Chapter 67 Ancient Times Evil God Qiang Liang
上古邪神强良
ประมุขน้อยตระกูลโหลว,โหลวเจิ้นที่เห็นลู่อี้ผิงเผยยิ้มเยาะ,ก็ขมวดคิ้ว,ก่อนจะเผยยิ้มเอ่ยออกมาว่า“ข้าเพียงแค่ต้องการยืมเคล็ดวิชาพุทธะฮั่วหลง,หนึ่งเดือนหลังจากนั้นก็จะส่งคืนคุณชาย.”
“เคล็ดวิชาพุทธะฮั่วหลงก็ยังเป็นของคุณชาย,ไม่ได้หายไปใหน,โปรดใคร่ครวญให้ดี.”
เขาที่เผยยิ้ม“ในที่ราบเทพปิศาจแห่งนี้,คนที่สามารถปกป้องเจ้าให้ออกไปได้อย่างปลอดภัย,มีเพียงแค่ตระกูลโหลวเท่านั้น.”
ในเวลานั้น,วัวกระทิงมังกรเขาทองคำเผยยิ้ม“เจ้าหนู,หากพวกเราไม่ให้ยืมล่ะ?”
ประมุขน้อยตระกูลโหลวเผยยิ้มเอ่ยออกมาว่า“เช่นนั้นก็ไม่รบกวนแล้ว”เขายกมือผสาน“ขอตัว”ทว่าขณะหันหลังนำคนออกไป,ก็กล่าวเพิ่มขึ้นมาอีก“คุณชาย,หากเปลี่ยนใจ,สามารถติดต่อตระกูลโหลวของข้าได้ตลอดเวลา.”
จากนั้นเขาก็นำยอดฝีมือตระกูลโหลวจากไปอย่างรวดเร็ว.
หลังจากออกมา,ประมุขน้อยตระกูลโหลวที่ใบหน้ากลายเป็นมืดครึ้มเย็นชา.
“ประมุขน้อย,ทำไมพวกเราไม่ลงมือเลย?”ยอดฝีมือตระกูลโหลวเอ่ย.
โหลวเจิ้นส่ายหน้าไปมา“เจ้าเด็กนั่น,ไม่อาจเข้าใจได้,นอกจากนี้ผู้คุ้มกันข้างกายเขานั้นความแข็งแกร่งไม่ธรรมดาเลย,รอให้ยอดฝีมือจากตระกูลมาถึงค่อยลงมือก็ได้.”
“แจ้งยอดฝีมือทั้งหมดที่อยู่ข้างเคียง,ให้พวกเขาเร่งรีบเดินทางมาให้ถึงก่อนนิกายภูตหยินและนิกายปิศาจน้ำพุเหลืองจะลงมือ!”
วัวกระทิงมังกรเขาทองคำที่จ้องมองประมุขน้อยโหลวเจิ้นที่จากไป,หัวเราะเยาะออกมา“นิสัยเหมือนกับ สาวน้อยโหลวถงนั่นเลย.”
ลู่อี้ผิงที่เอ่ยออกมาทันที“พวกเจ้ารอข้าอยู่ที่นี่”จากนั้นร่างกายของเขาก็หายไปทันที.
โจวเฉิงที่ตะลึงอย่างที่สุด,สัมผัสเทพของเขาที่กระจายออกไปรอบ ๆ,แม้แต่ทะลวงเข้าไปในมิติด้านใน,กับไม่พบกลิ่นอายของลู่อี้ผิงเลย,ราวกับว่าร่างกายของลู่อี้ผิงนั้นหายไปจากโลกใบนี้แล้ว.
ใบหน้าของเขาที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ.
นี่ลู่อี้ผิงไปยังที่ใดกัน?
อยู่ในมิติด้านในอย่างงั้นรึ?
ทว่าเวลาเดียวกันลู่อี้ผิงได้ปรากฏขึ้นในมิติส่วนลึกของที่ราบเทพปิศาจ.
