อี้ผิง,กระบี่ของจ้าวปิศาจโบราณหยงเย่อยู่กับเจ้าอย่างงั้นรึ?”
ลู่อี้ผิงไม่สนใจหลินอี้แม้แต่น้อย,เขายังคงมองไปยังโหลวหนิง,กล่าวอย่างไม่แยแส“ใส่ร้ายรึ?,จะใส่ร้ายหรือไม่? ข้าค้นวิญญาณเจ้าแล้ว,ก็จะรู้เอง.”
กล่าวจบลู่อี้ผิงที่ยกมือขึ้นค้นวิญญาณโหลวหนิงทันที,ผู้คนทั้งห้องโถงที่ขมวดคิ้วไปมา,ไม่คาดคิดว่าลู่อี้ผิงจะโอหังขนาดนี้,ไม่ว่าเรื่องที่หยางตงหายไปจะเกี่ยวข้องกับเทพกระบี่โหลวหนิงหรือไม่? ทว่าอีกฝ่ายเมื่อครู่นี้ ราวกับไม่เห็นบรรพชนกระบี่ไท่ชิงหลินอี้อยู่ในสายตาเลย.
เขาที่ทำการค้นวิญญาณของเทพกระบี่โหลวหนิงต่อหน้าของยอดฝีมือทุกคนแม้แต่บรรพชนชราสำนักกระบี่ไท่ชิงทั้งสองอีกด้วย.
ประมุขตระกูลโหลว,โหลวจงไม่อาจทนได้อีกต่อไป,เขาชักกระบี่ออกมา,ชี้ไปยังลู่อี้ผิงด้วยความโกรธเกรี้ยว“ลู่อี้ผิง,เจ้ามาตระกูลโหลวของข้าพูดจาไร้สาระ,ใส่ความท่านปู่ของข้า!”
“วันนี้ต้าเหรินทั้งสองของสำนักกระบี่ไท่ชิงอยู่ที่นี่แล้ว,ทว่าเจ้ากับไม่ไว้หน้าไร้ซึ่งความเกรงใจขนาดนี้เลยอย่างงั้นรึ?!”
ลู่อี้ผิงที่จ้องมองอีกฝ่ายที่ชี้กระบี่มายังเขา,ด้วยตาของเขาเป็นประกาย,ทันใดนั้นปราณกระบี่มากมายที่พวยพุ่งทะลวงไปยังหน้าอกของโหลวจง,ประมุขตระกูลโหลวในทันที.
จากนั้น,ประมุขตระกูลหลงโหลวจงที่กระเด็นล่วงหล่นลงพื้นเสียงดัง.
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเร็วมาก,ทำให้ทุกคนตั้งตัวไม่ติด.
หลาย ๆ คนที่แทบไม่อยากเชื่อจดจ้องมองไปยังประมุขตระกูลโหลว,โหลวจงที่นอนหมดสภาพบนพื้น.
“หัวใจกระบี่!”มหาจักรพรรดิไป๋เยว่,หลินจวินที่ดวงตาหดเกร็งจดจ้องไม่วางตา.
หัวใจกระบี่!
เวลานั้นทุกคนที่ได้ยินคำพูดดังกล่าว,ต่างก็ตกใจไปตาม ๆ กัน.
ดินแดนวิถีกระบี่,จากต่ำไปสูงก็คือ,มนุษย์กระบี่,กระบี่ปฐพี,กระบี่สวรรค์,กระบี่นิรันดร,ไร้กระบี่, เหนือไร้กระบี่ก็คือหัวใจกระบี่.
หัวใจกระบี่,ก็คือจิตมารกระบี่.
เป็นการกระตุ้นจิตใจความคิดของฝ่ายตรงข้ามให้เกิดจิตมาร,เป็นปราณกระบี่ล่องหนสามารถสังหารฝ่ายตรงข้ามได้อย่างง่ายดาย.
“ท่านพ่อ!”ประมุขตระกูลน้อยตระกูลโหลว โหลวเจิ้นและโหลวถงทั้งสองที่พุ่งเข้าไปพยุงร่างของโหลวจง,พลางร้องออกมาด้วยความเศร้า.
ประมุขตระกูลโหลว,โหลวจงที่มีโลหิตไหลออกมาจากปากไม่หยุด.
โหลวเจิ้น,โหลวถงและยอดฝีมือของตระกูลโหลวทั้งหมดต่างก็จ้องมอลู่อี้ผิงด้วยความโกรธเกรี้ยว.
บรรพชนชราสำนักไท่อี้,เจียงซู่ซู่ที่จ้องมองลู่อี้ผิง,ใบหน้ากลายเป็นมืดครึ้มดุร้าย,ร่างกายของนางที่ปะทุรัศมีแสง,กลิ่นอายที่น่าหวาดหวั่น,รัศมีเทพสว่างจ้าถึงกับลอยขึ้นไปอยู่บนศีรษะของนาง,รัศมีเทพที่มีพลังกฎเทพสวรรค์ 9800 เส้น!
“อำนาจแห่งรัศมีเทพ!”
“กฎเทพสวรรค์ 9800!”
หลายคนที่อุทานเสียงดังอื้ออึง.
รัศมีเทพ,นี่คืออำนาจจากกายเทพเป็นเรื่องยากมากที่จะรวมตัวกันขึ้นมาได้,ถึงจะเป็นยุคโบราณ,ยุคปรัมปรา,คนที่สามารถรวมรัศมีเทพแผ่รัศมีเทพออกมานั้น,ล้วนแต่เป็นตัวตนที่น่าเกรงขามทั้งนั้น.
กฎเทพสวรรค์ 9800 เส้น,พลังบ่มเพาะอยู่ใกล้กับสิบสุดยอดฝีมือของพิภพเหิงหยวนไม่ไกลแล้ว.
เวลานั้นทุกคนสามารถมองเห็นได้,เวลาต่อมาปราณกระบี่มากมายจากร่างของเจียงซู่ซู่ นั้นมีสองสี,ขาวและดำรวมตัวกันขึ้น.
“ปราณกระบี่หยินหยาง!”
“สังหารเทพ!”
เสียงของเจียงซู่ซู่ที่เต็มไปด้วยความเย็นชา,ปราณกระบี่หยินหยานสองเส้นเหมือนกับสายธารที่พุ่งออกไปโจมตีร่างของลู่อี้ผิง.