มิติแยกส่วนลึก,เป็นพื้นที่มิติที่ลึกที่สุดใจกลาง ที่มีหัวใจเทพปิศาจสถิตอยู่.
พื้นที่มิติดังกล่าวมีลมปราณปิศาจที่หนาแน่นดุร้ายเป็นอย่างมาก,แม้แต่รวมตัวกันเป็นพายุเฮอริเคนหมุนวนกระจายไปทั่ว.
บนท้องฟ้าของมิติแยก,มีหัวใจขนาดใหญ่ยักษ์ลอยอยู่! หัวใจดังกล่าวแผ่รัศมีแสงศักดิ์สิทธิ์ของโซ่แปดเส้น,ปิดกั้นขังมันเอาไว้.
The entire heart, above demon mark is dense and
บนหัวใจนั้น,มีลวดลายอักขระมากมายประทับเอาไว้,ทำให้หัวใจแผ่กลิ่นอายออกมาไม่หยุดหย่อน.
รอบ ๆ หัวใจนั้น,ด้วยปราณปิศาจที่มากมายอย่างคาดไม่ถึง,มันได้สร้างจิตวิญญาณปิศาจขึ้นมา.
ปราณปิศาจทั้งหมด,ที่แผ่กลิ่นอายหลั่งไหลออกมาจากหัวใจตลอดเวลา.
“หัวใจปิศาจโบราณ.”ลู่อีผิ้งที่จ้องมองหัวใจยักษ์.
นี่คือหัวใจของเทพปิศาจโบราณ,เฉียงเหลียง,หัวใจปิศาจโบราณ.
ราวกับว่ามันรับรู้การมาถึงของลู่อี้ผิงได้,หัวใจปิศาจโบราณที่สั่นไปมาเล็กน้อย,อย่างไรก็ตามเพราะว่าโซ่แห่งแสงทั้งแปดที่กักขังมันเอาไว้,ทำให้มันไม่อาจหลุดรอดไปได้.
ลู่อี้ผิงที่ลอยขึ้นไป,อยู่ด้านหน้าหัวใจปิศาจโบราณ,จ้องมองโซ่แสงทั้งแปดที่แผ่รัศมีแสงศักดิ์สิทธิ์ออกมา.
โซ่แสงแปดเส้น,แต่ละเส้นมีความยาวหนึ่งหมื่นจั้ง,พุ่งไปยังแปดทิศทางทะลวงเผ่านเข้าไปในหัวใจปิศาจโบราณ,ปลายอีกข้างทะลวงเข้าไปในมิติส่วนลึกผสานเข้ากับมิติหลอมรวมกลมกลืนอย่างสมบูรณ์.
“มหาค่ายกลชำระล้างแปดทิศ!”ลู่อี้ผิงที่จดจ้องมอง.
นี่คือหนึ่งในมหาค่ายกลยุคโบราณ!
แม้ว่ามหาค่ายกลชำระล้างแปดทิศจะด้อยกว่ามหาค่ายกลฝังเทพเก้าสัมบูรณ์ในสนามรบแห่งทวยเทพ,ทว่าก็นับเป็นหนึ่งในค่ายกลยุคโบราณที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก.
สังหารเทพปิศาจเฉียงเหลียงแล้วยังใช้มหาค่ายกลชำระล้างแปดทิศ,เพื่อกักขังหัวใจปิศาจโบราณเอาไว้ที่นี่อีกรึ?
ลู่อี้ผิงที่มาอยู่ด้านหน้าโซ่แสงเส้นหนึ่ง,นิ้วของเขาที่ชี้ออกไป,โซ่แสงที่เกิดประกายเจิดจ้า.
ขณะที่โล่อี้ผิงกำลังตัดโซ่แสง,โซ่แสงอีกเจ็ดเส้นที่ยิงลำแสงขนาดใหญ่ยักษ์พุ่งเข้าหาลู่อี้ผิงทันที.
พลังทำลายล้างที่หนักหน่วงรุนแรงราวกับเทือกเขาใหญ่ยุคปรัมปรา.
กระนั้นไม่ว่าจะโจมตีมาอย่างไรกับไม่อาจทำอะไรลู่อี้ผิงได้เลยแม้แต่น้อย.
พลังทำลายล้างที่รุนแรงยิ่งใหญ่,ไม่อาจขวางลู่อี้ผิงให้ตัดโซ่แสงได้.
ครืนนน
หนึ่งนิ้วที่ตัดตัดโซ่แสงดังกล่าวไป,จากนั้นลู่อี้ผิงก็ไปยังโซ่แสงเส้นอื่น.
หลังจากที่ลู่อี้ผิงตัดโซ่แสงทั้งหมด,ผนึกที่สกัดกั้นหัวใจปิศาจโบราณก็สั่นไปมา,ก่อนที่พลังที่น่าพรั่นพึงจะพวยพุ่งระเบิดออกมา.
เมื่อหัวใจปิศาจโบราณหลุดจากการควบคุมพลังของหัวใหญ่ที่ทำให้ทุ่งที่ราบเทพปิศาจสั่นไปมาอย่างรุนแรง.
ในเวลานี้,ยอดฝีมือทั้งหมดทั่วพื้นที่ราบสัมผัสถึงผืนปฐพีที่สั่นไปมาได้.
โหลวเจิ้นและยอดฝีมือตระกูลโหลวที่จ้องมองขึ้นไปบนท้องฟ้า,กลิ่นอายลมปราณปิศาจที่พวยพุ่งยกระดับเท่าทวี,ทำให้พวกเขาสะดุ้งตกใจเอ่ยออกมาพร้อม ๆ กัน.
“เกิดอะไรขึ้น? ทุ่งราบเทพปิศาจ กลิ่นอายปิศาจเกิดผิดปรกติอะไร!”
กลิ่นอายปิศาจในทุ่งราบเทพปิศาจ,ไม่เคยเกิดความผิดปรกติมาก่อนเลย.
เหล่าผู้ฝึกตนปิศาจที่ซ่อนตัวอยู่ในดินแดนบรรพชนต่างก็บินออกมาราวกับผึ้งแตกรัง.
โจวเฉิงเวลานั้นที่สะดุ้งตกใจเช่นกัน,ถึงกับลุกพรวดพราดขึ้นที่ด้านหน้ากองไฟ.
มีเพียงแค่วัวกระทิงมังกรเขาทองคำเท่านั้น,ที่พอจะคาดเดาถึงเหตุผลได้.
ในมิติแยกส่วนลึก,หัวใจปิศาจโบราณที่เปล่งรัศมีแสงที่เจิดจ้า,กลิ่นอายปิศาจที่น่าหวาดกลัวพวยพุ่งระเบิดออกมาราวกับว่ามันมากมายไร้ที่สิ้นสุด,ปราณปิศาจที่ผลักดันโซ่แสงกระเด็นพุ่งกระแทกมิติรอบ ๆ ทำลายล้างมิติรอบ ๆ จนบิดเบี้ยว.
แม้นว่าโซ่แสงทั้งแปดจะถูกลู่อี้ผิงตัดขาดไปแล้ว,ทว่าก็ยังมีเศษส่วนที่ฝังเข้าไปในหัวใจปิศาจโบราณ,เวลานี้หัวใจปิศาจโบราณกำลังทำลายส่วนที่ฝังเข้ามาด้วยการปะทุพลังปิศาจที่มากมายเพื่อขับมันออกไป.
ขณะที่หัวใจปิศาจโบราณปะทุลมปราณปิศาจนถึงขีดสุด,ลู่อี้ผิงได้นำศิลาเทวะออกมา,ก่อนที่มันจะพุ่งออกไปแผ่แสงสีระรานตา,นี่คือศิลาเทวะฮุ่นตุ้นนั่นเอง.
ในเวลานั้นเปลวเพลิงฟ้าดินที่ลุกโชนหลอมศิลาฮุ่นต้นให้กลายเป็นของเหลวก่อนที่จะไหลเข้าไปหมุนวันอยู่รอบ ๆ หัวใจโบราณ.
ศิลาฮุ่นตุ้นหลอมเหลว,ที่หมุนวันโคจรผสานเข้ากับหัวใจปิศาจโบราณ.
พลังที่โคจรไปมาอย่างรวดเร็ว,โดยมีศูนย์กลางคือหัวใจปิศาจโบราณ,ได้หลอมสร้างศีรษะ,คอ,อก,แขนขา,ไปจนถึงเท้าครบทุกส่วน.
ปรากฏผู้เยาว์ผู้หนึ่ง,ลอยอยู่บนท้องฟ้า.
เมื่อหลอมร่างชายหนุ่มขึ้นมาสำเร็จ,ลู่อี้ผิงก็ยกมือขึ้นคว้าไปยังความว่างเปล่า,ก่อนที่จะเห็นริ้วแสงมากมายทั่วพื้นที่ราบเทพปิศาจไหลมารวมกัน,จากนั้นเขาก็ชี้มันลอยออกไปประทับที่หน้าผากอีกฝ่ายช้า ๆ.
ผู้เยาว์ที่ดวงตาขุ่นมัว,ค่อย ๆ ส่องประกายแสงสว่างเจิดจรัสขึ้นมาช้า ๆ.
หลังจากผ่านไปสองสามนาที.
ลู่อี้ผิงก็หยุด,จากนั้นก็ส่งเกราะเทวะสีดำให้กับชายหนุ่ม.
ชายหนุ่มที่ยื่นมือขึ้น,จดจ้องมองร่างกายใหม่ของตัวเอง,ท่าทางของเขาที่ยากจะระงับความตื่นเต้นดีใจเอาไว้ได้.
ผ่านไปไม่นาน,ชายหนุ่มที่มาอยู่ด้านหน้าลู่อี้ผิง,พร้อมกับคุกเข่าลงข้างหนึ่งเอ่ยด้วยความเคารพ“ขอบคุณต้าเหรินที่ช่วยข้าเฉียงเหลียงหลอมกายาเทวะฮุ่นตุ้นขึ้นมา!”
ลู่อี้ผิงที่จ้องมองอีกฝ่ายก่อนเผยยิ้มเอ่ยออกมาว่า“ลุกขึ้น.”
หลังจากที่เทพปิศาจยุคโบราณเฉียงเหลียงลุกขึ้น,ลู่อี้ผิงก็เอ่ยถามออกไป“ใครเป็นคนสังหารเจ้า? แล้วยังวางมหาค่ายกลชำระล้างแปดทิศกักขังหัวใจเจ้าด้วยอย่างงั้นรึ?”
เฉียงเหลียงนึกถึงความหลัง“ฝ่ายตรงข้ามนั้นสวมหน้ากากผี,มหาค่ายกลชำระล้างแปดทิศเป็นเขาที่เป็นคนวางด้วยเช่นกัน,อีกฝ่ายนั้นรูปร่างสูงใหญ่สูงกว่าสามเมตร,ความแข็งแกร่ง”ขณะที่เอ่ยพร้อมกับเผยใบหน้าบิดเบี้ยว“น่าพรันพรึงอย่างที่สุด!”
น่าพรันพรึงอย่างที่สุด!
นั่นคือคำบรรยายต่อคนที่สังหารเขา.
“หน้ากากผีอย่างงั้นรึ?”ลู่อี้ผิงที่นึกถึงคนที่นำตราแห่งทวยเทพมาประมูลที่หอการค้าความลับสวรรค์ขึ้นมาในทันที.